ไม่เพียงแต่เช่นนั้น ยังต้องการรับซือบริษัทเหล่านี้
หลังจากข่าวสารนี้เผยแพร่ออกไป
หลายคนต่างถือว่าเป็นเรื่องตลกขบขันเมื่อได้ยิน
ถึงอย่างไรเฟิงเมิ่งกรุ๊ปสำนักงานสาขาเมืองเอก ก็เป็นเพียงกิจการเล็ก ๆ ที่คุณภาพด้อยที่หนึ่ง จะเอาอะไรไปรับซื้อบริษัทคู่ค้าหลายสิบแห่ง?
ตอนที่ทุกคนรอดูเรื่องขำขัน ทุกคนต่างถูกการกระทำของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปทำให้มึนงงรวดเร็วติดต่อกันอย่างไม่ขาดสาย
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเหมือนกับบ้าคลั่ง กำเริบเสิบสานกว้านซื้อหุ้นของบริษัทคู่ค้าหลายสิบแห่ง
อีกทั้งยังซื้อในราคาที่สูงกว่า!
ไม่คำนึงถึงราคาที่ต้องเสีย ไม่คำนึงถึงต้นทุน ใช้เงินเหมือนกับเศษกระดาษ!
ธนบัตรกำใหญ่ ๆ โยนเข้าตลาดหลักทรัพย์
เวลาสั้นสั้นไม่ถึงสามสิบนาที
บริษัทคู่ค้าหลายสิบแห่ง ล้วนถูกเฟิงเมิ่งกรุ๊ปกว้านซื้อทั้งหมด
……
ปัง!
ปัง!
ปัง!
สุพรีมคลับ ทุกอย่างที่สามารถพังทำลายได้ล้วนถูกจางเวยพังจนแหลกละเอียด
เขาพูดคำรามโกรธนระงับอารมณ์ไม่อยู่ “เป็นแบบนี้ได้ยังไง?เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
แรกเริ่มเดิมทีเขาต้องการอยากให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปรีบออกไปจากเมืองเอก
แต่คาดไม่ถึง เฟิงเมิ่งกรุ๊ปกลับกว้านซื้อบริษัทคู่ค้าหลายสิบแห่ง
ต้องรู้ว่าบริษัทพวกนี้ ส่วนใหญ่ล้วนมีหุ้นของจางเวย
ผลสุดท้าย เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเดินเครื่องติดต่อกันไม่หยุด ทำให้เขาเสียหายย่อยยับ
นี่จะให้เขาไม่โกรธได้ยังไง?
สีหน้าของเจี้ยนเฟิงดูไม่ได้ถึงขีดสุด เขาก็คาดไม่ถึงว่าผลสุดท้ายจะเป็นขนาดนี้
“ท่านสาม ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ได้โปรดลงโทษผมเถอะครับ!”
เจี้ยนเฟิงพูดแล้วคุกเข่าลงข้างเดียว
จางเวยมองเจี้ยนเฟิงแล้วพูดคำราม “ตอนนี้ลงโทษแกแล้วมีประโยชน์อะไร?แกบอกฉันสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เจี้ยนเฟิงส่ายหน้าแล้วพูด “ผมเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี้เหมือนว่าจะมีเงินเกินมาเยอะมาก แล้วบ้าคลั่งกว้านซื้อหุ้นบริษัทเหล่านั้นในตลาดหุ้น ถึงแม้ผมจะดักโจมตีสุดกำลัง แต่ฝ่ายตรงข้ามพุ่งออกมาอย่างดุร้าย ผมเลยขัดขวางไม่ไหวโดยสิ้นเชิง ตามการคิดคำนวณ เฟิงเมิ่งกรุ๊ปจ่ายเงินลงทุนไปอย่างน้อยที่สุดประมาณหนึ่งหมื่นล้าน……”
หนึ่งหมื่นล้าน?
ได้ยินตัวเลขนี้ จางเวยก็ตะลึงงันแล้ว
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี้ตกลงภูมิหลังเป็นอย่างไรกันแน่?
ทำไมถึงได้มีเงินมากมายขนาดนี้?
หรือว่าบ้านเขาพิมพ์ธนบัตรเหรอ?
จางเวยกัดฟันถาม “เฟิงเมิ่งกรุ๊ปทำไมมีเงินมากมายขนาดนี้?”
เจี้ยนเฟิงพูดอย่างจนปัญญา “ผมเองก็ไม่รู้ ผมไปตรวจสอบที่ธนาคารมา แต่ฝ่ายตรงข้ามบอกว่า เป็นบัญชีลับโอนเงินเข้าบัญชีเฟิงเมิ่งกรุ๊ป ผมก็เลยไม่ได้ตรวจสอบได้ถึงขอบเขต”
เริ่มพูดถึงตรงนี้ เจี้ยนเฟิงก็มีใบหน้ากลัดกลุ้ม
อาศัยความเกี่ยวพันธ์ของเขา คาดไม่ถึงว่าไม่มีขอบเขต?
ถ้าหากไม่กลังว่าจะส่งผลกระทบใหญ่เกินไป
ตอนนั้นเขาก็อยากจะฟันดาบฆ่าผู้จัดการธนาคารคนนั้นซะ!
“เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี้จำเป็นต้องขุดรากถอนโคนให้หมด!ถ้าหากยังให้เขาอยู่ที่เมืองเอกต่อไป พวกเราต้องตายหมดแน่!”
หลังจากผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไป จางเวยพบว่าเฟิงเมิ่งกรุ๊ปได้สร้างการคุกคามอย่างมหาศาลแก่เขา
เขามีลางสังหารณ์บางอย่าง ถ้าไม่สนใจไม่ดูแล สุดท้ายเขาจะตายในกำมือของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป
คิดถึงตรงนี้ สองตาแน่วแน่มั่นคงของจางเวยจ้องมองไปยังเจี้ยนเฟิง กัดฟันแล้วพูด “ถ่ายทอดคำสั่งฉัน ประกาศบัญชาพิฆาตต้องการให้บิ๊กบอสทุกคนของพื้นที่สีเทาเมืองเอกมาที่สุพรีมคลับ ฉันต้องการขุดรากถอนโคนเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!”
“ท่านสาม……”
เจี้ยนเฟิงเงยหน้า ใบหน้าที่ไม่กล้าจะเชื่อมองไปยังจางเวย
ควรจะรู้ว่าบัญชาพิฆาต เป็นคำสั่งระดับสูงที่สุด
แฝงความหมายว่า หลังจากประกาศคำสั่งนี้ ก็คือผลสุดท้ายต้องสู้จนหมดลมหายใจ
บิ๊กบอสทุกคนของพื้นที่สีเทาเมืองเอกที่ได้รับคำสั่งนี้ ไม่กล้าที่จะต่อต้านใดใด
ผู้ที่ต่อต้าน ฆ่าทั้งครอบครัว!
จางเวยจ้องเขาเขม็งแล้วพูด “เข้าใจแล้วไหม ไปทำตามที่ฉันบอก!”
เจี้ยนเฟิงก้มหน้าพูด “ครับ!”
หลังจากรอเจี้ยนเฟิงออกไป
จางเวยเงยหน้าขึ้น มองไปกลางท้องฟ้า แสงตะวันรอนราวกับเลือดสีสดแดงก่ำไม่ปาน
“หยางเฟิง ขอดูหน่อย ว่าสุดท้ายจะเป็นแกจะตายหรือว่าฉันจะรอด?”