กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 299

ทุกคนในที่นี้ ต่างตกใจเมื่อชาร์ลีสามารถปลดล็อก Aston Martin ONE-77 ด้วยกุญแจสมาร์ทแบบสร้อยข้อมือนี้ได้

พวกเขาได้ แต่ร้องอุทานในใจ: Aston Martin ONE-77 เป็นของชาร์ลี!

เจสันก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เกิดอะไรขึ้น?!

ชาร์ลีไม่ใช่แค่ลูกเขยที่ยากจนเหรอ?

เขาจะซื้อรถราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไงกัน?!

เจสสิก้าก็อึ้งเช่นกัน “นี่… มันไม่น่าเชื่อ ผู้ชายคนนี้จะมีเงินซื้อ Aston Martin ONE-77 ได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นคนยากจนและไร้ประโยชน์เท่านั้น”

จากนั้นชาร์ลีก็พาแคลร์ไปที่ ที่นั่งผู้โดยสารก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ภรรยาที่รัก ทำไมคุณไม่ขึ้นรถล่ะ ผมจะพาคุณไปขับรถเล่นสักรอบ!”

แคลร์มองไปที่ชาร์ลีด้วยสีหน้าสับสน ขณะที่เธอถามไปว่า “ชาร์ลี รถคันนี้เป็นของคุณจริง ๆ เหรอคะ?”

ชาร์ลีพยักหน้า “แน่นอน กุญแจอยู่ในมือของผมแล้วนี่ไง ทำไมผมต้องโกหกคุณด้วยล่ะ?”

หลังจากพูดเช่นนั้น ชาร์ลีก็กระซิบที่ข้างหูของเธออย่างรวดเร็วว่า “ที่รักครับ ผมพูดตามตรงเลยนะ เกรแฮมให้ผมยืมรถคันนี้สักพัก เพื่อที่ผมจะได้มีประสบการณ์ในการขับรถแบบนี้ ผมจงใจแกล้งทำเป็นว่ารถคันนี้เป็นของผม เพราะก่อนหน้านี้เจสันยั่วโมโหผมก่อน! อย่าบอกเรื่องผมต่อหน้าเขาเลยนะ!”

ถ้าพูดตามความจริง ชาร์ลีไม่ได้สนใจรถสองคันนี้มากนัก เพราะเขารู้สึกว่ารถพวกนี้มันดูฉูดฉาดเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าดักลาสไม่บอกเขา ว่าวันนี้ภรรยาของเขามาที่นี่ เขาก็คงไม่ต้องมาที่นี่เพื่อรวบรวมรถเหล่านี้

นอกจากนี้ ชาร์ลี ยังเข้าใจบุคลิกของภรรยาของเขาดี ว่าเธอไม่อยากขับรถที่ดูหรูหราแบบนี้เป็นประจำทุกวัน

นั่นจึงเป็นเหตุผล ว่าทำไมเขาถึงโกหกเธอไปแบบนั้น เขาจะส่งรถทั้งสองคันไปให้ลุคเพื่อดูแลความปลอดภัย หลังจากพาภรรยาของเขาได้สัมผัสและขับรถคันนี้ด้วยตัวเองแล้ว

เมื่อแคลร์ ได้รู้ความจริงเช่นนั้น เธอก็รู้สึกโล่งใจทันที

เธอกลัวจริง ๆ ว่าชาร์ลีจะยังให้คำแนะนำด้านฮวงจุ้ยกับคนรวยอยู่ เธอกลัวว่าสุดท้ายแล้วเขาจะต้องตกที่นั่งลำบาก

เนื่องจากมีคนให้ยืมรถเพื่อที่เขาจะได้สัมผัสมัน เธอจึงไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป

ขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แคลร์ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก และเธอก็อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aston Martin ONE-77 ด้วย

ถึงแม้ว่าแคลร์จะไม่ใช่ผู้หญิงที่ถือตัวหรือหลงวัตถุนิยมมากนัก แต่เธอก็อยากนั่งรถสปอร์ตหรูหราแบบนี้ด้วยตัวเองดูบ้าง

ดังนั้นเธอจึงโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนที่จะนั่งลงตรงข้างคนขับของ Aston Martin ONE-77 สุดหรู!

ชาร์ลีไม่ได้เข้าไปในรถทันที แต่เขามองไปที่เจสันและเจสสิก้าก่อนที่เขาจะพูดว่า “เศษขยะ ยังไงก็เป็นเพียงเศษขยะอยู่วันยังค่ำ คุณควรกลับไปหาเงินให้มากขึ้น ก่อนที่คุณจะออกมาแสดงตัวตนและทำตัวเองให้น่าขายหน้าอีกครั้งนะ!”

ชาร์ลีพูดเช่นนั้น ก่อนจะเข้าไปนั่งที่ตรงคนขับ และเปิดเครื่องยนต์

ภายในไม่กี่วินาที เครื่องยนต์อันทรงพลังของรถสปอร์ตก็คำรามไปทั่วทั้งห้องโถงจัดแสดงสินค้า

ชาร์ลีไม่เคยขับรถหรูขนาดนี้มาก่อน หลังจากเข้าไปในรถ ชาร์ลีนั่งในตำแหน่งคนขับ เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนที่จะจับพวงมาลัยอย่างตื่นเต้นและสตาร์ทรถ

Aston Martin ONE-77 ที่หรูหราอันดับต้น ๆ ค่อย ๆ ไหลลงมาตามทางลาดอีกด้านหนึ่งของบูธจากนั้น ชาร์ลีก็ขับรถออกจากห้องโถงจัดแสดงสินค้าไป

เสียงคำรามอันทรงพลังของเครื่องยนต์ ทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากในห้องโถงจัดแสดงสินค้านี้

เจสันตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด รถคันนั้นเป็นของไอ้เศษขยะนั้นจริง ๆ เหรอ? เกิดอะไรขึ้น?!

เจสสิก้า ก็หน้าซีดเช่นกันเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เธอดูถูกชาร์ลีไว้มาก แต่จริง ๆ แล้ว เขากลับเป็นเจ้าของรถสปอร์ตสุดหรูสองคันนั้น?

เธออดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง “ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้! ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลวิลสัน จะซื้อรถเหล่านั้นได้อย่างไง? เขาได้กุญแจรถมาได้อย่างไรกัน?”

เจสันไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้เช่นกัน เขากัดฟันก่อนจะพูดออกมาว่า “เศษขยะชิ้นนั้นคงขโมยกุญแจรถมา!”

ในตอนนี้ ลุคโกรธมาก เมื่อเห็นว่าคนงี่เง่าสองคนนี้ยังดูถูกชาร์ลีอยู่ พวกเขาสมควรจะตายไปจริง ๆ!

ลุคหันกลับมาและจ้องไปที่เจสันและเจสสิก้าก่อนที่จะตะโกนอย่างโกรธ ๆ ไปว่า “คุณทำให้คุณเวดขุ่นเคือง และยังเห่าเหมือนหมาบ้าอยู่ที่นี่อีกเหรอ?”

จากนั้นเขาก็รีบสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “ทุบตีเขาแรง ๆ !”

เจสันล้มลงกับพื้นทันที ด้วยการถูกชกสามครั้งและถูกเตะอีกสองครั้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจากนั้นพวกเขาก็คว้าเส้นผมของเขา ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้าซ้ำ ๆ จนใบหน้าของเขาปูดบวมไปหมด