ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1314 – นิกายสาปอสูร

 

คำพูดของเธอสร้างผลกระทบให้กับหัวใจของชิงสุ่ยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ท่าทางของเธอยังชัดเจนอย่างมาก เธอนั้นไม่ต้องการเป็นภรรยาของเขา และไม่ได้รักเขา เธอนั้นต้องการเป็นเพียงแค่คู่ขาของเขาเท่านั้น

 

ชิงสุ่ยนั้นรู้สึกดีอย่างมากนี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่จำเป็นต้องผู้มัดตัวเองกับใคร เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย มีคนมากมายในโลกก่อนหน้านี้ของที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีความรัก พวกเขานั้นใช้ประโยชน์จากกันและกัน เมื่อถึงจุดๆหนึ่งพวกเขาก็จะจากกันไปโดนไม่ต้องหลงเรื่องความเสียใจเอาไว้

 

“ตอนนี้ข้าสามารถลิ้มรสมันได้จริงๆรึ?”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยท่าทางที่จริงจัง

 

“ใช่แล้ว ข้าอนุญาตเจ้า”

 

“แล้วข้าจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้กัน?”ชิงสุ่ยกล่าวถามกับไป

 

ในตอนนี้มือของเขาได้ลูบไปที่เอวของเธออย่างช้าๆ ในตอนนี้เขาไม่ได้ว่างแผนที่จะแสร้งเป็นสุภาพบุรุษอีกต่อไป

 

 

ในตอนแรกเขานั้นคิดที่จะปล่อยเธอไป แต่เมื่อเธอนั้นเป็นคนเสนอมาเขาก็ไม่จำเป็นต้องหักห้ามใจอีกต่อไป เพราะในตอนนี้เธอนั้นได้ตัดสินใจแล้ว

 

“ประโยชน์ที่เจ้าได้รับ ก็คือข้าจะยินยอมให้เจ้านำภาพของข้ากลับไปจิตนาการต่อได้ยังไงละ!”เธอกล่าวอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเธอก็ดึงมือของชิงสุ่ยเอาไว้และพุ่งเข้าจูบเขา

 

…………..

 

 

ตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นไม่ได้บอกความลับเกี่ยวกับร่างกายของเขาให้กับเธอ แม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์กันที่ลึกซึ้งก็ตาม นอกจากนี้เขานั้นก็ยังไม่รู้ชื่อของเธออีกด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรที่ต้องบอกเธอไปถึงแม้จะรู้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้หลอกเขาก็ตาม

 

ในวันรุ่งขึ้นเขาออกเดินทางอีกครั้งโดยที่ไม่บอกกล่าวกับอวี้ลู่หยานและถานถ่านหยวน นอกจานี้เขายังไม่ได้กลับไปที่สำนักสวรรค์เร้นลับอีกด้วย แต่เขากลับไปยังดินแดนเทือกเขาสันโดษ

 

 

ดินแดนเทือกเขาสันโดษนั้นเป็นพื้นที่ๆรวมอยู่ของนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดทางตอนเหนือของทวีปอู่เซียตะวันตก พวกเขามารวมกันอยู่ที่นี้ เพื่อผนึกกำลังกันเป็นกลุ่มอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดทางตอนเหนือของของทวีปอู่เซียตะวันตก

 

 

ชิงสุ่ยนั้นรู้ดีถึงความทะเยอทะยานของพวกเขา พวกเขานั้นเป็นกลุ่มคนหนึ่งที่ต้องการเดินทางไปยังทวีปอื่นๆอย่างแน่นอน ถึงตอนนี้พวกเขาจะเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเดินทางไปยังทวีปอื่นๆในตอนนี้

 

ครั้งแรกที่ชิงสุ่ยมาถึงบริเวณแห่งนี้นั้นถูกทำลายเป็นจำนวนมากด้วยฝูงสัตว์อสูร แต่ตอนนี้มันนั้นกับได้รับการฟื้นฟูแล้วเกือบทั้งหมด มีผู้คนจำนวนมากเดินไปมาในบริเวณดังกล่าว ในขณะที่บินผ่านบริเวณนี้เขาสามารถพบเจอสัตว์อสูรบางตัวที่เคลื่อนไหวอยู่ แต่มันนั้นก็น้อยกว่าครั้งที่แล้วมากนัก อย่างไรก็ตามที่จุดปลายเขตแดนนั้นก็ยังเป็นจุดที่ปราศจากผู้คนอย่างเช่นเคย ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอสูรที่แข็งแกร่งๆจนผู้คนยากที่จะอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้องค์ประกอบในการอาศัยอยู่ก็ไม่เพียงพอสำหรับอยู่อาศัยอีกด้วย มีพืชพันธ์น้อยมากขึ้นอยู่ในบริเวณนี้

 

ย่างก้าวเก้าเทวา!

 

 

ชิงสุ่ยนั้นได้ติดสินใจเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว!

 

ไม่ช้าเขาก็มาถึงเมืองๆหนึ่งอย่างรวดเร็ว นั้นคือเมือง นภาเร้นลับ!

 

บริเวณนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยแห่งน้ำต้นไม้นาพันธ์ที่เหมาะให้คนเราอาศัยอยู่อย่างที่สุด

 

โรงเตี๊ยมเร้นลับ!

 

ชิงสุ่ยมองลงไปที่โรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้  ชิงสุ่ยนั้นไม่รู้ว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้เกี่ยวข้องกับนิกายปฐพีซ่อนเร้นหรือไม่ แต่อย่างน้อยพวกเขานั้นต้องมีความสัมพันธ์กันอยู่บ้าง

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆเข้าไปข้างในโรงเตี๊ยมแห่งนั้น ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างมาก มีประตูนับร้อยที่เรียงร้ายอยู่ที่ทางเข้า นอกจากนี้โรงเตี๊ยมแห่งนี้ยังประดับไปด้วยต้นไม้นานาพันธ์ มันทำให้ที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยพลังชีวิตอย่างมาก

 

นอกจากนี้ยังมีหญิงสาวที่สวยงามหลายคนที่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในที่แห่งนี้

 

“ยินดีต้อนรับนายท่าน!”

 

ชิงสุ่ยหยิบเงินขึ้นมาและมอบให้หญิงสาวคนนั้นในทันที  เมื่อเห็นท่าทางที่เป็นมิตรของเธอ

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้เดินตามสาวน้อยคนนั้นไปข้างใน  ก่อนที่เธอจะหยุดลงที่โรงเตี๊ยมที่มีทรง5เหลี่ยม ในที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และส่วนมากก็เป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งเกือบทั้งหมด ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้โดยพลังวิญญาณของเขา

 

“นี่ๆพวกเจ้ารู้รึไม่ว่า หมีคลั่งกลืนวิญญาณถูกกำจัดโดยคนของนิกายปฐพีซ่อนเร้น”

 

“ตอนที่พวกเขาไปถึงนิกายสุริยาก็ได้ถูกทำลายไปแล้ว น่ากลัวจริงๆ”

 

ในตอนนี้เมื่อได้ยินประโยคของกลุ่มคนเหล่านั้นชิงสุ่ยมั่นใจในทันทีว่าเมืองแห่งนี้คือที่ตั้งของนิกายปฐพีซ่อนเร้นอย่างแน่นอน

 

“แล้วพวกเจ้ารู้รึยังว่าอัจฉริยะคู่ของพวกเขาได้เข้าร่วมกับนิกายสาปอสูรแล้วด้วย  เห้อ ข้าคิดว่าไม่นานในอนาคตนิกายสาปอสูรคงสามารถยึดครอบทวีปอู่เซียแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน”

 

ชิงสุ่ยนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอัจฉริยะคู่ของนิกายปฐพีซ่อนเร้นนั้นจะมีชื่อเสียงมากมายขนาดนี้ ซึ่งทำให้เขากล่าวออกมาว่า “พี่ชายนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ข้ามาเมืองแห่งนี้ ข้าขอถามหน่อยสิว่านิกายสาปอสูรนั้นแข็งแกร่งขนาดไหนกัน” ชิงสุ่ยถามออกมานั้นเพราะเขานั้นแทบไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของนิกายสาปอสูรมาก่อนเลยในก่อนหน้านี้ นี่เป็นการหาข้อมูลที่เร็วที่สุดในตอนนี้

 

ในตอนนี้ผู้คนจำนวนมากมองมาที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาดูถูก แต่ถึงอย่างไรก็มีบางคนที่มองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความนับถือในความกล้า ขณะที่ชายคนหนึ่งที่จิบชาอยู่ได้กล่าวออกมา “พวกเขาแข็งแกร่งอย่างมาก และมีข่าวลือว่าหนึ่งในผู้คุมอำนาจของพวกเขานั้นมีพลังอยู่ในระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจ เจ้าคิดว่าพวกเขาแข็งแกร่งมั้ยละ?”

 

 

“ไม่ใช่ว่าในทวีปของเรานั้นไม่มีผู้บ่มเพาะในระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจ หรอกรึ?”

 

 

“นี่เจ้าโง่รึป่าว ใครบอกว่านิกายสาปอสูรอยู่ในทวีปนี่กันละ?”ชายวัยกลางคนมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความขบขัน

 

“แล้วพวกเขาตั้งอยุ่ที่ใดกันละ?”ชิงสุ่ยไม่คิดอะไรมาก นี่เป็นเรื่องปกติของคนที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า

 

“มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ!”

 

เมื่อได้ยินว่ามหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำหัวใจของชิงสุ่ยนั้นเต้นแรงขึ้นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่านี่คือเรื่องบังเอิญหรือฟ้าลิขิตไว้ เพราะในเร็วๆนี้เขานั้นก็จะเดินทางไปยังมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำดังนั้นเขาจึงมาที่แห่งนี้เพื่อกำจัดอัจฉริยะคู่ของนิกายปฐพีซ่อนเร้นเสียก่อน แต่ตอนี้พวกเขานั้นกลับไปอยู่ที่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำเสียแล้ว หากเป็นทวีปอื่นคงเป็นเรื่องยากที่เขาจะตามไป แต่นี่กลับเป็นมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ นั้นหมายความว่าฟ้านั้นได้ลิขิตให้พวกเขานั้นต้องตายจริงๆอย่างนั้นรึ

 

ในการมาครั้งนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ข้อมูลที่ล้ำค่าในวันแรกเช่นนี้ นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลของนิกายสาปอสูรอีกด้วย

 

ก่อนหน้านี้เขาได้สังหารคนของนิกายปฐพีซ่อนเร้นไปทำให้พวกเขานั้นหมายตาตัวของเขาเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงมาที่แห่งนี้เพื่อจะจบเรื่องราวทั้งหมดลง

 

ในตอนนี้สำนักสวรรค์ซ่อนเร้นก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีนิกายบงกชเทวะเทือเขาปู๋โถวและจักรวรรดิอื่นๆที่คอยสนับสนุนเขาอยู่ ทำให้เขานั้นไม่จำเป็นต้องกลัวนิกายปฐพีซ่อนเร้นเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่คิดที่จะปล่อยอัจฉริยะคู่ของนิกายปฐพีซ่อนเร้นเอาไว้ เพราะวันหนึ่งพวกเขาจะกลายเป็นเสี้ยนหนามให้คนที่เขาทิ้งไว้อยู่ข้างหลังก็ได้ในอนาคต นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่สามารถล้มอัจฉริยะของจักรวรรดิเดชสวรรค์ได้ ชิงสุ่ยจึงไม่อาจปล่อยให้ทั้งสองรอดไปได้

 

อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยไม่ค่อยมั่นใจว่าจะรับมือทั้งสองได้หรือไม่ ? และหลังจากที่เขาไดรับรู้ว่าทั้งสองได้เข้าร่วมกับนิกายสาปอสูร มันยิ่งทำให้เขาปล่อยทั้งสองไปไม่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นและเป็นเหตุผลที่เขาต้องรีบเดินทางไปยังมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ!

 

 

นอกจานี้เขายังไม่สามารถทำลายนิกายปฐพีซ่อนเร้นได้หากพวกเขายังไม่ลงมือทำอะไร นอกจากนี้หากเขาทำอะไรที่ผิดแปลกไป เผ่าอสูรโลหิตคงลงมือช่วยนิกายปฐพีซ่อนเร้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้อัจฉริยะคู่ของนิกายปฐพีซ่อนเร้นก็ได้เข้าร่วมกับนิกายสาปอสูรแล้วอีกด้วย มันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับพวกเขาทั้งหมดพร้อมๆกัน

 

หลังจากที่สืบข่าวได้พอควร ชิงสุ่ยได้ใช้จุดเคลื่อนย้ายกลับไปที่ห้องของหญิงสาวผู้นั้นในทันที ในตอนนี้เธอนั้นได้นั่งอ่านตำราอยู่บนโต๊ะหินอ่อนที่งดงาม ขณะที่ปลายเท้าของเธอแช่น้ำอยู่ในตอนนี้

 

เมื่อเห็นชิงสุ่ยท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความงงงวยอย่างมาก “ทำไมเจ้ากลับมาเร็วเช่นนี้? หรือว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ?”

 

 

“ไม่เลย แต่ข้ามาบอกว่า ข้าต้องรีบเดินทางไปยังมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำเสียแล้ว!”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา

 

“ทำไม เกิดอะไรขึ้นรึ?”ท่าทางของเธอดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

 

“ตอนนี้อัจฉริยะทั้งสองของนิกายปฐพีซ่อนเร้น ได้เข้าร่วมกับนิกายสาปอสูรของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ มันคงไม่ใช่เรื่องดีถ้าหากเราปล่อยให้ล้าช้าไปมากกว่านี้  จริงสิท่านรู้จักนิกายสาปอสูรรึไม่? ”ชิงสุ่ยถามออกมา ในครั้งก่อนเขายังไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับนิกายแห่งนี้มากนักดังนั้นเขาถึงถามขึ้นมากอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่รู้ว่าเธอนั้นรู้จักนิกายแห่งนี้รึไม่?