ตอนที่ 866 ประธานเชี่ยนที่กลายเป็นขวัญใจ

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“ช่างเถอะ การแข่งขันวันมะรืนก็โหดพอสำหรับเขาแล้ว ฉันจะยังไม่ให้รุ่นพี่เธอออกโรงก็แล้วกัน รอตอนที่เด็กคนนี้กำลังได้ใจก่อนฉันค่อยให้รุ่นพี่เธอออกไปปราบ เพอร์เฟค…จะไปไหนน่ะ?”

 

 

ชีอวี่เซวียนเห็นอาข่าขยับไปที่ประตูจึงถามขึ้น

 

 

“ฉันขอขีดเส้นกั้นอาณาเขตกับบอสค่ะ จากนี้เป็นต้นไปเราสองคนไม่เกี่ยวข้องกัน ต่อไปถ้าประธานเชี่ยนจะจัดการบอสก็อย่าเอาฉันไปเหมารวม”

 

 

ไม่เคยเจอใครโรคจิตขนาดนี้มาก่อน ประธานเชี่ยนเกลียดอะไรเขาก็ทำอย่างนั้น อีกไม่นานคงโดนอัดน่วม

 

 

ผ่านรอบแรกไปอย่างสบายๆ แถมยังได้คะแนนเต็มกลายเป็นที่จับตามอง เสี่ยวเชี่ยนกลายเป็นขวัญใจของทุกคนทันที

 

 

โจทย์ยากแบบนี้คัดคนตกรอบไปเกินครึ่ง แถมเธอยังได้คะแนนเต็ม ไม่เพียงแต่จะทำให้เหล่าคณะกรรมการตกตะลึง ยังทำให้แม่อวี๋ที่มาดูสดกับต้าอีพลอยตื่นเต้นไปด้วย ถึงกับตบโต๊ะฉาดสั่งให้เตรียมจัดโต๊ะฉลองตอนเย็น

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอยากขำให้น้ำตาเล็ด เรื่องแค่นี้สำหรับเธอไม่เห็นมีอะไรน่าภูมิใจ แต่คนเหล่านี้กลับทำเหมือนฉลองเทศกาลใหญ่

 

 

แม่อวี๋สั่งให้คนคุ้มกันที่ตามมาด้วยไปซื้อกับข้าวมาไว้ก่อนแล้ว ยัดใส่ท้ายรถมาจนแน่น เสี่ยวเชี่ยนเห็นแล้วก็อึ้ง

 

 

“ไปกินร้านอาหารง่ายๆก็ได้นะคะ ทำไมต้องยุ่งยากแบบนี้ด้วย?”

 

 

“กินข้างนอกมันจะเหมือนทำกินเองที่บ้านได้ไงจ๊ะ? แม่คิดไว้แล้วว่าวันนี้ยังไงหนูก็ต้องทำผลงานได้ดี เดี๋ยวพวกเราไปจัดโต๊ะกินฉลองกัน พรุ่งนี้พอแข่งเสร็จก็ฉลองต่อ” แม่อวี๋พูดอย่างมีความสุข

 

 

ลูกสะใภ้เก่งขนาดนี้ เธอภูมิใจนี่นา พอคะแนนเสี่ยวเชี่ยนออกมาพวกเพื่อนบ้านโทรมายินดีกันใหญ่

 

 

ถึงคนที่ดูจะไม่เข้าใจศัพท์เฉพาะที่ยุ่งยากซับซ้อนเหล่านั้น แต่ทุกคนชอบดูตามกระแส

 

 

กินต่อเนื่อง…เสี่ยวเชี่ยนอึ้งกับความกระตือรือร้นของแม่อวี๋

 

 

นี่หาโอกาสจะได้ฉลองกันใช่ไหม

 

 

เด็กน้อยพ่านพ่านถามขึ้นด้วยความใสซื่อ

 

 

“ย่าฮะ คะแนนอาเชี่ยนยังไม่ออกย่าก็ให้น้าเสี่ยวหวางไปซื้อของแล้วไม่ใช่เหรอฮะ แล้วถ้าคะแนนออกมาไม่ดีเรายังจะจัดฉลองกันไหมฮะ?”

 

 

แม่อวี๋ลูบหัวสุดหล่อตัวน้อยด้วยความเอ็นดูพลางพูด

 

 

“งั้นเราก็เปลี่ยนจากงานฉลองเป็นงานให้กำลังใจไงจ๊ะ บ้านเราชนะต้องฉลองแพ้ต้องให้กำลังใจ”

 

 

พ่านพ่านพยักหน้า รู้สึกว่ามีเหตุผล

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเงียบ

 

 

อีกความหมายคือหาข้ออ้างไปกินของอร่อยสินะ…

 

 

แม่อวี๋กับต้าอีเข้าไปวุ่นอยู่ในครัว สักพักก็มีกลิ่นหอมโชยไปทั่วบ้าน

 

 

เดิมเสี่ยวเชี่ยนอยากจะเข้าไปทำเป็นช่วยนิดๆหน่อยๆ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเหยียบเข้าไป ต้าอีกับแม่อวี๋ก็ขนาบข้างซ้ายขวาลากเธอออกมา

 

 

สะใภ้คนเล็กของตระกูลอวี๋ไม่เพียงแต่เรื่องงานจะได้คะแนนเต็ม เรื่องทักษะทำเมนูพิสดารก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน

 

 

“หนูไปสอนกลอนโบราณให้พ่านพ่านเถอะจ้ะ แล้วก็วานโทรเรียกหลิวเหมยให้มากินด้วยกัน” แม่อวี๋พูดในใจ ขอแค่เสี่ยวเชี่ยนอย่าเข้ามาในครัวเป็นพอ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ตายใจ กว่าแม่สามีจะมาหาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ให้เธอเข้าไปช่วยปอกกระเทียมก็ยังดี

 

 

แต่แม่อวี๋ไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสเลยแม้แต่น้อย เหมือนรู้ทันว่าเสี่ยวเชี่ยนจะเข้าไปในครัวเลยปิดประตูสนิท แถมยังล็อคด้วย

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเดินอยู่ในบ้านอย่างเซ็งๆ พ่านพ่านนั่งอ่านหนังสือของตัวเอง พอเสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไป สุดหล่อน้อยก็เบี่ยงตัวหันหลังให้เธออย่างเนียนๆ ท่าทางแบบนี้เหมือนกำลังบอกว่า อย่ามายุ่งกับผมนะ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเกิดความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกทอดทิ้ง ทำได้แค่ยอมรับชะตากรรมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหลิวเหมย

 

 

“หลิวเหมย ตอนเย็นมากินข้าวบ้านพี่สิ วันนี้ครอบครัวเราอยู่กันหลายคน”

 

 

“พาคนอื่นไปด้วยได้ไหมคะ?”

 

 

“…ฟู่กุ้ยอยู่ด้วยเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนจำได้ว่าตอนเธอแข่งเสร็จแม่โทรมาบอกว่าฟู่กุ้ยอยู่บ้าน นี่เพิ่งผ่านมาไม่นานเหาะมาเมืองหลินแล้ว?

 

 

“เดี๋ยวพี่เขามา อีกประมาณสามชั่วโมงค่ะ”

 

 

“งั้นก็มาสิ ก็ดี จะได้มาสนุกกัน”

 

 

อวี๋หมิงหลางพอกลับมาถึงบ้านก็ได้กลิ่นหอมๆของอาหารผิดกับตอนปกติ

 

 

อาหารเต็มโต๊ะใหญ่

 

 

“ดูจากอาหาร วันนี้เมียผมคงกำชัยชนะกลับมาสินะ”

 

 

วันนี้เสี่ยวเฉียงงานยุ่งทั้งวัน มือถือเปิดเครื่องไม่ได้ แถมยังขาดการติดต่อกับโลกภายนอก แต่ดูจากชื่ออาหารเป็นมงคลที่อยู่บนโต๊ะแล้วก็พอเดาได้ว่าคะแนนเสี่ยวเชี่ยนน่าจะดี

 

 

หมูน้ำแดงนำโชค ลูกชิ้นนำชัย ไก่นึ่งร้อยโล่ ปลานึ่งมงคล…อาหารที่เป็นมงคลเหล่านี้อวี๋หมิงหลางเห็นล่าสุดดูเหมือนจะเป็นตอนที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อันดับหนึ่ง

 

 

“มันต้องมีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ วันนี้เสี่ยวเชี่ยนของเราเก่งที่สุด ตอนนั้นนะ…”

 

 

แม่อวี๋เล่าเหตุการณ์ในสนามสอบอย่างออกอรรถรส เสี่ยวเชี่ยนหิวจนท้องร้องก็ยังไม่กล้าขัดจังหวะของแม่สามี เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางยิ้มทำเป็นมีอารมณ์ร่วมไปด้วย

 

 

อวี๋หมิงหลางฟังจบก็พยักหน้าอย่างพอใจ “เยี่ยม ครั้งนี้ทำได้ไม่เลว จดผลงานไว้ก่อนหนึ่งครั้ง”

 

 

เขาพูดพลางแอบหยิบหมูน้ำแดงขึ้นมาหนึ่งชิ้น แม่อวี๋ตีมือเขา “ล้างมือหรือยัง?”

 

 

อวี๋หมิงหลางแอบหยิบกินเสร็จยังไม่ลืมที่จะหยิบให้เสี่ยวเชี่ยนด้วย เขารีบหยิบหมูอีกชิ้นยัดใส่ปากเสี่ยวเชี่ยน

 

 

“จะไปล้างเดี๋ยวนี้นี่แหละครับ”

 

 

กลิ่นหอมของอาหารโชยมาเตะจมูก เสี่ยวเชี่ยนเคี้ยวพลางคิด สมกับเป็นสามีเธอจริงๆ รู้ด้วยว่าเธอหิวจะตายอยู่แล้ว

 

 

“นี่ก็เสร็จแล้วทำไมหลิวเหมยกับฟู่กุ้ยยังไม่มาล่ะ? เจ้าเล็กโทรไปถามซิว่าอยู่ไหนกันแล้ว?”

 

 

อวี๋หมิงหลางขานรับ เขาโทรหาหลิวเหมยไม่มีคนรับ จึงโทรหาฟู่กุ้ย

 

 

“ตั้งนานแล้วทำไมยังมาไม่ถึงกันอีก? รอพวกนายอยู่เนี่ย”

 

 

“พวกเรามีเรื่องนิดหน่อยคงไม่ไปแล้วนะ พวกนายกินไปได้เลย” น้ำเสียงนุ่มนวลของฟู่กุ้ยดังลอดมา

 

 

พออวี๋หมิงหลางวางสาย ฟู่กุ้ยก็หันไปปลอบหลิวเหมยที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างๆ

 

 

“เลิกร้องเถอะ พี่ก็ไม่เป็นไรแล้วนี่”

 

 

“ฮือๆ แต่หมอบอกว่าพี่กระดูกร้าว…ต้องรักษาตัวนานเท่าไรกัน?” หลิวเหมยร้องไห้ตั้งแต่รับสายฟู่กุ้ยจนถึงตอนนี้

 

 

“นี่ถือเป็นความโชคดีในความโชคร้ายแล้ว เลิกร้องเถอะ”

 

 

วันนี้ฟู่กุ้ยไม่สบายจึงไม่ได้ขับรถมาเอง เขานั่งรถเพื่อนที่ทำงานมา

 

 

ขับมาถึงเมืองหลินแล้ว ใครจะไปคิดว่ารถของเพื่อนจะชนเข้ากับรถกระบะจนสภาพยับเยิน โชคดีที่เพื่อนเขาแค่ศีรษะแตก ฟู่กุ้ยขากระแทกกระดูกร้าวเล็กน้อย

 

 

คนขับรถกระบะที่เป็นต้นเหตุก็ไม่เป็นอะไร

 

 

ตอนที่เพิ่งชนฟู่กุ้ยขยับตัวออกมาจากรถไม่ได้ สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือโทรไปขอหลิวเหมยแต่งงาน เขาคิดในใจว่าถ้าตัวเองไม่รอดอย่างน้อยก็จะได้ไม่มีอะไรติดค้างในใจ ถึงเขากับเธอจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่นับวันเขาก็ยิ่งชอบหลิวเหมยมากขึ้น ชอบถึงขนาดอยากอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต หลงรักหัวปักหัวปำ

 

 

ตอนที่หลิวเหมยได้ยินเขาขอแต่งงานเธอดีใจแทบบ้า ปรากฏว่ายังไม่ทันจะได้ตอบตกลงก็ได้ยินเสียงลอดมาจากทางเขา กู้ภัยเข้ามางัดรถช่วยคนออกมา

 

 

เธอถึงได้รู้ว่าทางฟู่กุ้ยเกิดอุบัติเหตุ หลิวเหมยตกใจรีบไปหาทันที พอเธอไปถึงฟู่กุ้ยก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว เธอจึงรีบมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล พอเห็นฟู่กุ้ยเธอก็วิ่งเข้าไปกอดพลางร้องไห้ยกใหญ่