ตอนที่ 93

Taming Master

‘ตอนนี้คงได้แต่คิดว่าฉันจะใช้สกิลอะไรได้มากกว่า’

เอียนเลิกคิดถึงเรื่องสกิลของพินไปก่อน และมองไปที่ไลกับฮัลลิที่กำลังทำหน้าที่ของตนอย่างขันแข็ง

Grrr- Grr-!

ไลนั้นทำหน้าที่ล่ากับเอียนมาโดยตลอดมันจึงลากมอนสเตอร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ ขณะที่ฮัลลิก็เรียนรู้จากการดูไลและทำหน้าที่ของตนได้ดีเหมือนกัน

ขณะที่มองไปยังเอียนที่กำลังล่อมอนสเตอร์จากทั้งสามทิศอยู่ ฟิโอลันก็ตะโกนขึ้นมา

“เอียนเร็วเข้า! ม่านน้ำแข็งจะแตกแล้ว!”

ตรวบใดที่แท่นบูชายังมีพลังชีวิตเหลืออยู่มันก็ยังถือว่าโอคแม้ม่านน้ำแข็งจะแตกไป แต่ว่าพวกเขาล่อมอนสเตอร์จำนวนที่มากเกินไปมันอาจจะทำให้แท่นบูชาแตกเป็นเสี่ยงๆได้ถ้าหากผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

‘..พวกเราจัดการได้มากกว่าที่คิดเอาไว้’

มันค่อนข้างน่ากังวล เอียนตรวจเวลาคูลดาวน์ของหลุมอเวจีอีกครั้ง

‘3 2 1 ตอนนี้แหละ!’

“ดุ๊กเด หลุมอเวจี!”

หลุมอเวจีของดุ๊ดเดที่เพิ่งหมดคูลดาวน์ก็ใช้ออกมาในทันที

เพราะว่ามันไม่ใช่ช่องหุบเขาแบบครั้งก่อน ดุ๊กเดจึงไม่สามารถตรึงมอนสเตอร์ทั้งหมดได้

มือทั้งสองของเอียนเริ่มขยับอย่างไม่หยุดพัก

เขากำลังยิงCurrent Proliferationออกไปใส่มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่องและทำให้พวกมันติดสถานะเหน็บชาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

Za-Zap- Za-Za-Zap-!

และเขาก็ไม่ลืมที่จะออกสั่งสัตว์เลี้ยงของตน

“ไล ฮัลลิ! พวกแกฆ่ามอนสเตอร์ที่อยู่ไกลที่สุดด้วยการกัดที่คอของมัน!”

Grr- Grr-!

สัตว์เลี้ยงทั้งสองเมื่อได้ยินคำพูดของเอียนก็รีบพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์ตรงหน้าทันทีและเอียนก็ยิงCurrent Proliferationออกมาอย่างไม่หยุดพัก

แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะคอยหล่อเลี้ยงค่าเวทอัญเชิญของเขาไม่ให้หมดไป

เรคก็สู้ได้ดีโดยที่ไม่มีเอียนคอยสั่ง

สัตว์เลี้ยง ‘เรค’ ได้ใช้งานความสามารถแฝง ‘พ่นไฟลาวา’

มอนสเตอร์ที่ถูกตรึงเอาไว้ก็ถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็วด้วยลมหายใจลาวาของเรค Current Proliferationของเอียน และเวทAoEธาตุน้ำแข็งของฟิโอลัน

แม้หลังจากผลของหลุมอเวจีของดุ๊กเดหมดลง ด้วยผลทับซ้อนเหน็บชาของCurrent Proliferationของเอียนและผลแช่แข็งเพิ่มเติมของเวทน้ำแข็งของฟิโอลัน พวกมันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโดนตรึงเอาไว้อยู่กับที่

เมื่อเป้นเช่นนั้นจึงทำให้ฟิโอลันร่ายเวทAoEได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นมากกว่าตอนที่เฮิร์ซคอยป้องกันให้

Bang- Ba-Ba-Bang-!

และหลังจากผ่านไป10นาทีตั้งแต่ที่เริ่มช่วงที่สอง ข้อความระบบก็แจ้งว่าช่วงนี้ได้จบลงแล้ว

ท่านป้องกัน ‘แท่นบูชาวีรชนแห่งฟอลัน’ สำเร็จ

เมื่อข้อความระบบแจ้งเตือนขึ้นมา ทั้งฟิโอลันและเอียนก็มองไปที่เวลาที่ทำได้

00:13:24

ในช่วงที่สองจบลงด้วยเวลาที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ฟิโอลันถึงกับอึ้ง

‘พวกเราทำเวลาได้เร็วกว่าเดิมเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันเข้ามากับเฮิร์ซ!’

มันเป็นเพราะว่าเอียนใช้วิธีการที่ไม่เหมือนใครแต่มันก็เป็นเพราะว่าเฮิร์ซมีความเสียหายที่น้อยมากเมื่อเทียบกับเอียนเช่นกัน ซึ่งมันก็เป็นเอกลักษณ์ของอาชีพ อัศวิน

ฟิโอลันพูดให้กำลังใจตัวเอง

‘พวกเราอาจจะได้ระดับสูงกว่าBตั้งแต่ครั้งแรกก็ได้’

ถ้าหากด้วยความเร็วเท่านี้ละก็ ระดับSก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ทำให้ความเร็วนี้มีความเป็นไปได้เพราะว่าสกิลของทั้งสองนั้นเน้นไปที่การโจมตีแบบAoE และเริ่มที่ช่วงที่สามที่มันจะเริ่มมีอะไรที่แตกต่าง มันแทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรักษาความเร็วนี้เอาไว้

และไม่นานนัก ช่วงที่สามของดันเจี้ยนก็เริ่มขึ้น

‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ ได้ตื่นจากการหลับไหล

Fiolan urgently spoke .

ฟิโอลันรีบพูดออกมา

“The biggest one among the three is the one that uses the stun skill! It will probably be the one in the middle . ”

“ตัวที่ใหญ่ที่สุดในสามตัวเป็นตัวที่ใช้สกิลสตั้น! มันเป็นตัวตรงกลาง”

“Is there nothing to be cautious of for the other two?”

“แล้วอีกสองตัวที่เหลือไม่มีอะไรน่ากลัวงั้นหรอ?”

ฟิโอลันตอบกลับ

“ตัวที่อยู่ทางซ้ายถือกระบองเหล็กใช้สกิลคลื่นกระแทก แต่เวลาที่จะใช้งานได้นั้นถือว่าไม่เร็วเท่าไหร่สามารถหลบได้สบายๆ ถึงอย่างนั้นถ้าหลบไม่ได้จะโดนผลสโลว์และก็อาจจะโดนสตั้นได้ นายระวังเอาไว้ด้วย”

“แล้วตัวทางขวาหล่ะ?”

“ตัวที่อยู่ทางขวาถือขวานเป็นมอนสเตอร์ที่มีความเสียหายสูงมาก แต่ฉันจำได้ว่าค่าพลังชีวิตของมันต่ำที่สุด”

เอียนพอเข้าใจแล้วก็พยักหน้า

‘ตัวที่อันตรายที่สุดตอนที่ฉันดูวิดีโอดูเหมือนจะเป็นตัวตรงกลาง ฉันจะต้องตรึงมันเอาไว้ด้วยสกิลสตั้นของฮัลลิให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้…’

ความสามารถแฝงของฮัลลิ ‘ตะปบ’ มันจะมีโอกาส10%ที่จะทำให้อีกฝ่ายสตั้นได้ด้วยการโจมตีปกติ

และถ้าเขาใช้สกิล ‘ผู้พิทักษ์แห่งลม’ และเพิ่มค่าความว่องไวให้สูงที่สุด ความเร็วโจมตีของฮัลลิก็น่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว

ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถที่จะสตั้นมันได้อย่างต่อเนื่องจนทำให้ยักษ์แทบขยับไม่ได้

นั่นเป็นสิ่งที่เอียนเล็งเอาไว้

ถ้าเขาสามารถทำให้ยักษ์ติดสตั้นได้ต่อเนื่องไม่ว่าสกิลมันจะอันตรายขนาดไหน มันก็ไม่น่ากลัวถ้ามันไม่สามารถใช้ออกมาได้

ถึงกระนั้นเขาใช้สกิลผู้พิทักษ์แห่งลมไปตอนช่วงแรกแล้ว เขาจะต้องรออีก6-7นาทีเพื่อที่จะใช้อีกครั้ง

‘ในเมื่อบอสตัวสุดท้ายมันมีความต้านทานค่าสถานะสูงอยู่แล้ว ฉันจะใช้สกิลผู้พิทักษ์แห่งลมในช่วงนี้แหละ’

ขณะที่มองไปยังพวกยักษ์ที่กำลังเดินเข้ามาด้วยเสียงเดินที่ดังสนั่น เอียนถามฟิโอลัน

“ฟิโอลันตัวตรงกลางมันใช้สกิลสตั้นตั้งแต่เริ่มเลยมั้ย?”

ฟิโอลันที่เข้าใจความหมายของเอียนดีก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“ไม่ได้ใช้ตั้งแต่เริ่ม ฉันคิดว่ามันจะใช้สกิลสตั้นตอนที่พลังชีวิตมันลดต่ำกว่าครึ่งแล้ว นั่นจึงทำให้พวกเราจะฆ่ามันเป็นตัวสุดท้ายเสมอเมื่อเข้าดันเจี้ยนนี้”

“เข้าใจละ งั้นก็เริ่มจากตัวขวาก่อน”

“ได้เลย!”

เอียนวาดภาพเอาไว้ในหัวของเขา

‘พวกเราจะจัดการตัวขวาให้เร็วที่สุดจากนั้นเราก็จะโจมตีตัวกลางจนกว่าคูลดาวน์ของความสามารถแฝงของฮัลลิจะหมดลง’

ตัวที่อยู่ทางซ้ายเป็นตัวที่เอียนคิดว่าอันตรายน้อยที่สุด

แม้สถานะสโลว์จะค่อนข้างอันตราย  แต่ถ้าเวลาในการเรียกใช้มันช้ามันเราก็สามารถหลบมันได้อยู่แล้ว

ไม่ใช่แค่เอียนแต่ฟิโอลันที่ใช้ความสามารถในการควบคุมได้ดีก็มั่นใจว่าไม่มีทางโดนโจมตีโดยสกิลแบบนั้นแน่นอน

มันคงจะน่ารำคาญถ้าสกิลคลื่นกระแทกยังคงบินไปมาเรื่อยๆขณะที่มอนสเตอร์ตัวตรงกลางเริ่มที่จะใช้สกิลสตั้น แต่เอียนก็วางแผนที่จะป้องกันเรื่องอันตรายแบบนั้นด้วยการใช้ผลสตั้นของฮัลลิต่อเนื่อง

ถ้าหากเขาฆ่าตัวตรงกลางได้ภายในระยะเวลาสองนาทีที่ฮัลลิใช้สกิล ‘ผู้พิทักษ์แห่งลม’ และจากนั้นก็จะโจมตีตัวซ้ายเป็นตัวสุดท้าย ทุกอย่างก็จะจบลงอย่างสวยงาม

เอียนที่วางแผนเรียบร้อยแล้วก็เรียกดุ๊กเดให้มายินด้านหน้าและเริ่มที่จะเดินเข้าหายักษ์แห่งความเกลียดชังที่อยู่ด้านขวา

“ทุกคน โจมตีแค่ตัวนั้นตัวเดียว!”

เพราะว่าเวลาคูลดาวน์ของความสามารถแฝงสัตว์เลี้ยงมันไม่หมดลง พวกเขาจำเป็นต้องโจมตีด้วยการโจมตีปกติไปก่อน และเอียนก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูพร้อมกับควบคุมการเคลื่อนไหวสัตว์เลี้ยงของตน

‘ฉันจะเก็บสกิลกระหายเลือดของไลเอาไว้ก่อน’

เขาวางแผนที่จะใช้สกิลกระหายเลือดเมื่อเวลาคูลดาวน์ผู้พิทักษ์แห่งลมของฮัลลิหมดลง

ทันใดนั้น ฟิโอลันตะโกนออกมา

“เอียนซื้อเวลาให้ฉันหน่อย!”

เอียนเข้าใจว่าฟิโอลันวางแผนที่จะร่ายสกิลโจมตีเวทระดับสูง เขาจึงรีบสั่งฮัลลิ

“ฮัลลิ ล่อสองตัวนั้นเอาไว้!”

Roar-!

แม้ว่าความเสียหายส่วนของฮัลลิจะหายไป แต่ความเสียหายที่ฟิโอลันจะสามารถทำได้จากการโจมตีเวทของเธอก็ย่อมมากกว่า นั่นจึงทำให้เอียนไม่ลังเลที่จะออกคำสั่ง

และฮัลลิก็รีบพุ่งตัวเองออกไป เอียนยิงบอลเวทออกมาใส่ยักษ์ตัวทางขวา

“ทางนี้โว้ยย!”

ต่อด้วยการที่เอียนใช้สกิล ‘ตรวจจับจุดอ่อน’

“ฟิโอลันเธอจำสกิลนี้ได้ใช่มั้ย?”

เมื่อเอียนถาม ฟิโอลันก็ยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

“แน่นอน นี่เป็นสกิลทำมาหากินของนายก่อนที่จะรีเซ็ต ฉันว่านายคงได้มาด้วยวิธีการบางอย่างมาละสินะ?”

“ก็นะ”

ฟิโอลันเริ่มร่ายสกิลเวทของใส่จุดอ่อนของยักษ์ที่ไฮไลต์ด้วยสกิลตรวจจับจุดอ่อนของเอียน

และการเคลื่อนที่ที่ช้าของยักษ์ทั้งสามจึงทำให้เขาสามารถใช้สกิลCurrent Proliferationได้

Za-Zap- Za-Za-Zap-!

เมื่อยักษ์ทั้งสามอยู่ในระยะที่ใกล้พอแล้ว ดุ๊กเดก็ใช้สกิลหลุมอเวจีอีกครั้ง

“ดุ๊กเด ตอนนี้แหละ!”

Whoong-!

ดุ๊กเดสามารถตรึงยักษ์ทั้งสามเอาไว้ได้ในระยะของหลุมอเวจีแต่เมื่อพวกมันเป็นระดับบอสที่มีขนาดใหญ่และร่างที่หนัก ผลของมันจึงไม่ได้ดีเท่าตอนที่ใช้กับมอนสเตอร์ทั่วไป

อย่างไรก็ตามเพราะว่าพวกมันเข้ามาในระยะที่คาดเอาไว้แล้ว เอียนจึงไม่ได้สับสนแต่อย่างใด

‘ในเมื่อฉันจะต้องซื้อเวลาให้ฟิโอลันร่ายสกิลของเธอ’

และเหมือนกับที่เอียนคาดการณ์เอาไว้ หลุมอเวจีของดุ๊กเดก็ซื้อเวลาได้เยอะทีเดียว

“ฮ่า!”

พร้อมกับเสียงตะโกนสั้นๆ น้ำแข็งทรงกลมขนาดใหญ่ก็ถูกปล่อยออกมาจากคฑาของฟิโอลัน

“พายุน้ำแข็ง!”

Bang- Ba-Ba-Ba-Bang-!

ทิศทางของมันนั้นตรงไปที่จุดอ่อนของยักษ์

‘ตอนนี้แหละ!’

ไม่มีทางที่เอียนจะไม่จัดการกับยักษ์ต่อหลังจากที่มันได้รับความเสียหายจากฟิโอลัน

Whoong-

บอลเวทสีฟ้าถูกปล่อยออกมาจากคฑาของเอียนมุ่งหน้าไปยังจุดอ่อนของยักษ์อย่างต่อเนื่อง

Pung- Pu-pung!

บอลเวทโจมตีโดนเป้าหมาย ทำความเสียหาย 4973 หน่วยให้แก่ ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง (3)’ เนื่องจากโจมตีศัตรูสำเร็จ ได้รับการฟื้นฟูเวทจิตวิญญาณ 5 หน่วย

ฟิโอลันโจมตียักษ์ด้วยเวทระดับสูงอันแสนจะแข็งแกร่งของเธอสำเร็จ ก็ยิงเวทระดับต่ำที่ไม่มีระยะเวลาร่ายอย่างต่อเนื่องใส่ยักษ์

Swaaeek-!

และเมื่อทั้งคู่โจมตีต่อเนื่องได้อย่างไร้ที่ติ พลังชีวิตของยักษ์ก็หายไปในทันที

Thud-!

ร่างใหญ่ของยักษ์ก็ได้อันตรธานหายไป ทั้งสองก็รีบเปลี่ยนเป้าหมายทันที

ฟิโอลันวิ่งไปที่ตัวซ้ายสุดก่อนและพยายามที่จะโจมตีมันเหมือนอย่างทุกทีที่เธอทำ

ถึงกระนั้น เอียนก็หยุดเธอ

“ฟิโอลัน! ตัวใหญ่ก่อน!”

“หา?”

ฟิโอลันตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็คิดว่าเอียนน่าจะมีแผนบางอย่างจึงทำตามเขาโดยไม่มีคำถามใด

เอียนตรวจสอบเวลาคูลดาวน์สกิลของฮัลลิ

‘เยี่ยม อีกสองนาทีและเวลาคูลดาวน์ของผู้พิทักษ์แห่งลมก็จะหมดลง!’

เอียนและฟิโอลันค่อยๆตอดเลือดยักษ์ตัวกลางทีละเล็กทีละน้อยเหมือนกับที่พวกเขาทำกับตัวขวา

เมื่อเวลาผ่านไป การควบคุมของทั้งสองก็ถูกลับคมมากยิ่งขึ้น

‘เอาละ เวลาคูลดาวน์หมดแล้ว…’

ยักษ์ยังเหลือพลังชีวิตมากกว่าครึ่ง

ถ้าหากเป็นเช่นนั้นการใช้สกิลในตอนนี้มันก็จะไม่มีประสิทธิภาพ

‘อีกนิดเดียวมันก็จะถึงเวลาที่จะใช้สกิลแล้ว เมื่อฉันเห็นมันเริ่มใช้สกิลสตั้นฉันก็ควรจะใช้สกิลผู้พิทักษ์แห่งลม’

และอย่างที่เอียนคาดเอาไว้ ยักษืตัวหนึ่งเริ่มที่จะมีแสงสีแดงขึ้น

“ฮัลลิ ผู้พิทักษ์แห่งลม!”

หลังจากนั้นทุกอย่างก็ผ่านไปราบลื่นอย่างที่เอียนวางแผนเอาไว้

ก็ไม่เชิงแบบนั้นเสียทีเดียว สตั้นของฮัลลิถูกใช้งานออกมาอย่างต่อเนื่องพวกเขาจัดการกับยนักษ์ได้ง่ายดายโดยที่มันไม่อาจทำอะไรได้เลย

Puck- Pu-puck-!

ความสามารถแฝง ‘ตะปบ’ ของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ถูกใช้งาน ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ ติดสถานะสตั้นเป็นเวลา1วินาที

 

ในที่สุดยักษ์ตัวที่สองก็ตายลง พวกเขาก็จัดการกับตัวสุดท้ายอย่างง่ายดาย

เพราะว่านอกจากที่พวกเขาใช้สกิลแล้ว รุปแบบการโจมตีของมันก็คล้ายกับอีกสองตัว

“โอเค!”

ฟิโอลันที่จัดการกับยักษ์ตัวสุดท้ายก็กำหมัดแน่น

หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็ตรวจสอบข้อความระบบที่แจ้ว่าพวกเขาได้ทำช่วงที่สามสำเร็จแล้ว

ท่านได้สังหารยักษ์แห่งความเกลียดชังหมดแล้ว

ผ่านไปประมาณ23นาทีเท่านั้น

ฟิโอลันหัวเราะแห้งออกมาเมื่อดูมัน

“ว้าว แม้ว่าเราจะทำกันขนาดนี้ก็ใช้เวลาตั้ง23นาที พวกเขาคาดหวังให้เราใช้เวลาเท่าไหร่ในการเคลียร์ระดับSกันเนี่ย?”

พวกเขาต้องฆ่าบอสด้วยเวลาที่เหลือเพียงสองนาทีเพื่อที่จะเคลียร์ให้ได้ระดับS

เธอบอกว่าเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้

เมื่อฟิโอลันบ่นออกมา เอียนก็ยิ้มและตอบ

“ฉันคิดว่าพวกเราสามารถทำให้มันจบลงได้เร็วกว่านี้”

“ห้ะ? จริงหรอ?”

เอียนพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร

อีกไม่นานแท่นบูชาวีรชนก็เริ่มที่จะแตกออกไปในอากาศและบอสดันเจี้ยน ‘ยักษ์แห่งฟอลัน’ ก็จะออกมา

ทั้งสองสูดหายใจเข้าพร้อมกับจ้องไปที่ ‘แท่นบูชาวีรชน’

“มันจะจบแล้ว เราคงต้องจริงจังกันอีกหน่อย”

“แน่นอน แม้ว่าเราจะไม่ได้ระดับS เราก็ยังได้ระดับAใช่มั้ย?”

“แน่นอน!”

เมื่อการพูดคุยสั้นๆของทั้งสองจบลง ข้อความระบบก็แจ้งขึ้นมาราวกับมันกำลังรออยู่

วีรชนแห่งฟอลันได้ตื่นขึ้นแล้ว