ตอนที่ 89

Taming Master

Note – ยศ เปลี่ยนเป็น ยศ ในส่วนของตำแหน่งขุนนางนะครับ

 

กริ๊ง-

สถานะของผู้เล่น ‘เอียน’ สมาชิกของกิลด์ ‘โลตัส’ ได้เลื่อนระดับเป็น ‘บารอน’ ค่าชื่อเสียงของกิลด์ ‘โลตัส’ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น150,000หน่วย กิลด์โลตัสทำตามครบเงื่อนไขในการเลื่อนระดับ ‘หมู่บ้าน’ เป็น ‘เมือง’ (อย่างไรก็ตามการเลื่อนระดับจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นเลื่อนระดับเป็น ‘ลอร์ด’)

เฮิร์ซ, ฟิโอลันและคาร์วินที่ขายไอเทมแบบสุ่มๆอยู่ที่ร้านขายของทั่วไปที่เก็บไว้ในฐานหลังจากได้รับมาจากการล่า พวกเขาก็หยุดทำทุกสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่และมองหน้ากันทันที

เพราะว่าข้อความระบบของพวกเขาที่ส่งถึงสมาชิกกิลด์ทุกคน ข้อความโผล่ขึ้นเวลาเดียวกันทั้งสามคน

คนที่พูดคนแรกคือคาร์วิน

“จังหวะของพี่แกนี่ดีที่สุดเลย!”

เหตุผลที่ว่าทำไมทั้งสามถึงได้มาที่ร้านขายของทั่วไปเพื่อขายของที่ได้มาหลังจากการล่ากว่าหนึ่งในสี่ของวัน ก็เพื่อที่จะได้ผ่านเงื่อนไขการเลื่อนระดับนั่นเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็หมายความว่าทันทีที่เงื่อนไขทั้งหมดของฐานต่อไปครบถ้วน เอียนก็ได้รับการเลื่อนขั้นทันที

ฟิโอลันรีบเปิดข้อมูลกิลด์และตรวจสอบข้อมูลของเอียนทันทีหลังจากเธอได้ยินข้อความของระบบ เธอก็ส่ายหัวและบ่นออกมา

“แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเอียนถึงเก็บไว้เป็นส่วนตัว ฉันลองเข้าไปดูยศขุนนางใหม่ของเขาแต่ทุกอย่างก็ถูกปกปิดเอาไว้หมดเลย”

คาร์วินยังบ่น

“เอาจริงๆฉันก็สงสัยเกี่ยวกับเลเวลของเอียนอยู่เหมือนกันแต่ฉันก็ไม่อาจรู้ได้?”

เฮิร์ซพูดด้วยเสียงล้อเล่น

“เฮ้ นายแน่ใจงั้นหรอว่าไม่ใช่เพราะว่านายกำลังกังวลว่าเขาจะตามนายทัน?”

คาร์วินสะดุ้งครู่หนึ่ง แต่เขาก็ลังเลที่จะพูดไม่นานหลังจากนั้น

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระพี่ เขาจะตามผมทันได้ยังไงก็ในเมื่อเขาเพิ่งเลเวล90เมื่อไม่นานมานี้เอง? ตอนนี้เขาน่าจะเลเวลประมาณ95เองใช่มั้ยหล่ะ?”

ฟิโอลันที่อยู่ข้างเขา เริ่มแสดงความคิดเห็นของเธออย่างระมัดระวัง

“ไม่ใช่ว่าเขาเลเวลเกือบ100แล้วอย่างนั้นหรอ?”

“ใช่ไม่มีทาง เลเวลมันจะเพิ่มยากมากขึ้นเมื่อเลเวลถึง95แล้ว”

เฮิร์ซซึ่งได้ยินทั้งสองคนคุยกันก็แสยะยิ้ม

“เขาอาจจะตั้งความส่วนตัวเอาไว้ในตอนที่เขายังเลเวลต่ำและไม่ได้เปลี่ยนใหม่เพราะว่าเขาขี้เกียจ และล่าสุดที่ฉันถามเอียน เขาเลเวล98แล้ว”

คาร์วินแสดงอาการกระวนกระวาย

“ห้ะ? เขาเลเวลกลับมาเท่าเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ถ้าหากพวกเขารู้ว่าเอียนมีเลเวลถึง103แล้วละก็พวกเขาได้สลบไปด้วยความตกใจแน่ๆ

ฟิโอลันที่มีเลเวลสูงสุดมีเลเวลประมาณ113ในขณะนี้ เฮิร์ซมีเลเวล107 และคาร์วินมีเลเวล103

ในกรณีของคาร์วิน เอียนก็ตามเขาทันแล้ว

“ไม่ว่าจะยังไงเขาก็สุดยอดจริงๆ”

เมื่อฟิโอลันพูด คาร์วินและเฮิร์ซต่างพยักหน้าพร้อมกัน

และเฮิร์ซก็บ่นต่อ

“แต่เขาทำเควสต์อะไรกันถึงได้ยศบารอนมาตั้งแต่แรกเลย?”

เมื่อพูดอย่างนั้น ฟิโอลันก็ถามกลับ

“ห้ะ? นายหมายความว่าไง? ไม่ใช่ว่ายศแรกที่นายได้มาคือบารอนงั้นหรอ?”

เมื่อเธอพูด เฮิร์ซส่ายหน้า

“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”

คราวนี้คาร์วินถาม

“ถ้างั้นปกติเริ่มด้วยอะไรล่ะ?”

เฮิร์ซตอบ

“เท่าที่ฉันเคยได้ยินมา เมื่อเราเคลียร์เควสต์อาณาจักรได้แล้ว จะได้รับยศบารอนเน็ตหรืออัศวิน”

“จริงหรอ?”

“ใช่แล้ว นั่นจึงทำให้ฉันแอบหวังว่าเอียนจะได้ยศบารอนเน็ตตั้งแต่แรก มันมีโอกาสที่จะเลื่อนระดับฐานเป็นเมืองด้วยยศอัศวินเช่นกันแต่มันข้อจำกัดเยอะมาก เราจะได้ยศบารอนเน็ตเมื่อเราได้เป็นขุนนางที่แท้จริงแล้วเท่านั้น”

ฟิโอลันพูดเสริม

“โอ้ นายพูดถูกแล้ว ฉันก็เคยอ่านข้อมูลมาผ่านๆเหมือนกันแต่ฉัะนไม่เคยคิดว่าบารอนเน็ตและบารอนมันต่างกัน ในเมื่อพวกเขาก็เป็นแค่บารอนฉันเลยเดาว่าอย่างนั้น…งั้นแสดงว่าเอียนได้รับยศที่สูงกว่าบารอนเน็ตงั้นสินะ?”

เฮิร์ซพยักหน้าขณะตอบ

“ถูกต้อง ฉันไม่เคยได้ยินเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย… แต่ยังไงฉันก็คิดว่ามันก็ดีกว่า”

คาร์วินหน้ามุ่ยเมื่อเขาบ่น

“ทำไมพี่เขาถึงโชคดีจัง?”

เพียงแค่ดูเฮิร์ซก็ยิ้ม

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาโชคดี แต่หลังๆมานี้ฉันคิดว่าไม่ใช่แบบนั้น”

เฮิร์ซหายใจเข้าก่อนเขาจะพูดอีกครั้ง

“มีใครในพวกเราเล่นหนักเท่าเขารึป่าวหล่ะ?”

ฟิโอลันและคาร์วินส่ายหัวพร้อมกัน

ระยะเวลาที่เอียนทุ่มเทให้กับการเล่นเกมของเขานั้นเป็นสิ่งที่ยากสำหรับทุกคนในกิลด์จะทำตามได้

พวกเขาไม่ได้หมายถึงเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่เกม

เนื่องจากมีสมาชิกกิลด์จำนวนมากที่เข้าสู่ระบบตลอดทั้งวัน

แต่กระนั้นเอียนก็ไม่ได้อยู่เฉยๆขณะที่เข้ามาในเกม เขาล่าหรือทำเควสต์โดยไม่หยุดพัก

นั่นคือความแตกต่าง

“ยังไงก็เถอะเขาสุดยอดจริงๆ จากที่ฉันรู้นั่นมีไม่ถึงยี่สิบคนที่ได้รับยศบารอน”

และในหมู่ผู้เล่นใหม่เอียนถือว่าเป็นคนแรก

ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีผู้เล่นคนไหนที่ได้รับยศไวเคานต์หรือเคานต์ที่มีระดับสูงกว่าบารอน

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการไต่อันดับกิลด์

“เอาจริงๆดูเหมือนว่าเขาจะทำเควสต์ทั้งหมดของเขาหมดแล้ว ดังนั้นเอียนน่าจะกลับมาฐานเร็วๆนี้ใช่มั้ย?”

เฮิร์ซพยักหน้า

“ฉันก็คิดอย่างนั้น ฉันบอกเขาไปเกี่ยวกับการเลื่อนระดับฐานดังนั้นเขาก็น่าจะมาที่นี่เร็วๆนี้ เมื่อเอียนมาถึงฉันคิดว่าเราควรจะจัดการเรื่องการเลื่อนระดับเมืองทันที”

“แน่นอน พูดก็พูดเถอะฉันสงสัยว่าไม่ใช่ว่าฉันควรยกตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์ให้กับเอียนงั้นหรอ?”

อย่างไรก็ตามเมื่อพูดคำเหล่านั้น เฮิร์ซและคาร์วินส่ายหน้าพร้อมกัน

คาร์วินพูด

“ไม่-ไม่ เอามันไว้อย่างนั้นแหละเพื่อที่เธอจะได้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ต่อไปฟิโอลัน”

เฮิร์ซเห็นด้วยอย่างยิ่ง

“ถูกต้อง ฉันก็คิดว่ามันจะดีมากกว่าสำหรับกิลด์ถ้าเธอยังเป็นรองหัวหน้ากิลด์ ฟิโอลัน…”

ในช่วงเริ่มต้นของกิลด์บทบาทของรองหน้ากิลด์ไม่มากเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับตอนนั้นแล้วตอนนี้ขนาดของกิลด์ใหญ่ขึ้นกว่าสองเท่าและมันก็มีงานจำนวนมากสำหรับรองหัวหน้ากิลด์โดยเฉพาะกับที่ฐาน

และนอกจากเอียนที่ล่าอย่างไม่หยุดพัก ทั้งสองก็คิดว่าฟิโอลันที่มีความเข้มงวดเล็กน้อยและดูแลภารกิจได้เหมาะกับตำแหน่งนี้มากกว่า

ฟิโอลันทำสีหน้าเคอะเขิน

“ถึงอย่างนั้น… เอียนจะไม่เป็นไรใช่มั้ย”

คาร์วินยิ้มและตอบ

“เธอก็รู้ว่าพี่เขาไม่สนใจเรื่องแบบนั้น ทำไมคนที่รู้จักพี่เอียนมาเป็นเดือนถึงทำท่าทางแบบนั้นหล่ะ?”

 

* * *

 

ในขณะเดียวกัน เหมือนกับที่ทั้งสามได้คาดการณ์เอาไว้เอียนกำลังมุ่งหน้ากลับฐาน

บนไหล่ของเอียนที่เดินด้วยฝีเท้าที่เบาหวิวพร้อมกับฮัมเพลงก็มีกริฟฟินตัวน้อยที่มีขนสีทองนั่งอยู่

กรู๊ก- กรู๊ก-!

“พินแกหิวไหม?”

พยักหน้า

เอียนตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงตัวใหม่กริฟฟินว่า ‘พิน’

และสกิลฝึกฝนที่เขามักจะใช้กับไลก็ได้ถูกใช้โดยพินแทน

‘ในเมื่อค่าศักยภาพของพินจะเพิ่มขึ้นถึง100หน่วยได้โดยใช้เวลาประมาณ3วัน… ฉันคิดว่าฉันจะใช้กับไลทีหลัง’

พินมีค่าศักยภาพ90หน่วยตั้งแต่ที่เขาได้รับมันมา

เหมือนกับฮัลลิเขาวางแผนที่จะให้พินมีค่าศักยภาพถึง100หน่วยก่อนที่เอียนจะเพิ่มเลเวลของมัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการเพิ่มค่าศักยภาพของพินเสียก่อน

“ไหนดูสิ ฉันเอามีตบอลโอสถไว้ที่ไหน?”

ในขณะที่เอียนเริ่มค้นหาในคลังของเขา บุ๊กค์ที่อยู่บนหลังของเขาและหลับไหลกลับไปสู่ความเป็นจริง

สำหรับบุ๊กค์ไม่มีสัญญาณเตือนไหนที่ดีไปกว่าคำว่ามีตบอล

ดวงตาของบุ๊กค์เบิกกว้างเมื่อใดก็ตามที่เขาได้ยินคำว่ามีตบอล

บุ๊กค์-!

เอียนที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้ม

“โอเค ฉันจะให้แกหนึ่งชิ้นเหมือนกัน รอก่อน”

บุ๊กค์ได้กินโควต้ามีตบอลตอนเช้าไปแล้วจึงไม่ได้หวังอะไรมากแต่มันก็ขยับตัวขณะที่มองเอียนที่จะให้มีตบอลกับมันไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

บุ๊กค์…!

“โอเค นี่ของแกกินดีๆล่ะ”

เอียนซึ่งส่งมีตบอลไปยังสัตว์เลี้ยงของเขาเกาะอยู่บนก้อนหินสักครู่

และขณะที่มองไปยังสัตว์เลี้ยงทั้งสองของตนที่กำลังกินมีตบอลอยู่ เอียนก็เรียบเรียงความคิดของเขา

‘อย่างแรกเมื่อฉันกลับไปถึงฐาน ฉันต้องเริ่มที่จะจัดการอาณาเขตก่อนสินะ?’

รวมถึงเฮิร์ซสมาชิกส่วนใหญ่ของกิลด์คิดว่าเอียนไม่มีความสนใจในดินแดนแต่มันเป็นเรื่องที่ผิด

เขานั้นกำลังวุ่นวายกับการพยายามทำเควสต์ของเขาให้จบจนถึงตอนนี้จึงทำให้เอียนไม่สามารถจดจ่อกับเรื่องอาณาเขจได้แต่เขาก็รู้สึกสนใจเกี่ยวกับเรื่องใหม่ของอาณาเขตแบบสุดๆ

เขารู้สึกว่ามันมีสิ่งใหม่ให้เขาได้ค้นคว้าเพิ่มอีก

เอียนลงทุนประมาณสองถึงสามชั่วโมงและทำการค้นคว้าที่ฐานได้ค่อนข้างมากทีเดียว

ตั้งแต่ที่เขาได้รับยศบารอน เขาก็สามารถกลายเป็นลอร์ดได้และฐานก็จะได้รับการยกระดับและหากเป็นเช่นนั้นเขาก็ต้องการที่จะหาประสิทธิภาพของอาณาเขตให้ได้สูงที่สุด

‘เนื่องจากยูฮยอนทำคนเดียวได้ดีจนถึงตอนนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจมากนัก….แต่ในเมื่อฉันจะต้องดูแลเกี่ยวกับอาณาเขตแล้วฉันก็ควรลองพัฒนามันให้มากที่สุด’

เนื่องจากมีกิลด์ไม่มากที่ได้เลื่อนระดับเป็นเมือง จึงไม่ค่อยมีข้อมูลอะไรออกมามากนักแต่ถึงกระนั้นมันก็มีข้อมูลที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

โดยเฉพาะระบบที่ให้พวกเขามีทหารได้เป็นสิ่งที่เอียนสนใจมากที่สุด

‘ประสิทธิภาพในการล่ามันจะต้องดีมากแน่ๆถ้าหากเราได้ทหารที่ดีและจัดการกับการกองกำลังขนาดใหญ่ในการสำรวจ’

เนื่องจากเอียนได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลเพราะNPC เขาจึงยิ่งหวังมากกว่าเดิม

‘ตอนนี้ฮัลลิเลเวลมากกว่า80แล้ว ถ้าหากฉันทำให้พินเลเวลเท่ากันได้ละก็… ฮุฮุ’

เมื่อคิดถึงการกวาดล้างมอนสเตอร์ของพินด้วยสกิลบดขยี้ เอียนก็ยิ้มออกมาเอง

ตอนนี้เป็นเวลาที่จะมีสมาธิในการเพิ่มระดับสัตว์เลี้ยงที่เขาครอบครอง

เขาไม่มีความเป็นผู้นำเหลือสำหรับการจับสัตว์เลี้ยงเพิ่มแล้ว

ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะพินเป็นระดับLegendary ค่าความเป็นผู้นำของเอียนก็ถูกพินเอาไปหมดเลย

มันก็อาจจะเป็นไปได้เพราะว่าค่าความเป็นผู้นำที่เหลืออยู่ของเขานั้นได้มาจากการฟักไข่สัตว์เลี้ยงระดับLegenaryคนแรก

‘ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไข่เทพมังกรจะฟัก แต่มันก็น่าจะมีวิธีเพิ่มค่าความเป็นผู้นำของฉันอีกอยู่ดี’

เอียนยืนจากจุดที่เขาอยู่

ดูเหมือนว่าสัตว์เลี้ยงของเขาจะกินอาหารจนเกือบหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามเขาเห็นบุ๊กค์เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่อยู่ด้านหน้าพิน

บุ๊กค์- บุ๊กค์-

เท่าที่เอียนคิด พินกินมีตบอลของมันไปครึ่งนึงแล้วและวางที่เหลือเอาไว้ตรงหน้ามัน

บุ๊กค์จ้องไปที่มัน

พินชำเลืองมองที่บุ๊กค์และผลักมีตบอลด้วยเท้าเพียงเล็กน้อย

กรู๊ก- กรู๊- กรู๊ก-

การแสดงออกที่หยาบคายและอาการพินดูเหมือนว่าเขากำลังพูดว่าฉันอิ่มแล้วไม่ว่าคุณจะกินหรือไม่ก็ตามนั้นขึ้นอยู่กับคุณ

และบุ๊กค์ก็คลานไปอย่างรวดเร็วและกลืนมีตบอลของพินด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว

บุ๊กค์- บุ๊-บุ๊กค์-!

ขณะมองไปที่บุ๊กค์ที่มีความสุข เอียนก็ขำออกมา

หากข้อความระบบจะปรากฏขึ้นสำหรับพินเช่นกัน เอียนรู้สึกว่ามีข้อความที่บอกว่า ‘ค่าความสัมพันธ์ของบุ๊กค์ต่อคุณเพิ่มขึ้น 200%’ ก็จะโผล่ขึ้นมา

‘ดูเหมือนว่าพินจะไม่โลภอาหารมากนัก’

พินกำลังทำความสะอาดน้ำมันจากมีตบอลที่ติดอยู่ที่ขนของมัน ขณะที่บุ๊กค์ที่กินมีตบอลที่เหลืออยู่ของพินจนหมดในทันทีก็แสงท่าทีพึงพอใจโดยการวิ่งไปรอบๆ

‘ดูเหมือนว่าบุ๊กค์จะชอบพินจริงๆ’

คุณคิดว่าสิ่งที่บุ๊กค์เป็นอยู่ตอนนี้มันเหมือนกับบุ๊กค์ชอบไปร้านไก่กับเพื่อนที่ไม่ชอบกินไก่มั้ย?

ก่อนที่เขาจะรู้ตัวบุ๊กค์ก็อยู่ถัดจากพิน ถูหัวของมันกับพิน

บุ๊กค์แสดงท่าทางราวกับค้นพบเนื้อคู่ และเหมือนพินก็จะไม่ได้รังเกียจบุ๊กค์ซะทีเดียว

เอียนยิ้มออกมา

การได้เห็นสัตว์เลี้ยงของเขาสนิทกันเป็นสิ่งที่น่ายินดี

“โอเค ไปกันเถอะเด็กๆ พวกเราน่าจะถึงเร็วๆนี้แล้ว”

เมื่อเอียนพูดจบ พินก็บินขึ้นมานั่งบนไหล่ของเอียนทันที ขณะที่บุ๊กค์รีบเดินมาด้วยขาสั้นๆของมันและยืนตรงหน้าเอียน

เอียนลูบหัวพินหนึ่งครั้งก่อนจะเริ่มเดินต่อ