มูฮงจูรู้สึกโกรธตัวเอง เธอกำลังบ้าไปแล้ว!
แทนที่จะมาพาหลันยันกลับ กลับกลายเป็นมานั่งเล่นเกมกับพวกเขาเกือบทั้งคืน! ตอนนี้เธอรู้สึกดีมากเมื่อได้ร่วมเล่นเกมกับพวกเขา แถมพลังภายในในร่างกายของเธอก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย
นี่มันช่างสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย!
เธอพบว่าผู้นำในทีมเธอไม่ได้มีเพียงหยันยันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ ที่ส่วนมากล้วนเป็นลูกศิษย์ของเธอ
“ทำไมท่านอยู่ที่นี่ด้วย?” ซงฉิงเฟิงมองหน้ากันไปมากับเพื่อนด้วยความสับสน
มูฮงจูหน้านิ่ง “พวกนายไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกจากสำนักหรือ?”
“ถ้าอาจารย์ไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอก!” ซงฉิงเฟิงยังกล่าวต่ออีกว่า “นอกจากนี้มันเป็นมากกว่าการเล่นเกม มันเหมือนเป็นความศรัทธา!”
“ศรัทธา..” มูฮงจูเกือบสำลักออกมา
“เราต้องแลกกับเกียรติของเพื่อนร่วมชั้นที่กำลังถูกลงโทษ” หลินเซียวพูด “นั่นจึงเป็นสาเหตุที่พวกเราต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง”
“นี่พวกนายกำลังล้อเล่นใช่มั้ย?” มูฮงจูถาม “พวกคุณอยู่ในระดับไหนกันแล้ว?”
“นักรบระดับสาม” ซงฉิงเฟิงพูดเบาๆ
“นักรบระดับหนึ่ง” หลินเซียวโอ้
“เหมือนฉัน”
“ฉันอยู่ในระดับสอง” หลันยันก็ไม่น้อยหน้า
มูฮงจูรู้สึกตัวแข็ง
“ฉันจำได้ว่าก่อนที่พวกเธอจะเข้าเรียนที่นี่พวกเธอมีระดับที่ต่ำมาก” เธอเคยคิดว่าพวกเขาเพิ่มทักษะการต่อสู้จากการฝึกซ้อมที่หอศิลปะในสำนักหลิงหยวน แต่เธอคิดผิด
“.. อย่าบอกใครเลยเราพวกเดียวกันนะท่าน พวกเราออกจากสำนักโดยใช้เทคนิคการควบคุมดาบ” ซงฉิงเฟิงเอ่ย
“พวกนายจะกลับไปที่สำนักหรือเปล่า?” มูฮงจูเอ่ยถามพวกเขา เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกลากเข้าไปในโลกของเหล่าสาวก “กำแพงสูงขนาดนั้น พวกนายไต่ออกมาได้ยังไงกัน!?” เธอรู้สึกทึ้งกับความกล้าหาญของพวกเขา
พวกเขากล้าที่จะกระโดดข้ามกำแพงของสำนักและยังไม่กลัวที่จะถูกจับได้!
“ไป ไป ไป ไหนแสดงทักษะนี้ให้ฉันดูหน่อยด้วยเทคนิคการควบคุมดาบของพวกเธอน่ะ!” มูฮงจูกล่าว เธอยืนมองพวกเขาแต่ละคนหยิบดาบออกมาและใช้พลังเพื่อส่งให้ดาบลอยขึ้นเป็นขั้นบันได
“พวกนายได้เรียนรู้คาถาทางจิตวิญญาณ” เธอตัวแข็งเมื่อเห็น
“เรากำลังฝึกควบคุมด้วยพลังภายใน!” ซงฉิงเฟิงขู่ “เราไม่อยากให้อาจารย์บอกใคร เราจะเอาชนะทุกคนให้ได้”
เมื่อยืนมองสาวกของเธอกระโดดข้ามกำลังไปแล้ว เธอก็โดดตามเข้าไปเช่นกันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาทำได้ถึงเพียงนี้ ความเชื่อที่ผิดๆ ของเธอเริ่มทลายลง
…
ลูกศิษย์พวกนี้ต่างมีระดับนักรบที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเมื่อเทียบกับสาวกคนอื่นๆ ที่อายุไล่เลี่ยกัน นอกจากนี้พวกเขายังสามารถบังคับการเคลื่อนไหวของดาบในอากาศได้อีกด้วย นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถโจมตีจากระยะไกล
แน่นอนเธอไม่รู้เลยว่ามีนักรบระดับสูงแฝงตัวอยู่ในชั้นเรียนของเธอ! เธอจะประหลาดใจกว่านี้หากได้รับรู้!
ณ บ้านสวรรค์
“เกา คุณได้ยินข่าวบ้างมั้ย? วังชีซุยกลับมาแล้ว!”
“ฉันรู้!” เกาซงตอบเสียงอู้อี้ ในฐานะผู้เล่นระดับต่ำเขาใช้เวลาฝึกฝนเทคนิคการควบคุมดาบและทักษะการต่อสู้ระยะประชิดในเวลาอันน้อยนิด ตอนนี้การสอบวัดระดับก็ใกล้เข้ามาในทุกวัน เขาต้องพยายามหนักขึ้น
ขณะเดียวกัน ณ บ้านซวน
ซูฉีซินที่กำลังทำความปืนพกในมืออย่างระมัดระวัง
“ฉีซิน ฉันได้ยินว่าหลี่เฮารันได้ทำการดัดแปลงปืนนี้หรอ?” เฉินชิงชิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอิจฉาเล็กน้อย
“ใช่ มันดีกว่าอันเก่า ฉันคิดว่าฉันจะใช้มันกำจัดนักรบชั้นปลายแถว!”
“…”
…
ในเวลาเดียวกันฟางฉีเองก็กำลังเพลิดเพลินกับเกมในคาเฟ่
“ใกล้แล้ว ใกล้จะสำเร็จแล้ว ..” เขาเปิดหน้าอินเทอร์เฟซเพื่อดูจุดสุดท้ายของทักษะ
[ทักษะความเชี่ยวชาญ : ทักษะในเกมและการฝึกฝนเทคนิคการควบคุมดาบ (10/10)
ภารกิจ : บินโดยใช้ดาบ (ระดับเชี่ยวชาญ)
คำอธิบายงาน : คุณควรขอบคุณระบบอันทรงพลังของคุณ]
[คุณต้องการรับรางวัลเลยหรือไม่?]
ฟางฉีเลือก [ใช่]
จากนั้นข้อมูลมากมายที่พุ่งขึ้นผ่านม่านตาไหลลงสู้สมองของเขาทันที ตอนนี้ฟางฉีได้รับความรู้ข้อมูลใหม่ๆ เข้ามามากมายในสมอง นอกจากข้อมูลแล้วยังมีกลเม็ดในการควบคุมดาบทุกชนิด เขาเข้าใจเทคนิคทุกเทคนิคในเกมทันที
ในขณะเดียวกัน เขาได้รับงานใหม่!
[งานใหม่ : ฝึกฝนทักษะการเรียนรู้เกี่ยวกับการบินด้วยดาบให้ถึงระดับเชี่ยวชาญ
รางวัลงาน : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาลูน]
(ผู้แปล : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของประเทศจีนที่เขาพูดถึงน่าจะเป็นยี่ห้อที่มีคุณภาพและรสชาติดี)
“อะไร? รางวัลคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป?” ฟางฉีขมวดคิ้ว “งงไปหมด”
…
วันนี้เหล่าสาวกชั้นยอดของสำนักต่างมารวมตัวกันที่จตุรัส พวกเขากำลังจะเดินทางไปยังจิงฉีเพื่อมร่วมกิจกรรมการสอบวัดระดับ
กลุ่มเอของบ้านหวัง
เสียงเศร้าเห่าหอนดังขึ้นในชั้นเรียนเนื่องจากเกือบครึ่งหนึ่งของพวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้เข้าร่วมการสอบในครั้งนี้ นอกจากนี้พวกเขายังกลายเป็นตัวตลกของสำนักอีกด้วย!
มันเป็นเพราะ .. พวกเขาถูกไล่ออกจากการเป็นเด็กดี ทุกอย่างที่เขาพยายามกลับกลายเป็นศูนย์เปล่า!
ซีฉีที่ดูเงียบเหงา เขาเป็นคนมีความสามารถมากแต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทเขาหดลงในพริบตา
เขาเคยคิดว่าสักวันตัวเองอาจพ่ายแพ้แก่คนที่มีความสามารถมากกว่า แต่ .. ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจะมาโดนแบบนี้
“ซีฉี นายไม่ต้องกังวลไป” ซงฉิงเฟิงปลอบใจ
เขาตบบ่าซีฉีเบาๆ “ฉันรับปากว่าจะนำเกียรติของเรากลับคืนมา”
“พวกเราพยายามอย่างหนักเพื่อให้มันออกมาดีที่สุด” หลินเซียวทุบหน้าอกตัวเอง “ฉันหวังว่านายจะไม่คิดมาก พวกฉันจะเอาชัยชนะกลับมาให้ได้”
“เข้าใจแล้ว” ซีฉีเอ่ยอย่างประทับใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเราจะใก้ลชิดกันมากขึ้นเพราะเกม
เขากำหมัดแน่นและพูดว่า “เกียรตินั่นไม่ใช่ของฉัน .. แต่มันคือของเรา!”
“แน่นอน!” ซงฉิงเฟิงหัวเราะ “ถ้าฉันเราจะชนะฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ ฉันจะต้องละอายมากแน่ที่เรียกตัวเองว่านักเล่นเกมตัวยงของคาเฟ่!”
พวกเขาพยักหน้าให้กันและชนกำปั้นกล่าวอำลา