บทที่ 541 คุณใส่เสื้อผ้าดีๆ ก่อนค่อยว่ากัน / บทที่ 542 พิธีประกาศรางวัล

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 541 คุณใส่เสื้อผ้าดีๆ ก่อนค่อยว่ากัน

ตอนเย็นต้องไปพิธีประกาศรางวัลจินหลาน หลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้ว เยี่ยหวันหวั่นถอดชุดฝึกซ้อมออก เปลี่ยนเป็นชุดผู้ชายไปเลย

ในห้องนอนใหญ่ ซือเยี่ยหานเพิ่งจะรักษาด้วยการฝังเข็มเสร็จ บนร่างเปลือยเปล่าเห็นรอยช้ำเชียวจากเข็มนับไม่ถ้วนได้รางๆ

เธอค่อนข้างกลัวเข็ม ดังนั้นทุกครั้งที่ซือเยี่ยหานฝังเข็มเธอจึงไม่กล้าอยู่ด้วย

“เจ็บหรือเปล่าคะ?” เยี่ยหวันหวั่นนั่งลงแล้วเอ่ยถาม

ซือเยี่ยหานสวมเสื้อเชิ้ต สีหน้าเรียบเฉย “ไม่เจ็บ”

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว “ไม่งั้น…ครั้งหน้าให้ฉันอยู่ด้วยเอาไหม?”

ซือเยี่ยหานเหลือบมองเธอทีหนึ่ง จากนั้นพูดว่า “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเธอเป็นลมไป ฉันต้องมาดูแลเธออีก”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด ไม่รู้จักรักษาน้ำใจกันสักนิดจริงๆ

“อ้อ จริงสิ…” เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเครียดขึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ซือเยี่ยหาน ฉันมีเรื่องสำคัญมากจะต้องบอกคุณ”

ซือเยี่ยหานกลัดกระดุมพลางเอ่ยถามว่า “อะไรเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองซือเยี่ยหานกลัดกระดุมเสื้อ ผิวเปลือยที่โผล่ออกมา พลันหยุดชะงัก “เอ่อ…”

ซือเยี่ยหานส่งสายตามองด้วยความสงสัย รอให้เธอพูดต่อ

เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ก้มหน้าปิดตาอย่างจนปัญญา โบกมือเร่ง “คือว่า คุณติดกระดุมให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน ฉันลืมหมดแล้วเนี่ยว่าจะพูดอะไร…”

ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจในทีแรก จากนั้นเหมือนว่าเสียงหัวเราะจะดังขึ้นเบาๆ

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อกลัดกระดุมทุกเม็ดเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยว่า “เสร็จแล้ว เธออยากจะพูดอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าซือเยี่ยหานใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็พึงพอใจในที่สุด และนึกออกแล้วว่าตัวเองอยากจะพูดสิ่งใด

เยี่ยหวันหวั่นไตร่ตรองบทพูดอยู่แปปหนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง “ซือเยี่ยหาน ฉันเพิ่งจะค้นพบว่า ฉันอาจจะเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้!”

ซือเยี่ยหานไม่พูดสิ่งใด

ซือเยี่ยหานนิ่งไม่ตอบสนอง เยี่ยหวันหวั่นจึงเริ่มร้อนใจ “ทำไม คุณไม่เชื่อเหรอ? วันนี้ฉันกับสืออีไปที่ลานฝึกซ้อม สืออีสอนเทคนิคการต่อสู้ให้ฉัน ผลคือฉันอัดสืออีซะจนหมอบ! สืออียังอยากจะให้ฉันเป็นอาจารย์เขาด้วย!”

“แล้วเธอเป็นไหม?” ซือเยี่ยหานถาม แสงหม่นในดวงตาลึกล้ำวูบไหว

สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นจนปัญญา “อื้อ ตอนแรกฉันคิดว่ามันบ้าเกินไป รับปากไม่ได้อยู่แล้ว เป็นครูอยู่ดีๆ จู่ๆ จะมาเป็นนักเรียนได้ยังไง? แต่ว่า สืออีท่าทางแน่วแน่มาก ยังสงสัยว่าฉันรังเกียจที่เขาคุณสมบัติไม่เพียงพอหรือเปล่าด้วย ฉันไม่มีทางเลือกก็เลยรับปากจะสอนเขาไป นอกจากสืออีแล้ว ยังมีบอดี้การ์ดที่ชอบพูดติดอ่างอีกคนด้วย…”

เยี่ยหวันหวั่นพูดพลาง นวดขมับด้วยท่าทางเหนื่อยล้า “อันที่จริง…ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้…ฉันรู้สึกว่าการเรียนรู้และการซึมซับเรื่องราวหลายอย่างๆ ของฉันเหมือนว่าจะต่างไปจากคนทั่วไป เหมือนกับว่าเรื่องราวพวกนั้น ฉันทำเป็นอยู่แล้ว อย่างเช่น การต่อสู้ แล้วก็การแสดง…ราวกับเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณของฉัน ฉันไม่ได้ไปเรียนพวกมัน เพียงแค่ไปทบทวนพวกมัน ความรู้สึกแบบนี้…แปลกจัง…”

ซือเยี่ยหานมองใบหน้าสับสนของหญิงสาว มือใหญ่วางลงบนศีรษะเธอแล้วลูบเบาๆ “ไม่มีอะไรแปลกหรอก เธอแค่มีพรสวรรค์เท่านั้น”

ราวกับกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อ ซือเยี่ยหานจึงพูดเพิ่มอีกประโยค “ฉันก็เป็นเหมือนกัน”

พริบตาที่ฝ่ามือใหญ่สัมผัสศีรษะของเธอ เยี่ยหวันหวั่นพลันถูกปกคลุมด้วยความสบายใจ แต่พอวินาทีต่อมาได้ยินคำพูดของซือเยี่ยหาน ใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความหมดคำจะพูด

ที่รักคะ คุณพูดจริงใช่ไหม?

เธอเนี่ยนะ? มีพรสวรรค์?

เยี่ยหวันหวั่นส่งเสียงเฮอะ “เอาเถอะ ยังไงซะฉันก็เชื่อห้าคำหลังของคุณ”

ซือเยี่ยหานเป็นคนมีพรสวรรค์ นั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ส่วนเธอ จะไปอยู่ระดับเดียวกันกับอัจฉริยะเข้าขั้นประหลาดอย่างซือเยี่ยหานได้อย่างไร…

……………………………………………………..

บทที่ 542 พิธีประกาศรางวัล

คงเป็นเพราะได้ระบายความในใจกับซือเยี่ยหาน เยี่ยหวันหวั่นจึงรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย

พูดอีกอย่าง ในเมื่อมาแล้วก็อยู่อย่างสบายใจเถอะ แม้แต่เรื่องอย่างการย้อนกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งยังเกิดขึ้นได้ แล้วยังจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก

เวลากลางคืนสองทุ่มตรง งานพิธีประกาศรางวัลจินหลานครั้งที่สี่สิบหกเปิดฉากอย่างเป็นทางการ

เป็นงานเลี้ยงมื้อค่ำที่จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้งของวงการบันเทิง ที่งานมีแสงไฟระยิบระยับ สื่อมวลชนเนืองแน่น คนที่เดินบนพรมแดงล้วนเป็นดาราชั้นนำและพวกหน้าใหม่ชื่อดัง

คืนนี้หานเซี่ยนอวี่เดินเคียงคู่กับเฉียวเข่อซินบนพรมแดง

ทั้งสองรู้จักกันมานาน ในวงการบันเทิงเรียกกันว่าพี่ว่าน้องตลอดเวลา จึงไม่อาจเกิดเป็นข่าวซุบซิบอะไรได้

เมื่อใดที่หนุ่มหล่อสาวงามอยู่ด้วยกันก็มักจะดึงดูดสายตาผู้คนได้มากที่สุดเสมอ ทั้งสองเพิ่งจะปรากฏตัวก็ผลาญฟิล์มไปจำนวนนับไม่ถ้วน

เมื่อพิธีกรเห็นเฉียวเข่อซินผู้เป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนาวันนี้ ดวงตาพลันเป็นประกาย รีบถามคำถามที่เตรียมรอไว้นานแล้ว “เข่อซิน ภาพยนตร์ ‘ตำนานจิ้งซู’ ครั้งนี้ทำลายสถิติ 600 ล้านใบ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นชมมากนะคะ! น่าเสียดาย ที่คำวิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการได้รางวัลของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นไปในทางลบ คิดว่าเป็นภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ ล้วนพูดถึงทักษะการแสดงของคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ทราบว่าคุณมีความมั่นใจว่าจะได้รางวัลนำแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในคืนนี้ไหมคะ?”

คำพูดของพิธีกรแฝงเป็นนัย เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะจี้จุดให้เฉียวเข่อซินโกรธ อยากจะให้เป็นข่าวดังขึ้นมา

ยิ่งไปกว่านั้น หัวข้อนี้ก็เป็นจุดอ่อนของเฉียวเข่อซินอยู่แล้วด้วย

เป็นไปดังคาด เฉียวเข่อซินผู้อารมณ์ร้อนหรี่ตาทั้งลง กำลังจะอ้าปากตอกกลับ

เวลานี้ หานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ด้านข้างรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงรีบกระแอมอย่างแรง ชิงพูดก่อนหน้าเฉียวเข่อซิน “อะแฮ่ม คำถามนี้ก่อนจะมาที่นี่ผมได้ถามพี่ซินแล้ว พี่ซินบอกว่าคืนนี้มีรุ่นพี่มากความสามารถตั้งมากมาย ไม่ได้ฝืนให้ได้มา เธอทำได้เพียงทำสิ่งที่เธอทำได้ให้ดีที่สุด เรื่องอื่นๆ ให้เป็นไปตามโชคชะตาก็พอครับ!”

หานเซี่ยนอวี่กล่าวจบก็ไม่เปิดโอกาสให้พิธีกรได้อ้าปากพูดอีก ลากเฉียวเข่อซินออกไปเลยทันที

เฉียวเข่อซินมองพิธีกรคนนั้นด้วยสีหน้าโกรธเคือง เสมือนบอกว่าถือว่าแกโชคดีไป

ห่างไปไม่ไกล เยี่ยหวันหวั่นมองภาพฉากนั้นอย่างจนใจจนต้องกุมหน้าผาก การที่เฉียวเข่อซินถูกกลั่นแกล้งมากมายขนาดนี้ในวงการ เป็นผลเนื่องมาจากนิสัยของเธอด้วย

ในเวลานี้เอง มีเสียงฮือฮาที่ดังกว่าเมื่อครู่นี้ดังขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้ามองไปก็ได้เห็น คู่ต่อไปที่เดินบนพรมแดงไม่ใช่ดาราชื่อดัง แต่เป็น…เยี่ยอีอี หัวหน้าผู้จัดการศิลปินแห่งหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ กับกู้เยว่เจ๋อซีอีโอกู้กรุ๊ปและผู้จัดการทั่วไปแห่งหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนท์

คู่รักคู่นี้ฝ่ายหญิงงดงามบอบบาง ฝ่ายชายสูงใหญ่รูปหล่อ รูปลักษณ์ไม่เป็นรองเหล่าดวงดาราในวงการ ฐานะในวงการก็ไม่ธรรมดา และที่น่าจับตามองมากกว่านั้นคือ ด้านหลังพวกเขายังมีดาราชื่อดังในสังกัดหวงเทียนหลายคน ทั้งหมดล้วนเป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัล เมื่อ ‘ชาวสวรรค์หวงเทียน’ อยู่ด้วยกันพลันทำให้งานเกิดความเคลื่อนไหวไม่น้อย

พิธีกรถือไมค์เอ่ยชื่นชม “ว้าว! นี่ต้องเป็นกลุ่มกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดบนพรมแดงคืนนี้ของเราแน่! หัวหน้าเยี่ย ประธานกู้ ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านมั่นใจกับรางวัลในคืนนี้ไหมคะ?”

เยี่ยอีอีมองกู้เยว่เจ๋อข้างกายด้วยท่าทางอ่อนโยน เป็นภาพสามีว่าอย่างไรภรรยาก็ว่าตามอย่างไรอย่างนั้น

ใบหน้าของกู้เยว่เจ๋อไม่เผยความหวั่นใจอะไร พูดเพียงสี่คำเรียบๆ “ต้องได้แน่นอน”

ใบหน้าขึงขังหล่อเหลาของชายหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดจากพวกชอบคนหน้าตาดีที่งานอีกครั้ง

ดวงตาของพิธีกรสาวก็เป็นประกายวิบวับ “คนที่พูดด้วยความมั่นใจให้ความรู้สึกแตกต่างกันจริงๆ นะคะ แต่ว่าก็ไม่น่าแปลกใจนะคะ รุ่นพี่หลี่จงอี้เป็นรายชื่อตัวเต็งในรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ฉีเหม่ยหลินก็เป็นตัวเต็งในรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ไม่แน่ว่าคืนนี้หวงเทียนอาจจะเด็ดมงกุฎลอเรลของราชาและราชินีภาพยนตร์พร้อมกันก็ได้นะคะ!”

“คนที่พูดด้วยความมั่นใจให้ความรู้สึกแตกต่างกันจริงๆ” อะไรกัน คำพูดของพิธีกรกำลังกระทบกระเทียบคำตอบของเฉียวเข่อซินเมื่อครู่อย่างไม่ต้องสงสัย…

………………………………………………………..