ตอนที่ 80 กังวลใจ / ตอนที่ 81 คำสารภาพรักที่แสนจริงใจ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 80 กังวลใจ

 

 

ซาบซึ้งใจ ประทับใจ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึก แต่มันไม่ได้แปลว่าจะมีความรู้สึกแบบเดียวกัน

 

 

เขารู้ดีว่าอาจเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังฟื้นฟูรักษาแผลใจของตัวเองอยู่ ก็เลยทำให้รู้สึกประทับใจได้ง่ายๆ

 

 

ถ้าหากที่ผ่านมา ตอนที่ตัวเขาเริ่มก้าวเข้ามาอยู่ในแวดวงนี้ คนแรกที่ได้พบคือชย่าอวี่ชิว เขาคงจะรู้สึกว่าโลกใบนี้มันสวยงามมากและแวดวงนี้มันก็สวยงามมากอย่างแน่นอน

 

 

จากนั้นก็ยิ้มรับชย่าอวี่ชิว

 

 

แต่ว่า ตอนนี้เขาโตแล้ว เขารู้ว่าความรู้สึกไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว

 

 

ถ้าตอนนี้ตอบรับชย่าอวี่ชิวแล้วภายหลังพบว่าตัวเองไม่สามารถจะมอบความรู้สึกแบบนั้นให้เขาได้จริงๆ ต่อให้ชย่าอวี่ชิวจะยินยอมด้วยตัวเองก็ตาม แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่อชย่าอวี่ชิวอยู่ดี

 

 

“นายไม่ต้องรีบให้คำตอบฉันก็ได้ เมื่อกี้ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าตอนนี้พวกเราเรียนอยู่ที่มหา’ ลัยเดียวกัน เขตเดียวกัน ต่อไปทำงานก็อาจจะได้ทำงานที่เดียวกัน นายเองก็ไม่ต้องไปคิดว่าถ้าในอนาคตเรารักษามันให้คงอยู่ต่อไปไม่ได้จะทำยังไง ในเมื่อพวกเราสองคนอยากคบกันอยู่ด้วยกัน ปัญหาหลายๆ อย่างมันก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว” ชย่าอวี่ชิวพูด

 

 

น้ำเสียงของเขาในตอนนี้ไม่เหมือนกับน้ำเสียงที่เคยพูดหยอกล้อกับชุยหังเมื่อก่อนแล้ว

 

 

อันที่จริงเมื่อครู่นี้เขาก็อยากจะให้ชุยหังรีบๆ ให้คำตอบกับเขา แต่พอเห็นท่าทีแบบนั้นของชุยหังแล้วเขาก็ไม่อาจฝืนทนได้

 

 

จากสถานการณ์ของชุยหังในตอนนี้สำหรับเขาแล้วถ้าชุยหังตอบรับในตอนนี้ มันก็เท่ากับว่าตัวเองฉวยโอกาสเข้าไปหาเขาตอนที่อ่อนแอจริงๆ

 

 

“นายมีเรื่องกังวลใจอยู่ใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร

 

 

“หรือรู้สึกว่าตัวเองพึ่งจะเลิกกับคนนึงก็มาคบกับอีกคนมันทำให้นายดูเป็นคนแบบนั้น?” ชย่าอวี่ชิวถามต่อ

 

 

ครั้งนี้ชุยหังไม่ได้ส่ายหน้าและไม่ได้พยักหน้าด้วย

 

 

สำหรับปัญหานี้ตัวเขาไม่ได้คิดอะไรมากเลยจริงๆ

 

 

เขากังวลว่าถ้าตนตอบตกลงคบกับชย่าอวี่ชิวขึ้นมาจริงๆ หลังจากนั้นรู้สึกว่าความรู้สึกของทั้งคู่ไปกันไม่ได้แล้วเลิกกันขึ้นมา ต่อไปในมหาวิทยาลัยเล็กนี้ยังต้องพบเจอหน้ากันบ่อยๆ ควรจะสู้หน้ากันยังไงดี

 

 

อีกอย่างในใจของเขาตอนนี้ก็มีเงาของใครอีกคนอยู่แล้วด้วย

 

 

เขานั่งยองๆ ลงกับพื้นจากนั้นหันหน้าทอดสายตามองไกลออกไป

 

 

ในตอนที่เขาเอียงหัวนั่นเองก็เหลือบไปเห็นหลูจื้อที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลมากเข้าพอดี

 

 

วินาทีนั้นเขาเหมือนกับกระต่ายตื่นตูมตัวหนึ่ง ตกอกตกใจจนเกือบจะกระโดดลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่กล้าแสดงปฏิกิริยามากเกินไป กลัวว่าจะทำหลูจื้อตื่นตกใจไปด้วย

 

 

เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?

 

 

ภายในใจของชุยหังยิ่งยุ่งเหยิงวุ่นวายมากกว่าเดิม เขากำลังกังวลว่าหลูจื้อจะเข้าใจความสัมพันธ์ของเขากับชย่าอวี่ชิวผิดไป

 

 

เพราะเขารู้แล้วว่าตัวของชุยหังเป็นอะไร อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นชุยหังกับชย่าอวี่ชิวอยู่ด้วยกันแบบนี้ด้วย

 

 

โดยเฉพาะครั้งที่แล้ว ชย่าอวี่ชิวยังซื้อของกินให้เขาเป็นกองเลยด้วย…

 

 

ความรู้สึกของเขาในเวลานั้นเหมือนกับกล้ามเนื้อหัวใจตายไปแล้วยังไงอย่างนั้น มันหยุดนิ่ง สมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ

 

 

เขารู้สึกตัวเองใจร้อนขึ้นมานิดหน่อย ตัวเองควรจะเข้าไปทักทายหลูจื้อสักหน่อย จากนั้นก็อธิบายให้เขาฟังว่าพวกเขาแค่ออกมาเดินเล่นด้วยกันเพราะตนอารมณ์ไม่ดีก็เท่านั้น

 

 

แต่เรื่องพวกนี้มันก็เป็นแค่สิ่งที่ผุดขึ้นมาให้หัวสมองของเขาตอนนี้ก็เท่านั้น เขายังคงไม่ขยับ จากนั้นก็ยืนมองหลูจื้อหมุนตัวเดินจากไป

 

 

ตอนนี้เขาถึงสังเกตได้ว่าในมือของหลูจื้อกำลังถือโทรศัพท์แนบไว้ข้างหู ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังโทรศัพท์หาใครสักคนอยู่

 

 

คงจะเป็นแฟนสาวของเขาสินะ เขาเคยบอกว่าเขามีแฟนแล้ว

 

 

พอคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้ชุยหังรู้สึกปวดใจมากกว่าเดิมอีก

 

 

“ไปเถอะ อย่าเอาแต่นั่งอยู่ตรงนี้เลย คนที่เขาไม่รู้อะไรอาจจะคิดว่าฉันกำลังรังแกนายอยู่ก็ได้ ฉันไม่ใช่พวกที่ชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัวแบบนั้นหรอกนะ” ชย่าอวี่ชิวตั้งใจจะพูดล้อเล่นออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

 

แต่ว่าอารมณ์ที่แสดงออกมาทางใบหน้าของเขาในตอนนี้มันก็ดูอึดอัดมากจริงๆ

 

 

ในเมื่อเขาทำตัวชัดเจนกับชุยหังแล้ว เขาย่อมอยากได้ท่าทีที่ชัดเจนของชุยหังด้วย

 

 

แต่ดูจากท่าทีของชุยหังแล้ว เขาก็ต้องอดทนฝืนใจไม่เร่งเร้ามากเกินไป

 

 

เรื่องของความรู้สึก มันบังคับกันไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าคนๆ นั้นไปแล้ว คนนี้จะสามารถเข้าไปแทนที่ได้ในทันที

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 81 คำสารภาพรักที่แสนจริงใจ

 

 

ชุยหังไม่สามารถให้คำตอบกับชย่าอวี่ชิวได้จึงทำได้แค่ปฏิเสธข้อเสนอของเขาไปอย่างลำบากใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเขาไปข้างหน้า

 

 

เดินไปบนถนนแถวสวนอุทยานในมหาวิทยาลัย มองดูผืนหญ้าและดอกไม้ที่เจริญเติบโตอย่างสวยงามแล้วมันทำให้อารมณ์ของชุยหังค่อยๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“นายไม่ต้องลำบากใจอะไร ควรจะพูดยังไงก็พูดแบบนั้น ในเมื่อตอนนี้นายยังตัดสินใจไม่ได้ก็ค่อยๆ คิด” ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้นอีกประโยค

 

 

ชุยหังพูดต่อ: “อืม ขอฉันคิดหน่อยนะ”

 

 

“โอเค แค่เอาไปคิดก็โอเคแล้ว อย่างน้อยก็ย่อมดีกว่าตัดโอกาสฉันทิ้งไปเลยล่ะนะ” ชย่าอวี่ชิวพูด

 

 

ชุยหังมองท่าทางของเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

 

 

“ถ้าเพื่อนมัธยมคนนั้นของนายรู้เข้า เดาว่าคงอยากจะถลกหนังฉันเต็มทีแน่” เขาพูด

 

 

“ถลกหนังนายทำไม? นายคิดว่าตัวเองเป็นตัวเตียวม่วง [1] ตะวันออกหรือไง” ชย่าอวี่ชิวเริ่มพูดล้อเล่นขึ้นมาอีกแล้ว

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “หนังของฉันราคาสูงกว่าเตียวอีกนะ”

 

 

ที่จริงบรรยากาศระหว่างพวกเขาสองคนในตอนนี้ยังคงอึดอัดมากพอสมควร นี่ก็นับว่าเป็นการฝืนคุยแก้บรรยากาศเท่านั้น

 

 

จากนั้นก็เดินมาถึงร้านค้าร้านเล็กๆ ที่พวกเขามาด้วยกันเมื่อวันก่อนโดยไม่รู้ตัว ชย่าอวี่ชิวถามขึ้น: “นายอยากกินอะไร”

 

 

ชุยหังรีบส่ายหน้าทันทีพลางตอบคำถาม: “ฉันไม่อยากกินอะไรเลย”

 

 

“ไม่ต้องกลัว กินของๆ ฉันก็ไม่ได้แปลว่าต้องกลายเป็นคนของฉันซะหน่อย” ชย่าอวี่ชิวพูดยิ้ม

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “ไม่ใช่ คือไม่ได้อยากกินอะไรเลยจริงๆ”

 

 

“เป็นอะไร หรือว่าสิ่งที่ฉันพูดกับนายวันนี้มันทำให้นายตกใจมากเกินไป?”

 

 

“ไม่ขนาดนั้น ก็แค่คิดไม่ถึง” ชุยหังพูด

 

 

ชย่าอวี่ชิวลูบหัวตัวเองแล้วพูดขึ้น: “ขนาดตัวฉันเองยังคิดไม่ถึงเลย ตอนมัธยมยังแอบรู้สึกว่าเพื่อนคนนั้นแปลกมากเลย แต่ว่าไม่ได้มีความรู้สึกดูถูกหรืออะไรแบบนั้นเลยจริงๆ นะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ตัวเองเลือกและไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เพียงแค่รู้สึกว่าฉันคงจะไม่มีทางกลายเป็นคนประเภทนั้นไปได้ ก่อนหน้านี้ฉันมักจะใจเต้นแค่กับสาวๆ หน้าตาสวยๆ เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะมามหา’ ลัยแล้วมาเจอนาย ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้”

 

 

ชุยหังยิ่งไม่รู้ว่าจะแสดงปฏิกิริยาตอบกลับยังไงกับคำพูดแสดงความรู้สึกที่ไม่ได้เสริมแต่งอะไรแบบนี้ ไม่มีสำนวนคำศัพท์สวยหรูอะไร และไม่มีส่วนที่จะมาปลุกปั่นความรู้สึกใดๆ มันจริงใจมาก แล้วก็ทำให้ช็อกมาก

 

 

“ฉันรู้สึกมึนนิดหน่อย ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินนายพูดอะไรแบบนี้” ชุยหังกล่าว

 

 

“ตอนที่อาบน้ำด้วยกันกับฉัน นายก็เอาแต่หลบหลีกฉันใช่ไหม” จู่ๆ ชย่าอวี่ชิวก็เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น

 

 

ชุยหังนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดตอบ: “อืม ก็นับว่าใช่นะ”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เห็นหมดทุกอย่างแล้วใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวเริ่มพูดเล่นขึ้นมาอีกแล้ว

 

 

ชุยหังคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบเขา: “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”

 

 

“เพราะฉะนั้นนายก็ควรจะรับผิดชอบถูกปะ?” ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับยังไงดี ความรับผิดชอบครั้งนี้เขารับมันไว้ไม่ไหวจริงๆ

 

 

“พวกเราเดินกลับกัน?” ชุยหังพูดอ้อมเปลี่ยนเรื่องจากหัวข้อเมื่อครู่นี้อย่างอึดอัดใจ

 

 

ชย่าอวี่ชิวถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดขึ้น: “นี่ฉันพึ่งจะดึงเข้าเรื่องแท้ๆ นายก็ไม่ไหวซะละ ฉันรู้จุดอ่อนของนายแล้วล่ะ”

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “จุดอ่อนของฉันมีเยอะมาก ที่นายเจอก็เป็นแค่หนึ่งในนั้นเท่านั้นแหละ”

 

 

“ไม่เป็นไร อันนี้เป็นจุดสำคัญ” ชย่าอวี่ชิวพูด

 

 

ชุยหังก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ช้าไม่เร็ว รักษาระยะห่างจากชย่าอวี่ชิวด้วยอาการเก้อเขิน แต่ก็แอบกังวลอีกว่าเขาจะทำอะไรพรวดพราดขึ้นมาอีก

 

 

เมื่อกลับถึงใต้ตึกหอพักชย่าอวี่ชิวก็พูดขึ้น: “ต้องให้ฉันไปส่งนายข้างบนไหม”

 

 

“ไม่ต้องหรอก ฉันว่าผู้คุมหอน่าจะอยู่ ยังไงนายก็ขึ้นไปไม่ได้” ชุยหังพูด

 

 

“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนนะ กลับไปรอคำเรียกจากนายต่อละ” ชย่าอวี่ชิวพูด

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “อืม บ๊ายบาย”

 

 

หลังยืนมองส่งชย่าอวี่ชิวกลับไปแล้ว ชุยหังก็หมุนตัวกลับก่อนจะชนกับใครบางคนเข้าเต็มๆ

 

 

“แฟน?”

 

 

 

 

——

 

 

[1] ตัวเตียวม่วง เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ถูกนิยมเอาขนมาทำเสื้อผ้า