16 ฉันคิดว่าเราเข้ากันไม่ได้

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

วันต่อมา

วันนี้ก็เป็นวันที่ป้าหวังนั้นให้เขาไปนัดบอดกับหลานสาวของเธอ

ฝ่ายหญิงมีชื่อว่า หลิวหลาน และเธอก็จบเกียรตินิยมมาจากมหาลัยด้วย

พวกเขาทำการแอด wechat

และทำการนัดเวลาและสถานที่กันการนัดหมายครั้งนี้พวกเขาจะไปเจอกันตอนประมาณ 4 โมง

ณ ชิงชิงเก่อคาเฟ่

เป็นร้านที่ดูแล้วสวยไม่น้อยเลยแถมยังมีบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบเงียบดีด้วย

ในฐานะสุภาพบุรุษ เจียงเฉินก็มาถึงก่อนเวลาถึงยี่สิบนาทีก่อนจะสั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและนั่ง

จนกระทั่งตอนนี้เวลา 4.30

ผู้หญิงที่ชื่อหลืวหลานก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆและนั่งลงตรงหน้าเจียงเฉิน

หน้าของเธอแสดงออกถึงความเย็นชา ตามฉายาของเธอ ราชินีจอมโหดร้าย

โดยปกติแล้วเธอก็ควรจะมาถึงตามเวลา แต่เพื่อที่จะทำลายการนัดครั้งนี้ เธอจึงตัดสินใจมาสายครึ่งชั่วโมง

แต่เมื่อเธอมาถึงและได้เห็นเจียงเฉินเป็นครั้งแรกก็ทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย

คู่นัดบอดของเธอไม่หล่อไปหน่อยหรอ?

แต่หลังจากที่เธอเห็นว่าเสื้อผ้าทั้งตัวของเขามีมูลค่าไม่ถึง 200 หยวนเธอก็ไม่สนใจรูปร่างหน้าตาของเขาอีกต่อไป

หน้าตาดีแล้วยังไงถ้าไม่มีเงินให้ฉันตกหลุมรักก็ไร้ประโยชน์

ลองคิดดูสิ?

ผู้ชายของฉันหลิวหลานคนนี้ต่อให้หน้าตาน่าเกลียดแต่ก็ไม่เป็นไรขอแค่มีเงินก็พอแล้ว!

หลิวหลานพูดอย่างอดทน “นายคือเจียงเฉินที่ป้าหวังแนะนำมาสินะ”

เจียงเฉินลืมตาขึ้นมาจ้องดูผู้หญิงตรงหน้าที่มีใบหน้าที่ทำให้คนที่คุยด้วยรู้สึกไม่ดีด้วย

“ใช่ครับ ผมเอง”

เจียงเฉินตอบกลับไปก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเธออยู่แล้ว

หลิวหลานก็ยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “โอเค งั้นเรามาเปลี่ยนจากการคุยยืดเยื้อมาเป็นการคุยแบบสั้นๆก็แล้ว กัน นายมีบ้านรึเปล่า”

“มี อยู่ที่วงแหวนรอบที่สองของเขตเมืองหลวงจักรวรรดิ

วังของเขาตรงนั้น ก็คงนับว่าเป็นบ้านได้มั้ง?

หลิวหลานที่ได้ฟังก็ไม่เชื่อ ที่ดินย่านนั้นมีราคาอย่างน้อยก็หลักล้าน จะเป็นไปได้ยังไงที่คนส่งพัสดุอย่างเขาจะมีบ้านในนั้น

น่าตลกซะจริง!

“มีรถไหม?”

“มีรถสปอร์ตอยู่หนึ่งคน”

หลิวหลานที่ได้ยินก็กลอกตา นี่เขาเป็นคนส่งพัสดุจริงรุเปล่าเนี่ย?

“แล้วนายทำอาชีพอะไร”

“คนส่งพัสดุ”

จริงๆด้วย!

เมื่อได้ยินคำตอบ หลิวหลานก็เผยรอยยิ้มดูถูกออกมา เพราะในที่สุดเจียงเฉินก็พูดความจริงออกมา

“ฉันคิดว่าเราไม่เหมาะสมกัน ครั้งนี้ที่ฉันมาก็เพราะฉันไว้หน้าป้าหวาง อย่าเอาเรื่องในวันนี้ไปเก็บมาคิดจริงจังละกัน”

ใครกันแน่ที่ไม่ไว้หน้าป้าหวาง?

ดูสิ่งที่เธอทำสิ!

ลมหยุดพัด!

ฝนหยุดตก!

คิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่างรึยังไง

 

เจียงเฉินนั้นก็รู้สึกไม่ดีด้วยเหมือนกันก่อนจะพูดออกไปแบบเรียบๆว่า “ผมก็คิดว่าคุณก็ไม่ได้ดีไปกว่าผมหรอก”

การที่จะมาสายมันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะทุกคนย่อมมีเหตุผลส่วนตัว

แต่การที่มาสายแล้วไม่ขอโทษอะไรเลย แถมยังมาพูดอะไรแบบนี้

หึ่ง~

[น้องชาย ฉันคิดถึงนายจังเลย มาเจอกันหน่อยไหม จุ๊บๆ~]

“ผมขอตัวก่อน“

เจีนงเฉินหันหลังก่อนจะเดินออกไปและตอบข้อความกลับไปหาอันฉิงไปด้วย

หลิวหลานในตอนนี้ถึงกับโง่งมก่อนจะระเบิดอารมณ์ออกมา

“คิดจะไปก็ไปงั้นหรอ?”

ทำไมเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ น้าหวางแนะนำใครมาให้เธอกันแน่?

หลังจากที่เจียงเฉินออกไป หลิวหลานก็โทรไปบ่นกับเพื่อนสาวของเธอทันที

“หยาซิน พี่มาหาฉันหน่อย ฉันอยู่ที่ซิงซิงเก่อคาเฟ่ ฉันกำลังอารมณ์เสียเพราะไอ้ผู้ชายปากสุนัขอยู่”

“โอเคๆ เดียวฉันจะรีบไปทันที”

หลังจากนั้นไม่นาน

หยาซินที่ที่โทรคุยกับเธอผ่านทางโทรศัพท์ก็มาถึง และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเธอคือ หยาซินคนเดียวกันกับเพื่อนร่วมรุ่นของเจียงเฉิน

“หยาซินในที่สุดพี่ก็มา คู่นัดบอดของฉันทำให้ฉันอารมณ์เสียจริงๆ” หลิวหลานบ่นออกมา

“เกิออะไรขึ้นล่ะ? บอกฉันมาหน่อย” หยาซินถามออกมา

หลิวหลานที่ได้ยินก็เริ่มเล่าออกมาด้วยความโกรธ

“เขาเป็นพนักงานส่งพัสดุ ฉันไม่ชอบเขาเลยจริงๆ และหลังจากนั้นฉันก็ลองถามคำถามเขาดู จนตอนสุดท้าย เขาก็บอกว่าเขานั้นมีรถสปอร์ตและยังมีห้องชุดอยู่บนถนนเมืองหลวงอิมพีเรียลเส้นที่สอง ถามจริงๆเถอะ บ้านไม่ว่าจะอพาร์ทเม้นไหนบนถนนเส้นนั้นก็มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านแล้วคนส่งพัสดุอย่างเขาจะไปซื้อได้ยังไง”

เมื่อหยาซินได้ฟังเธอก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง “ใช่ ผู้ชายที่เอาแต่โม้อย่างนั้น จะไปมีความสามารถระดับนั้นได้ไง”

หลิวหลานที่ดูเต็มไปด้วยความทรมานใจก็พูดออกมา “พี่หยาซิน พี่รู้ไหมว่าเจ้าบ้านั่นไม่เพียงจะขี้โม้โอ้อวด ตอนที่เขากำลังหันหลังจากไป ฉักก็ลองบอกกับเขาว่า “พวกเรานั้นไม่เหมาะสมกัน” เพื่อที่จะลองดูปฏิกริยาของเขาแต่เธอรู้ไหมเขากลับพูดว่า ฉันนะก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาหรอก พี่คิดว่าเขาทำเกินไปไหม!”

หยาซินและหลิวหลานในตอนนี้คิดเหมือนกันคือ “คนๆนี้ดูเหมือนคนขี้ขลาด เขาไม่มีความเพียร ไม่มีเงิน ไม่มีข้อดีอะไรเลยด้วย”

“ใช่แล้ว ในสังคมนี้ การขาดเงินเป็นเหมือนบาป ถ้าเขาเป็นคนรวย วันนี้ฉันจะไม่มาสายแน่นอน! เป็นเพราะเขาส่งเอกสารใช่ไหม ฉันเลยอยากทดสอบเขา!”

“ใช่เลย เขายังไม่ผ่านแม้แต่การทดสอบเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขายังมีหน้ามาหาแฟนสาวแบบนี้ได้ยังไง?”

“ผู้ชายแบบนี้จะไม่มีวันได้แต่งงานกับสาวสวยระดับเดียวกับพวกเราตลอดชีวิตการทำงานของเขาแน่นอน”

หลิวหลานในตอนนี้ดูมีความสุขขึ้นและเธอก็พูดออกมาว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ใช่เลยๆ คนส่งพัสดุแบบหมดนั้นก็ทำได้เพียงมีความสุขกับตัวเองเท่านั้น แม่ว่าความหล่อของเขาจะมาก แต่แล้วยังไงล่ะ ไม่ใช่ว่าเขาก็ยังเป็นคนจนอยู่รึไง ตอนแรกที่เจอก็ยังพอรู้สึกดีด้วยอยู่ แต่สุดท้ายก็มาทำตัวโอ้อวดใส่ฉัน หึ!”

หยาซินในตอนนี้เริ่มตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆจนพูดโพล่งออกมา

“ตอนที่เธอเล่าออกมา มันทำให้ฉันนึกถึงเพื่อร่วมชั้นคนหนึ่งที่กลับมาเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะกลายไปเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านหยวน แถมเขายังเปิดขวดไวน์ Lafite ปี 82 เลี้ยงเพื่อนของเขาทุกคนด้วย”

อะไรนะ!

เศรษฐีหนุ่มเป็นคนส่งพัสดุ

หลิวหลานดูจริงจังขึ้นมาทันที “พี่บอกว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่เป็นเศรษฐี กำลังออกมาหาประสบการณ์ชีวิตงั้นหรอ?”

หยาซินตอบ “ใช่ ดูเหมือนคนรวยสมัยนี้ชอบทำอะไรแบบนี้กันแล้ว”

หลิวหลานเบิกตากว้าง “นี่พี่ไม่ได้หมายความว่า…มันเป็นไปได้ที่คู่นัดบอดของฉันจะเป็นเพื่อนของพี่หรอกนะ”

“ฮ่า ฮ่า!”

หยาซินหัวเราะออกมา “เป็นไปไม่ได้หรอก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นกัน?”

หลิวหลานรีบหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาก่อนเปิดข้อมูล wechat ของเจียงเฉินและยื่นให้หยาซินดู

“พี่หยาซินรีบดูให้น่อยสิ ใช่คนนี้ไหม”

หยาซินจ้องไปที่โทรศัพท์ของเพื่อนสาวด้วยอาการสั่นไปทั้งตัว

ใช่!!!

นั่นคือเจียงเฉินจริงๆ

เป็นไปได้ยังไง

หยาซินรีบเก็บอาการอย่างรวดเร็วก่อนจะกลอกตาของเธอ พยายามทำให้ภายนอกของเธอดูใจเย็นและพูดออกไปว่า “ไม่ใช่เขา”

หลิวหลานจ้องไปที่ชื่อใน wechat

[หล่อจนเทพก็ต้องอิจฉา]

เอาจริงๆ คงไม่มีเศรษฐีคนไหนตั้งชื่อแบบนี้หรอก

หลิวหลานไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้และถามอย่างออกไปต่อ

“แล้วเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชื่ออะไร”

“ชิวเหวินเทา”

หยาซินตอบออกไปอย่างไหลลื่น

เมื่อได้ยินคำตอบ หลิวหลานจึงลบความคิดที่เจียงเฉินอาจจะเป็นคนรวยออกไปจากหัวของเธอ

ทั้งๆที่เป็นแค่คนส่งพัสดุแต่กลับมาหลอกเธอได้!

หลังจากผ่านไปซักพัก เธอก็เริ่มที่จะคุมอารมณ์โกรธของเธอได้

หลิวหลานก็ส่งข้อความไปหา [หล่อจนเทพต้องอิจฉา]

[นายไอ้คนส่งพัสดุ แกมันก็เป็นได้แค่คนส่งพัสดุไปทั้งชีวิต!]

ทันใดนั้น

[อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับการเป็นเพื่อนของคุณ คุณไม่ใช่เพื่อนของเขา(เธอ) กรุณาส่งคำขอเป็นเพื่อน และให้อีกฝ่ายทำการยืนยันก่อนเริ่มการแชท…]

ไอ้*****!

หลิวหลานระเบิดอารมณ์โกรธอีกครั้ง!

“แกกล้าดียังไงมาลบเพื่อนฉัน แกกล้าดียังไงมาลับฉันหลิวหลานคนนี้”

“กรี๊ด~~~”

เสียงกรีดร้องจากความโกรธดังออกมา~~~

หยาซินในตอนนี้แอบยิ้มอย่างมีชัยในใจของเธอ “หลิวหลาน หนอหลิวหลานเธอมันยัยโง่!”

“ชิวเหวินเทามันก็แค่สวะ เมื่อมาเทียบกับเพื่อนเศรษฐีของฉัน เขามีชื่อจริงว่าเฉินห้าวต่างหากล่ะ ยัยน้องสาวสุดโง่ของฉัน!”

“เจียงเฉินน่ะ เป็นของฉันได้เพียงคนเดียวรู้ไหม?”

“น้องสาว อย่ามาโทษฉันโหดเหี้ยมเลยนะ เพราะถ้าจะโทษ ก็โทษนิสัยอารมณ์ร้ายของเธอละกัน!”

……

ในเวลานี้

เจียงเฉินกับอันฉิงก็ออกมาเดินช็อปปิ้งกันที่จัตุรัสหว่านลี่