ตอนที่ 1600 มาแต่งงานกันเถอะ (3) / ตอนที่ 1601 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1600 มาแต่งงานกันเถอะ (3)

อวิ๋นลั่วเฟิงใช้มือลูบคางเบาๆ ดวงตาเป็นประกายอันตราย

“เผ่าสัตว์อสูรมีประวัติยาวนาน แล้วแต่ละเผ่าก็มีสมบัติล้ำค่า…” นางหยุดไปชั่วครู่ “ดังนั้นถ้าพวกเขาอยากให้พวกเราปล่อยวางเรื่องนี้ ข้าก็อยากเห็นว่าพวกเขาจริงใจแค่ไหน”

ไม่มีใครในเผ่าสัตว์อสูรไม่ฉลาด พวกเขาเข้าใจความหมายของนางทันทีที่นางแล้วรีบส่งคนในเผ่าให้ไปเอาสมบัติของเผ่ามาที่นี่ พวกเขายอมยกสมบัติให้ดีกว่าถูกขับไล่!

แต่ว่า…สัตว์อสูรวิญญาณอย่างหมูป่าที่เกิดมาไม่ฉลาดก็ไม่เข้าใจในคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงแม้แต่นิดเดียว หมูป่าถามอย่างสงสัย “จริงใจงั้นหรือ เจ้าจะปล่อยเราไปถ้าพวกเราขอโทษอย่างจริงใจจริงๆ หรือ”

“เจ้าโง่เอ๊ย!” ยอดฝีมือจากเผ่าหมาป่าใช้หมัดทุบศีรษะของหมูป่า “นางหมายถึงให้เจ้าไปเอาสมบัติของเผ่าเจ้ามาแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของเผ่าเจ้าต่างหาก”

“อย่างนี้นี่เอง” ตอนนั้นเองหมูป่าก็เข้าใจ แต่เขาก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง มนุษย์นี่มีปัญหาเยอะจริงๆ ทำไมไม่พูดความคิดตัวเองออกมาตรงๆ ทำให้เขาต้องเสียเวลามาหาคำตอบ…

“ก่อนที่คนพวกนี้จะเอาสมบัติมาไถ่ตัวพวกเขา คนพวกนี้ต้องอยู่ที่นี่ หั่วหั่วอยู่เฝ้าพวกเขา ใครก็ตามที่คิดหนีก็สังหารโดยไม่ต้องละเว้น!” อวิ๋นลั่วเฟิงยกมือดึงคอเสื้อของอวิ๋นเซียวด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ “อวิ๋นเซียว เราควรจะไปที่เตียงเพื่อสะสางปัญหาของเราไม่ใช่หรือ”

ริมฝีปากของอวิ๋นเซียวยกขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงมีเสน่ห์ว่า “ได้สิ”

เขาไม่ปฏิเสธนางอยู่แล้ว… …

ภายในห้องกว้างใหญ่ห้องหนึ่ง อวิ๋นเซียวหยิบแส้ออกมาเงียบๆ แล้วหันหลังช้าๆ ก่อนจะเอามือทั้งสองไว้ด้านหลังศีรษะเหมือนกับท่าทางของนักโทษที่ยอมรับการลงโทษเมื่อทำผิด

อวิ๋นลั่วเฟิงงุนงง นางรับแส้ที่อวิ๋นเซียวยื่นให้ตัวเองแล้วถามว่า “เจ้ากำลังทำอะไร”

“กำลังรอบทลงโทษจากท่านอยู่” ดวงตาของอวิ๋นเซียวฉายแววจริงจัง จริงจังมากเสียจนทำให้ใบหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงมืดครึ้ม

ปัง!

ทันใดนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็พุ่งไปหาอวิ๋นเซียวแล้วกดเขาไว้กับเตียงก่อนจะจับเขามาบังคับจูบ

“อวิ๋นเซียว ให้ข้าบอกเจ้าว่าบทลงโทษของเจ้าคืออะไร…”

ความจริงแล้วอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้โกรธอวิ๋นเซียวเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นนางเองที่ไม่ได้ถามเขาตั้งแต่แรก ด้วยนิสัยของอวิ๋นเซียวแล้ว ถ้านางไม่ถาม เขาก็จะไม่พูดอะไร

ที่สำคัญนางก็ไม่ได้อยากจะยืมพลังอำนาจเขามาใช้ แน่นอนว่านางไม่มีทางยอมเป็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหลังบุรุษ นางต้องการที่จะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขาแล้วพิชิตแผ่นดินนี้ด้วยกัน!

“อวิ๋นเซียว หลังจากที่ข้าหาหงหลวนเจอแล้ว ข้าจะกลับไปที่แดนลับแลแล้วจัดงานแต่งงานของเรา”

อวิ๋นเซียวมองใบหน้าของสตรีที่กดเขาเอาไว้ ดวงตาสีดำสนิทไร้ก้นบึ้งของเขาปรากฏรอยยิ้ม “ในที่สุดท่านก็วางแผนยอมรับฐานะข้าอย่างเป็นทางการแล้วเหรอ”

ใบหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงดำมืด “เจ้านี่เหมือนกับท่านปู่จริงๆ ถึงคิดว่าข้าเป็นคนประเภทที่จะไม่ยอมรับผิดชอบแม้จะกินเจ้าจนไม่เหลืออะไรแล้วงั้นหรือ ข้าก็แค่ต้องแยกจากเจ้ามาตลอด แล้วหลังจากที่พวกเราได้พบกันอีกก็มีเรื่องยากลำบากมากมายเกิดขึ้น แล้วหงหลวนก็มาหายไปอีก ถ้าไม่มีสหายเหล่านี้แล้วข้าจะแต่งงานอย่างสบายใจได้อย่างไร”

นางหยุดไปชั่วครู่ก่อนพูดต่อ “ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจว่าจะจัดงานแต่งของพวกเราหลังจากที่เจอหงหลวนแล้ว เจ้าว่าดีหรือไม่”

“ไม่ใช่แค่งานแต่งงานของพวกเรา…” อวิ๋นเซียวดึงอวิ๋นลั่วเฟิงเข้ามากอดแล้วพลิกตัวสลับตำแหน่งกัน “พวกเราเองก็จะเริ่มสร้างชีวิตใหม่ด้วยไม่ใช่หรือ”

เขาเริ่มถอดเสื้อผ้าของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วโยนมันลงพื้น จากนั้นก็ปลดม่านกั้นเตียงลงมา ทำให้เห็นเพียงเงาร่างเลือนรางสองร่างที่หอบหายใจผ่านม่านกั้นสีขาวเท่านั้น…

…………………………………..

ตอนที่ 1601 ประมุขพรรคไล่ตามวายุ (1)

วันต่อมา

เมื่อแสงจากดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้อง คนทั้งสองที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันก็ลืมตาขึ้น

อวิ๋นลั่วเฟิงขยับไหล่ที่ปวดเมื่อยของนางแล้วมองอวิ๋นเซียว “ครั้งหน้า ถ้าเจ้าทรมานข้าแบบนี้อีก เจ้าก็ไปนอนที่พื้นเสีย!”

“ครั้งหน้าข้าจะอ่อนโยนกว่านี้” อวิ๋นเซียวดึงอวิ๋นลั่วเฟิงเข้ามากอดแล้วยิ้มบาง

“นี่ก็สายแล้ว พวกเราควรเตรียมตัวออกจากที่นี่ได้แล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงยืดขาแล้วลุกขึ้นจากเตียง

แอด!

ประตูห้องถูกเปิดออก แล้วเด็กสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างเคารพว่า “นายท่าน นายหญิง ท่านเฟิงเย่ว์สั่งให้ข้าน้อยมารับใช้ท่านเจ้าค่ะ”

เด็กสาวคนนี้เป็นหนึ่งในเผ่าวิหคเพลิงแล้วท่านเฟิงเย่ว์ที่พูดถึงเมื่อครู่ก็คือหัวหน้าเผ่าวิหคเพลิง

อวิ๋นเซียวขมวดคิ้ว “ออกไป ข้าไม่ต้องการบ่าวรับใช้!”

“นายท่าน ท่านเฟิงเย่ว์ให้บ่าวมาช่วยนายหญิงแต่งตัวเจ้าค่ะ” เด็กสาวยังคงก้มหน้าไม่กล้ามองอวิ๋นเซียว

กลิ่นอายของชายหนุ่มทรงพลังมากจนทำให้นางตัวสั่นด้วยความกลัว ท่านเฟิงเย่ว์บอกแล้วว่านายท่านเป็นคนที่เอาใจยาก แต่นางไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้

“ไม่อนุญาต” อวิ๋นเซียวมองเด็กสาวอย่างเย็นชาและไร้ความรู้สึก “ข้าจะจัดการเอง”

เด็กสาวสะดุ้ง นางไม่กล้าเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าจะเป็นนายท่านของเผ่าวิหคเพลิง เขาถึงกับดูแลนายหญิงเองเลยหรือ สำหรับมนุษย์แล้ว บุรุษอยู่เหนือกว่าสตรี แม้แต่ในเผ่าวิหคเพลิงที่เคารพผู้ที่แข็งแกร่งก็ไม่มีบุรุษคนไหนยินดีดูแลคนรักของพวกเขา…

นายท่านต่างจากมนุษย์ธรรมดาจริงๆ

“ตามบัญชาเจ้าค่ะ” เด็กสาวประสานมือคำนับแล้วถอยออกจากห้องไป

คิ้วคมของอวิ๋นเซียวขมวดแน่น เขาปล่อยบรรยากาศเย็นชาและจริงจังออกทางสีหน้า “ดูเหมือนว่าข้าต้องสอนกฎบางอย่างกับเผ่าวิหคเพลิงเสียแล้ว!”

พวกเขาบุกเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต

“อวิ๋นเซียว ตะวันขึ้นสูงแล้ว พวกเราก็ควรจะลุกจากเตียงแล้วเหมือนกัน”

หลังจากที่โดนอวิ๋นเซียวทรมานมาทั้งคืน ตะวันก็สายโด่งแล้ว

“เข้าใจแล้ว” อวิ๋นเซียวยิ้ม แล้วเสียงแหบของเขาก็มีน้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่ยากจะได้ยิน เขาดึงเสื้อผ้าบางชิ้นขึ้นมาจากพื้น “ให้ข้าแต่งตัวให้เจ้า…” …

ทุกคนในพรรครวมตัวกันอยู่ในห้องโถงแล้ว ใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวที่มาสาย

“พี่สาวอวิ๋น” เสี่ยวเหยียนวิ่งเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างมีความมีสุข “พี่ชายอวิ๋นและท่านเก่งมากจริงๆ! ตั้งแต่นี้ไปท่านเป็นผู้มีพระคุณของพรรคไล่ตามวายุ”

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มบาง ทันใดนั้นนางก็จับสายตาเย็นเยียบได้จากกลุ่มคน เมื่อนางหันไปมอง สายตานั้นก็ถอนออกไป แล้วคนคนนั้นก็ส่งยิ้มขอโทษมาให้

ชายผู้นี้…เหมือนจะเป็นคนที่ก่อนหน้านี้กล่าวหาอวิ๋นลั่วเฟิงว่าเป็นคนพาสัตว์อสูรวิญญาณมาที่นี่ ตอนแรกนางคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะไม่ธรรมดา

“ข้าต้องออกจากที่นี่ชั่วคราว ถ้าหวงอิงอิงและหูหลีกลับมา ให้พวกเขารอพวกเราที่พรรคไล่ตามวายุนี่” อวิ่นลั่วเฟิงหยุด “อีกอย่างเจ้าเคยเห็นสตรีที่ชื่อหงหลวนหรือไม่”

หงหลวน?

ทันใดนั้นทุกคนก็มองหน้ากันอย่างงุนงง

“เฟิงเอ๋อร์” อวิ๋นเซียวมองพวกเขาก่อนจะหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง “ข้าให้เฟิงเย่ว์ถามพวกสัตว์อสูรเมื่อวานแล้ว ไม่มีใครเคยเห็นหงหลวน ยิ่งไปกว่านั้น…พวกเขายังไม่เคยได้ยินชื่อนี้ด้วย”

ถ้าหงหลวนมาที่เมืองสัตว์อสูรจริง นางก็ไม่มีทางหายไปอย่างไรร่องรอย แล้วเหตุใดคนพวกนี้ถึงไม่เคยเห็นนาง