ตอนที่ 118 ใบเรียกเก็บเงินไม่แถมลอตเตอรี่เสี่ยงโชค

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ชายหนุ่มทั้งสามยังอยู่ในชุดโบราณ เมื่อยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งสามก็ได้ทำให้เกิดเป็นภาพประหนึ่งว่ามีมนตร์ขลัง  

 

 

ฉีฉีแทบอยากจะตบปากตัวเอง หล่อนเพียงแค่อยากจะหยามให้อันซย่าซย่าได้อาย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาถูกเจ้านายของเธอจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้!  

 

 

ไม่ว่าสตาร์รี่ไนต์จะตกต่ำลงแค่ไหนหรืออาจจะเป็นไปได้ว่าจะถูกเก็บเข้าลิ้นชัก หล่อนก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะค่อนขอดพวกเขาต่อหน้า 

 

 

หล่อนฝืนยิ้มพลางพยายามหาข้อแก้ตัว แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนไม่มีใครมองหล่อนเลย เซิ่งอี่เจ๋อรีบเดินเข้ามาหาพวกหล่อนและนิ่วหน้าใส่อันซย่าซย่า จากนั้นก็ยื่นบัตรเครดิตให้เธอ “คราวหน้าใช้นี่นะ พวกเราเลี้ยงเอง” 

 

 

อันซย่าซย่ามองดูบัตรใบนั้นแต่ก็ยังงงๆ อยู่ ระหว่างที่คนอื่นๆ พากันสูดหายใจแรง  

 

 

บัตรแบล็กการ์ด… 

 

 

บัตรลิมิเต็ดแบล็กการ์ดที่มีวงเงินมหาศาล… 

 

 

ไม่มีใครมีข้อกังขาอีกต่อไปแล้วว่าอาหารสุดหรูมื้อนี้มาได้อย่างไร อีกอย่างคือ โรงแรมอวี้อันจะยอมขาดทุนฟรีๆ อย่างนั้นเหรอ การคาดเดาของพวกเขาช่างงี่เง่าซะจริง! 

 

 

ตอนนี้หลายคนเริ่มมองฉีฉีด้วยสีหน้าไม่พอใจ 

 

 

เหมือนกับหล่อนกำลังนั่งอยู่บนเข็มเป็นร้อยเล่มและไม่สามารถนึกกระดากใจไปได้มากกว่านี้แล้ว หล่อนก้าวเข้าไปหาพลางเอ่ย “เอ่อ กัปตันอี่เจ๋อคะ นั่นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กๆ น้อยๆ …” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเงยหน้าขึ้น แววตาดำมืดจับที่ใบหน้าหล่อน กิริยาท่าทางสง่างามนั้นรุนแรงเกินกว่าที่ฉีฉีจะรับได้ 

 

 

ด้วยเสียงดังตุ้บ หล่อนร่วงลงไปนอนกับพื้น 

 

 

ความเงียบเข้าครอบงำฝูงชนทั้งหมด 

 

 

ในตอนนั้นเอง คนส่งอาหารก็เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะพูดกับอันซย่าซย่าพร้อมรอยยิ้ม “คุณผู้หญิงครับ หลังจากรับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วกรุณาโทร.หาพวกเราเพื่อมาเก็บจานชามได้เลยนะครับ” 

 

 

“โอเค ขอบคุณค่ะ” อันซย่าซย่าซาบซึ้งด้วยความช่วยเหลือที่ไม่ได้คาดหวังนั้น ในใจคิดว่าบริการจากโรงแรมห้าดาวแห่งนี้ช่างเป็นเลิศจริงๆ 

 

 

คนส่งอาหารโค้งคำนับและจากไปเมื่ออันซย่าซย่าร้องเรียกไล่หลังเขา “ขอใบเรียกเก็บเงินด้วยนะคะ” 

 

 

ผู้ชายคนนั้นอึ้งไปเล็กน้อย “ได้เลยครับ สักครู่ครับ” 

 

 

เขาวิ่งออกไปและกลับมาหลังจากนั้นครู่หนึ่ง พร้อมกับนำใบเรียกเก็บเงินที่ยาวมากๆ มาด้วย 

 

 

อันซย่าได้ยินเสียงหัวใจร่ำร้อง เธอคาดหวังว่าจะได้ใบเรียกเก็บเงินพร้อมกับลอตเตอรี่แบบขูดเสี่ยงโชคมาสักใบ… 

 

 

นี่มันช่างสูญเปล่าจริงๆ … อาหารก็แพงขนาดนี้ แต่ไม่มีการ์ดขูดมาให้สักใบ… 

 

 

เมื่อเห็นใบเรียกเก็บ ใบหน้าของฉีฉีก็ซีดลงยิ่งกว่าเดิม 

 

 

นี่มันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าตบหน้าตัวเองเสียอีก! 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อปรายตามองใบหน้าเศร้าสร้อยของอันซย่าซย่าแล้วมุมปากของเขาก็บิดเบ้พูดอะไรไม่ออก จากนั้นเขาก็เรียกเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำ “ไปเถอะ กลับบ้านกัน” 

 

 

“อื้อ…” อันซย่าซย่ายังมีสีหน้าเจ็บปวดอยู่ แต่ก็เดินตามสตาร์รี่ไนต์ขึ้นรถตู้ไปภายใต้สายตาที่มองดูอย่างเงียบๆ ของคนอื่นๆ 

 

 

ทันทีที่ทั้งสี่คนกลับไป ทีมงานก็แตกฮือแล้วเสียงซุบซิบก็เริ่มแพร่สะพัดออกไป 

 

 

“พระเจ้าช่วย สตาร์รี่ไนต์ทำเงินได้มากมายขนาดไหนกันตลอดหลายปีมานี้น่ะ นั่นมันแบล็กการ์ดเชียวนะ!” 

 

 

“ฉันไม่คิดว่าดารานักร้องธรรมดาๆ จะมีได้นะ พวกเขาเป็นทายาทเศรษฐีหรือเปล่านะ” 

 

 

“แล้วนี่แม่ผู้จัดการของหลีฝานซิงนี่ก็ประสาท…เชอะ จะเป็นผลดีกับเธอกว่านี้นะถ้ารีบหาผู้จัดการใหม่” 

 

 

ฉีฉีกลับไปยังห้องแต่งตัวด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด 

 

 

ภายในห้อง หลีฝานซิงยิ้มรับหล่อน 

 

 

แต่ตัวฉีฉีเองกลับรู้สึกเสียววาบ 

 

 

การทักทายต่อมาที่ฉีฉีได้รับคือการตบฉาดเข้าที่ใบหน้า! 

 

 

น้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตาขณะที่ฉีฉีพึมพำ “ฝานซิง ฉันขอโทษ ทุกอย่างเป็นความผิดฉันเอง” 

 

 

ความโกรธเข้าครอบงำใบหน้าบอบบางน่ารักของหลีฝานซิง หล่อนควบคุมอารมณ์ให้สงบลงหลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง 

 

 

“อีกครั้งเดียว เธอจบเห่!” หลีฝานซิงยิ้มเ**้ยมเกรียม 

 

 

“จ้ะ” ฉีฉีผู้น้ำตาตกตอบทันที 

 

 

หลีฝานซิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไป 

 

 

[กัปตันอี่เจ๋อคะ นี่ฝานซิงนะ ฉันได้ยินว่าน้องสาวฉันอยู่โรงเรียนเดียวกับพี่ ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้นะ อีกหน่อยฉันก็จะไปเข้าเรียนที่ฉีซย่าเหมือนกัน หวังว่าพวกเราจะเข้ากันได้ดีนะคะ ^_^]