ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1319 –พิษแมงป่องอสรพิษ

 

เขามองไปที่หมอปิศาจแล้ว ถามอย่างไม่สบายใจ

 

“ขอโทษได้ ข้าช่วยได้เพียงแค่ระงับอาการไว้เท่านั้น”หมอปิศาจกล่าวอย่างทำอะไรไม่ได้

 

 

ความผิดหวังปรากฏบนใบหน้าของเขา เขานั้นรู้ดีเกี่ยวกับสภาพของเขา เขานั้นได้หาหมอมามากมายในชีวิตนี้ แต่ก็มิอาจรักษาได้ ดังนั้นที่พึ่งสุดท้ายของเขาก็คือหมอปิศาจ ดังนั้น เขาจึงคาดหวังไว้มากในครั้งนี้  ในตอนนี้หมอปิศาจนั้นทำได้แค่ระงับอาการของเขาไว้ได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น เมื่อครึ่งปีมาถึง เขานั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน นี่อดทำให้เขาหดหู่ไม่ได้

 

 

“ชิงสุ่ย ทำไมเจ้าไม่ลองตรวจคุณชายลี่ดูละ เขาเป็นดีคนหนึ่งนะ”หมอปิศาจกล่าวและยิ้ม

 

 

เมื่อนึกถึงก่อนนี้ หมอปิศาจคาดได้ว่าชิงสุ่ยนั้นต้องมีวิธีต้องรักษาเขาอย่างแน่นอน  คำพูดดังกล่าวทำให้ชิงสุ่ยไม่สามารถปฏิเสธได้ ได้แต่ยิ้มออกมา

 

 

ในตอนนี้เองลี่หูเฉิงได้แต่ยิ้มอ่อนออกมา เพราะเขานั้นเห็นว่าชิงสุ่ยนั้นยังเด็กอยู่ นอกจากนี้เขายังคิดว่ามันคงไม่มีประโยชน์ขนนาดหมอปิศาจยังไม่รักษาเขาได้ และชายหนุ่มผู้นี้เป็นใคร และเขามีความสามารถมากพอที่จะเทียบกับหมอปิศาจอย่างนั้นรึ?

 

 

“ให้ข้าตรวจชีพจรของท่านหน่อย!”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของชิงสุ่ย เขาไม่ได้ปฏิเสธ และปล่อยให้ชิงสุ่ยตรวจ ซึ่งท่าทางขิงชิงสุ่ยนั้นดูธรรมดาอย่างมาก ทำให้เขาไม่คาดหวังอะไร

 

ไม่ช้าชิงสุ่ยจ้องมองไปที่ลี่หูเฉิงด้วยความตะลึง

 

“ท่านได้รับพิษ?”

 

“พิษเป็นไปไม่ได้?”เขามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความไม่เชื่อ

 

เมื่อได้ยินชิงสุ่ยกล่าวออกมา หมอปิศาจเองก็ประหลาดใจ  เขานั้นเป็นหมอมายาวนานดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่านี่ต้องไม่ใช่พิษ นอกจากนี้อาการของหูเฉิงก็ไม่ใช่อาการของคนที่ถูกพิษแต่อย่างใด มันเป็นเพราะว่าร่างกายของเขานั้นสูญเสียพลังหยางเท่านั้น มันเป็นอาการที่ไม่สอดคล้องกับคำว่าถูกพิษเลยแม้แต่น้อย

 

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เพราะอาการดังกล่าวนั้นเป็นอาการที่เขาคุ้นเคยอย่างมาก นอกจากนี้มันยังเป็นพิษที่เขารู้จักอีกด้วย “พิษชนิดนี่ลึกลับอย่างมาก มันคือพิษแมงป่องอสรพิษ มันเป็นพิษที่แพร่ผ่านผู้หญิงเท่านั้น คุณชายลี่ ท่านพอจะนึกออกหรือไม่ว่าท่านได้รับมาจากใคร?”

 

นี่เป็นอีกครั้งที่เขาประหลาดใจ พิษชนิดนี้นั้นจะไม่มีอันตรายกับผู้หญิง แต่ตรงข้ามมันจะเพิ่มเสน่ห์และความงามให้กับผู้หญิงคนนั้นหลายเท่า แต่เมื่อใดที่มีชายใดติดต่อสัมพันธ์กับเธอ ผู้ชายคนนั้นก็จะได้รับพิษจากเอด้วย นอกจากนี้มันเป็นพิษที่พิเศษไม่สามารถตรวจพบได้อย่างง่ายๆ จึงยากที่จะรู้ว่าโดนพิษมายังไง หากปราศจากผู้รู้จริง

 

“แล้วท่านสามารถรักษามันได้รึไม่?”ตอนนี้ใบหน้าของเขากลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง

 

 

“ข้าสามารถทำได้ แต่มันจะดีกว่าหากท่านได้รับยาแก้พิษ มิฉะนั้นมันจะกระทบต่อการบ่มเพาะในอนาคตของท่าน” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างใจเย็น

 

 

“ข้าเข้าใจแล้ว ไว้ข้าจะมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อแสดงคำขอบคุณ ตอนนี้ข้ามีธุระที่ต้องรับจัดการ ข้าขอตัวก่อน”

 

……..

 

 

“ทักษะการแพทย์ของน้องชิงสุ่ยนั้นน่าอัศจรรย์จริง”หมอปิศาจกล่าวด้วยความชื่นชม

 

ชิงสุ่ยไม่ไดกล่าวอะไรออกมา ยกเว้นถามเรื่อง “จริงสิพี่ใหญ่ ท่านรู้จักตระกูลอี่หวง หรือไม่?”

 

 

“แน่นอน พวกเขาเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งอย่างมากนอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่ามีผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศอยู่ในตระกูลพวกเขาอีกด้วย”หมอปิศาจกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเรื่องทั่วๆไปที่ใครๆก็รู้ นอกจากนี่ผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศนั้นก็เป็นตัวตนที่ได้รับความเคารพอย่างมากในทวีปแห่งนี้

 

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยแอบตกตะลึง ที่อี่หวง กู่หวู่นั้นเป็นคนของตระกูลที่แข็งแกร่งอย่างมาก ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันยิ่งทำให้เขาอย่างสงสัย ทำไมเธอถึงต้องหนีไปอยู่ทวีปอู่เซียด้วยละ ในเมื่อตระกูลของเธอแข็งแกร่งขนาดนี่?

 

 

“พี่ใหญ่หากเทียบพวกเขากับตระกูลลี่ละ?”ชิงสุ่ยยิ้มและถาม

 

“ฮ่าๆไม่สามรถเทียบกันได้หรอก ถึงตระกูลลี่จะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ปราศจากผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศ มันเป็นเรื่องยากที่จะเทียบความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขา”หมอปิศาจกล่าวและส่ายหน้า

 

 

ในอดีตเขาเคยพยายามอย่างมีที่จะเข้าร่วมกับตระกูลอี่หวง แต่ด้วยความรู้ทางการแพทย์ของเขานั้นยังอ่อนด้อยเกินไปจึงทำให้เขานั้นไม่ได้รับเลือก นี่คือเรื่องที่เขาไม่ได้กล่าวออกมาในตอนนี้ นอกจากนี้ ทวีปแห่งนี้ก็ยิ่งใหญ่อย่างมาก มีหมอที่เก่งกาจมากมายอาศัยอยู่ดังนั้น เขาจึงไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ได้รับเชิญ

 

 

“แล้วพี่ใหญ่พอจะรู้เรื่องพระราชวังจอมอสูรหรือไม่?”ชิงสุ่ยคิดอยู่นานก่อนที่จะถามออกมา

 

 

 

“พระราชวังจอมอสูร นั้นไม่ได้ตั้งอยุ่ในทวีปใด แต่อยู่ระหว่างรอยต่อระหว่างสี่ทวีป ถึงย่างไรก็ไม่มีใครเคยพบที่ตั้งจริงๆของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขานั้นยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนของ4ทวีปอีกด้วย!”หมอปิศาจกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

 

“ทำไมเป็นเช่นนั้นละ?”ชิงสุ่ยถามด้วยความงงงวย

 

 

“เพราะว่าพระราชวังจอมอสูรไม่ได้รับการยอมรับจากนิกายเทวะราชราชันย์ และเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกกำจัด  จึงทำให้พวกเขานั้นเป็นศัตรูกับนิกายอื่นๆจำนวนมาก!”หมอปิศาจมองดูไปที่ชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ

 

 

แต่อย่างไรเขาก็ไม่ได้ถามอะไรชิงสุ่ยกลับ เขารู้ดีชิงสุ่ยนั้นต้องมีความลับของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ถามออกมาเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ถ้าเขาอยากเล่าเขาจะเล่าออกมาเอง นอกจากนี้คงไม่ใช่ประโยชน์มากนักหากรู้เรื่องบางเรื่องที่ไม่จำเป็นมากไป

 

ชิงสุ่ยนั้นต้องการไปยังพระราชวังจอมอสูรแต่เขาก็รู้ดีว่ามันยังไม่ใช่ตอนนี้ เขานั้นยังอ่อนแอเกกินไป หากไปในตอนนี้เขานั้นก็จะเป็นแค่ตัวถ่วงเท่านั้น

 

 

ตั้งแต่ต้นจนจบเขานั้นต้องการไปหาเธออย่างมาก นี่เป็นเหตุผลที่เขานั้นรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแออย่างมาก มันทำให้เขานั้นไม่เคยละความพยายามในการฝึกฝนในทุกๆวัน

 

 

“พี่ใหญ่ ข้าอยากลองศึกษาขั้นตอนการทำอาหารและศึกษาความรู้ของหอคอยจักรพรรดิ ได้รึไม่?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวกับหมอปิศาจ

 

“ได้เลย  จริงสิหากเจ้าต้องการสิ่งของใดๆในหอคอยแห่งนี้เจ้าสามารถนำมันไปได้เลย ข้ามอบมันให้กับเจ้า!”

 

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ได้ ข้าแค่จะของศึกษาการทำอาหารและตัวยาบางอย่างเท่านั้น กับต้องการข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับทวีปแห่งนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ข้าก็ไม่ต้องการใช่ความสัมพันธ์ของเราเพื่อหาประโยชน์จากความมั่งคั่งของท่าน ข้านั้นนับถือท่านด้วยใจ เลยได้แลกเปลี่ยนความรู้กับท่านๆเป็นคนแรกที่ข้านั้นยอกมแลกเปลี่ยนความรู้ด้วย นั้นเพราะท่านเป็นคนดี”ชิงสุ่ยยิ้มและพูด

 

“เยี่ยม เยี่ยมมาก ที่ข้ามีพี่น้องดีๆเช่นเจ้า เจ้าถือเป็นครอบครัวคนแรกของข้าก็ว่าได้ จริงสิข้าลืมบอกเจ้าไปข้านั้นยังไม่แต่งงาน ถึงจะข้าจะมีคนที่ข้ารักแต่นางก็อยู่สูงเกินที่ข้าจะคว้าลงมา  ถึงจะมีสหายมากมาย แต่ทั้งหมดเข้าหาข้าเพราะความมั่งคั่ง ทักษะการแพทย์ของข้า ไม่มีใครเลยที่เข้าหาข้าด้วยใจจริง”หมอปิศาจยิ้มและกล่าวอย่างโดดเดี่ยว

 

ชิงสุ่ยนั้นรู้แปลกใจอย่างมากที่ชายคนนี้เปิดเผยเรื่องของเขาออกมา รวมไปถึงคนรักที่เขามิอาจ เอื้อมอีกด้วย

 

 

“พี่ใหญ่ข้าขอเสียมารยาท ทำไมท่านถึงไม่แต่งงานละหรือว่าท่านไม่ต้องการมีบุตรอย่างนั้นรึ? ”ชิงสุ่ยมองไปที่ชายชรา

 

“เมื่อสามร้อยปีก่อน ข้าได้ทดลองตัวยาบางอย่างทำให้ร่างกายของข้าได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถมีลูกได้ จึงทำให้ข้านั้นมิอาจขอคนรักของข้าแต่งงาน” นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกเสียใจจนถึงปัจจุบัน

 

แม้ว่าอายุของเขาจะมากแล้ว แต่ด้วยการบ่มเพาะของเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีภรรยา แต่ด้วยความผิดปกติทางร่างกายของเขาจึงทำให้เขาไม่กล้าที่จะเปิดใจออกมา แม้ว่าคนรักจะยังอยู่ใกล้ๆเขาไม่จากไปไหนก็ตาม นอกจากนี้ยิ่งเธอดีกับเขามาเท่าไร เขาก็ยิ่งเสียใจมากขึ้นเท่านั้นที่ไม่อาจขอเธอแต่งงานได้

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยคว้าลงไปที่ข้อมือของเขาและจับชีพจรของเขา ชิงสุ่ยเองตกใจอย่างมากแม้ว่าเขาจะมีฝีมือการแพทย์ที่ล้ำเลิศ แต่เขาก็ไม่สามารถรักษาจุดจื้อหยางที่ได้รับบาดเจ็บได้ แม้มันจะไม่มีผลต่อการบ่มเพาะหรืออายุไข  แต่มันก็ส่งผลให้พลังหยางในร่างหายของเขาผิดปกติ และไม่สามารถร่วมรักได้

 

 

หลังจากคิดอย่างละเอียดชิงสุ่ยจึงกล่าวกว่า “ข้าไม่มั่นใจมากนักว่าจะรักษาอาการของท่านได้ แต่ก็มีโอกาส50:50ที่ท่านจะหายดี ท่านยินดีทดลงหรือไม่?”ชิงสุ่ยถามออกมา

 

“จริงรึ?”หมอปิศาจกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง

 

“ข้าสามารถใช้การฝังเข็มของข้ากระตุ้นศักยภาพของท่านขึ้นมาได้ แต่ที่เหลือก็ขึ้นกับร่างกายของท่านจะมีความสามารถเพียงพอที่จะฟื้นตัวหรือไม่!”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

ชิงสุ่ยวางแผนที่จะกระตุ้นการบ่มเพาะของเขาเพื่อกระตุ้นพลังหยางของหมอปิศาจให้กระจายออกมา เมื่อพลังหยางของเขากระจายออกมาจะให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวและรักษาอาการบาดเจ็บของเขา แต่ถึงอย่างก็ต้องขึ้นกับว่าร่างกายของเขาจะฟื้นตัวได้ขนาดไหน นั้นเพราะว่าเขาได้รับบากเจ็บมาเป็นเวลานานแล้ว

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยหยิบน้ำทิพย์แห่งฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตออกมา ด้วยผลของมันจะทำให้เขามีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น80% ในตอนนี้เข็มแห่งชีวิตและความตายได้ปักลงที่ร่างกายของหมอปิศาจ

 

อย่างช้าๆกลิ่นอายสีเทาได้ถูกปลดปล่อยออกมาที่ตัวเข็ม ในขณะที่ชิงสุ่ยได้ใช้เพลิงแรกเริ่มของเขา เผาลงไปที่ตัวเข็มเพื่อกำจัดกลิ่นอายเหล่านั้นในทันที   นี่เป็นปราณที่ผิดปกติที่ฝังอยู่ในร่างกายของชายชรา ทางเดียวที่จะช่วยเขาได้คือต้องกำจัดมันออกไปเท่านั้น

 

ในไม่ใช่ชิงสุ่ยได้กระตุ้นพลังชีวิตของชายชรา ผิวหนังของเขาค่อยเปลี่ยนสีไปและค่อยชะล้างเอาสิ่งสกปรกออกมา เลือดในร่างกายของเขาได้สูบฉีดไปทั่วๆร่างกายของเขา  ในตอนนี้ใบหน้าของเขาตเมได้วยความเจ็บปวดแต่ก็แฝงไปด้วยรอยยิ้ม

 

ครึ่งของครึ่งชั่วยามผ่านไป สิ่งสกปรกได้ถูกชำระออกมาจนเสร็จสิ้น

 

 

ด้วยผลของเข็มแห่งชีวิตและความตายทำให้ชิงสุ่ยสามารถรักษาเขาได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าในชีวิตหนึ่งจะสามารถใช่เข็มแห่งชีวิตและความตายกับร่างกายได้หนึ่งครั้งเท่านั้น แต่นี่ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งครั้งที่ยิ่งใหญ่กับชายชราอย่างมาก นอกจากร่างกายที่ถูกระตุ้นแล้ว เส้นลมปราณทั้งหมดของเขายังได้ถูกปรับแต่งให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย เท่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่าอยากมากแล้วสำหรับเขา

 

เข็มแห่งชีวิตและความตาย นั้นสมผลแล้วที่เรียกว่าสิ่งประดิษฐ์แห่งตำนาน!

 

 

เมื่อชายชราเห็นคราบสิ่งสกปรกที่กระจายออกมา ชิงสุ่ยก็ได้ดึงเข็มของเขาออกมา ก่อนที่จะกล่าวออกมา “พี่ใหญ่ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?”

 

“ข้ารู้สึกดีอย่างมาก มีพลังไหลเวียนทั่วๆร่างกายของข้า!”

 

“ฮ่าๆ ยินดีด้วย ในอีกหนึ่งปีข้าหน้าร่างกายของท่านจะกลับไปเป็นปกติ เมื่อถึงเวลานั้นท่านก็สามารถมีบุตรได้แล้ว”ชิงสุ่ยกล่าวและยิ้มออกมา

 

“จริงๆรึ?”

 

“ข้าจะโกหกท่านทำไม”ชิงสุ่ยมองไปที่หมอปิศาจที่กำลังมีความสุขอย่างมาก มันทำให้เขามีความสุขเช่นเดียวกัน การช่วยเหลือผู้อื่นทำให้เขามีความสุขอย่างมาก

 

ในตอนนี้หมอปิศาจกำลังมีความสุขอย่างมากจนลืมสำเร็จร่างกายของเขา ในขณะที่เขากำลังสำรวจร่างกายของเขา มันทำให้เอาต้องตกใจอย่างขีดสุด ก่อนที่จะมองไปที่ชิงสุ่ยที่กำลังเดินลงไปข้างล่าง

 

 

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการบ่มเพาะของเขาจะแข็งแกร่งข้น นอกจากนี้ร่างกายของเขาก็ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างมาก

 

 

ในตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาเต็มไปด้วยพลัง ขณะที่เข้าลุกและยืนขึ้น มองไปที่กระจก ในตอนนี้ร่างกายของเขากลับดูอ่อนวัยราวกับวัยกลาง  แม้สิ่งนี้จะสามารถบ่มเห็นได้เมื่อยกระดับขึ้น แต่นี่ก็ไมได้เกิดขึ้นบ่อยๆกับทุกคน เขาได้แต่มองไปที่แผ่นหลังของชิงสุ่ยด้วยร้อยยิ้มปนน้ำตา ที่เต็มไปด้วยคำว่าขอบคุณ…………