18 หนุ่มน้อย นายสนใจมาเป็นคนขับรถของฉันไหม

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

วันต่อมา

เจียงเฉินก็ไปส่งอังฉิงกลับ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกจากกัน อันฉิงก็ขอเจียงเฉินจูบก่อนที่จะจากกันไปอย่างไม่เต็มใจ

ในตอนนี้เจียงเฉินก็กลับมาทำงานส่งพัสดุต่อเหมือนเดิม

บริเวณเบย์วิลล่า ที่ทางเข้าของวิลล่าเลขที่ 708

เจียงเฉินตะโกนถามออกไป “สวัสดีครับ มีใครอยู่บ้านไหมครับ?”

และก็มีเสียงผู้ชายที่ทุ้มต่ำตอบกลับมา

“มี ช่วยรออยู่หน้าประตูก่อนนะ”

และไม่นานก็มี พ่อและลูกสาวคู่หนึ่งเดินออกมา

เด็กหญิงตัวเล็กนั้นกำลังใส่ชุดนักเรียน ม.ปลายอยู่ ซึ่งดูคล้ายกับนางเอกในอนิเมะไม่น้อยเลย ดูบริสุทธิ์และละเอียดอ่อน  มีความเย้ายวนเล็กน้อยในชุดของเธอ

ชายวัยกลางคนก็กล้าหาญ หล่อเหลา และดูเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

“คุณคือ คุณมู่เจิ้งชาง ใช่ไหมครับ?”

เจียงเฉินมองไปที่ข้อความบนพัสดุ

“ใช่ครับ”

มู่เจิ้งชางรับพัสดุมาก่อนที่เขาจะเซ็นยืนยันการรับพัสดุ

ดวงตาของเด็กหญิงในชุดนักเรียนมองมาที่เจียงเฉิน เจียงเฉินในตอนนี้กำลังใส่หมวกเบสบอลสีดำอยู่ซึ่งมันทำให้เขาดูหล่อมาก และที่มุมปากของเขาก็มีรอยยิ้มอยู่เล็กๆด้วย

ว้าว!

เขาหล่อมากเลย!

มันเหมือนกับดอกซากุระในฤดูร้อน โรแมนติกมาก

หญิงสาวจ้องเจียงเฉินตาค้างอยู่ซักพัก

“ฉิงเอ๋อร์”

ดวงตาของมู่เจิ้งชางที่ดูเต็มไปด้วยอำนาจจ้องมองที่ลูกสาวของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ

แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะไม่กลัวเสียงนั้นเลย และมันก็เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นไม่กลัวพ่อของเธอแม้แต่น้อย

เด็กสาวในชุดนักเรียนก็เอ่ยปากถามพ่อของเธอ “พ่อคะ วันนี้เราจะไปโลกใต้น้ำกันใช่ไหม”

“ใช่ พ่อสัญญามาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วนิ” มู่เจิ้งชางพูดออกมาเบาๆ

“พี่ชายช่วยรอที่นี่หน่อยนะ เดี๋ยวฉันขอคุยกับพ่อก่อนเดี๋ยวกลับมา”

เด็กหญิงในชุดนักเรียนกล่าวกับเจียงเฉินพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะพาพ่อของเธอออกห่างจากเจียงเฉินไปหลายสิบเมตร

“พ่อค่ะ เราจ้างเขามาเป็นคนขับรถดีไหม”

“นังเด็กดื้อ เขาจะขับรถยนต์เป็นได้ไงทั้งที่เขาดูเด็กขนาดนั้น“

“ใครบอกกันว่าเขายังเด็กแล้วขับไม่ได้ พ่อก็แค่มีอคติต่อเขา”

“ไม่ พ่อจะสัญญาอะไรกับลูกก็ได้ แต่ยกเว้นเรื่องนี้”

“พ่อคะ…”

ทั้งสองเถียงกันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดทั้งคู่ก็บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

เด็กหญิงในชุดนักเรียนก็จูงพ่อของเธอมาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ

มู่เจื้งเชียงพูดออกมา “พ่อหนุ่ม นายมีใบขับขี่รึเปล่า?”

เจียงเฉินตอบออกไป “แน่นอนครับ มีอะไรรึ้เปล่า?”

มู่เจิ้งเชียงพูด “คืออย่างนี้ นายมีเวลามารับส่งลูกสาวของฉันรึเปล่า ฉันจะจ่ายให้นาย 10 เท่าจากราคาปกติเลย

“แล้วผมต้องขับรถยนต์รุ่นไหนครับ”

“Rolls-Royce Phantom”

มีความภาคภูมิใจปรากฏบนคิ้วของมู่เจิ้งชางเพราะรถหรูคันนี้ราคาประมาณ 8 ล้านหยวน

และมันก็บังเอิญพอดี เจียงเฉินนั้นมีความคิดว่าเขาจะส่งพัสดุด้วยรถหรู และรถรุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเขา

“ตกลงครับ ผมขอดูรถก่อนได้ไหมครับ”

เจียงเฉินตอบตกลง

มู่เจิ้งชางก็ลืมตาขึ้น

แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนี้ดูค่อนข้างฉลาดและมีหรือที่เขาจะไม่เลือกเงิน?

ณ โรงรถ

เจียงเฉินรับกุญแจมาก่อนกดมัน

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด~

เสียงของ โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ดูสงบและโดดเด่นดังออกมา

ทั้งสามขึ้นไปนั่งในรถ

เจียงเฉินมองสำรวจภายใน ท้ายที่สุดยังไงมันก็เป็นรถหรูราคาหลายล้านและแน่นอนการตกแต่งภายในก็ต้องดูดี

ที่นั่งด้านหลังนั้นก็มีพื้นที่ที่กว้างมากซึ่งมันกว้างพอที่จะให้คนสองคนนั่งกันโดยไม่เบียดเสียดแม้แต่น้อย

เจียงเฉินที่เห็นก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง “รถคันนี้เหมาะมากสำหรับการจัดส่งพัสดุจริงๆ”

ชายวัยกลางคนและลูกสาวของเขายิ้มออกมา

ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่มีความคิดเรียบง่ายดีจริงๆ

เขาพูดออกมาได้ว่ารถหรูราคา 8 ล้านหยวนนั้นชั่งเหมาะกับการเอามาส่งพัสดุจริงๆ ซะได้

เมื่อเหยียบคันเร่งเสียงคำรามจากเครื่องยนต์ก็ดังออกมา

“คาดเข็มขัดด้วยครับ จอนนี้พวกเราอยู่บนถนนแล้ว”

เจียงเฉินพูดออกมาเหมือนกับเขาเป็นคนขับรถที่มีความชำนาญสูง

พ่อลูกทั้งสองคนก็ทำตามคำของเขาทันที

โรลส์-รอยซ์ แฟนธอมก็ค่อยๆออกตัวไปอย่างช้าๆ

และแล้วพวกเขาก็ต้องแปลกใจเพราะชายหนุ่มส่งพัสดุคนนี้กลับไม่มีความตื่นตระหนกจากการที่เขาได้ขับรถราคา 8 ล้านหยวนเลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่ควรจะเกิดในตอนนี้คือ คนธรรมดาๆอย่างเขาก็ควรจะมีความตื่นตระหนกให้เห็นบ้างไม่มากก็น้อยแต่นี่กลับไม่มีให้พวกเขาได้เห็นเลยแม้แต่น้อย

เด็กสาวในชุดนักเรียนมองไปที่ใบหน้าดานข้างของเจียงเฉินจากที่นั่งด้านหลัง

ถ้าพี่ชายคนนี้เข้ามาในบ้านของฉันในฐานะคนขับรถ ฉันก็มั่นใจเลยว่าเขาจะต้องกลายมาเป็นแฟนของฉันแน่นอน!

และท้ายที่สุดมันก็จะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งรักอันยาวนาน

อ่า~~น่าอายจัง! (ꈍᴗꈍ)

แต่พี่ชายเขาก็หล่อจริงๆ เขามีใบหน้าเหมือนกับพระเอกในละครเลย และถ้าได้คู่กันฉันกับเขาคงเป็นคู่ที่ลงตัวแน่

มีเพียงแค่หนุ่มหล่อเท่านั้นที่จะมาคู่กับฉันได้

……

เจียงเฉินนั้นนู้จักเส้นทางในเมืองหลวงจักรวรรดิเป็นอย่างดีเพราะงั้นเขาจึงขับมาที่โลกใต้น้ำได้โดยที่ไม่ต้องดูแผนที่เลยแม้แต่น้อย

หลังจากขับมาประมาณ 5 นาทีก็มาเจอกับทางสามแยกและเจียงเฉินก็ขับตรงไป

มู่เจิ้งชางขมวดคิ้ว “ฉิงเอ๋อร์ ตอนแรกพ่อให้คะแนนเขา 90 คะแนนแต่ตอนนี้เหลือ 70 แล้วถนนเส้นที่เขาควรไปคือทางหลวง C แต่เขากลับขับมาทางหลวง B ซึ่งมันจะทำให้เขาช้าลงไปถึง 2 นาที

“พ่อ อย่าไปสนใจรายละเอียดพวกนี้เลย เห็นได้ชัดว่าเขาก็ขับได้ดีเลยทีเดียว” เด็กสาวในชุดนักเรียนพูดออกมา

ถึงแม้ว่าการพูดคุยระหว่งสองพ่อลูกจะเบามาก แต่เจียงเฉินที่อยู่ข้างหน้านั้นก็ได้ยินอย่างชัดเจน และเขาก็พูดออกไปว่า

“คุณไม่รู้หรอว่าวันนี้มีอุบัติเหตุบนทางหลวง C และตอนนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการเก็บกวาดอยู่เลย”

มู่เจิ้งชางก็เบิกตากว้างอย่างโง่งมออกมาทันทีที่ได้ยิน

เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คข่าวทันที

“วันนี้ มีอุบัติเหตุทางถนนที่ถนนหลวง C บนถนนหยางคุณ เส้นทางนี้กำลังถูกปิดอยู่กรุณาเลี่ยงเส้นทางนี้ด้วยค่ะ”

เป็นอย่างที่เขาบอกจริงๆ

มู่เจิ้งชางหมดคำจะพูด เขาไม่คิดมาก่อนว่าเจียงเฉินนั้นจะเตรียมตัวมาก่อนแล้ว

การตอบสนองของเขาในตอนนี้นับว่าไร้ที่ติ!

ว้าว!

สุดยอดไปเลย!

แม้ว่าการขับรถที่ดีจะเป็นเรื่องรอง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขานั้นทั้งหล่อทั้งสูง

…..

เอี๊ยด….

เจียงเฉินจอดรถอย่างนิ่มนวล

ทั้งสามออกมาจากรถ

มู่เจิ้งชาง มองไปที่เจียงเฉิน ด้วยความอคตี่น้อยลงและชื่นชมมากขึ้น และถามว่า

“พ่อหนุ่ม นายขับรถได้ดีทีเดียว นายต้องการมาเป็นคนขับรถของตระกูลมู่ของฉันไหม?”

“อ่า… คงจะไม่ได้หรอกครับ”

เจียงเฉินปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง

เพราะเขาจะไม่มีวันหาประสบการณ์ใหม่ๆได้จากการเป็นเพียงคนขับรถ

ทันทีที่ถูกปฏิเสธ มู่เจิ่งชางก็เหมือนว่าตัวเองนั้นถูกทุบหน้า ดังนั้นเขาจึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ฉันให้เงินเดือนนาย 150,000 หยวน มีประกันทั้ง 5 อย่างและเงินค่าเช่าบ้าน งานง่ายๆแบบนี้นายคงไม่ปฏิเสธหรอกนะ”

ด้วยเงินเดือน 150,000 หยวนฉันไม่เชื่อว่านายจะไม่อยากได้

เจียงเฉินยิ้มออกมา “ผมขอโทษจริงๆครับ ผมคิดว่างานเดิมของผมนั้นดีอยู่แล้ว

มู่เจิ้งชางขมวดคิ้ว และคิดว่าเขาคงมีปัญหาที่เรื่องเงินจึงลองเพิ่มจำนวนเงินเดือนให้เขาไปอีก

“สองแสน!”

“มันไม่ใช่เรื่องเงินหรอกครับ”

เจียงเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ขอโทษนะครับ พ่อบ้านของผมโทรมา”

พ่อมู่และลูกสาวจ้องมองกันและกัน และทั้งคู่ก็ตกตพลึง

โอเค?

แม่บ้าน?

เขาเป็นคนส่งพัสดุแต่กลับมีแม่บ้าน?

และก่อนที่ทั้งสองจะมีปฏิกริยาอะไร ก็มีรถแลมโบกินี่สีเงินขับมาและจอดข้างๆเจียงเฉิน

เท่มาก!

โดดเด่น!

แถมยังน่าดึงดูด!

ประตูรถถูกเปิดออกมา และก็มีชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทและเน็คไทออกมาและเอ่ยประโยคขอร้อง

“คุณเจียงครับ ช่วยขึ้นรถด้วยครับ”

เจียงเฉินหันกลับมาหาสองพ่อลูกและบอกลาด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ ก่อนที่จะก้มหัวและเข้าไปในรถ

เมื่อประตูปิดรถก็ออกตัวไปทันที

เขาไปแล้ว…

มู่เจิ้งชางในตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่งมไปแล้ว!

เขารู้จักรถคันนี้น มันคือรุ่นตัวท็อปของ Lamborghini Poison ที่ทั้งโลกมีเพียงแค่ 3 คันและราคามันอยู่ที่ 80 ล้านหยวน!

และกลายเป็นว่าการที่เจียงเฉินมาขับรถของเขาในวันนี้ก็เพียงเพราะเขาอยากจะลองรถเพื่อดูว่ามันเหมาะกับการเอาไปส่งพัสดุไหม!

บ้าไปแล้ว!

พระเจ้านี่มันเกินจริงเกินไป! !!

ตอนแรกก็พูดอยู่ว่าเขานั้นเรียบง่าย เรียบง่ายกับผีน่ะสิ นั่นมันเศรษฐีที่ขับรถแลมโบกินี่ราคา 80 ล้าน!

“โอ้ ทั้งๆที่อยู่มาในโลกของธุรกิจมาทั้งชีวิต แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะดูพลาดไปจริงๆ”

มู่เจิ่งชางส่ายหน้าและถามออกมา “ฉิงเอ๋อร์ ลูกรู้จักเขาไหม เขามาจากตระกูลไหนกัน?”

เด็กหญิงในชุดนักเรียนก็ตัวแข็งค้างไป “หนูไม่รู้จักเขาค่ะ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เจอเขาเหมือนกันค่ะ”

“แล้วลูกก็ชอบเขาใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะหนูชอบเขา”

“อืม คนนี้พ่ออนุญาติ อ่ะนี่เบอร์โทรศัพท์ของเขา”

มู่เจิ้งชาง เอาเบอร์โทรศัพท์ของเขาออกมาและส่งเข้าไปในมือถือของลูกสาวของเขา

เด็กหญิงในชุดนักเรียน “???”

สตั้น ไม่อยากจาะเชื่อ

“พ่อ พ่อจะ….เปลี่ยนใจเร็วไปแล้ว”