บทที่ 404 ทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่น!

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

ตกลงเป็นใครกันแน่? ฆ่าปรมาจารย์กระบี่ หยุดทัณฑ์สวรรค์ แล้วยังนำกระบี่เซวียนหยวนไปอีก?

เพียงแค่คิดก็ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่น ปรมาจารย์กระบี่เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีพลังระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้น แล้วยังสร้างเคล็ดวิชาที่ใช้รับมือกับทัณฑ์สวรรค์โดยเฉพาะ มังกรสายฟ้าที่มีขนาดใหญ่เท่าถังน้ำสามตัวก็ยังกักขังเอาไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้หนึ่งหมัดทำลายมังกรหนึ่งตัวได้อีกด้วย ความสามารถเช่นนี้เกรงว่าเมื่อเทียบกับยอดฝีมือระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้นทั่วไปยังร้ายกาจกว่ามาก เห็นได้ชัดว่าคนที่ฆ่าปรมาจารย์กระบี่ หยุดทัณฑ์สวรรค์ และขโมยกระบี่เซวียนหยวนไปจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่หาได้ยากผู้หนึ่งแน่นอน แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่ไม่อาจจินตนาการ มิฉะนั้นจะแย่งชิงกระบี่เซวียนหยวนในสถานการณ์เช่นนั้นได้อย่างไร

“ตกลงเป็นใครกันแน่?” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“ดูต่อไปเถอะ!” ในตอนนี้ปรมาจารย์กระบี่ก็มีท่าทีเคร่งขรึมลง ดวงตาทั้งสองมองไปยังภาพนั้นด้วยความโกรธแค้น เขาเคยใช้พลังอันแข็งแกร่งย้อนภาพวันนั้นไปนับครั้งไม่ถ้วน แน่นอนว่าเพื่อต้องการหาคนร้ายที่ลอบทำร้ายตนเอง

ตู้ม!

เสียงสายฟ้าระเบิดขึ้น โลกที่อยู่ในภาพสั่นสะเทือนไปทุกที่ ห้องเล็กๆ ที่ปรมาจารย์กระบี่อาศัยอยู่แตกเป็นเสี่ยงๆ กระทั่งพื้นดินที่เขายืนก็ปรากฏรอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วน อากาศถูกโจมตีจนแตกซ่าน กระทั่งเมฆก็ยังถูกทำให้สั่นสะท้านจนสลายไป ทำให้ผู้คนตกใจยิ่ง

โฮก!

ราวกับเป็นเสียงสัตว์ประหลาดร้องคำราม เย่เทียนเฉินมองภาพนั้นนิ่ง ไม่อาจละสายตาได้ ทั้งยังไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าทัณฑ์สวรรค์จะมีระดับยิ่งใหญ่เพียงนี้ ปรมาจารย์กระบี่ที่อยู่ในภาพก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาถอยแล้ว นี่เป็นระดับที่พลังของมนุษย์ไม่อาจต่อต้านแล้วจริงๆ พบว่าบนท้องฟ้า ช่องว่างถูกฉีกขาด มังกรสายฟ้าตัวใหญ่ที่อย่างน้อยหัวของมันก็กินพื้นที่ไปครึ่งฟ้าโผล่ออกมามา คล้ายกับเป็นมังกรที่แท้จริงจากสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่มังกรตัวนี้แปรสภาพมาจากสายฟ้าเช่นเดียวกัน แสดงถึงเจตนาของสวรรค์ที่ต้องการต่อต้านกระบี่เซวียนหยวนเล่มนี้

ปรมาจารย์กระบี่เองก็ตื่นตะลึงจนนิ่งงันไปทั้งร่าง มือซ้ายจับก้อนเหล็ก ค้อนในมือขวาร่วงลงข้างกาย ภาพนี้ทำให้ผู้คนต้องสั่นสะท้านจริงๆ ต่อให้เป็นเย่เทียนเฉินซึ่งเป็นเพียงคนที่ยืนมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้อยู่นอกเหตุการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเย็นยะเยือก ทัณฑ์สวรรค์อันใหญ่โตเช่นนี้ เพียงแค่หัวเดียวของมังกรสายฟ้าก็กินพื้นที่ไปครึ่งฟ้าแล้ว หากโจมตีลงมาผู้ใดจะรับได้? เกรงว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชันก็ยังไม่กล้าแตะต้องง่ายๆ ไม่กล้าลำพองใจแม้แต่น้อย

โฮก!

มังกรสายฟ้าเงยหน้าคำราม อ้าปากพ่นบอลสายฟ้าขนาดใหญ่ออกมาลูกหนึ่ง พุ่งชนตีมายังปรมาจารย์กระบี่ด้วยความเร็วราวฟ้าผ่า ปรมาจารย์กระบี่ตกใจจนหน้าถอดสี ไหนเลยจะกล้าละเลย รีบโยนค้อนเหล็กในมือขวาโจมตีไปยังบอลสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา ในขณะเดียวกันปรมาจารย์กระบี่ก็บินออกไปจากที่เดิม เนื่องจากค้อนที่หลอมขึ้นจากพลังต้นกำเนิดของตนซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดา มิเช่นนั้นจะตีเหล็กนั้นได้อย่างไร ในตอนที่มันพุ่งโจมตีไปยังบอลสายฟ้าห่างไป 100 เมตร ปรมาจารย์กระบี่ก็พบว่าค้อนที่หลอมจากพลังระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้นของตนกลายเป็นฝุ่นผงไปในพริบตา กระทั่งก็กากไม่เหลือ นี่เป็นความน่ากลัวระดับใดกัน? จะไม่หนีเอาชีวิตรอดได้อย่างไร?

ตู้ม!

ลูกบอลสายฟ้าที่ถูกพ่นออกมาจากปากมังกรโจมตีพื้นอย่างรุนแรง แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ปรมาจารย์กระบี่เองก็บินไปไกลหลายหมื่นเมตรในเวลาเพียงพริบตา ถูกคลื่นกระแทกจนกระเด็นออกไปทั้งร่าง ปะทะกับภูเขาใหญ่อย่างแรง แต่ยังไม่รอให้ปรมาจารย์กระบี่ลุกขึ้นจากพื้น บอลสายฟ้าลูกที่สองก็มาถึงแล้ว ยอดเขาที่เทียบได้กับภูเขาไท่ซานถูกระเบิดจนเป็นผุยผง กลายเป็นเพียงเศษฝุ่น ทำให้ผู้คนไม่กล้าเชื่อจริงๆ คนที่สามารถรับการโจมตีเช่นนี้ได้จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชันเท่านั้น พลังโจมตีนี้ไม่เป็นรองหมัดของผู้แข็งแกร่งที่มีพลังในระดับนักรบจักรพรรดิขั้นสูงเลย

ทันใดนั้น ในอากาศที่ปรมาจารย์กระบี่อยู่พลันเต็มไปด้วยสายฟ้า เป็นประกายสายฟ้าอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทัณฑ์สวรรค์ปกคลุมเขาเอาไว้ มือซ้ายของเขายังกำ “เหล็ก” ก้อนนั้นแน่น ต่อให้มีเลือดท่วมตัว ปรมาจารย์กระบี่ก็ไม่ยอมปล่อย เขาก็เป็นคนดื้อร้านคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นช่างตีเหล็กมาชั่วชีวิต ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้พบเหล็กเทพเช่นนี้ ในฐานะที่เป็นคนที่เรียกได้ว่าถึงขั้นหลงใหลในการตีเหล็ก จะยอมแพ้ได้อย่างไร? เมื่อเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้ กำลังมนุษย์ไม่อาจต่อต้าน วิธีเดียวที่ปรมาจารย์กระบี่คิดได้ก็คือ ถือก้อนเหล็กนั้นหนีไป!

ตู้มๆๆ …

เสียงระเบิดของการโจมตีดังขึ้น ลูกบอลสายฟ้าที่มีขนาดใหญ่ร่วงลงมา ปรมาจารย์กระบี่ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้น เรียกได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยของเขาหรือในปัจจุบันนี้ก็เพียงพอที่จะปั่นป่วนสวรรค์ แต่ตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพที่ต้องหนีการโจมตี สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์นี้ไม่ได้ฟาดฟันมาเพราะเขา แต่เป็นเพราะก้อนเล็กในมือเขา นี่เป็นทัณฑ์สวรรค์ที่มากพอจะทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชันต้องตื่นตะลึง ร้ายกาจมากจริงๆ หากกล่าวว่ามีอำนาจทลายฟ้าถล่มดินก็ไม่นับว่าเกินไป

ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่ถึงหนึ่งในสามก้านธูป บริเวณรอบๆ ในรัศมีหมื่นลีล้วนถูกทำลาย ถูกพลังของสายฟ้าระเบิดจนสิ้น บนพื้นไม่เห็นผืนดินที่สมบูรณ์แบบไร้ความเสียหายแม้แต่ก้อนเดียว ไม่มีต้นไม้ใดที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงทั้งหมดถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง ภาพเช่นนั้นเพียงแค่คิดก็ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวแล้ว

“รู้แล้วหรือไม่ว่ายามนั้นน่าหวาดกลัวเพียงใด? แต่เรี่ยวแรงจะตอบโต้แม้แต่น้อยก็ยังไม่มี!” ปรมาจารย์กระบี่อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ตนเองเป็นยอดฝีมือระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้นที่สง่างามคนหนึ่ง นับได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่หาได้ยาก แต่ถึงกับไม่มีโอกาสลงมือตอบโต้แม้แต่น้อย ทัณฑ์สวรรค์นี้ช่าง…ทำให้ผู้คนไม่รู้ว่าควรจะกล่าวเช่นไรดีจริงๆ !

“ผมรู้แล้วครับ ตอนที่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชันได้เจอกับทัณฑ์สวรรค์นี้ก็คงหนีไม่พ้นสภาพนี้ใช่ไหมครับ?” เย่เทียนเฉินขมวดคิ้วถาม

“ข้าเองก็ไม่รู้ ความจริงข้าสามารถหลบเลี่ยงได้ แต่ที่น่าแค้นก็คือคนที่วางแผนร้ายใส่ข้า…” ปรมาจารย์กระบี่พูดอย่างดุดัน

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝนสายฟ้า ปรมาจารย์กระบี่ที่เดิมทีถูกห้อมล้อมให้อยู่ในโลกของพลังสายฟ้า หากขยับแม้เพียงก้าวเดียวก็จะถูกสายฟ้าโจมตี ตอนนี้ถึงกับมีมังกรสายฟ้าตัวใหญ่พ่นฝนกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนออกมา ฝนกระบี่เหล่านั้นเกิดจากพลังสายฟ้า ทุกเล่มมีพลังที่สามารถฉีกอากาศได้ มีพลังทำลายล้างอันบ้าคลั่ง

จินตนาการได้เลยว่าบริเวณหมื่นลี้รอบๆ ที่ปรมาจารย์กระบี่ยืนอยู่ถูกทำลายจนกลายเป็นพื้นที่ราบ ในมือซ้ายมือซ้ายกำก้อน “เหล็ก” ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความนิ่งงัน มองฝนกระบี่สายฟ้าตกลงมาทั่วฟ้า เปล่งประกายเหมือนกับฝนดาวตก แต่กลับมีพลังทลายฟ้าทลายดิน นั่นเป็นทิวทัศน์แบบไหนกัน ในตอนนี้ ปรมาจารย์กระบี่ที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับนักรบจักรพรรดิขั้นต้นก็สิ้นหวัง ยอมแพ้จนไม่คิดขัดขืน เขารู้ว่าตนไม่อาจหยุดทัณฑ์สวรรค์นี้ได้ เขาเป็นช่างตีเหล็กมาชั่วชีวิต ถูกเรียกขานว่าเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งในใต้หล้า สามารถสร้างอาวุธเทพเช่นนี้ออกมาได้ก็นับว่าตายโดยไร้ห่วงแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของ “เหล็ก” นี้ ยังรู้สึกไม่ยินยอมอยู่บ้าง

ซู่ม!

ในตอนที่ปรมาจารย์กระบี่รู้สึกสิ้นหวัง คิดว่าตนต้องตายโดยไม่ต้องสงสัยเลย และจะไม่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของก้อน “เหล็ก” นี้นั้นเอง เหล็กในมือของเขาก็สลัดหลุดจากมือ พุ่งไปด้านบนท้องฟ้าสูง เผชิญหน้ากับฝนกระบี่ที่เกิดจากสายฟ้าเหล่านั้น

ประกายกระบี่ที่ใหญ่โตมโหฬารส่องประกายเสียดแทงนัยน์ตาจนไม่อาจลืมตาได้ กระทั่งท้องฟ้ายังราวกับถูกผ่าเป็นสองซีก ฝนกระบี่สายฟ้าที่พุ่งลงมาเหล่านั้นถูกประกายกระบี่กำจัดจนแตกสลายไปกลางอากาศ ตกลงมาสู่พื้นดินราวกับฝนดาวตก ดูแล้วงดงามเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่น่าเสียดายที่ปรมาจารย์กระบี่ไม่มีอารมณ์เช่นนั้น และไม่มีโอกาสชื่นชมชมภาพงดงามนี้

ดูเหมือนว่าฟ้าดินเองก็สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของก้อน “เหล็ก” นั้น มันคล้ายกับเป็นจักรพรรดิที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์ที่ผู้แข็งแกร่งในระดับเทพราชันยังต้องระมัดระวังเช่นนี้ ก็ยังไม่ยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าว ไม่มีความคิดที่จะก้มหัวให้ ลอยขึ้นไปในท้องฟ้า ในสภาพเช่นนั้นคล้ายกับว่ากำลังรอทัณฑ์สวรรค์ของฟ้าดิน ดูคล้ายกับมีความคิดบางอย่าง

“แม้ฟ้าดินจะยิ่งใหญ่เพียงใด แม้กฎสวรรจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็จะเคารพเพียงตัวเอง นี่ไม่ใช่เส้นทางที่ฉันจะก้าวเดินต่อไปหรือ?” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองในใจ

ตอนนี้เอง มังกรสายฟ้าตัวใหญ่ที่โผล่หัวออกมาคำรามอย่างบ้าคลั่ง กรงเล็บมังกรทั้งสองยื่นออกมาจากท้องฟ้าในเวลาเพียงชั่วพริบตา ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต ราวกับต้องการสลัดออกไปสู้กับก้อนเหล็กนั้น เพียงแต่ไม่ว่ามันจะคำรามอย่างไรและจะโกรธเกรี้ยวเพียงใดก็ไม่สามารถปรากฏร่างกายออกมาทั้งหมดได้ ในที่สุดก็มีประกายสายฟ้าสีม่วงสองสายพุ่งออกมาจากดวงตา โจมตีก้อนเหล็กที่ลอยอยู่กลางอากาศ

“อะไรกัน? สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด?” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

“ดูท่าทางเจ้าเองก็รู้ไม่น้อย แต่เมื่อครู่เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น มาคิดดูแล้ว ข้าได้พบกับประสบการณ์เป็นตายเช่นนี้นับว่าไม่มีห่วงแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงคนที่วางแผนร้ายใส่ข้า ต่อให้เป็นผีข้าก็จะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่!” ปรมาจารย์กระบี่พูดจบแล้วต้องกัดฟันแน่น

ผู้ที่เดินบนเส้นทางการบ่มเพาะทุกคน ไม่ว่าจะได้พบกับทัณฑ์สวรรค์หรือไม่ล้วนมีความเข้าใจในเรื่องทัณฑ์สวรรค์ทั้งสิ้น เนื่องจากทัณฑ์สวรรค์เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้เดินบนเส้นทางการบ่มเพาะ และจะกลายเป็นอุปสรรคในการทะลวงขอบเขตเพื่อเพิ่มพูนความสามารถที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันเป็นการโจมตีที่ผู้ที่เดินบนเส้นทางการบ่มเพาะต้องเผชิญในยามที่ผ่านความลำบากนับหมื่นแสนจนเพิ่มความแข็งแกร่งของตนได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าดูเบา ยิ่งไปกว่านั้นทัณฑ์สวรรค์ยังเป็นตัวแทนของฟ้าดิน เป็นเจตนาของจักรวาลอันกว้างใหญ่แห่งนี้ พลังอำนาจเช่นนั้นช่างทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นจริงๆ

หากกล่าวตามปกติ ทัณฑ์สวรรค์ของคนจำนวนมากยังสามารถต่อต้านได้ เนื่องจากไม่รุนแรงมากนัก แน่นอนว่าจะเพิ่มขึ้นตามขอบเขตการบ่มเพาะ ยิ่งแข็งแกร่งทัณฑ์สวรรค์ก็ยิ่งรุนแรงม ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น พลังสายฟ้าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย ทุกคนล้วนรู้ว่าสายฟ้าสีม่วงเป็นตัวแทนของสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงคนที่มีพรสวรรค์สูงส่ง มีความหวังว่าจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชัน กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นคนที่มีอำนาจต่อต้านฟ้าดินเท่านั้นถึงจะได้พบกับทัณฑ์สวรรค์ แต่คนเช่นนี้เมื่อต่อต้านทัณฑ์สวรรค์ได้แล้ว ขอบเขตการบ่มเพาะและความสามารถก็จะเพิ่มพูนจนน่าหวาดกลัวถึงขีดสุด

ว่ากันว่าในตอนที่ยอดฝีมือชั้นสูงต้องการทะลวงขีดจำกัดสุดท้ายเพื่อเดินเข้าสู่ขอบเขตผู้แข็งแกร่งในระดับเทพราชัน ทัณฑ์สวรรค์ที่ต้องได้พบจะเป็นทัณฑ์สวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด นอกจากมีสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วยังมีของที่ไม่คาดคิดปรากฏออกมามากมาย หลายคนล้วนตายบนเส้นทางที่จะกลายเป็นเทพราชัน ต่อให้เป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงส่งจนเหมือนปีศาจหรือเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชัน ไร้ผู้ต่อต้านในจักรวาลก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น…