ตอนที่ 366 ผู้หญิงของพี่รอง!

ภายในร้าน FAO หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเดียวกระเทียมลีบ เพราะทุกคนต่างก็เข้าข้างเย่เฉิน

“เย่เฉินไอ้คนน่ารังเกียจ นั่นมันเรียกเสื้อผ้าได้ยังไง? เนื้อผ้ายังใช้น้อยกว่าถุงเท้าของฉันอีก! แล้วหมีตกใจเนี่ยนะ? นายเพ้อเจ้ออะไร? คิดไมถึงว่าจะให้ฉันจ่ายค่าเสียหายตั้งหนึ่งล้าน!”

หลี่เฉิงเจี๋ยลอบด่าในใจ แต่เพราะเก้อเขินเลยไม่กล้าเถียงกับเย่เฉิน

“ฉันจะเอาเงินให้เขาหนึ่งล้านไม่ได้ ถ้าเขามีเงินฉันก็สามารถด่าเขาไม่ได้แล้วสิ”

หลี่เฉิงเจี๋ยเอาชนะเย่เฉินไม่ได้ เลยอาศัยข้อได้เปรียบเรื่องเงินทองและสภานะทางสังคมมาเอาชนะเขาแทน ดังนั้นเขาไม่มีทางให้เงินเย่เฉิน

หลี่เฉิงเจี๋ยสะกดโทสะที่พลุ่งะล่าน แล้วก้มลงเก็บอย่างไม่พอใจ เดินตรงไปแล้วก้มลงตุ๊กตาหมีตัวนั้นขึ้นมา

หลังจากนั้นจึงเดินไปตรงหน้าซือซือพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ซือซือ นี่จ้ะ”

ซือซือคว้าหมับมาแล้วหันไปขมวดคิ้วใส่หลี่เฉิงเจี๋ยอย่างไม่พอใจนัก “ฮึ!”

นั่นแปลว่าที่หลี่เฉิงเจี๋ยแย่งของเล่นมาจากมือซือซือแล้วโยนลงพื้น ทำให้ซือซือไม่ค่อยจะพอใจนัก

เย่เฉินถึงได้พออกพอใจ แล้วไม่สนใจหลี่เฉิงเจี๋ยอีก เขาลูบศีรษะซือซือพลางเอ่ยถาม “ลูกรักชอบไหม?”

ซือซือพยักหน้ารับ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ชอบมากเลย ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!”

ซูมู่ชิงเองก็กล่าวอยู่ข้างๆ “เย่เฉิน ที่จริงแล้วคุณไม่ต้องการของขวัญที่มีมูลค่าขนาดนี้ ให้ของลูกเราถูกๆ ก็ได้ ลูกก็ดีใจเหมือนกัน”

เย่เฉินกล่าว “ผมไม่อยากเลี้ยงซือซือให้เป็นคนที่เห็นแก่สิ่งของนอกกาย แต่ผมเองก็ต้องการจะพิสูจน์ตัวเองด้วย ผมอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดในโลกกับลูกสาวของเรา!”

เย่เฉินพูดแบบนี้จบ ก็ถลึงตามองหลี่เฉิงเจี๋ย แต่อีกฝ่ายก็ไม่พูดอะไรอีก

“นี่ สุดหล่อ ขึ้นมาคุยกันด้านบนหน่อย”

ผู้จัดการช่ายตบบ่าเย่เฉินแล้วเรียกเขาขึ้นไปด้านบน

ชั้น 2 เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และห้องกิจกรรมของผู้ปกครอง แล้วยังมีตู้จัดแสดงของเล่นเลโก้ รวมไปถึงพื้นที่ถ่ายรูป

เพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาเปิดทำการ ในบริเวณชั้น 2 จึงไม่มีคนอยู่

เมื่อขึ้นไปบนชั้นสอง ผู้จัดการช่ายก็บอกให้เย่เฉินทรุดตัวนั่งลง จากนั้นหล่อนก็นั่งไขว่ห้างลงตรงหน้าเย่เฉิน เพราะว่าโต๊ะตัวเล็กอย่างมาก ทำให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้กัน

รองเท้าส้นสูงสีดำของหล่อนแปะโดนที่บริเวณขาของเย่เฉิน โดยเขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาหรือไม่แต่มัน

นี่ทำให้ไม่ว่าผู้ชายคนไหนๆ ต่างก็รู้สึกแปลกๆ หรืออาจเรียกว่าคันยุบยิบ ชวนให้เสสายตาไปมองโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว อยากจะเอื้อมมือไปเกา

ผู้จัดการช่ายคนนี้เป็นจิ้งจอกสาวจริงๆ

บางทีนี่อาจจะเป็นเพราะอายุและบุคลิกที่ดันไปคล้ายๆ กับฉินหงเหยียน เย่เฉินจึงไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่อีกฝ่ายทำท่าทีเช่นนี้ต่อตนเอง

ผู้จัดการช่ายจึงกล่าวถาม “เอ่อ พี่ชายคุณอยู่ที่ไหน?”

เย่เฉินส่ายหน้า “ผมเองก็ไม่รู้หรอก”

ผู้จัดการช่ายผ่อนลมหายใจยาว “คนสารเลว คิดจะหายก็หาย โทรบอกก็ยังไม่มี น่าโมโหจริงๆ!”

เย่เฉินไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไรอีก “พี่ชายผมเขาใช้เงินที่นี่ไปกี่บาท ถึงได้มีบัตรสุดยอดเพชรอะไรใบนั้น?”

ผู้จัดการช่ายบ่นเสียงอุบ “ใช้เงินอะไร! เขาไม่เคยมาที่นี่ด้วยซ้ำไป! เขาหลอกนอนกับฉัน แล้ววอแวขอบัตรที่มีอภิสิทธิ์สูงสุด ตอนนั้นฉันเองทำอะไรไม่ถูก เย่เซวียนเขาก็ไม่มีลูกจะบัตรสมาชิกของร้านเราไปทำไม? ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าที่แท้แล้วเขาเตรียมไว้ให้คุณ ตอนนี้ฉันก็เลยมาคิดๆ ดู ที่คนสารเลวนั้นนอนกับฉัน จะเป็นเพราะอยากจะทำบัตรให้คุณหรือเปล่า?”

เย่เฉินเหงื่อแตกพลั่กทันที คุณครับ คุณโดนเขาฟันแล้วทำไมถึงมาโทษผมได้!

ผมรับความผิดนี้ไม่ไหว!

เย่เฉินรีบร้อนอธิบาย “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับๆ พี่ช่ายผมกับพี่ชายไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เขาน่ะเกือบจะทำร้ายผม บัตรสมาชิกใบนี้ไม่มีทางเตรียมไว้เพื่อผม ผมเองก็ขโมยของพวกนี้มาจากบ้านเขา แต่พี่รองเขาจะต้องอดใจไม่ไหวจนต้องตามจีบพี่เป็นเพราะหน้าตาพี่กับบุคลิกภาพของพี่ เขาเองก็เป็นพวกบ้าผู้หญิงทำงาน ผมเข้าใจเขาดีเลย!”

ในความเป็นจริงแล้ว เย่เซวียนไม่ได้ชอบแค่ผู้หญิงทำงาน แต่จะผู้หญิงมาดนางพญา เด็กน้อย ขอแค่เป็นสวยเขาก็ชอบทั้งนั้น!

ผู้จัดการช่ายได้ยินก็พอใจไม่น้อย “คุณนี่ปากหวานจริงๆ ในเมื่อเป็นคนกันเองต่อไปมีอะไรบอกฉันได้ตลอดเลยนะ เราสามรุ่นอยู่ในเมืองหลวง พอจะมีเส้นสายอยู่บ้างเหมือนกัน”

เย่เฉินรีบแสดงความขอบคุณทันที “ขอบคุณนะครับพี่ช่าย ผมมีเรื่องจะขอรบกวนให้พี่ช่วยจริงๆ ครับ ผมเป็นสมาชิกระดับสุดยอดเพชร อยากจะเหมาชั้นสอง ไม่ให้สมาชิกระดับเพชรขึ้นมาได้ไหมครับ?”

ผู้จัดการช่ายระบายยิ้ม “ได้สิ เดี๋ยวฉันจัดการให้นะ”

ผู้จัดการช่ายชันตัวลุกขึ้น เดินลงไปด้านล่างเพื่อไปเรียกซูมู่ชิงและซือซือให้ขึ้นมา

แต่ในตอนที่หลี่เฉิงเจี๋ยต้องการจะตามขึ้นมาด้านบน ผู้จัดการช่ายก็รีบยื่นมือมาขวางเขา

“หมายความว่ายังไง?” หลี่เฉิงเจี๋ยมีท่าทีไม่พอใจทันที

ผู้จัดการช่ายจึงกล่าวว่า “ขอโทษค่ะ บัตรสมาชิกระดับสุดยอดเพชรของเราเหมาชั้น 2 เอาไว้ค่ะ คุณขึ้นไปไม่ได้ชั่วคราวนะคะ”

หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเสีย เดิมทีเขาอยากจะใช้เรื่องนี้มาดูถูกเย่เฉิน ผลกลับกันกลายเป็นว่าเขาโดนเย่เฉินดูหมิ่นแบบนี้แทน

“ผู้จัดการช่าย คุณไม่ให้ผมขึ้นไปเหรอ? คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?” หลี่เฉิงเจี๋ยกล่าวเชิงข่มขู่

ผู้จัดการช่ายกลับวางท่าที่ยิ่งเฉย “คุณชายตระกูลหลี่ที่ชื่อหลี่เฉิงเจี๋ยไงล่ะค่ะ คุณชื่อเสียงโด่งดัง มีใครในเมืองหลวงบ้าง ใครจะไม่รู้จักบ้าง?”

หลี่เฉิงเจี๋ยแค่นเสียงเย็น “รู้ว่าผมเป็นใคร แล้วยังจะกล้าขวางกันอีก!”

ผู้จัดการช่ายวางมาดใหญ่โต เขากอดอกแล้วกล่าว “คุณชายหลี่ ฉันโตกว่าคุณตั้งหลายปี พ่อแม่ฉันยังรู้จักคุณน้าของคุณด้วยนะ ตามหลักแล้วคุณควรจะเรียกว่าพี่ด้วยซ้ำ ฉันขอแนะนำคุณนะ ว่าคุณช่วยถ่อมตัวบ้างเถอะนะ ในเมืองหลวงแห่งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตระกูลหลี่!”

“คุณ…”

หลี่เฉิงเจี๋ยคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะรับมือได้ยากขนาดนี้ เขารู้ว่าที่หล่อนพูดนั้นน่าจะเป็นเรื่องจริง

“ชิ!”

หลี่เฉิงเจี๋ยแค่นเสียงแล้วสาวเท้าเดินไป

ส่วนเย่เฉินและซูมู่ชิง ซือซือ เล่นด้วยกันบนชั้นสองถึง 10 โมง ซึ่งเป็นเวลาร้านเปิดอย่างเป็นทางการ

ตอนที่แขกเหรื่อค่อยๆ เดินเข้าไปในร้านพวกเย่เฉินตั้งท่าจะเดินออกไป

มาถึงด้านล่าง พวกเขาถึงได้พบว่าหลี่เฉิงเจี๋ยกลับบ้านไปนานแล้ว

ซูมู่ชิงและซือซือมาโดยที่หลี่เฉิงเจี๋ยขับรถพามา พอหลี่เฉิงเจี๋ยกลับก็เท่ากับว่าทิ้งซูมู่ชิงและซือซือโดนเขาทิ้งไว้ที่นี่

เย่เฉินกล่าวกับซูมู่ชิง “คุณอย่าโกรธเลยนะที่ผมพูดกับคู่หมั้นของคุณไม่ดี หลี่เฉิงเจี๋ยอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาเป็นคนพาพวกคุณมาแล้วกลับไปก่อน กระทั่งบอกก็ไม่บอกสักคำ ทำแบบนี้ไร้มารยาทจริงๆ”

ซูมู่ชิงจึงผิดหวังในตัวหลี่เฉิงเจี๋ย แต่ก็ยังแสร้งทำหน้าไม่สนใจ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเรียกรถกลับไปก็ได้”

“ไม่ต้อง คุณรอผมประเดี๋ยว”

และในเวลานี้เอง ผู้จัดการช่ายยังไม่ได้ออกจากร้าน เย่เฉินก็เดินมาหาหล่อนแล้วถาม “พี่ช่าย คุณขับรถมาหรือเปล่าครับ? พอจะขอยืมรถพี่หน่อยได้ไหมครับ?”

ผู้จัดการช่ายส่งกุญแจรถ Porsche ในกระเป๋า LV ส่งให้เย่เฉิน “เอาไปใช้สิ คุณน้องเขย”

เย่เฉิน “…”

เย่เฉินเก้อเขิน พี่ช่ายคนนี้เห็นตนเองเป็นพี่สะใภ้ของเขาไปแล้ว

ผู้จัดการช่ายคนนี้หน้าตาดูดี นิสัยและพื้นฐานครอบครัวก็ดีมาก แต่เย่เซวียนมีนิสัยไม่ดี โลเล เกรงว่าคงจะไม่มีภรรยาง่ายๆ แน่!