บทที่ 356 สายลมแห่งท้องทะเล

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

บทที่ 356 สายลมแห่งท้องทะเล

บทที่ 356 สายลมแห่งท้องทะเล

ปัง!

ทันใดนั้น โล่แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นเหนือเซียวหลิง สกัดกั้นอุกกาบาตไฟที่พุ่งลงมา ในเสียงของการปะทะกัน อุกกาบาตไฟก็ระเบิดและหายวับไปพร้อมประกายไฟ

ไร้ผล!

โล่แสงสีทองสลายไป ปล่อยให้เซียวหลิงอยู่ด้านล่างหวาดกลัว จากนั้นหลิวเฉียงเหว่ยและคนอื่น ๆ ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบบอกให้เซียวหลิงไปอยู่ด้านหลัง

“เซียวหลิง ระวัง!”

“เซียวหลิง! กลับมาเร็วเข้า!”

เซียวหลิงโล่งใจพร้อมตบหน้าอกแบน ๆ ของเธอ เธอกำลังจะหันกลับไปขอบคุณเสี่ยวไป๋ แต่ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเสี่ยวไป๋

เสี่ยวไป๋ละทิ้งสีหน้าที่ว่างเปล่าและท่าทีสับสนของตัวเอง แทนที่ด้วยสีหน้าเย็นชาและไร้ความปราณี จากนั้นร่างกายของเธอก็ลอยขึ้นทันที

ฟิ้ว!

ปีกสีขาวกว้างหกปีกกางออกด้านหลังเสี่ยวไป๋ พร้อมด้วยลมกระโชกแรง ในขณะเดียวกัน แสงสีทองในมือของเธอก็ควบแน่น ดาบสีทองขนาดใหญ่ที่ใหญ่กว่าประตูปรากฏขึ้นในมือของเสี่ยวไป๋ ดาบนั้นโอบล้อมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง มันถูกถือคว่ำด้วยมือเล็ก ๆ สองข้างของเธอ ชุดเกราะกระโปรงสีเงินบนตัวของเธอก็ขยายออกไปเล็กน้อย ราวกับว่าเปลี่ยนจากสไตล์ลำลองเป็นสไตล์เตรียมพร้อมต่อสู้

“ไม่นะ! เสี่ยวไป๋โกรธจัดแล้ว!”

“เซียวหลิง กลับมา!”

หลิวเฉียงเหว่ยและคนอื่น ๆ ตกใจ ก่อนเป็นซือเยี่ยจิ๋งที่รีบวิ่งไปหาเซียวหลิง เธอพร้อมที่จะปกป้องเซียวหลิง สกิลมังกรคำรามก็พร้อมใช้แล้ว

พวกเขาคุ้นเคยกับสถานะนี้ของเสี่ยวไป๋ เพราะเคยถูกเสี่ยวไป๋ฆ่ามากันหมด โดยธรรมชาติแล้วเสี่ยวไป๋นั้นอันตรายอย่างยิ่งในสถานะนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเกิดจากสนามรบที่วุ่นวายในขณะนี้ ไม่มีใครรู้ว่ากระสุนลูกหลงที่โดนเสี่ยวไป๋มาจากไหน และเสี่ยวไป๋ก็กำลังโกรธจัดเสียด้วย!

เซียวหลิง ผู้สนิทกับเสี่ยวไป๋ที่สุด เธอรับรู้สถานการณ์ได้ในทันที เลยเงยหน้าขึ้นมองอย่างว่างเปล่า มองไปยังเสี่ยวไป๋ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นนางฟ้า ดวงตาสีฟ้าของเธอดูเหมือนจะเปล่งแสงออกมา

เสี่ยวไป๋… เป็นนางฟ้าจริง ๆ เหรอ?

โชคดีที่สิ่งที่ทำให้หลิวเฉียงเหว่ยและคนอื่น ๆ โล่งใจก็คือเสี่ยวไป๋ไม่ได้ทำร้ายผู้อื่นอย่างรุนแรงหลังจากโกรธ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างก้าวร้าวสร้างความวุ่นวายเหนือกำแพงเมือง แต่เธอกลับหันไปมองฝูงชนที่ไม่มีที่สิ้นสุดใต้เมือง จากนั้นร่างของเธอก็หายไปและกลายเป็นลำแสงในชั่วพริบตา เธอปรากฏตัวเหนือกลุ่มผู้เล่นของกิลด์แอนติควิตี้ราวกับเทเลพอร์ต

ก๊อง!

ราวกับเสียงระฆังอันยิ่งใหญ่จากสวรรค์ มันถึงกับครอบคลุมสนามรบขนาดใหญ่ที่มีผู้เล่นนับสิบล้านคนได้!

ในเวลานี้ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาก็เห็นท้องฟ้าสีแดงที่ดูราวกับเมฆกำลังลุกไหม้ จู่ ๆ ก็แยกจากกันราวกับรุ่งสางมาถึง ลำแสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์ถูกฉายลงมาจากท้องฟ้า และค่อย ๆ สว่างขึ้น ส่องแสงไปทั่วทั้งแผ่นดิน

“นี่มันอะไรกัน…”

“มันเป็นไปไม่ได้! เขาหายตัวไปไม่ใช่เหรอ?”

ในเวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึง โดยเฉพาะผู้เล่นของกิลด์แอนติควิตี้ พวกเขาลืมที่จะโจมตีเมืองแห่งความโศกเศร้าตรงหน้าพวกเขา เอาแต่มองไปที่พลังอันน่าอัศจรรย์บนท้องฟ้า จิตใจของพวกเขาว่างเปล่า!

เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับฉากนี้ ตอนที่พวกเขาโจมตีฐานที่ตั้งของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ฉากดังกล่าวก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน ออร่าเดียวกัน และพลังเดียวกัน!

มันเป็นสกิลระดับวงกว้างทั้งแผนที่ที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์ซึ่งมีตำแหน่งผู้เล่นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซียใช้! สังหารผู้เล่นนับแสนด้วยสกิลเดียว! แม้แต่แผนที่ก็ระเบิด ทุ่งน้ำแข็งก็พังทลาย!

และผู้เล่นของกิลด์แอนติควิตี้ก็เคยตกเป็นเหยื่อ พวกเขาได้เห็นสกิลอันแข็งแกร่งนี้ ดังนั้นความกลัวเดิมยังคงชัดเจน ซึ่งในขณะนี้ พวกเขาได้เห็นฉากและพลังที่คุ้นเคยอีกครั้ง แล้วพวกเขาจะไม่กลัวได้อย่างไร?

“เดี๋ยว… อย่าเพิ่งรีบหนี”

เหนือกำแพงเมือง หลิวเฉียงเหว่ยและคนอื่น ๆ ก็ตะลึงเมื่อมองไปที่ฉากที่คุ้นเคย ท้องฟ้าแตกและฉายแสงศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้า

เหตุผลหลักก็คือเป้าหมายของเสี่ยวไป๋ไม่ใช่พวกเขา แต่อยู่ห่างจากเมือง นี่คือสิ่งที่ทำให้หลิวเฉียงเหว่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเธอก็มองดูการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนในดวงตาของเธอ

เธอคุ้นเคยกับสกิลนี้ พลังก็ใกล้เคียงกันเกินไป มันเคยถูกใช้โดยเซียวเฟิง และมันฆ่าผู้เล่นทั้งหมดบนแผนที่ในพริบตาเดียว!

มันน่ากลัวมาก!

หากไม่เห็นชื่อของเซียวเฟิงในรายชื่อเพื่อนออฟไลน์อยู่ หลิวเฉียงเหว่ยก็คงคิดว่าเซียวเฟิงกลับมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้สกิลนี้เห็นได้ชัดว่ามันเกี่ยวข้องกับเสี่ยวไป๋ หลิวเฉียงเหว่ยมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือกลุ่มผู้เล่นของกิลด์แอนติควิตี้ ร่างเล็กกะทัดรัดที่มีปีกหกปีกอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเธอแสดงความรู้สึกผสมปนเปกัน

“เอ่อ ฉากนี้ค่อนข้างจะคุ้นตาเลย มันเหมือนกับสกิลของเจ้าแห่งฮีลเลอร์เลยหรือเปล่า? แต่เจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่ได้ออนไลน์นี่นา”

สกายและไนฟเดินเข้ามาและถามแปลก ๆ พวกเขาเองก็คุ้นเคยกับพลังนี้ เพราะยังไงแล้ว หน้าฐานที่ตั้งกิลด์ของพวกเขา… หลุมขนาดใหญ่บนทุ่งน้ำแข็งก็ยังอยู่ที่นั่น

มีเพียงพี่น้องสองคนจากกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์เท่านั้นที่ปรากฏตัวในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีวี่แววของจืออี้ซึ่งปกติแล้วจะต้องกระตือรือร้นมาก

“ก่อนหน้านี้คุณสงสัยและถามฉันว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใครไม่ใช่เหรอ?” หลิวเฉียงเหว่ยไม่ได้หันกลับไปมองและถาม

หลังจากที่กิลด์มิดซัมเมอร์ห้ามผู้เล่นเข้าถนนการค้าที่เสี่ยวไป๋อยู่ สกายและไนฟก็เคยได้ยินเรื่องนี้ตอนที่พวกเขามาเมืองเทียนหลง และพวกเขาอยากจะไปที่ถนนสายนั้นเพื่อดูเสี่ยวไป๋ ซึ่งพวกเขาก็เคยถามหลิวเฉียงเหว่ยว่าทำไม แต่หลิวเฉียงเหว่ยไม่ได้อธิบายในตอนนั้น และในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าหลิวเฉียงเหว่ยไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดมัน

“ฉันว่าเรารู้แล้วว่าทำไม”

อย่างไรก็ตาม สกายกับไนฟก็มองหน้ากันแล้วทั้งคู่ก็ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่ได้โง่ เมื่อพวกเขาเห็นปีกทั้งหกที่ด้านหลังของเสี่ยวไป๋ก็สามารถระบุตัวตนของเสี่ยวไป๋ได้อย่างง่ายดาย

“สาวน้อยคนนั้น… สัตว์เลี้ยงของเจ้าแห่งฮีลเลอร์งั้นเหรอ? สัตว์เลี้ยงระดับตำนานนั่น! นางฟ้าหกปีก!” สกายถามอย่างระมัดระวัง

“ถูกต้อง”

หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้าและคำว่า ‘สัตว์เลี้ยงระดับตำนาน’ เพียงอย่างเดียวก็ไม่ต้องการคำอธิบายอื่น ๆ สำหรับความสามารถของเสี่ยวไป๋แล้ว

“เป็นสกิลที่ช่วยเราป้องกันฐานที่ตั้งกิลด์ครั้งก่อนใช่ไหม? สกิลที่สังหารยกแผนที่จนเอาชนะกิลด์แอนติควิตี้ได้ในพริบตาเดียว มันไม่ใช่สกิลของเจ้าแห่งฮีลเลอร์แต่เป็นสกิลของสัตว์เลี้ยงระดับตำนานนี้งั้นเหรอ?” สกายถามด้วยความไม่แน่ใจ สองฉากนี้คล้ายกันเกินไป!

และในสายตาทุกคู่ที่จ้องมอง ท้องฟ้าก็แยกจากกันโดยสิ้นเชิง และภูเขายักษ์สีทองสว่างก็ตกลงมา!

ไม่!

นี่ไม่ใช่ภูเขายักษ์! มันเป็นดาบขนาดใหญ่! แต่มันใหญ่เกินไป! ตระการตายิ่งกว่าภูเขา! ฟันลงไปที่พื้น!

ดาบศักดิ์สิทธิ์! นี่คือดาบศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากฟากฟ้า! ทะลวงฟ้าถล่มโลก!

ในสนามรบที่วุ่นวาย ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ไฟและควันหยุดลง ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นของกิลด์แอนติควิตี้ที่อยู่นอกเมือง หรือเป็นสมาชิกของกิลด์มิดซัมเมอร์ที่อยู่ภายในเมือง หรือกองกำลังระดับสูงของฝ่ายต่าง ๆ ที่ดูสงคราม ต่างมองดูฉากวันโลกาวินาศนี้และลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว

นี่คือความหมายที่แท้จริงของเกม! ศิลปะแห่งการทำลายล้าง! พลังที่ชวนหายใจไม่ออก! ความตั้งใจดั้งเดิมของผู้เล่นทุกคนในการเริ่มเล่นเกมก็คือการไล่ตามพลังที่ครอบงำทุกสิ่งไม่ใช่หรือ?

ตู้ม!

ดาบศักดิ์สิทธิ์ฟันลงบนพื้นดิน! เกิดหุบเขารอยแยกขนาดใหญ่ในที่ราบของแดนทมิฬ!

พร้อมกันนั้นก็เกิดระเบิดดังสนั่น! คลื่นลูกใหญ่ซัดกระหน่ำทั้งสนามรบ!

ท้องทะเลงดงามมาก ประกอบกับท้องฟ้าสีคราม ทะเลและท้องฟ้าก็มีสีเดียวกันและสวยงามมาก

บนเรือสำราญสุดหรู เซียวเฟิงสวมเสื้อยืดเท่ ๆ และกางเกงว่ายน้ำ พร้อมกับสวมแว่นกันแดดสีน้ำตาลคู่หนึ่งบนใบหน้าของเขา ชายหนุ่มเอนกายบนดาดฟ้าที่กว้างขวางเพื่อรับลมทะเล

อย่างไรก็ตาม ลมทะเลเย็นที่มีกลิ่นคาวเล็กน้อยกลับไม่อาจทำให้เซียวเฟิงแสดงสีหน้าเพลิดเพลินออกมา กลับกัน จะเห็นว่าคิ้วของเขาที่อยู่เหนือแว่นกันแดดมีรอยย่นแน่นราวกับกำลังครุ่นคิด

เซียวเฟิงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในขณะนี้ หลังจากแอบขึ้นมาบนเรือสำราญแล้ว เขาก็ยืมอุปกรณ์บนเรือมาซ่อมเมมโมรี่การ์ด ซึ่งเป็นเมมโมรี่การ์ดร้าวซึ่งได้มาจากนักวิจัยที่เสียชีวิตในฐาน

ไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะอุปกรณ์หรือบันทึกในเมมโมรี่การ์ดนั้นมีจำนวนจำกัดหรืออย่างไร แม้ว่าเซียวเฟิงจะซ่อมแซมได้สำเร็จ แต่ข้อมูลที่ได้รับจากมันกลับมีอยู่น้อยนิดมาก

มันไม่ใช่เมมโมรี่การ์ดที่บันทึกข้อมูลการทดลอง แต่เป็นเมมโมรี่การ์ดของกล้องวงจรปิดในฐานซึ่งบันทึกในวันที่ฐานถูกบุกรุก

เซียวเฟิงที่คิดว่าในที่สุดเขาก็สามารถไขปริศนาของฐานที่ถูกทำลายได้แล้ว ทว่ากลับต้องสับสนมากยิ่งขึ้นหลังจากดูบันทึกกล้องวงจรปิดในวันนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วิดีโอสั้นมากจนมีภาพกะพริบเพียงไม่กี่ภาพ ไม่มีใครรู้ว่าข้อมูลในเมมโมรี่การ์ดเสียหายหรือมีเพียงวิดีโอเหล่านั้นบันทึกมาแค่เท่านั้นกันแน่?

และจากวิดีโอเหล่านี้ เซียวเฟิงมองเห็นเพียงปีกสีขาวเท่านั้น! ไม่เห็นสิ่งอื่นใดเลย

สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงสับสนมากขึ้น เขานึกถึงนกสีดำ จากนั้นเปรียบเทียบกับปีกสีขาวที่ปรากฏในวิดีโอ มันเป็นนกสีขาวที่ทำลายฐานของเฮฟเว่นเหรอ?

จากมุมมองของนกสีดำที่ยังอยู่ในวัยเด็กแล้ว ถ้าเป็นนกสีขาวที่มียีนเดียวกันกับนกสีดำ ตราบใดที่มันโตเต็มวัยและอยู่นอกเหนือการควบคุมของสวรรค์ ย่อมมีพลังที่จะทำลายฐานได้อย่างแน่นอน!

ฐานคิดค้นขึ้นสัตว์ประหลาดแบบไหนขึ้นมากัน! เซียวเฟิงอดกังวลไม่ได้ นี่เป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเขาเองหรือ?

นอกจากนี้ยังมีคำเตือนของโกสต์ก่อนที่จะเสียชีวิตและเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แปลก ๆ ชื่อว่าโนอาห์ ทุกอย่างทำให้ชายหนุ่มรู้สึกปวดหัว และเซียวเฟิงก็รู้สึกเหมือนอยู่ในบ่อน้ำวนขนาดใหญ่ แต่กลับไม่สามารถจับอะไรได้เลย เขาไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย

“ซีเฟย ไม่คิดจะยอมรับข้อเสนอของฉันจริง ๆ เหรอ? แม้ว่าตระกูลซีเหมินจะจัดการไม่ได้ง่าย ๆ แต่ตระกูลเจียงของเราก็ไม่หวั่นไหว ตราบใดที่คุณยอมรับข้อเสนอของฉัน สัญญาเลยว่าตระกูลเจียงจะไม่มากวนใจคุณอีก”

ทันใดนั้น การสนทนาก็ดังขึ้นข้าง ๆ เซียวเฟิง มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากบนเรือสำราญสุดหรู และมีคนมากมายบนดาดฟ้าเรือ เซียวเฟิงไม่ได้สังเกตว่ามีหญิงสาวสวยที่น่าอัศจรรย์คนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะก่อนหน้านี้เขามัวแต่เพ่งสมาธิวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมามากไป ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็คงมาเพลิดเพลินกับลมทะเลที่พัดผ่านรั้วเหมือนกับเขา

ส่วนชายที่พูดนั้นเป็นชายหนุ่มที่แต่งตัวราคาแพง ไม่เพียงแต่เสื้อและกางเกงว่ายน้ำของเขาจะเป็นแฟชั่นปีล่าสุดเท่านั้น แต่นาฬิกาสีทองที่สวมใส่บนมือของเขาก็ยังเป็นรุ่นลิมิเต็ดระดับโลกอีกด้วย เขาเดินตามสาวสวยคนนี้ไปและกำลังพูดอะไรบางอย่าง

และสิ่งที่พวกเขาพูดก็ดึงดูดความสนใจของเซียวเฟิงในทันที