ฉินฮั่นชิวก็ไม่เข้าใจที่ฉินซิวเฉินคุยกับผู้จัดการในช่วงท้ายๆ
แต่ที่ฉินซิวเฉินบอกว่าไม่มีสคริปต์สร้างภาพนั้นเขาเข้าใจ
ฉินฮั่นชิวนั่งบนโซฟา เขาวางเปลือกเมล็ดแตงลงแล้วมองพ่อบ้านฉินด้วยสายตาซื่อๆ “เขาบอกว่าในรายการเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทีมผู้กำกับไม่ได้สร้างภาพให้หร่านหร่าน”
ไม่ได้สร้างภาพ?
ไม่มีสคริปต์?
ดังนั้น ฉินหร่านก็เป็นคนคิดรหัสผ่านที่ยุ่งยากซับซ้อนสำหรับเส้นทางหลบหนีของห้องลับทั้งหมดในตอนแรกของรายการออกมาอย่างนั้นเหรอ?
โดยเฉพาะเพลงไวโอลินท่อนนั้น ซับซ้อนขนาดนั้นเธอแปลงมันได้ยังไงโดยที่ไม่มีกระดาษอะไรให้เลย?
สมองเธอละเอียดถี่ถ้วนไปถึงขั้นไหน? มีความรู้ครอบคลุมกว้างขวางถึงขนาดไหนกัน?
พ่อบ้านฉินรู้ว่าฉินหร่านเรียนภาควิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเมืองหลวง แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกลงไป ตอนนี้เขาก็เพิ่งได้รู้ว่าเธออยู่ไกลเกินขอบเขตที่เขาจะเข้าใจได้
เขามองฉินหลิงกับฉินฮั่นชิวด้วยความสับสนและพบว่าทั้งสองยังคงนิ่งเงียบ ไม่ได้แปลกใจกับคำพูดของฉินซิวเฉินแม้แต่น้อยเหมือนชินแล้ว
พ่อบ้านฉินนั่งอึ้งอยู่บนโซฟา ในหัวขมุกขมัวเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่านั่นคือฉินหร่าน เขาก็ไร้สติสัมปชัญญะไปเป็นเวลานาน
**
ด้านนี้ ฉินซิวเฉินขับรถไปถึงสตูดิโอแล้ว
เขาผลักประตูเข้าไป
คนในสตูดิโอก็เพิ่งมาถึงได้ไม่นาน เครื่องปรับอากาศก็เพิ่งเปิด ภายในสตูดิโอยังไม่ทันอุ่น เขาก็พกพาลมหนาวเข้ามาทันทีที่เปิดประตู
“บนอินเทอร์เน็ตมีคนเริ่มจับผิดกันแล้ว” ผู้จัดการขมวดคิ้ว “แต่เรายังควบคุมได้”
กว่าฉินซิวเฉินจะมาถึงวันนี้ได้ ทีมงานของเขาก็ไม่ได้ไร้ความสามารถ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเขานับว่าเป็นอันดับต้นๆ ของทั้งวงการบันเทิง
สถานการณ์ปัจจุบันยังอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายประชาสัมพันธ์
กลัวก็แต่ว่าจะมีคนเหยียบในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้
ฉินซิวเฉินแทบไม่มีจุดอ่อนในวงการบันเทิง ยืนอยู่ในพีระมิดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ คนที่อิจฉาลับหลังเขามีไม่น้อย
ถ้ามีคนจงใจก่อเรื่องในช่วงเวลาแบบนี้จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่เอาได้
ฉินหร่านถือว่าเป็นbugของรายการ ไม่เข้าตาคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นคนที่ไม่เชื่อจึงมีไม่น้อย เรื่องประเภทนี้หาหลักฐานกันไม่ได้ง่ายๆ
จะทำอะไรได้บ้าง?
ทำอย่างไรที่จะทำให้คนที่ไม่เชื่อได้มาอยู่ตรงหน้าฉินหร่าน ให้เขาสัมผัสด้วยตัวเอง?
อุณหภูมิในสตูดิโอค่อยๆ สูงขึ้น
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ทำงานล่วงเวลากันอย่างบ้าคลั่ง จัดการกับแอคเคานท์หลุมที่ชอบปั่นกระแสพร้อมกับควบคุมความคิดเห็น
ฉินซิวเฉินต่อสายหาผู้กำกับโดยตรง
พลางควานหาบุหรี่ออกจากกระเป๋า
“ซุปตาร์ฉิน คุณโทรหาผมเพราะเรื่องรายการสินะ? ผมก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้” ผู้กำกับบีบขมับ “ตอนนั้นประธานเจียงเป็นคนตรวจสอบรายการเองกับมือ…”
“ประธานเจียง?” ฉินซิวเฉินจุดบุหรี่ พอได้ยินผู้กำกับพูดก็ขมวดคิ้ว
นี่เจียงตงเยี่ยเป็นอะไรไปอีกล่ะ?
แก้แค้นฉินหร่าน?
ความคิดนี้ดูจะไม่สมเหตุสมผล
“พวกคุณคงกำลังควบคุมความคิดเห็นในเวยป๋ออยู่สินะครับ เมื่อกี้ผมยังเห็นข่าวดังๆ อยู่เลย พวกคุณจัดการได้ทันเวลาพอดี” ผู้กำกับนั่งบนเก้าอี้เปิดดูเวยป๋อ ฮอตเสิร์ชถูกลบไปหมดแล้ว หัวข้อก็เริ่มเบาบางลงแล้ว “ผ่านคืนนี้ไปก็อาจจะไม่เป็นไรแล้วก็ได้ คุณอย่าคิดมากเลย รอออกอากาศตอนต่อไป พวกแอนตี้แฟนก็ไม่มีแล้ว”
ความนิยมของเหยียนซีและหยางเฟยในตอนต่อไปใช่ว่าจะปิดได้
โดยเฉพาะฉากที่ฉินหร่านล็อกอินไอดีเกมเล่นเกมในช่วงกลางรายการ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นสคริปต์ที่ใครจะเขียนได้
ทนไปอีกสักสัปดาห์ก็จะได้เห็นกระแสตีกลับ
ผู้กำกับเองก็เดาไว้แล้วว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ และในเวลาเดียวกันก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าตอนที่สองจะดังกว่าตอนแรกโดยสมบูรณ์แบบ ดังนั้นตอนที่เจียงตงเยี่ยอนุมัติออกอากาศตอนแรก เขาจึงไม่ได้คิดมากและตัดสินใจให้ออกมาในเวอร์ชันนี้
เดิมทีเวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันที่เรียลที่สุด ผู้กำกับไม่ได้ปลอมอะไรขึ้นมาเลย
ฉินซิวเฉินกดหน้าผากและวางสายผู้กำกับ
ขณะกัดบุหรี่ ควันก็ลอยขึ้น เขาเล่นโทรศัพท์และกดไปที่เบอร์ของฉินหร่าน หลังจากคิดอยู่นานก็ต่อสาย
“หร่านหร่าน” ฉินซิวเฉินวางโทรศัพท์แนบหู ฟังออกว่าน้ำเสียงต่างไปจากเดิม ใบหน้าเขาถูกปกคลุมไปด้วยควันบุหรี่ “หลับหรือยัง?”
“ยังค่ะ กำลังคุยโทรศัพท์กับรูมเมทเสร็จ” ที่ถิงหลาน ฉินหร่านถือโทรศัพท์ไปด้วยและเปิดประตูห้องไปด้วย หว่างคิ้วและดวงตามีแต่ความเหนื่อยหน่าย
ที่ฉินหร่านพูดถึงคือหนานฮุ่ยเหยา
หนานฮุ่ยเหยาเป็นแฟนคลับตัวยงของฉินซิวเฉิน แน่นอนว่าเธอย่อมติดตามรายการวาไรตี้ของฉินซิวเฉินด้วย หลังจากดูรายการที่หอพักจบ เธอก็ต่อสายหาฉินหร่านและทิ้งระเบิดให้เธอเกือบสิบนาที
หลังจากวางสายได้ไม่นาน ฉินซิวเฉินก็โทรมา
เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา ฟังไม่ออกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
ฉินซิวเฉินบีบบุหรี่ เขาไม่แน่ใจว่าฉินหร่านรู้เรื่องบนโลกออนไลน์หรือยัง จึงเลียบๆ เคียงๆ ไปสองสามประโยค สุดท้ายก็แน่ใจแล้วว่าฉินหร่านไม่ได้รับผลกระทบจากโลกออนไลน์ เขาถึงวางใจได้
เขาดับบุหรี่พลางมองดูคนที่ยังทำงานล่วงเวลาในสตูดิโอจนดึกดื่น “ลำบากทุกคนแล้ว ถ้าจัดการเรื่องนี้เสร็จ ผมจะเลี้ยงข้าวพวกคุณ”
สตูดิโอฉินซิวเฉินก่อตั้งมานานหลายปีแล้ว เขาดีกับคนในสตูดิโอมาโดยตลอด คนส่วนใหญ่ในสตูดิโอล้วนเป็นแฟนคลับของเขา
บวกกับก่อนหน้านี้ที่ฉินหร่านส่งคอมพิวเตอร์มาให้ผู้จัดการ ทุกคนในสตูดิโอจึงตื่นตัวกันมาก
จ้องทั้งคืน พอถึงเวลาตีสามเรื่องนี้ก็จบลง
ในที่สุดฉินซิวเฉินก็วางใจได้
**
และขณะเดียวกัน
บ้านประจำตระกูลฉิน
ที่พักของคุณชายสี่ตระกูลฉิน
ผู้ใต้บังคับบัญชากำลังรายงานเรื่องฉินซิวเฉินให้เขาทราบ
ทางฝั่งของพ่อบ้านฉินดูเปลี่ยนไป คุณชายสี่ตระกูลฉินสืบมานานแล้วก็ยังสืบไม่พบว่าใครเป็นคนแก้โค้ดให้พ่อบ้านฉิน เขาแค่ให้คนจับตาดูการเคลื่อนไหวของพ่อบ้านฉิน
แม้ตอนนี้คุณชายสี่ตระกูลฉินจะควบคุมตระกูลฉินไว้ในกำมือ แต่เขาก็ยังไม่ค่อยสบายใจ เนื่องจากพ่อบ้านฉินรับเลือดสายตรงที่หลงเหลืออยู่กลับมา
คุณชายสี่ตระกูลฉินรู้ดีว่าถ้าหากอาศัยพ่อบ้านฉินเพียงลำพัง สายตรงตระกูลฉินคงไม่อยู่รอดมานานหลายปีขนาดนี้
เหตุผลที่พ่อบ้านฉินยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้และยังหาคนมาแก้โค้ดได้โดยอาศัยโปรเจกต์จากการกัดกินก้อนเนื้อเขาก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะมีฉินซิวเฉินอยู่
ไม่ใช่แค่วันสองวันที่คุณชายสี่ตระกูลฉินเห็นฉินซิวเฉินเป็นหนามตำใจ
เขาจับตามองมานานหลายปี ฉินซิวเฉินก็ไม่เคยทิ้งจุดอ่อนเลยสักครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นเขายังรุ่งโรจน์อยู่ในวงการบันเทิง รู้จักกับพันธมิตรมากมาย
คุณชายสี่ตระกูลฉินปิดเอกสาร แววตาเยือกเย็นหนาวสะท้านกระดูก “ฉินหร่านนั่นก็เป็นหลานสาวของคุณพ่อ?”
“ครับ” ลูกน้องรายงาน
คุณชายสี่ตระกูลฉินเอามือค้ำโต๊ะ แสยะยิ้ม “ซ่อนได้ดีจริงๆ ”
ถ้าไม่ใช่เพราะถูกเปิดเผยในอินเทอร์เน็ต เขาก็คงสืบหาฉินหร่านคนนี้ไม่พบเลยด้วยซ้ำ
ลูกน้องเหมือนนึกอะไรขึ้นได้จึงมองคุณชายสี่ตระกูลฉิน ทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด
“ว่ามา” คุณชายสี่ตระกูลฉินเงยหน้า
“ตอนที่คนของเราจับตาดูฉินฮั่นชิววันนี้ ยังเจอผู้หญิงอีกคนด้วยครับ” ลูกน้องก้มหน้า สองจิตสองใจ “เหมือนจะเป็นลูกสาวอีกคนของฉินฮั่นชิว”
คุณชายสี่ตระกูลฉินลุกขึ้น รู้สึกแปลกๆ “สืบมาให้ได้ ฉันอยากรู้ว่าฉินซิวเฉินปิดบังอะไรบ้าง”
**
กลุ่มแฟนคลับของไป๋เทียนเทียน
ก่อนหน้านี้ไป๋เทียนเทียนเคยดังอยู่พักหนึ่ง
หลังจากอัดรายการวาไรตี้จบ บริษัทตระกูลเจียงก็ยกเลิกสัญญากับเธอ
ไม่มีความลับอยู่ในวงการบันเทิง หลังจากบริษัทตระกูลเจียงยกเลิกสัญญากับเธอ กองถ่ายอื่นๆ ก็ไม่กล้าเรียกใช้เธออีก
ตั้งแต่กลับมาจากเมือง C ไป๋เทียนเทียนก็ออกจากหอพักของบริษัทตระกูลเจียง โชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอได้สั่งสมแฟนคลับที่จงรักภักดีไว้ไม่กี่คน
รายการไอดอล24ชั่วโมงตอนที่หนึ่ง ไป๋เทียนเทียนเป็นตัวตลกตัวหลักตั้งแต่ต้นยันท้ายรายการ
เธอดูไม่ออกว่าโจทย์ฟิสิกส์เหล่านั้นผิดและยังทำแล้วได้คำตอบออกมา นี่จึงทำให้ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งหัวเราะเยาะ
สวี่หนี่ชิงเฟิงคือหัวหน้าบ้านเบสของกลุ่มแฟนคลับที่สนับสนุนไป๋เทียนเทียน หลังจากดูรายการตอนที่หนึ่งจบ ทีแรกเธอก็หวั่นไหวอยากจะออกจากการเป็นแฟนคลับไป๋เทียนเทียน แต่พอดูมาจนถึงตอนท้าย เธอก็เป็นเหมือนกับชาวเน็ตกลุ่มนั้นที่สงสัยว่าทีมงานเอาสคริปต์ให้ฉินหร่าน
โดยเฉพาะฮอตเสิร์ชที่หายติดต่อกันไปทีละหัวข้อ จนมาถึงตีสามก็ไม่มีเหลือเลยแม้แต่หัวข้อเดียว
เดิมทีสวี่หนี่ชิงเฟิงสงสัยแค่สามส่วนแต่ตอนนี้กลายมาเป็นเจ็ดส่วนแล้ว
เธอส่งข้อความให้ไป๋เทียนเทียน——
(ทีมงานบังคับให้คุณแสดงร่วมกับเธอเพื่อสร้างภาพหรือเปล่า?)
แอคหลักเวยป๋อของไป๋เทียนเทียนกับบ้านเบสของกลุ่มแฟนคลับติดตามกันอยู่
ไป๋เทียนเทียนจึงสามารถเห็นข้อความของสวี่หนี่ชิงเฟิงได้ เธอเห็นเนื้อหาที่สวี่หนี่ชิงเฟิงส่งมา
รายการที่ออกอากาศวันนี้ส่งผลกระทบต่อไป๋เทียนเทียนไม่น้อย ดูไม่ออกว่าโจทย์ผิดและยังคิดคำตอบออกมาได้ ถ้าทีมงานให้เธอทำจริง ทำไมดูแล้วเธอถึงได้เหมือนคนที่ได้สคริปต์สร้างภาพมากกว่า…
ไป๋เทียนเทียนเม้มริมฝีปาก แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ากลุ่มชาวเน็ตจะพุ่งเป้าไปที่ฉินหร่านไม่ปล่อย เป็นเพราะฉินหร่านแสดงออกมาได้น่าเหลือเชื่อเกินไป ชาวเน็ตจึงพุ่งความสนใจไปที่เธอ
เมื่ออ่านข้อความแล้ว ไป๋เทียนเทียนก็ตาเป็นประกาย หยิบโทรศัพท์ตอบกลับสวี่หนี่ชิงเฟิงไปหนึ่งคำ ——
(เฮ้อ)
สวี่หนี่ชิงเฟิงเห็นคำนี้คำเดียวก็ไม่พอใจ
ดูเหมือนว่าสวี่หนี่ชิงเฟิงจะปรี๊ดแตก
เธอดูรายการที่อัดไว้อีกครั้ง
ข้อความเวยป๋อถูกโพสต์ภายในชั่วข้ามคืน—— 【สำหรับรายการเรียลลิตี้ไอดอลนี้ ฉันมีคำถามสามข้อ :
1.โจทย์ฟิสิกส์ข้อแรก เธอไม่ได้ดูโจทย์ทั้งก่อนและหลัง ซึ่งน้องชายจิ่งเหวินก็เคยพูดประเด็นนี้ในรายการไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นเธอรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องและยังรู้อีกว่าโจทย์ผิดทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ดูโจทย์มาก่อน? (ภาพแคปจากวิดีโอ)
2.เธอบอกว่าตัวเองมาจากภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเมืองหลวง ภาควิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงศึกษาวรรณกรรมบาบิโลนด้วยหรือ? นอกจากนี้ดูแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นการคำนวณปฏิทิน? (ภาพแคปจากวิดีโอ)
3.ที่น่าตลกที่สุดก็คือเพลงไวโอลินสองท่อนนั้น มีคนที่ฟังเพลงเพียงสองท่อนก็สามารถนำโน้ตเพลงออกมาจากหัวโดยไม่ต้องใช้กระดาษ สามารถจินตนาการภาพในอากาศ และยังสามารถหาจุดซ้อนทับกันสองจุดได้อย่างนั้นหรือ? เกรงว่าจะเป็นอัจฉริยะทางด้านดนตรีไปแล้วมั้ง(ภาพแคปจากวิดีโอ)
สรุป ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ เพื่อที่จะทำให้ใครบางคนมีกระแส ถึงกับต้องลากดาราหญิงคนอื่นไว้ข้างหลัง อย่ามาบอกว่าเพราะเธอเป็นเด็กเรียนจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวง และทางทีมรายการก็อย่ามาแสร้งทำเป็นว่าถูกอำนาจมืดจากเด็กเรียนของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงครอบงำโดยการใส่ร้ายเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงด้วยล่ะ เด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงที่ฉันรู้จักไม่ได้เป็นแบบนี้ (ยิ้ม)】