บทที่ 4 ภารกิจสร้างเผ่า

ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์

บทที่ 4 ภารกิจสร้างเผ่า

 

“หัวหน้าเผ่า!”

 

ทุกคนมองไปที่ มู่เฟิง และรอให้เขาพูด

 

“ข้า” มู่เฟิง อยากจะพูดแต่ก็หยุดมองชายชราเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายชราส่ายหัว

 

“ข้าบอกไปแล้วว่าตอนนี้เจ้านั้นคือหัวหน้าเผ่า!”

 

“ข้า?” มู่เฟิง รู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาเพิ่งเข้ามายังโลกนี้และจะต้องรับภาระอันหนักอึ้งเพื่อกอบกู้สถานการณ์อีกนั้นหรือ?

 

ในตอนนั้นเองระบบก็แจ้งเตือนอีกครั้งในหัวของเขา

 

ภารกิจที่ 1: ช่วยให้เผ่าผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบากและประสบความสําเร็จได้รับคะแนน 300 คะแนน

 

ภารกิจที่ 2: แก้ปัญหาการอยู่รอดของชนเผ่า ได้รับคะแนน 500 คะแนน

 

ภารกิจที่ 3: สร้างขวัญและกําลังใจของเผ่า ได้รับคะแนน 200 คะแนน

 

“เฮ้อ ไม่มีทางเลือกอื่น ภารกิจของระบบได้แสดงออกมาแล้ว!” มู่เฟิงเกาหัวอย่างจนปัญญา เขาทําได้เพียงรับภารกิจเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าเผ่า เขาไม่อยากเป็นผู้บัญชาการที่เผด็จการ

 

เขาครุ่นคิดถึงวิกฤตที่เผ่ากําลังเผชิญหน้าอยู่ เพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกปล้นไป พวกเขาถูกปล้นสะดมความสูญเสียหนักหนาสาหัสและผู้คนหวาดกลัว สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือแม้ว่าพวกนักล่าจะไปแล้วแต่ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมาอีก

 

ดังนั้นสิ่งที่ มู่เฟิง ต้องแก้ไขคือ สร้างขวัญและกําลังใจในปัญหาด้านความปลอดภัย

 

มู่เฟิง รู้ทันทีว่าจะต้องทําอย่างไร เขาค้นหาในความทรงจําอย่างละเอียดและเดินไปหาหลี่หูก่อนจะพูดว่า

 

“รวบรวมชายหนุ่มในเผ่าข้ามีเรื่องจะพูด นอกจากนี้รวบรวมมีดกระดูกทั้งหมดในเผ่า!”

 

“ขอรับ หัวหน้าเผ่า!” หลี่หูถอยหลังออกไปอย่างนอบน้อม หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พาชายหนุ่มกว่า 50 คนมาถึงหน้ากระท่อมมุงจาก บนพื้นมีมีดกระดูกมากกว่า 30 เล่มวางอยู่หนัง

 

“นี่” มู่เฟิง อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา “ นี่มันช่างอ่อนแอกว่าที่คิด ดูเหมือนว่ามีงานจะต้องทําอีกมากมาย!”

 

คนที่เดินตามหลังหลี่หูเป็นชายฉกรรจ์ที่มีหนวดและสูงกว่าเขาแข็งแกร่งกว่า ใบหน้าของเขาคมกริบ คิ้วหนาตาโตดวงตาเด็ดเดี่ยวดูแล้วเหมือนคนที่ซื่อสัตย์และกล้าหาญ

 

มู่เฟิง เพิ่งรู้ว่าเขาชื่อหมิงกวง เขาเป็นหัวหน้าหน่วยล่าสัตว์ของเผ่า

 

“หัวหน้าเผ่า!” หมิงกวงกําลังจะทําความเคารพ มู่เฟิง โบกมือเป็นสัญญาณว่าเขาไม่จําเป็นต้องทําเช่นนั้น เขามองไปยังผู้คนด้านหลัง 50 คนที่เดินตามหลังมา

 

“ความยากลําบากของเผ่าพึ่งประสบผ่านไปไม่นานแต่พวกเรายังคงมีชีวิตอยู่ คนที่ปล้นพวกเรานั้นจะกลับมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ แต่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม! ตราบใดที่เราทํางานร่วมกันเราจะเอาชนะความยากลําบากแล้วนี้และแก้ไขปัญหาเรื่องอาหารได้!”

 

“แต่ว่าพวกมันมีกลุ่มชายฉกรรจ์มากกว่า 200 คน พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา!” มีคนคนหนึ่งพูดขึ้น

 

“ไม่เป็นไร!” มู่เฟิง พยักหน้าและยิ้ม “โปรดเชื่อข้า ข้ามีวิธีปกป้องทุกคนและสามารถทําให้ทุกคนอิมท้องได้!”

 

“หืม?” หลี่หูที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจจริงๆ เขาไม่คาดคิดว่า มู่เฟิงจะสามารถปรับตัวเข้ากับตําแหน่งหัวหน้าเผ่าได้อย่างรวดเร็วเพียงครึ่งวัน

 

อย่างไรก็ตามแม้จะปรับตัวได้อย่างรวดเร็วแต่ปัญหาด้านความปลอดภัยของอาหารและชนเผ่านั้นไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ

 

มู่เฟิง คิดอย่างรอบคอบและกล่าวว่า “ลุงหมิงกวง ตอนนี้มีมีดกระดูก 36 เล่ม แบ่งกันคนละครึ่งแล้วไปขุดต้นหนามที่ภูเขาด้านหลัง ขุดมาแบบถอนรากถอนโคน หากขุดขึ้นมาได้ก็ลากมาวางไว้ที่ทางทิศตะวันตกของเผ่า

 

“ต้นหนามอย่างนั้นหรอ?” หมิงกวงอดถามไม่ได้ “ หัวหน้าเผ่า ต้นหนามล้วนมีหนามแหลมทั้งนั้นท่านต้องการมันทําไม”

 

มู่เฟิง ยิ้มและกล่าวว่า “ทําตามที่ข้าบอกแล้วพวกเจ้าจะเห็นประโยชน์ของพวกมันเอง!”

 

เขาหยุดไปครู่นึงก่อนจะพูดต่อ

 

“นอกจากต้นหนามแล้ว มีดกระดูกอีกครึ่งนึงเอาไปตัดกิ่งไม้ อย่าตัดบางเกินไปอย่างน้อยต้องมีขนาดเท่ากับแขนเล็กๆของข้า หากไม่สะดวกในการที่จะลากมันกลับมาพวกท่านสามารถตัดมันเป็นชิ้นๆยาวประมาณนี้และน้ำมันกลับมา!”

 

ตอนแรก มู่เฟิง อยากจะพูดว่ายาวประมาณ 3 เมตรแต่เมื่อคิดว่าสมัยนี้เป็นสมัยดึกดําบรรพ์อาจจะไม่เข้าใจในหน่วยวัดจึงพยายามทําท่าทางเปรียบเทียบ

 

หลังจากพูดจบ มู่เฟิง มองไปที่ทุกคน “ เข้าใจหรือไม่?”

 

“เข้าใจแล้ว!” หมิงกวง พยักหน้า

 

เขาเองก็อยากจะถามว่าตัดกิ่งไม้มาทําไมแต่พอเห็น มู่เฟิง มั่นใจเขาก็ระงับความสงสัยและหันไปเลือกคน

 

หมิงกวง เลือกคนอย่างรวดเร็วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มและแยกย้ายกันไปคนที่เหลือยืนอยู่ข้างหลี่หูรอรับคําสั่งต่อไป

 

มู่เฟิง มองไปที่คนเหล่านั้นและกล่าวว่า “ ส่วนคนที่เหลือไปเก็บหินขนาดเท่านี้ หรือจะก้อนใหญ่กว่าก็ได้จากนั้นเอามาซ้อนกัน! วางไว้ข้างต้นไม้ใหญ่ทางทิศตะวันตกของเผ่า!”

 

ตอนนี้ หลี่หูรู้สึกสับสนอีกครั้งเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ มู่เฟิง ต้องการจะทํา สิ่งที่เขาพอจะเข้าใจก็คืออาจเป็นเพราะต้นหนามบนภูเขาทางเหนือมีมากเกินไป แต่สําหรับการตัดไม้และเก็บก้อนหินรอบๆเหล่านี้เขาจะเอามาทําอะไรกัน

 

มู่เฟิง มองไปที่หลี่หูและถามขึ้นว่า “ มีอะไรเหรอลุงหลี่หู?”

 

“เอิ่ม?” หลี่หูอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นรีบโบกมือ “ตอนนี้เจ้าได้เป็นหัวหน้าเผ่าแล้วเรียกข้าว่าหลี่หูก็พอ!”

 

มู่เฟิง สายหน้าอย่างจนปัญญา “ท่านลุง ท่านเห็นข้าเติบโตมาตั้งแต่เล็ก วันหน้าไม่ต้องเรียกข้าว่าหัวหน้าเผ่าเรียกข้าว่า มู่เฟิง ก็พอแล้ว รบกวนท่านไปบอกคนอื่นในเผ่าด้วยว่าให้พูดเช่นนี้”

 

“ได้!” หลี่หูตกใจ แต่ก็ยังพยักหน้า

 

จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับชายหนุ่มสองคนที่มีลักษณะเหมือนเขา และยืนอยู่ด้านหลัง “ชิงหยาหงหยา พาทุกคนไปเก็บหิน!”

 

“ขอรับท่านพ่อ!” ทั้งสองคนพาคนออกไปเก็บหิน

 

ชิงหยา หงหยา และไปหยา เป็นลูกชาย 2 คนและลูกสาวของ หลี่หู

 

หลี่หูหันไปมอง มู่เฟิง “ท่านหัวหน้า มู่เฟิง มีคําสั่งอื่นอีกหรือไม่?”

 

มู่เฟิง สายหัว “ วันนี้พวกเราทําสิ่งนี้ให้สําเร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดินพรุ่งนี้พวกเราจะเข้าไปในภูเขาเพื่อล่าสัตว์!”

 

“เข้าใจแล้ว!”สีหน้าของหลี่หูตึงเครียดและรีบหันหลังเดินจากไป