ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 287

ในชีวิตคน ๆ หนึ่ง สามาถเลือกได้หลายครั้ง และทุกครั้งนางจะระมัดระวัง มีเพียงแต่การแต่งงานที่เป็นเรื่องใหญ่เพียงเรื่องเดียวที่นาง “เด็ดขาด” เกินไป

อันที่จริงนางรู้จักเซี่ยหวายจุนมานานแล้ว เขาเป็นขุนนางตอนอายุสิบแปด ประพฤติตนอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด ทำเพื่อส่วนรวมจนเขาอายุได้ยี่สิบสองปีซึ่งยังไม่ได้แต่งงาน ทุกคนต่างบอกว่าเขาเป็นคนรักความก้าวหน้า ปราดเปรื่อง และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

เมื่อนางได้พูดคุยกับเขา เขาก็ได้แสดงให้เห็นด้านที่ทะเยอทะยานของเขา ความมั่นคง ความยับยั้งชั่งใจ และความเฉลียวฉลาดของเขาที่พวกคุณชายหน้าตาดีเหล่านั้นไม่มี

ก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวก็เป็นทุกข์ไปชั่วชีวิต

แต่ว่าตอนที่เซี่ยจื่ออันถูกโบยจนตายไปก่อนหน้านี้ นางไม่ได้รู้สึกเกลียดเซี่ยหวายจุน หรือแม้กระทั่งเฉินหลิงหลงมากมายนัก

ก็อย่างที่เขาพูดในวันนี้ว่า บุรุษทุกผู้ล้วนมีภรรยาหลายคน เหตุใดนางถึงต้องให้เขามีเพียงนางคนเดียว? ไม่ใช่ทุก ๆ

คนจะเห็นว่านางเป็นภรรยาที่ดี เพราะว่านางใจคอคับแคบขี้อิจฉา ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน ขนาดอนุภรรยาเพียงคนเดียวยังทนไม่ได้เลย

มันคือผลกรรมที่นางจะต้องรับ

หากไม่ใช่เพราะจื่ออันตายอย่างอนาถ นางก็อาจจะต้องตาย ได้แต่โกรธเกลียดตนเองเท่านั้น

ในที่สุดมหาเสนาบดีเซี่ยก็หันหลังแล้วเดินจากไป เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก เกลียดเข้ากระดูกดำ แต่ว่าเขารู้ดีว่าความเกลียดนี้มาจากที่ใด มันมาจากการที่นางไม่รู้จักประนีประนอม ความเย่อหยิ่ง ความเหินห่าง และศักดิ์ศรี ที่นางเคยรักเขามากขนาดนั้น แต่เขาก็พลาดโอกาสไปแล้ว

ผู้หญิงทุกคนล้วนยอมอะลุ่มอล่วยให้ผู้เป็นสามีกันทั้งนั้น แต่ว่านางไม่ยอม ดังนั้นนางจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะมาบอกว่าเคยรักเขา และเขาเองก็ไม่ยอมรับมัน ในตอนนั้นที่ได้แต่งกับนาง นอกจากจะทำไปเพื่ออวดอ๋องอัน และบุรุษที่ชื่นชอบนางแล้ว ก็ยังมีความรักอยู่บ้างเล็กน้อย

ที่จวนผู้สำเร็จราชการ!

ตั้งแต่ที่จื่ออันเข้ามาในจวน นางก็ยุ่งอยู่กับการให้อาหารปลา ปลูกดอกไม้ กำจัดวัชพืช…

สุดท้ายมู่หรงเจี๋ยก็ให้ “ความสำคัญ” กับนางโดยการอนุญาตให้นางไปเก็บกวาดห้องให้เขา

ก่อนหน้านี้นางรักษาเขาอยู่ในเรือนปีกมาโดยตลอด ไม่เคยไปที่เรือนดุจเมฆาของเขาเลย

วันนี้เป็นการเข้ามาครั้งแรก อีกทั้งไม่อนุญาตให้หญิงรับใช้และเฉินหลิวหลิ่วช่วยอีก และเขาได้บอกถึงเหตุผลที่ข้างหูอย่างจริงจัง “เดิมทีข้าไม่เคยอนุญาตให้สตรีนางใดเข้าไปในห้องของข้าเลยนะ”

ผู้ที่ร่วมชะตากรรมอันเลวร้ายนี้ ยังมีซูชิงด้วยอีกคน

หนี่หรงก็เข้าไปได้ แต่ว่าวันนี้เขาออกไปทำภารกิจข้างนอก ไม่ได้อยู่ที่จวน

พอเข้ามาในเรือนดุจเมฆาแล้ว ก็เห็นที่พื้นมีของระเกะระกะเต็มไปหมด ซูชิงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก “ทุกครั้งที่ข้าเข้ามาเก็บกวาดห้องให้เขา ถ้าไม่ดื่มสุราสักจอกข้าก็แทบจะกลายเป็นบ้า”

จื่ออันมองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้าแล้ว ก็เกิดความรู้สึกอยากยอมแพ้และหนีไป

นางไปมองไปที่ซูชิง เขาจึงรีบกล่าว “วันนี้ไม่ดื่มก็ได้’

เซี่ยจื่ออันผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยชอบคนที่ดื่มสุราสักเท่าไหร่

จื่ออันถอนหายใจเบา ๆ “เอามาสองจอก ส่วนของข้ารินให้เยอะหน่อย”

ถ้าไม่ดื่มสุราเสียหน่อย นางเองก็คงจะกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนเช่นเดียวกัน

นางไม่เคยพบเห็นห้องที่รกรุงรังขนาดนี้มาก่อน พูดให้ถูกต้องก็คือ ที่นี่นอกจากเก้าอี้ โต๊ะ และเตียง ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบแล้ว ของอื่น ๆ นั้นล้วนกระจัดกระจายยุ่งเหยิงไปหมด

เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา ก็เห็นเสื้อผ้ากองใหญ่ที่รกรุงรังอยู่ในนั้น มีรองเท้าประมาณหนึ่งโหล ซี่งตอนตอนนี้พวกมันก็กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นอย่างไม่เป็นระเบียบ อยู่ทางตะวันออกข้างหนึ่ง ตะวันตกข้างหนึ่ง กล่าวได้เลยว่าไร้ซึ่งตรรกะจริง ๆ

มีแจกันแตกอยู่ที่พื้นข้าง ๆ หน้าต่าง เศษของแจกันกระจัดกระจายไปทั่ว มีคราบน้ำ และดอกเสาเย่าที่เกือบจะเหี่ยวเฉาอยู่บนพื้นอย่างน่าหดหู่ใจ

และทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเป็นแค่ปัญหาเล็ก ๆ เท่านั้น

“ซูชิง เหตุใดพวกหญิงรับใช้ถึงไม่เข้ามาเก็บกวาดที่นี่เลยเล่า?” นางไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่ว่าไม่ให้หญิงใดเข้ามาในห้องนี้ ตอนนี้เขาคงจะเปลี่ยนวิธีการทรมานนางใหม่

“เรือนดุจเมฆาไม่มีหญิงรับใช้”

“แล้วเด็กรับใช้ล่ะ?” จื่ออันกล่าวถามอย่างประหลาดใจ