บทที่ 253 การคาดเดาของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์!

จอมบงการเทพยุทธ์

บทที่ 253 การคาดเดาของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์!

เสียงของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์เปี่ยมไปด้วยความเศร้าโศก

ในแดนนิรันดร์สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนยาวที่สุดอย่างแน่นอนในแดนนิรันดร์ทั้งหมดอาจจะมีสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งหรือสองคนในรุ่นเดียวกับเขายิ่งกว่านั้นรุ่นเดียวกันกับเขาไม่ได้ปรากฏตัวในแดนนิรันดร์มาหลายยุคหลายสมัยและในการหานายของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์เกรงว่าพวกเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว

แม้แต่ราชันดอกบัวและราชันเฉียนก็เป็นเพียงรุ่นเยาว์ในสายตาของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์

อย่างไรก็ตามแม้ว่าราชันดอกบัวและราชันเฉียนจะไม่ได้เป็นราชันบรรพบุรุษนิรันดร์แต่ก็ยังเป็นราชันเซียนนิรันดร์สูงสุดในแดนนิรันดร์

และตอนนี้ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของพิภพการกลับชาติมาเกิดของหนึ่งร้อยชั่วอายุคนการเพิ่มขึ้นและล่มสลายของราชันผู้กําแหงจากรุ่นสู่รุ่นสิ่งมีชีวิตในแดนนิรันดร์ทั้งหมดไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน

สําหรับตัวตนอย่างราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ทุกสิ่งในพิภพสูญเสียสิ่งดึงดูดใจไปนานแล้วในชีวิตนี้เขามีชีวิตอยู่เพื่อก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่สูงกว่าเท่านั้น

และเขตแดนที่เหนือกว่าราชันเซียนนิรันดร์นั้นก็เป็นเขตแดนที่ลึกลับอย่างไม่ต้องสงสัย

ในเขตแดนนี้ ไม่มีประสบการณ์ใดให้เรียนรู้จากรุ่นก่อนและเส้นทางการฝึกวิชาได้มาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อก้าวไปถึงเขตแดนเซียนนิรันดร์

หากต้องการก้าวไปข้างหน้าต้องเป็นผู้บุกเบิกและเดินออกจากวิถีของตัวเอง แต่ทว่า แม้ว่าจะพูดได้ง่ายแต่ในทางปฏิบัติมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? เขตแดนที่เหนือกว่าราชันเซียนนิรันดร์คือเขตแดนที่ราชันผู้กําแหงมากมายต่างตระหนักมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ไม่รู้ว่ามีราชันเซียนนิรันดร์ในแดนนิรันดร์กี่คนที่ไม่สามารถก้าวข้ามเขตแดนนี้เลยในชีวิตและแม้แต่ธรณีประตูของเขตแดนนั้นพวกเขาก็ไม่เคยสัมผัสมันเลยสักครั้งและเมื่อไม่กี่ยุคก่อนเขตแดนของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ได้หยุดลงในเขตแดนราชันเซียนนิรัน

ในการรับรู้ของเขาดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ห่างจากการก้าวข้ามนี้ไปเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นที่จะสามารถไปถึงเขตแดนที่ไม่เคยมีใครได้เห็นและไปที่นั่นมาก่อน

ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปิดธรณีประตูและฝึกฝนเพื่อก้าวข้ามไปสู่เขตแดนนี้

หลังจากนั้นในหลายยุคสมัยราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ใช้เวลาของพวกเขาในการเก็บตัวและไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นในพิภพอีกเลย
แต่ทว่าผลที่ได้รับกลับทําให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก

หลังจากการเก็บตัวไปหลายยุคสมัยเขาเพิ่งก้าวเข้าไปในจุดนั้น เขตแดนนั้นเหมือนกับบุปผาในกระจกและจันทราในวารีจริงๆ

เห็นได้ชัดว่ามันอยู่ตรงหน้าของเขาแต่เขาไม่สามารถสัมผัสได้
ความรู้สึกนี้ มันเปี่ยมไปด้วยความสงสัย

และในตอนนี้ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ที่เก็บตัวอยู่ก็ตื่นตระหนกกับการเปลี่ยนแปลงของอนุสรณ์โบราณที่เกิดจากฉินมู่และเขาคิดว่ามันคงไร้ความหมายที่จะคิดเกี่ยวกับการเก็บตัวต่อดังนั้นเขาจึงตื่นจากการหลับไหลและมาที่นี่เพื่อหาคําตอบ

“กลายเป็นว่าราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ ไม่ได้ก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เหนือกว่า”

ราชันเฉียนถอนหายใจน้ำเสียงของเขาเศร้าและผิดหวังเล็กน้อย

ไม่ว่าราชันบรรพบุรุษนิรันดร์จะก้าวข้ามเขตแดนไปได้หรือไม่นั้น สําหรับแดนนิรันดร์นั้นมีความหมายที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

หากราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ก้าวข้ามเขตแดนไปได้ไม่เพียงแต่สามารถชี้ทางข้างหน้าสําหรับราชันเฉียนและคนอื่นๆ บนแดนนิรันดร์ได้แต่ที่สําคัญกว่านั้นเขาจะกลายเป็นเหมือนฝนจากทะเลสําหรับดินแดนอันแห้งแล้งเมื่อตอนนี้แดนนิรันดร์ทนทุกข์ทรมานจากการบุกรุกของแดนทมิฬและสงครามอาจเกิดขึ้นได้ทุกแม้ว่าเขาและราชันดอกบัวจะเป็นผู้สูงสุดในเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสกัดกั้นแดนทมิฬได้เลย

อย่างไรก็ตามจํานวนราชันอมตะของฝั่งแดนทมิฬมีมากเกินไป มากกว่าแดนนิรันดร์มากซึ่งเห็นได้จากการต่อสู้ครั้งก่อนระหว่างสองดินแดนในชายแดนร้างแดนนิรันดร์อีกฝ่ายส่งยุทธภัณฑ์ของราชันอมตะทั้งห้าในหนึ่งลมหายใจและนี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆของ
ความแข็งแกร่งโดยรวมของฝั่งแดนทมิฬ

อย่างไรก็ตาม หากราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ตื่นขึ้นจากการเก็บตัวในครั้งนี้และสามารถก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เหนือกว่าราชันเซียนนิรันดร์ได้จริงๆ สถานการณ์ก็จะแตกต่างออกไปเหนือเซียนนิรันดร์ที่แท้จริงความแตกต่างระหว่างเขตแดนอื่นห่างไกลกันเหลือเกิน

ไม่ว่าจะมีเซียนนิรันด์เพิ่มขึ้นกี่คนก็ตามก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของราชันเซียนนิรันดร์ได้ในทํานองเดียวกัน หากราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เหนือราชันเซียนนิรันดร์

ได้จริงๆ ไม่ว่าจะมีราชันอมตะกั่ตนก็ไม่สามารถเป็นศัตรูของเขาได้

ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าฝ่ายแดนทมิฬจะหยิ่งผยองเพียงใดก็จะไม่กล้าเป็นศัตรูของฝั่งแดนนิรันดร์สุดท้ายหากราชนบรรพบุรุษนิรันดร์สามารถก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เหนือกว่าราชันเซียนนิรันดร์และแดนทมิฬยังกล้าที่จะกดดัน นั้นก็เท่ากับการรนหาที่ตาย

แต่ตอนนี้ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ที่เก็บตัวมาหลายยุคสมัยแต่ไม่ได้ผลลัพธ์ใดและไม่เคยไปถึงเขตแดนนั้นซึ่งทําให้ราชันเฉียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“เก็บตัวมาหลายยุคหลายสมัยและชายชราผู้นี้ก็ได้รับค่าตอบมาเพียงเล็กน้อยว่าเขตแดนนั้นไม่สามารถบังคับได้และทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตา”

ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์พูดเบาๆทันทีที่เขาหันไปมองอนุสรณ์โบราณที่ตั้งอยู่ระหว่างฟ้าดิน

และมองดูอักขระสี่คํา‘ข้ามทะเลเท่ากับตาย’ที่จารึกไว้บนอนุสรณ์ ดวงตาของราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงถึงความเคร่งขรึม

“สิ่งสําคัญที่สุดคือการจัดการกับสถานที่แห่งนี้ชายชราผู้นี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในแดนนิรันดร์ทั้งหมดแต่ก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าวในแดนนิรันดร์เลยแม้แต่น้อย”

“ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์เพิ่งตื่นขึ้นจากเก็บตัวและคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

ราชันเฉียนมองไปที่ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์และบอกราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบ้างในแดนนิรันดร์เมื่อไม่นานมานี้

“หลายพันล้านปีก่อนผู้โดดเดี่ยว….. อยู่เหนือราชันเซียนนิรันดร์งั้น……”

ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์พึมพํากับตัวเองดวงตาของเขาเสมองไปยังทะเลที่ตระหง่านและฉายแววความลุกโชนขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
เขารู้ว่าราชันเฉียนจะไม่โกหกเขากล่าวคือเมื่อหลายพันล้านปีก่อน แดนนิรันดร์มีราชันเซียนนิรันดร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

แล้วพวกเขาสามารถก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เหนือกว่าราชันเซียนนิรันดร์ได้อย่างไร?

ตั้งแต่ยุคสมัยที่นับไม่ถ้วนแดนนิรันดร์ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตที่มีเขตแดนเหนือกว่าราชันเซียนนิรันดย์แต่เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนมีสิ่งมีชีวิตที่ก้าวไปสู่เขตแดนนั้นได้

เป็นไปได้หรือไม่ว่าความสามารถของสิ่งมีชีวิตเมื่อหลายพันล้านปีก่อนจะมีความแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน?

ราชันบรรพบุรุษนิรันดร์ไม่เชื่อเขาคิดว่าต้องมีเหตุผลอื่น

สําหรับฉากของดินแดนที่สะท้อนโดยอนุสรณ์โบราณนั้นราชันเซียนนิรันดร์จํานวนมากต้องข้ามทะเลเพื่อก้าวไปข้างหน้าแม้จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็ตาม

เป็นไปได้ไหมว่า….. อีกด้านหนึ่งของทะเลในพิภพนี้ มีความลับในการก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่เหนือราชันเซียนนิรันดร์จริงๆ?
ถ้าไม่ใช่ก็ไม่สามารถอธิบายทั้งหมดนี้ได้!