ตอนที่ 3 อวดงั้นเหรอ ข้าก็ทำได้

สวรรค์ลิขิตข้าให้เป็นตัวร้าย I Am the Fated Villain

“นายน้อยกู่ ข้าขออภัยแทนเจ้าศิษย์โง่เย่เฉินนี่ด้วยที่ขาดมารยาท”

ประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนหน้าดำ

ขณะที่เขาขอโทษกู่ฉางเกอ เขาก็ส่งสัญญาณให้เหล่าผู้อาวุโสผ่านสายตา

แขกทั้งหมดต่างกำลังดูละคร

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเคยอับอายขนาดนี้ด้วยเหรอ?

“ท่านประมุข ขอให้ข้าจับกุมเย่เฉินที่นี่เป็นการขออภัยแก่นายน้อยกู่ด้วยเถอะ”

ตอนนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ฉู่เสวียนพยายามประจบประแจงกู่ฉางเกอ

เขาได้เคลื่อนไหวแล้วตอนพูด อักขระปรากฏบนฝ่ามือเขาขณะที่เขาซัดฝ่ามือใส่เย่เฉิน

บูม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

อักขระผสานและเปลี่ยนเป็นอสนีบาตน่ากลัวราวกับว่ามังกรอสนีบาตได้จุติลงมา

ในฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ความสามารถของเขาย่อมเป็นเลิศ

เย่เฉินก็แค่ศิษย์ใน

มีความต่างชั้นในระหว่างอาณาจักรบ่มเพาะของพวกเขาอีกด้วย

ดังนั้น เขาจะมาสู้กับฉู่เสวียนได้ไง

ภายในโถง แสงสว่างปรากฏ และพุ่งออกไป

ทุกคนต่างกำลังดูการต่อสู้นี้

คนส่วนใหญ่ รวมถึงประมุขไท่เสวียนไม่มีใครสนใจผลลัพธ์

พวกเขากำลังรอดูความพ่ายแพ้ของเย่เฉิน

เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าพวกเขาลงมือเอง มันจะทำลายชื่อเสียงของพวกเขา

มีสายมากมายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นกับตระกูลใหญ่ท่ามกลางแขก

เขาไม่อยากลงมือเองให้เสียหน้า

“งั้นก็มาเลย”

ในอีกด้าน เย่เฉินกลับรับการโจมตีนี้ด้วยใบหน้าตื่นเต้น

เขาไม่แสงความกลัว เขากลับระดมพลังทั้งหมดและรับการโจมตีนี้ด้วยฝ่ามือ

“เย่เฉินผู้นั้นไม่รู้จักสูงต่ำ เขาไม่คิดที่จะแสดงวิชาอะไรออกมาเลย แค่พยายามฆ่าตัวตายชัดๆ”

ศิษย์ในบางคนหัวเราะ

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ฉู่เสวียนคือครึ่งก้าวสู่อาณาจักรปรมาจารย์ ส่วนเย่เฉินก็คงเป็นแค่วังวิญญาณ นี่ยังไม่รวมความจริงที่บุตรศักดิ์สิทธิ์มีกายเทพผนึกอสนีบาต”

“ไม่มีโอกาสที่จะเกิดอะไรแบบนั้นเลย”

คนอื่นพูดคุยกัน ทั้งหมดต่างเชื่อว่าเย่เฉินจะโดนฆ่า

วินาทีต่อมา เปลวไฟลุกโชน ห้ำหันกับอสนีบาต

ท่ามกลางคลื่นระเบิดรุนแรง ความร้อนได้ต้องกับแสงสว่าง

ตัวของฉู่เสวียนสั่นสะท้าน ร่างกายของเขาชาด้าน

แต่ทว่า เย่เฉินกลับประดุจเทพแห่งไฟ เขายืนนิ่งไม่ขยับด้วยใบหน้ามั่นใจ

“อะไรกัน…”

ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนั้น..”

ศิษย์หญิงนับไม่ถ้วนเริ่มแสดงความสนใจ

พลังของเย่เฉินเกินความคาดหมายของพวกนาง

คนส่วนใหญ่ตกใจ

ในการปะทะ ทั้งสองฝ่ายถือว่าสูสีกันในด้านพละกำลัง

“เย่เฉินคืออาณาจักรวังวิญญาณอย่างเห็นได้ชัด แต่เขากลับต้านการโจมตีของบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่แตะขอบเขตปรมาจารย์ได้แล้ว?”

ศิษย์กับผู้อาวุโสทั้งหมดต่างตกใจ

แม้กระทั่งประมุขศักดิ์สิทธิ์ ผู้ดูฉากนี้ก็ยังหน้าดำ

เหนือสิ่งอื่นใด ฉู่เสวียนนั้นมีกายเทพผนึกอสนีบาต ตัวเขาสามารถสู้กับคนที่มีอาณาจักรเหนือกว่าได้เช่นกัน

มีน้อยคนที่จะสู้เขาได้ในรุ่นเขา

แต่ เขากลับใช้กระบวนท่าเดียวตบเย่เฉินที่อาณาจักรต่ำกว่าไม่ได้เนี่ยนะ?

หรือศักยภาพของเย่เฉินจะแกร่งกว่าฉู่เสวียน?และไม่มีใครพบจนกระทั่งตอนนี้?

แน่นอน ถ้าจะถามหาคนที่ไม่แปลกใจกับเหตุการณ์นี้

มันคงเป็นกู่ฉางเกอ

นั่นคือบุตรฟ้าประทานอยู่แล้วนี่

การพลิกคว่ำภาพในหัวของทุกคนคือสิ่งที่พระเอกทุกคนทำได้

เขายังนั่งจิบชาหน้าตาเฉย

เขาพูดโดยไม่เร่งรีบ

“เจ้าดูเหมือนจะเชื่อในใจตัวเย่เฉินมาตลอดนี่ หืม?”

ซูชิงเกอหันมามองเขา

สายตาสงบแต่เดิมของนางพลันสั่นไหวเล็กน้อย

กลิ่นหอมอ่อนโยนลอยล่อง มันดูเหมือนจะเป็นน้ำหอมอย่างหนึ่ง

นางไม่พูด

แต่การกระทำของนางทรยศความคิดนาง

กู่ฉางเกอจ้องมองนางและยิ้ม“อย่าแกล้งทำเป็นสงบ เจ้ากำลังพยายามทำให้ข้าคิดว่าเจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเย่เฉินสินะ?กลัวว่าข้าจะจัดการเขา?”

“เจ้าเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก”

เขาเผยสิ่งที่นางพยายามปิดบังออกมาง่ายๆ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซูชิงเกอรู้สึกว่ายตรงหน้านางน่ากลัวมาก การกระทำปัจจุบันของเขาทำให้นางประหม่ากว่าตอนเขาทำเป็นไม่สนใจนาง

แต่ทว่า นางกลับเม้มปากและเงียบต่อไป

กู่ฉางเกอก้มมองถ้วยชาเขาและพูดด้วยน้ำเสียงสงบ“หมดแล้ว…”

ซูชิงเกอมองเขาก่อนจะหยิบหม้อชาเงียบๆและเติมชาให้เขา

“น่าสนใจ”

รอยยิ้มของกู่ฉางเกอดูลึกลับ มันเหมือนเขากำลังพูดกับตัวเอง แต่จริงๆแล้วเขากำลังพูดกับซูชิงเกอ

มือที่ซูชิงเกอถือหม้อชาสั่นเล็กน้อย

เย่เฉินกระทำอย่างบุ่มบ่ามในวันนี้ก็เพราะเขาได้ยินว่าประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนได้ส่งมอบลูกสาวตัวเองไปยังตำหนักของกู่ฉางเกอคืนก่อน

แต่ทว่า เรื่องส่วนตัวก่อนหน้าของเขาไม่สำคัญ ในสายตาเขา การฝึกคือสิ่งสำคัญ

ดังนั้น เขาจึงไม่ได้แตะต้องซูชิงเกอนัก

แต่จากความสัมพันธ์นี้ มันชัดเจนว่าซูชิงเกอก็คือนางเอกนิยาย

เหนือสิ่งอื่นใด จากมุมมองของพล็อตเรื่อง เย่เฉินไต่เต้าจากคนไร้ชื่อ และหลังผ่านสงครามร้อยราชวงศ์มา สุดท้ายเขาก็ได้เข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน

ในความเป็นจริง มันน่าจะถึงกลางเรื่องได้แล้ว

ซูชิงเกอมีพรสวรรค์และใบหน้างดงามไร้ที่ติ ในฐานะท่านหญิงศักดิ์สิทธิ์ นางต้องฉลาดมาก

นางรู้ว่าการที่เย่เฉินเผชิญหน้ากับเขาอย่างนี้ก็เหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน

ดังนั้น นางจึงไม่วิงวอนเพื่อเย่เฉิน

นั่นทำให้นางรู้สึกรำคาญเย่เฉินกว่าเดิมซะอีก

วิธีดีสุดเพื่อล้างความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเย่เฉินก็คือทำให้นางคือว่าเย่เฉินนั้นกระจอก

ตัวละครแบบนี้จะไม่ใช่นางเอกได้ไง ใช่ไหม?

มันน่าเสียดายที่กู่ฉางเกอเห็นเรื่องนี้มาหมดแล้ว

มันเหมือนกับการเบิกตาเทพ

โดยเฉพาะตอนนี้ หลังกู่ฉางเกอรู้ว่าตัวเองคือตัวร้าย เขาก็ไม่คิดปล่อยซูชิงเกอไป

เมลอนนี้ยังไม่หวานพอ

แต่ก็ช่วยดับกระหายได้

“ข้าประเมินเจ้าต่ำไป’

ตอนนี้ ฉู่เสวียน บุตรศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนมีสีหน้าไม่สู้ดี เขาพูดเสียงเย็นและวางแผนโจมตีต่อ

ต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะกู่ฉางเกอ เขากลับโค่นเย่เฉินไม่ได้ ซึ่งทำให้เขาอับอาย

แต่ครั้งนี้ กู่ฉางเกอกลับเดินมาข้างหน้าและโบกมือ

“น่าเบื่อ”

แต่ประโยคแรกนี้ของเขากลับทำให้ใบหน้าของเย่เฉินแข็งกระด้าง

“แต่ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้า งั้นข้าก็ไม่ขอรบกวนบุตรศักดิ์สิทธิ์ฉู่เสวียน”

“ความกล้าบ้าบิ่นไม่เกรงกลัวอะไรนั่น เพราะเจ้าอวดดี?”

กู่ฉางเกอพูด

เขาชำเลืองมองเย่เฉิน

วินาทีต่อมา แรงกดดันมหาศาลคล้ายท้องฟ้าถล่ม จักรวาลแตกสลายก็ถาโถมลงมา

ทั้งโถงเหมือนมีพายุโถมใส่ อักขระเปล่งแสง และพลังวิญญาณก็ปั่นป่วน

ทุกคนต่างรู้สึกถึงความกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ

แม้กระทั่งใบหน้าของผู้อาวุโสหลายคนก็ยังเปลี่ยนไป

“นี่คือพลังของคุณชายกู่…”สีหน้าของประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเปลี่ยนไป

พุฟ!

ในฐานะคนที่เป็นเป้า ใบหน้าของเย่เฉินขาวซีด

จากนั้นขาของเขาก็อ่อนยวบ และคุกเข่ากระแทกพื้น

หัวของเขากดแน่นลงกับพื้น ยากที่จะขยับตัวได้

นี่คือการข่มอย่างสมบูรณ์

ไม่ว่าเขาจะเรียกอาจารย์ของเขาในแหวนยังไง มันก็ไม่ได้ผล

“ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้…”

เย่เฉินพยายามเงยหัว และมองชายชุดขาวที่กำลังก้มมองเขาเหมือนมด

นี่แค่แรงกดดัน?

ใบหน้าของกู่ฉางเกอเต็มไปด้วยความไม่แยแสและหยิ่งยโส แต่จริงๆแล้วเขากำลังหัวเราะในใจ

อย่าคิดมาก ผลของการต่อสู้นี้ ข้าเกรงว่ามันจะลงเอยด้วยการที่เย่เฉินเอาชนะฉู่เสวียนได้และตบหน้าทุกคน

ต่อมา เย่เฉินจะฉวยโอกาสท้าทายเขาอีก

แล้วการเดิมพัน?กับปู่ในแหวนของเขา นั่นคงไม่ง่าย

แต่ก็เป็นความคิดที่ดี

แต่เขาคือผู้ข้ามโลก และเขาเองก็มีนิ้วทองคำเหมือนกัน(ความสามารถสุดโกง)

(อาณาจักรบ่มเพาะ : กายมนุษย์ ทะเลวิญญาณ วังวิญญาณ ปรมาจารย์วิญญาณ เซียน(ขอใช้คำว่าเซียนแม้จะไม่มีตัวอักษรจีนว่าเซียน) เซียนศักดิ์สิทธิ์ ราชาเซียน จักรพรรดิเซียน กึ่งเทพ)