ตอนที่ 68 พูดชัดเจนแล้ว / ตอนที่ 69 นกที่ตื่นเช้ามีหนอนให้กิน

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 68 พูดชัดเจนแล้ว

 

 

หลูจื้อตกใจมากจนคิดอยากจะผลักตัวชุยหังออกไปเลย

 

 

แต่ตอนนี้ชุยหังไม่มีแรงแม้แต่จะดิ้นรนต่อสู้อะไรแล้ว น้ำหนักตัวทั้งหมดของเขาดูเหมือนจะเทมาไว้บนตัวของหลูจื้อทั้งหมดแล้ว

 

 

จนกระทั่งหลูจื้อสัมผัสได้ว่าเหมือนจะมีของเหลวเปียกๆ อะไรบางอย่างอยู่ตรงคอของตัวเอง

 

 

เขาดึงศีรษะของชุยหังออกด้วยท่าทีที่ค่อนข้างจะหยาบคายเล็กน้อย ก่อนจะมองใบหน้าของชุยหังก็พบว่าน้ำตาใสๆ กำลังไหลอาบสองแก้มของชุยหัง

 

 

ชุยหังสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ตัวเองได้สติ จากนั้นเขาก็พยายามทำให้ตัวเองยืนให้ตรงอย่างสุดกำลังพลางสลัดตัวเองให้หลุดจากอ้อมกอดของหลูจื้อ ถึงแม้มันจะเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นมาก แต่มันไม่ใช่ของของเขา

 

 

การกระทำเมื่อครู่นี้ทำให้เขาเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมานิดหน่อย

 

 

เขาพยายามรักษาสีหน้าของตัวเองให้สงบที่สุดแล้วพูดขึ้น: “ครูฝึก ผมกินเสร็จแล้ว ดื่มหมดแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ยังต้องฝึกต่อคุณก็รีบกลับไปเถอะ”

 

 

พูดจบเขาก็เดินหมุนตัวจากไปทันที

 

 

ขณะที่เดินออกมาถึงหน้าร้าน เขายังคงพยายามรักษาการเดินของตัวเองให้ตรง ไม่ให้คนอื่นมองออกว่าสมองของเขาในตอนนี้มันเลือนรางมาก

 

 

เขาเดินมาถึงมุมที่อยู่ห่างออกมามุมหนึ่ง มุมที่แสงไฟไม่สว่าง ในที่สุดชุยหังก็โน้มตัวลงแล้วอ้วกออกมา

 

 

ทั่วทั้งช่องปากเต็มไปด้วยรสชาติของความเจ็บปวดขมฝาดและซับซ้อน เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เขายังอยากจะต่อยหน้าตัวเองสักที

 

 

ทำเกินไปมากจริงๆ แล้วแบบนี้หลูจื้อจะคิดว่าเขาเป็นคนยังไง

 

 

แต่เขาพูดชัดเจนไปแล้ว เขารู้แล้วว่าชุยหังเป็นเกย์ ชอบผู้ชายด้วยกัน

 

 

เชื่อว่าเขาคงจะออกห่างจากชุยหังไปเอง

 

 

สายลมในยามค่ำคืนพัดโชยมา ทำให้รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็น

 

 

ชุยหังนั่งอยู่ในมุมนั้นสักพัก ฟังเสียงหัวเราะมีความสุขของคู่รักคู่หนึ่งผ่านมาจากที่ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก

 

 

เขาถึงได้ค้นพบว่าตัวเขาในตอนนี้ไม่คิดถึงหลิวเฮ่อมากขนาดนั้นแล้ว

 

 

บางทีความชอบของพวกเขาสองคนคงจะไม่ได้ลึกซึ้งกันมากตั้งแต่แรก เพราะมิฉะนั้นชุยหังคงจะไม่ยืนกรานที่จะรักษาตัวไว้และไม่ให้เขาสักทีหรอก?

 

 

หลังจากสร่างได้สักพัก ชุยหังก็รู้สึกว่าตัวเองสบายขึ้นมากและได้สติตื่นตัวมากพอสมควรแล้ว เขาจึงค่อยๆ มุ่งหน้าลากตัวเองกลับไปทางหอพัก

 

 

เมื่อมาถึงชั้นล่างของหอพัก เขาก็เหมือนจะเห็นเงาของใครคนหนึ่ง อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก ภายใต้แสงไฟริมถนนเขามองมาทางชุยหัง

 

 

รูปร่างของเขา แล้วก็เสื้อของเขาที่สวมอยู่ เขาน่าจะเป็นหลูจื้อ

 

 

ดูเหมือนว่าเขาจะเคลื่อนไหวไวกว่าชุยหังมาก

 

 

ชุยหังไม่ได้หันกลับไปยืนยันว่าคนๆ นั้นใช่หลูจื้อหรือเปล่าแต่เขาเดินขึ้นตึกไปเลย

 

 

เพื่อนในห้องไม่กี่คนของเขาพอเห็นเขากลับมาต่างก็พากันมองเขาอย่างแปลกใจ เมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจากตัวเขา ต่างก็พากันถามว่าเขาออกไปทำอะไรมา

 

 

จ้าวหลินรีบปิดประตูห้องทันทีพลางถาม: “เสียงเบาหน่อย เดี๋ยวคนอื่นกับหัวหน้าห้องที่อยู่ห้องตรงข้ามได้ยินเข้าแล้วเอาไปบอกอาจารย์ล่ะก็จบเห่แน่”

 

 

ชุยหังแอบรู้สึกซาบซึ้งอยู่ภายในใจ พวกเขาพึ่งจะได้พบเจอรู้จักกันแค่ไม่กี่วันเท่านั้น แต่กลับรู้สึกว่าสนิทสนมกันจนไม่เหมือนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอเลย

 

 

“เป็นไรไปหรอเสี่ยวอู่?” หลังจากที่ประตูถูกปิดลงถังเฉิงก็ถามขึ้น

 

 

ชุยหังพลางปีนขึ้นไปบนเตียงพลางพูดไปด้วยว่า: “ไม่เป็นไร อารมณ์ไม่ค่อยดีก็เลยแอบๆ หนีออกไป”

 

 

“นายนี่มันกล้าจริงๆ เลยนะไม่กลัวจะถูกใครเห็นเข้าหรือไง” วังเฉียงถาม

 

 

ชุยหังฝืนยิ้มออกมาพลางพูด: “วู่วามไป วู่วามไป คราวหลังจะไม่ทำอีกแล้ว”

 

 

เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองออกไปกับหลูจื้อ เพราะแบบนั้นจะไปกระทบต่อภาพหลูจื้อในอุดมคติของทุกคน

 

 

อีกอย่างเขากำลังคิดว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ควรจะพูดว่านับตั้งแต่วินาทีที่ตัวเองจูบหลูจื้อไปนั้น เขาคงจะตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงออกห่างจากชุยหังให้ไกลแล้ว

 

 

คืนนั้นหลังจากที่ชุยหังสร่างเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จนหมดก็กลับไปนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกินเหล้าอีก ภายในใจยิ่งทวีความยุ่งเหยิงเข้าไปใหญ่ อยากจะย้อนเวลากลับไปจริงๆ จะทำให้ทั้งหมดเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 69 นกที่ตื่นเช้ามีหนอนให้กิน

 

 

ท่ามกลางสายลมโบกพัดในยามเช้าตรู่ ชุยหังตื่นนอนเป็นคนแรก เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาหลับไม่สบายเลย

 

 

เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำกับหลูจื้อไว้ตอนออกไปดื่มกัน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกวุ่นวายใจนิดหน่อย

 

 

เขาไม่ใช่พวกหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอก เพียงแต่ในแวดวงเกย์เขาเห็นพวกออกสาวดูตุ้งติ้งมาก็มากแล้ว เมื่อได้เจอชายแท้ร่างกายแข็งแรงอย่างหลูจื้อ แถมหน้าตายังหล่อเหลามากแบบนั้น ถ้าจะอยากมองให้มากหน่อยก็คงจะไม่ผิดอะไรมากหรอก?

 

 

เขาค่อยๆ พลิกตัวปีนลงจากเตียง แล้วก็ออกไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน

 

 

หลังจากกลับมาถึงห้องก็พบว่าจ้าวหลินตื่นแล้ว เขาหันมาถาม: “เชรด เหลาอู่ทำไมวันนี้นายตื่นเช้าจัง”

 

 

ชุยหังตอบกลับเสียงเบา: “นอนไม่หลับก็เลยลุกเลย”

 

 

“กี่โมงแล้ว” จ้าวหลินถาม

 

 

“น่าจะตีห้ากว่าๆ มั้ง” ชุยหังตอบ

 

 

“งั้นนายลุกมาทำไมเร็วขนาดนั้น” จ้าวหลินแทบไม่อยากจะเชื่อ

 

 

“อืม นายจะลุกเลยไหม” ชุยหังถาม

 

 

จ้าวหลินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า: “ก็ได้ ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว”

 

 

ชุยหังเอากะละมังกับอุปกรณ์อาบน้ำของตัวเองเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ปีนขึ้นเตียงนอนแล้วเริ่มพับผ้าห่มของตัวเอง

 

 

เนื่องจากชุยหังอยู่เตียงชั้นบน พอทำเสียงดังขึ้นนิดๆ หน่อยๆ ก็พลอยทำเอาถังเฉิงที่อยู่เตียงด้านล่างตื่นไปด้วย

 

 

“เหลาอู่ นายบ้าไปแล้วหรือไง ทำไมถึงลุกมาพับผ้าห่มอะไรแต่เช้าขนาดนี้”

 

 

ชุยหังตอบ: “นกที่ตื่นเช้ามีหนอนให้กินไง”

 

 

“หยุดโม้เลย ก็แค่วันนี้นายตื่นเร็ว” ถังเฉิงบ่นพึมพำ

 

 

ชุยหังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ: “เมื่อก่อนมันคือหนอนที่ตื่นเร็วจะถูกนกกินไง”

 

 

“ไม่ว่าจะพูดยังไงนายก็หาเหตุผลได้หมดแหละ สรุปเมื่อคืนออกไปทำอะไรมา ดื่มเหล้ามาใช่ไหม” ถังเฉิงถาม

 

 

เมื่อชุยหังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันก็กระทบต่อความรู้สึกของเขาทันที แต่สุดท้ายเขาก็ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดตอบ: “ไม่มีอะไร เมื่อวานอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้วพวกนายก็ไม่อยู่ด้วย ตัวคนเดียวก็ไม่มีอะไรทำด้วย”

 

 

“นายออกไปเอง?” ถังเฉิงถาม

 

 

ชุยหังตอบกลับ: “แล้วจะให้ฉันไปกับใคร?”

 

 

“เพื่อนบ้านเดียวกันของนายคนนั้นอ่ะ?” ถังเฉิงถามออกมาอย่างไม่คิดอะไร

 

 

ชุยหังนึกถึงชย่าอวี่ชิวก่อนจะตอบกลับว่า: “เขาออกไปกับคนอื่นมาแล้ว”

 

 

“ทำไมล่ะ ทิ้งนายแล้ว?” ถังเฉิงพูดล้อเล่น จากนั้นก็พลิกตัวเอาผ้าห่มม้วนตัวเอง

 

 

“ไปไกลๆ เลย อะไรคือทิ้งฉันแล้ว นายยังอยากจะนอนต่อไหมไม่อย่างนั้นจะเอาน้ำสาดนายแล้วนะ” ชุยหังว่า

 

 

ถังเฉิงรีบตอบทันที: “พอแล้ว พี่ห้า ผมผิดไปแล้วครับ นายให้ฉันนอนอีกหน่อยเถอะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยสบายเลยเพราะมัวแต่เป็นห่วงว่านายจะนอนตกเตียง…”

 

 

หลังจากชุยหังได้ฟัง ขณะเดียวกับที่แอบรู้สึกผิดอยู่นั้น ภายในใจก็รู้สึกอบอุ่นมากๆ

 

 

เดิมคิดว่าจะจัดการเขาซะ แต่พอได้ฟังคำพูดของเขาแบบนี้แล้วก็ช่างมันเถอะ

 

 

เขาวางผ้าห่มของตัวเองลงอย่างเงียบๆ แล้วนั่งอยู่บนเตียงมองเหม่อออกไปข้างนอก

 

 

แสงแดดที่ดูอบอุ่นในยามเช้า สาดส่องผ่านทางหน้าต่างกระทบลงบนพื้นห้อง ทำให้คนมองรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

 

 

มองแสงแดดอุ่นๆ เคลือบผิวใบไม้ด้านนอก ยิ่งทำให้รู้สึกสบายอารมณ์

 

 

สีท้องฟ้าและแสงแดดค่อยๆ ปกคลุมพื้นดิน ทำให้มันเริ่มสว่างขึ้นมา

 

 

ทุกคนต่างก็ทยอยตื่นนอนแล้ว ห้องอื่นๆ เริ่มจะมีเสียงพูดคุยสนทนากันดังขึ้นมาแล้ว ห้องน้ำก็มีเสียงน้ำไหลดังสะท้อนออกมาไม่ขาดสาย

 

 

“เหลาอู่ ผ้าห่มนายพับเสร็จแล้วหรอ” หลังจากถังเฉิงตื่นนอนก็หันมาถามชุยหัง

 

 

ชุยหังโชว์ให้เขาดูพลางพูดขึ้น: “ฉันกลัวว่าจะรบกวนพวกนายนอนหลับก็เลยไม่ได้ทำต่อ”

 

 

“ไม่เป็นไร มันจะดังสักเท่าไหร่กันเชียว แล้วแต่นายเลยอยากทำอะไรก็ทำเลย”

 

 

ชุยหังพูดต่อ: “ไม่เป็นไรหรอก ยังมีเหล่าต้าอยู่ทั้งคน”

 

 

หลังจากจ้าวหลินได้ฟังก็พูดขึ้นอย่างจำใจ: “เชรด เหลาอู่ นี่นายเห็นฉันเป็นแม่บ้านใช้ฟรีไปแล้วหรอ”

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “เหล่าต้า เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าว”

 

 

“เอาเถอะ เพื่อข้าวมื้อนี้ของนาย ฉันจะช่วยพับอีกสักรอบแล้วกัน”