แดนนิรมิตเทพ บทที่ 326
ถานชิวเซิงไม่ค่อยเต็มใจนัก ที่จริงแล้วในใจเขาชอบเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมาตลอด แต่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมีข้อห้ามเรื่องชู้สาว เขาจึงไม่กล้าสารภาพรัก

แต่เขาเองก็รู้ว่าสวีจื่อหาวพูดถูก อำเภอเฟิ่งซานเล็กเกินไป คิดอยากจะประสบความสำเร็จก็ต้องออกไปพัฒนาก้าวหน้าที่ภายนอก

เหมือนดั่งเฉินโม่ ไปอยู่ที่อู่โจวมาไม่กี่ปี เมื่อกลับมาก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว

“อย่างนั้นฉันเองก็ขอให้เสี่ยวเชี่ยนเดินทางปลอดภัยราบรื่นนะ!” ถานชิวเซิงพยายามแสร้งยิ้ม

“ขอให้ราบรื่น!” เฉินโม่เองก็ยกแก้วเหล้าขึ้น

ทั้งสี่คนดื่มจนหมดแก้ว

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนลุกขึ้นยืน พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาละ บนโลกนี้ไม่มีงานเลี้ยงที่ไม่แยกย้าย พอกันแค่นี้เถอะ ฉันไปก่อนละ!”

ถานชิวเซิงและสวีจื่อหาวแอบถอนหายใจ ทันใดนั้นเฉินโม่ก็ลุกขึ้น “ฉันไม่ส่งเธอ”

ในแววตาของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมีความประหม่า แต่ก็ปฏิเสธเฉินโม่ไม่ได้ จึงทำได้แค่พยักหน้า

เฉินโม่เดินตามเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนออกมาไป เมื่อเดินถึงข้างถนน เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนก็หันมาพูดว่า “ไม่ว่าเมื่อไหร่สุดท้ายก็ต้องแยกกันอยู่ดี เฉินโม่ นายกลับไปเถอะ!”

เฉินโม่มองเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน แต่ดูแล้วไม่มีความคิดที่จะกลับไปเลย และพูดนิ่งๆว่า “เสี่ยวเชี่ยน ถ้าหากวันไหนเธอเจอปัญหา สามารถบอกฉันได้ ฉันช่วยเธอจัดการได้!”

ในแววตาของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมีความหวังผุดขึ้น แต่หายไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าเฉินโม่ดูอะไรบางอย่างออกแน่นอน

“ฉันรู้ว่าตอนนี้ฐานะตำแหน่งของนายไม่เหมือนเดิมแล้ว แม้แต่ผู้อำนาจยิ่งใหญ่อย่างตระกูลจินฮ่านหยางเองยังเคารพนาย จนถึงตอนนี้ฉันก็อาจจะลองบอกอะไรกับนายได้บ้าง ฉันกับนายไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน เรื่องของฉันพวกนายช่วยไม่ได้สักคน!”

เฉินโม่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เธอยังไม่พูด แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันช่วยไม่ได้?”

ทันใดนั้น บนรถอาวดี้คนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก มีชายหนุ่มวัยกลางคนใส่สูทสีดำเดินลงมา ตะโกนมาทางนี้ว่า “เสี่ยวเชี่ยน เวลาค่ำแล้ว พวกเรากลับไปกันเถอะ!”

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนตกใจ พูดกับเฉินโม่ว่า “คุณอาฉันเร่งฉันแล้ว นายรีบกลับไปเถอะ จำไว้ อย่าได้คิดจะยุ่งเรื่องชาวบ้านเด็ดขาด เรื่องของฉันนายช่วยไม่ได้จริงๆ!”

“ลาก่อน!”

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนพูดจบ ก็ยิ้มอย่างเศร้าใจ เดินเข้าไปนั่งในรถอาวดี้

มองดูรถอาวดี้ค่อยๆขับจากไป เฉินโม่สีหน้าเรียบเฉย แววตาลึกซึ้งอย่างท้องฟ้า

กลับไปพูดกับถานชิวเซิงและสวีจื่อหาวคำหนึ่ง แล้วเฉินโม่ก็พาเฉินซงจื่อจากไป เรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วไล่ตามรถอาวดี้ที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนนั่งจากไป

ภายในลานของตึกแห่งหนึ่ง ชายคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นอาของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน พาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนลงจากรถอาวดี้

ด้านในประตูมีชายหญิงวัยกลางคนเดินออกมาคู่หนึ่ง นั่นก็คือพ่อแม่ของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน แต่สายตาที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมองไปยังพ่อแม่ นอกจากความเย็นชาแล้วก็ไม่มีความอบอุ่นใดๆอีก

“พี่ใหญ่ ไปกันได้หรือยังครับ?” คุณอาของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนถาม

พ่อของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า “เอาของใส่ในรถ ไปกันเดี๋ยวนี้เลย!”

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องแสบหูเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “คิดจะหนี ก็ทิ้งเทพธิดาทิพย์ไว้ซะ!”

เงาคนสามคนโผล่ออกมาจากอากาศเหยียบลงพื้น ผู้นำคือผู้อาวุโสที่ผอมแห้งคนหนึ่ง ที่เหลืออีกสองคนคือชายหญิงวัยกลางคน รูปร่างผอมแห้งเช่นกัน

พ่อของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนตะคอกว่า “เหลียนเฉิงอวี้ นายคิดอยากจะทำอะไร?”

ผู้อาวุโสผอมแห้งหัวเราะแปลกประหลาด “ยิงอี้สง พวกนายสองพี่น้องพาเทพธิดาทิพย์หลบซ่อนมานายหลายปี ทำเอาฉันหาตัวอย่างยากลำบาก ครั้งนี้พวกนายหนีได้ยากแล้วละ!”

ยิงอี้สง นั่นก็คือพ่อตัวปลอมของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน อาคนนั้นของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเองก็เป็นตัวปลอมเช่นกัน เป็นน้องชายของยิงอี้สง ชื่อ ยิงอี้ผิง

ส่วนแม่ของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน ก็เป็นตัวปลอมเช่นกัน เป็นภรรยาของยิงอี้สง ชื่อ ไป๋เจวียน