ตอนที่ 91

Taming Master

ทั้งสี่คนรวมถึงฮารินมองไปที่คฤหาสน์ที่สร้างขึ้นใหม่อย่างชุลมุน

มันกว้างขึ้นและหรูหราขึ้นเรื่อยๆไม่อาจเทียบได้กับอาคารกิลด์ระดับ ‘หมู่บ้าน’

เอียนเดินตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของ NPC อย่างละเอียดทุกที่ทั้งในคฤหาสน์และฟังก์ชั่นของมัน

และดูเหมือนว่ากระบวนการดังกล่าวน่าเบื่อเนื่องจากฟิโอลันและเฮิร์ซกล่าวว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นตรงกลางและหายไปที่ไหนสักแห่ง

เหลือเพียงฮารินและเอียนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในคฤหาสน์

และที่สุดท้ายที่ทั้งสองคนพบคือห้องครัวของคฤหาสน์

ห้องครัวในคฤหาสน์ยังว่างอยู่

มันเป็นเพราะว่าจินซุงที่เพิ่งได้เป็นลอร์ดยังไม่ได้แจกจ่ายทรัพยากรของกิลด์

ฮารินถามด้วยเสียงที่ตื่นเต้น

“ว้าวว ฉันสามารถใช้ที่นี่ได้จริงๆใช่ไหมเนี่ย?”

เอียนพยักหน้าพร้อมกับตอบ

“ใช่แล้ว ฉันตั้งใจปล่อยที่นี่ให้ว่างเอาไว้ก่อนเพื่อที่ฉันจะได้คุยกับเธอก่อน”

หากเอียนแจกจ่ายทรัพยากรของกิลด์เริ่มต้นจาก NPC มีหลายสิ่งที่มันถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีใครที่มีความสามารถในการทำอาหารมากไปกว่าฮาริน นอกจากการตั้งค่าอัตโนมัติแล้วเอียนก็คิดว่ามันน่าจะดีที่สุดถ้าเขามอบหน้าที่นี้ให้แก่เธอนั่น เขาจึงตัดสินใจใช้วิธีแบบนี้

สำหรับฮารินเช่นกันมันไม่มีที่อื่นในการเพิ่มความเชี่ยวชาญการทำอาหารไปกว่าห้องครัวของคฤหาสน์อีกแล้ว

“เยี่ยม! ฉันจะย้ายเครื่องมือและส่วนผสมของฉันมาไว้ที่นี่”

“เอาเลย ฉันจะโอนสิทธิการตั้งค่าห้องครัวของคฤหาสน์ให้เธอทีหลัง”

“โอเค! ตื่นเต้นจริงๆ!”

ฮารินแสดงออกถึงความสุขอย่างแท้จริง

เพราะว่าเหนือสิ่งอื่นใด เตาที่ใหญ่ขึ้นมันก็จะช่วยให้ได้ลองทำอาหารได้หลากหลายมากขึ้นไปอีก

ยิ่งเธอพยายามทำอาหารหลากหลายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างสูตรได้มากขึ้นและเป็นทางลัดในการเพิ่มระดับการทำอาหารของเธออย่างรวดเร็ว

ฮารินที่เข้าไปในครัวได้พูดกับเอียน

“รอฉันดูรอบๆให้ละเอียดหน่อยนะ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“แน่นอนตามสบายเลย”

เมื่อเอียนพยักหน้า ฮารินเดินไปรอบๆตั้งแต่ส่วนของครัวไปจนถึงโรงอาหาร

ขณะนั้นเอียนที่กำลังรอเธออยู่นั้นก็ใช้สกิลฝึกฝนที่เพิ่งหมดคูลดาวน์ไป

หลังจากนั้นไม่นานเอียนและฮารินที่ดูทั้งคฤหาสน์และดูห้องครัวเป็นห้องสุดท้ายก็ออกจากคฤหาสน์พร้อมกัน

ฮารินถามเอียนด้วยเสียงเบาๆ

“จินซุงตอนนี้นายจะทำอะไร? นายยังมีเควสต์เหลือที่นายต้องทำไหม?”

“ไม่แล้ว ฉันเสร็จเควสต์ของฉันทั้งหมดแล้วตอนนี้”

“ถ้างั้นการล่าล่ะ?”

เอียนส่ายหัว

“ไม่ล่ะ ฉันบอกกับฟิโอลันไปว่าฉันจะไปลงดันเจี้ยนสองคนกับเธอ”

“อ่อฉันเข้าใจแล้ว จริงๆแล้วฉันคิดว่าฉันจำได้ว่าได้ยินเธอพูดว่าเธอกำลังจะไปที่ดันเจี้ยนผู้เล่น 2 คนกับนายตอนที่นายกลับมาแล้ว”

ฟิโอลันและเฮิร์ซสั่งมา แต่ตอนนี้สมาชิกกิลด์ส่วนใหญ่ที่มีเลเวลมากกว่า 100 ได้เคลียร์ดันเจี้ยนผู้เล่น 2 คนหลุมศพของวีรชนแห่งฟอลันที่ถูกค้นพบใน ‘ลุ่มแม่น้ำฟอลัน’กันหมดแล้ว

และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขามีเวลาพวกเขาจะสร้างกลุ่ม 2 คนและไปที่ดันเจี้ยน

พวกเขาสามารถที่จะเคลียร์หลุมศพของวีรชนแห่งฟอลันได้ห้าครั้งต่อวันและได้สิ่งที่ดีที่สุดนอกจากไอเทมนั่นก็คือค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาล

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวันของผู้เล่นในทวีปทางเหนือ

อย่างไรก็ตามระดับความยากของดันเจี้ยนนั้นสูงมากจนยังไม่มีสมาชิกกิลด์ที่ได้รับระดับมากกว่าระดับ B แต่ฟิโอลันมุ่งมั่นที่จะทำสถิติใหม่เมื่อเอียนซึ่งมีพรวสรรค์ในด้านใน PVE กลับมา

“ใช่ ตามสิ่งที่ฉันได้ยินมาโครงสร้างการได้รับค่าประสบการณ์นั้นมีประโยชน์อย่างมากสำหรับซัมมอนเนอร์เช่นกัน มันไม่ใช่ว่าเราจะได้ค่าประสบการณ์จากมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน แต่มันเป็นวิธีที่เราจะได้ค่าประสบการณ์เป็นรางวัลในการเคลียร์ดันเจี้ยนแทน ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันจะไม่ต้องหารค่าประสบการณ์กับสัตว์เลี้ยงของฉัน ”

“ฉันเข้าใจแล้ว”

ฮารินที่วางแผนจะชวนเอียนออกไปรวบรวมวัตถุดิบก็ได้แสดงอาการบูดบึ้งเล็กน้อย

และในขณะที่เธอเปลี่ยนไปบูดบึ้งเมื่อเธอแสดงออกอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นไม่นานมาเอียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย

‘ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ทันทีล่ะ? นี่ฉันลืมบางสิ่งไปหรอ?’

เอียนคิดอย่างรอบคอบว่ามีส่วนผสมในการทำอาหารที่ฮารินได้ขอจากเขาซึ่งเขาลืมไปแล้วหรือไม่

นั่นเป็นเพราะว่าเขาได้ยินมาว่าเขาถูกด่าไม่หยุดเลยในตอนที่เขาเอาวัตถุดิบที่เธอต้องการมาไม่ครบ

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าไม่มีส่วนผสมชิ้นไหนที่เขาลืมเลย

‘ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ส่วนผสม แต่ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ฉันลืมไป’

และจากนั้นก็มีบางสิ่งที่จู่ๆก็ผ่านความทรงจำของเขา

‘ใช่! แหวนนั่นที่ฉันได้รับรางวัลการค้นพบป่าแห่งความรัก! ฉันลืมเกี่ยวกับมัน!’

เขาจดจำความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากป่าแห่งความรักทุกครั้งที่เห็นมันเมื่อใดก็ตามที่เขาเปิดคลังของเขา แต่เนื่องจากคุณสมบัติที่ดีเกินไปเขาไม่สามารถละทิ้งพวกมันได้

‘เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทำให้ค่าสถานะของอาชีพเพิ่มขึ้นเป็นตันเลยทีเดียว จึงเหมาะสำหรับฮาริน…’

เมื่อเขาได้รับแหวนเป็นครั้งแรกเนื่องจากชื่อแหวนแต่งงานที่หนักหน่วงเอียนสงสัยว่าเขาควรขอใครใส่มัน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีผู้เล่นเพศหญิงรอบๆเอียนซักเท่าไหร่ในตอนแรก ตัวเลือกจึงลดลงได้ทันทีและในที่สุดเขาก็นึกถึงฮาริน

เขารู้สึกว่าถ้าฮารินเป็นคนใจดีเธอก็จะฟังคำขอของเขาและเขาก็ลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าเขาจะถามเธอเมื่อเขาพบเธอ

‘เธอดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยตอนนี้… ฉันควรจะถามเธอดีไหม?”

จินซุงลังเลสักพักหนึ่งแต่ในที่สุดเขาก็พูด

“แต่ฮาริน ฉันมีเรื่องจะขอ”

ฮารินซึ่งกำลังคิดจะหาวิธีโน้มน้าวเอียนและทำให้เดทในทวีปทางเหนือสำเร็จนั้นก็ตกใจเพราะคำพูดฉับพลันของเขา

“หืมมม? ขออะไร?”

“รอแปปนึงนะ”

เอียนดึงแหวนแต่งงานของป่าจากคลังของเขา

เขาไม่ได้ลืมที่จะตรวจสอบว่ามันเป็นแหวนของเพศหญิง

“เอ่อ… เธอคิดว่าเธอสามารถสวมสิ่งนี้ได้ไหม?”

และฮารินที่เจอแหวนที่อยู่บนมือของเอียนในเวลาที่คาดไม่ถึงที่สุดก็รู้สึกสับสนมาก

‘อะไร อะไรเนี่ย?”

ฮารินมองไปที่สีหน้าของเอียนเพื่อตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเขาไม่แสดงการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ดูเหมือนว่าเขากำลังมองเห็นปฏิกิริยาของฮารินมากที่สุด

‘สถานการณ์แบบนี้มันคืออะไรกัน?’

จินซุงแสดงปฏิกิริยาที่ทำให้เธอถามว่ามันเป็นไปได้จริงๆหรอที่จะไม่รู้แม้กระทั่งเขาแสดงอาการรักต่อหน้าเธออย่างตรงๆ

ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์นี้ไม่สมจริงแบบสุดๆ และด้วยเหตุนี้หัวของฮารินจึงเริ่มสับสน

‘มันเป็นแค่ไอเทมไร้ประโยชน์ที่เขาจะให้ฉันเพราะเขาได้มันมางั้นหรอ? ฉันรู้สึกว่าฉันจะคิดมากเกินไป…’

เมื่อฮารินลังเลลังเล การแสดงออกของจินซุงก็บูดบึ้ง

“ถ้ามันรบกวนเธอเกินไปเธอไม่ต้อง…”

เมื่อจินซุงกำลังเอาแหวนกลับไป ฮารินรีบหยิบมันก่อนที่เธอจะตระหนัก

“มะ ไม่! หมายความว่ายังไงรบกวนเกินไป ใครพูดว่ามันเป็นอย่างงั้น”

ฮารินผู้หยิบแหวนอย่างกะทันหันเขาก็รู้สึกอึดอัด

‘อึก ฉันไม่ได้หยิบนี่เร็วไปใช่ไหม?’

และหลังจากตรวจสอบข้อมูลของแหวนที่เธอได้รับ ช่วยไม่ได้ที่ฮารินจะตกใจอีกครั้งหนึ่ง

‘อะไร อะไรวะเนี่ย? คุณสมบัติของมันดีโคตรๆเลย! ยิ่งไปกว่านั้นชื่อของมันมีชื่อว่าแหวนแต่งงาน? อีกอย่างหนึ่ง… แหวนคู่รัก?’

ฮารินมีเจตนาที่ผิดเพี้ยนเล็กน้อย (?) ต่อจินซุง

เพื่อตรวจสอบอีกครั้งฮารินถามเขาอย่างระมัดระวัง

“นี่… นายก็มีเหมือนกันใช่ไหม?”

และจินซุงก็ไม่ปล่อยเธอไว้และดึงแหวนออกมา

“ใช่ ของฉันอยู่นี่”

ในขณะที่เธอยืนยันว่าพวกเขาเป็นวงแหวนคู่รักแก้มสีแดงทั้งสองของฮารินก็แดงยิ่งกว่าเดิม

“ขอบ…คุณนะ ฉันจะสวมมันอย่างดี”

ด้วยหัวใจที่กระชุ่มกระชวย ฮารินสวมแหวนบนนิ้วของเธอ

และด้วยความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย (?) หัวใจของเอียนก็สั่นไหวเช่นกัน

‘คิ ในที่สุดฉันก็สามารถจัดการแหวนเลเวล 50 ของฉันได้แล้ว!”

เมื่อเอียนสวมแหวนบนนิ้วของเอียนด้วยข้อความของระบบก็โผล่ขึ้นมาสำหรับคนทั้งสองในเวลาเดียวกัน

ข้อกำหนดของ ‘แหวนแต่งงานแห่งป่า’ ตรงตามข้อกำหนด จะได้รับพรจากเอลมอล์ฟ ค่าสถานะต่อสู้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 20% ค่าสถานะอาชีพทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 30% เวลาคูลดาวน์สกิลทั้งหมดจะลดลง 1 วินาที (ไม่มีผลกับสกิลที่มีเวลาคูลดาวน์น้อยกว่า 1 วินาที) จากนี้ไปท่านสามารถอัญเชิญคู่รักของท่านได้ด้วยความสามารถของเอลมอลฟ์ วันละหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคน

หลังจากตรวจสอบค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นของเขาแล้วรอยยิ้มของจินซุงก็ฉีกถึงรูหูและเขาก็รู้สึกแปลกๆเช่นกัน

‘เนื่องจากฉันใส่มันเหมือนแหวนคู่กับฮารินมันก็รู้สึกเหมือนฉันมีแฟน’

มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่แย่อะไร

ในขณะเดียวกันฮารินที่ดูจินซุงยิ้มก็มีความคิดคล้ายๆกัน แต่แตกต่างจากจินซุงเล็กน้อย

‘นี่ฉันมีปัญหาเรื่องหัวใจไปเองงั้นหรอเนี่ย? ฉันคิดว่าเขาไม่สนใจฉันซะอีก…’

ความเข้าใจผิดเล็กน้อยทำให้ริมฝีปากสวยๆของเธอเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม

 

* * *

 

เอียนได้แยกกับฮารินแล้วก็ได้มุ่งหน้าไปยังลุ่มแม่น้ำฟอลันกับฟิโอลันเพื่อไปที่ดันเจี้ยน

“เอียนก่อนอื่นมันอาจจะยากที่จะเคลียร์รอบแรกดังนั้นเป้าหมายของนายคือพยายามทำความคุ้นเคยให้มากที่สุด”

“โอเค… เข้าใจแล้ว”

“นี่นายดูวิดีโอดันเจี้ยนจับเวลาก่อนจะมาแล้วใช่ไหม?”

เอียนพยักหน้า

“ใช่ ฉันดูมันหนึ่งหรือสองครั้งก่อนมาแล้ว”

“โอเค ถ้างั้นมันก็ง่ายต่อการอธิบายหน่อย”

ฟิโอลันที่มาถึงที่ทางเข้าของดันเจี้ยนสักพัก เริ่มจะอธิบาย

“อย่างแรกจุดสำคัญของช่วงแรกคือการเอาชนะมันอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนที่เราได้รับค่าประสบการณ์มากขึ้นจากมอนสเตอร์ที่เราฆ่าได้ดังนั้นเราต้องเอาชนะมันให้เร็วที่สุดและวิ่งไปที่ ‘แท่นบูชาวีรชน’ ที่อยู่ตรงกลาง”

มันเป็นเนื้อหาที่เอียนเริ่มรู้อย่างดีจากการดูจากบอร์ดพูดคุย แต่เขาตั้งใจฟังคำพูดของเธอเพื่อจัดระเบียบความคิดของเขาใหม่

“และเมื่อช่วงที่สองเริ่มต้นขึ้นคลื่นมอนสเตอร์จากทั้งหมดห้าที่จะหลั่งไหลเข้ามา หากแท่นบูชาฮีโร่ถูกทำลายก็จะถูกเตะออกจากดันเจี้ยน ดังนั้นการป้องกันแท่นบูชาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

“ช่วงนี้จะจบลงก็ต่อเมื่อฆ่ามอนสเตอร์ประมาณ200ตัวแล้วสินะ?”

เมื่อเอียนถาม ฟิโอลันพยักหน้า

“ถูกต้อง และเมื่อคลื่นของมอนสเตอร์สิ้นสุดลงบอสขนาดกลาง 3 ตัวที่เรียกว่า ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ จะปรากฏขึ้น พลังโจมตีที่ของมันนั้นไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่ตัวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสามตัวนั้นมีสกิล AoE ที่ทำให้นายตกตะลึงได้ดังนั้นนายต้องระวังให้ดี ถ้าหากนายบังเอิญโดนสกิลสตั้นเข้านายจะไม่มีทางรอด”

“โอเคเข้าใจแล้ว”

“สุดท้าย ‘ยักษ์แห่งฟอลัน’ ซึ่งเป็นบอสตัวสุดท้ายจะปรากฏขึ้นและความพิเศษของมันคือระดับภูมิคุ้มกันต่อสภาพสถานะนั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อและการโจมตีครั้งเดียวของมันก็มหาศาลแล้ว ในทางกลับกันการเคลื่อนไหวของมันช้าอย่างมากดังนั้นฉันคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือฉันจะทำความเสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้านายล่อมันเอาไว้ได้”

“โอเค”

“รูปแบบการโจมตีของมอนสเตอร์ที่นายต้องระวังให้มากที่สุดก็คือตอนที่มันยืนอยู่กับที่และเริ่มรวบรวมพลังงานสีน้ำเงินในแต่ละมือ”

เอียนพยักหน้า

มันเป็นสกิลที่เขาเคยเห็นในวิดีโอ

“เธอกำลังพูดถึงสกิลปืนใหญ่เหมือนน้ำขนาดมหึมาใช่มั้ย?”

“ใช่นั่นแหละ ครั้งที่แล้วเฮิร์ซป้องกันมันไม่ได้ทั้งหมดและเราถูกเตะออกหลังจากเขาได้รับการโจมตีสามครั้ง ความเร็วของมันก็เร็วมากดังนั้นจึงไม่ง่ายที่จะหลีกเลี่ยงหรือป้องกันตามที่คาดไว้”

อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำเตือนของเธอเอียนก็แสยะยิ้ม

มันเป็นเพราะว่าเขาวางแผนบางอย่างได้ในทันทีเมื่อเขาเห็นสกิลนั้นในวิดีโอ

“โอเค ถ้างั้นจบการอธิบายหรือยัง?”

ฟิโอลันยังคงแสดงอาการที่คลุมเครือ แต่เธอพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

“ก็สำหรับตอนนี้อ่ะนะ?”

“ถ้างั้นไปกันเถอะ เวลาจำกัดคือ 50 นาทีแล้วเราต้องเคลียร์ดันเจี้ยนภายในกี่นาทีเพื่อให้ได้ระดับ S นะ?”

ในขณะที่มองเอียนซึ่งกำลังคิดที่จะเคลียร์ระดับ S ก่อนที่จะเข้ามาฟิโอลันก็ยิ้ม

“ระดับ S หรอ? ไม่มีแม้แต่ปาร์ตี้เดียวที่ประสบความสำเร็จในการได้ระดับ S การเคลียร์ให้ได้ระดับSนั้นจะต้องเคลียร์ให้ได้ภายใน25นาที ซึ่งเป็นเวลาประมาณครึ่งหนึ่งของเวลาทั้งหมด นายดูได้ที่โฮมเพจหลักของหอเกียรติยศแต่ก็ยังไม่มีปาร์ตี้ไหนที่ทำสำเร็จในการเคลียร์ระดับ A เลยฉันคิดว่าจะต้องใช้เวลา 35 นาทีเพื่อให้ได้ระดับ A?”

ตามคำอธิบายของฟิโอลัน เอียนก็แสดงสีหน้าแปลก ๆ

“ห้ะ…? มันยากหรอ? จากสิ่งที่ฉันเห็นในวิดีโอดูเหมือนว่ามันไม่ยากเลย… พวกระดับสูงทำอะไรกันอยู่?”

เอียนคิดว่าถ้าเป็นดันเจี้ยนที่ผู้เล่นเลเวล 100 ต้นๆสามารถเข้ามาและเคลียร์ได้ผู้เล่นในการจัดอันดับจะสามารถเคลียร์ระดับ S ได้อย่างแน่นอน

ฟิโอลันเพิ่มคำอธิบายอย่างละเอียด

“นั่น…หนึ่งในสาเหตุเป็นเพราะระดับความยากอยู่ในระดับสูง แต่ก็เป็นเพราะผู้เล่นระดับสูงเข้ามาที่นี่ไม่ได้เช่นกัน จะไม่สามารถเข้าดันเจี้ยนได้ถ้าเลเวลมากกว่า120 ”

“อ่า เพราะงั้นนี่เอง…”

“ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด50อันดับแรกนั้นมีเลเวลมากกว่า120กันหมด ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะเข้ามาลองดันเจี้ยนนี้ได้”

เอียนที่ในที่สุดก็เข้าใจทั้งหมดซักทีก็พยักหน้า

“เยี่ยม ถ้างั้นพวกเราเข้ากันไปเลยไหม?”

“โอเค นายเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วใช่มั้ย?”

“ใช่แล้ว”

ฟิโอลันยิ้มออกมา

“ลองมาคิดดู นี่เป็นครั้งแรกที่นายเข้าร่วมการล่าเป็นปาร์ตี้ตั้งแต่รีเซ็ตตัวละครของนายเลยใช่ไหม”

“ก็คงงั้นแหละ”

“ฉันสามารถคาดหวังกับซัมมอนเนอร์ได้ใช่มั้ยเนี่ย?”

เอียนพยักหน้าอย่างมั่นใจ

เขาแข็งแกร่งมากจนไม่มีใครเทียบได้ก่อนที่จะรีเซ็ต

“แน่นอน”

และเมื่อฟิโอลันที่เป็นหัวหน้าปาร์ตี้วางมือบนคริสตัลหน้าดันเจี้ยน ข้อความระบบสั้นๆโผล่ขึ้นต่อหน้าทั้งสองคน

ท่านได้เข้ามาสู่ ‘หลุมศพของวีรชนแห่งฟอลัน’