ตอนที่ 101

Taming Master

Whoong- .

สมรภูมิผู้กล้าเป็นเหมือนโคลอสเซียมของผู้ท้าประลองขนาดใหญ่

และในแต่ละฝั่งก็เริ่มมีผู้เล่นของกิลด์โพราริสและกิลด์โลตัสถูกอัญเชิญเข้ามา

เอียนถูกอัญเชิญมาด้านขวาในตรงกลางค่ายของกิลด์โลตัส

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้เล่นที่เข้าร่วมเพียงคนเดียวของกิลด์โลตัส

‘นานมาแล้วสินะ สมรภูมิผู้กล้า’

 

ก่อนที่เขาจะรีเซ็ตพวกเขามักจะมาที่แห่งนี้เพื่อที่จะเพิ่มอันดับกิลด์ของพวกตน เขาได้เข้ามายังที่แห่งนี้ประมาณสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์และคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี

ถึงกระนั้นมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้จึงเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเอียน

 

อีก30วินาทีสงครามจะเริ่มต้นขึ้น

 

ข้อความของระบบที่โผล่ขึ้นมา

เอียนเริ่มสังเกตผู้เล่นแต่ละคนในฐานฝ่ายตรงข้าม

เนื่องจากเขาไม่สามารถที่จะขยับได้แม้กระทั่งนิ้วจนกว่าการต่อสู้จะเริ่มขึ้น สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือการประเมินพลังต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม

‘ไอพวกโง่นั่นเข้ามาโดยที่ไม่คิดจะปกปิดเลเวลเอาไว้…’

เอียนเห็นผู้เล่นหลายคนที่ปรากฏเลเวลออกมา ก็เดาะลิ้นออกมา

มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกเป็นอย่างดีว่ากิลด์ฝ่ายตรงข้ามนั้นคิดว่าการต่อสู้ในสมรภูมิผู้กล้านั้นง่ายขนาดไหน

‘อย่างแรกมีสิบสองคนที่โชว์เลเวลเอาไว้ พวกมันไม่มีใครที่มีเลเวลเกิน100เลยสักคน นี่เลเวลสูงสุดแค่95เองงั้นหรอ?’

ปัญหาคือที่เหลืออีกสิบห้าคนหรือมากกว่านั้นไม่สามารถดูเลเวลได้

ในหมู่พวกมันอาจจะมีคนที่แข็งแกร่งอยู่ก็เป็นได้

‘พวกมันเห็นว่าฉันเป็นผู้เล่นคนเดียว พวกมันเลยประมาทงั้นสินะ?’

และสมมติฐานของเอียนนั้นถูกต้อง

กิลด์โพราริสที่มองดูกิลด์โลตัสอย่างห่างๆก็คิดว่ารอบนี้เป็นชัยชนะของฝ่ายตนแล้ว

“มิลลัน ฉันทำถูกแล้วใช่มั้ย?”

เมื่อรูคินพูด มิลลันก็ยิ้มและพยักหน้า

“นายทำถูกแล้ว ฉันไม่คิดเลยว่ากิลด์โลตัสจะกล้าส่งขยะออกมาสู้ในสมรภูมิผู้กล้า”

“หุหุ ฉันรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวแล้วสิ อยากจะวิ่งออกไปตอนนี้เลย”

“ฉันจะเป็นคนปลิดชีพมันเอง ไปหาคนอื่นเอา”

“ตลกจริงๆ ทำได้ก็ลองดู”

รูคินและมิลลันได้ขอให้หัวหน้ากิลด์ของพวกเขามาเข้าร่วมรอบแรกด้วย

เหตุผลมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นเพราะกิลด์โลตัสคิดจะใช้สมรภูมิผู้กล้าเป็นการ์ดใช้แล้วทิ้ง

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีผู้เล่นเพียงคนเดียวในค่ายฝั่งตรงข้าม ร่างของทั้งสองก็เริ่มจะคั่นตัวบอกไม่ถูก

เพราะว่าถ้าหากพวกเขาชนะสมรภูมิผู้กล้า พวกเขาก็จะได้ค่าชื่อเสียงเป็นรางวัลซึ่งขึ้นอยู่กับผลงานที่ได้ทำ และถ้าหากฝ่ายตรงข้ามมีผู้เล่นเพียงคนเดียวพวกเขาก็จะได้รับค่าผลงานทั้งหมดในทันทีเพราะว่าพวกเขาฆ่าผู้เล่นเพียงคนเดียว

หากพวกเขาได้รับค่าผลงานทั้งหมดในสงครามกิลด์ระดับไดม่อน จากความน่าจะเป็นแล้วพวกเขาจะต้องได้รับค่าชื่อเสียงจำนวนมหาศาลแน่นอน

จากการมองเอียนจากระยะไกล รูคินก็บ่นออกมา

แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักเอียน

“ยังไงก็เถอะ ไอนั่นมันน่าสงสารจริงๆ”

มิลลันก็เห็นด้วย

“เอาจริงๆนะมันเป็นเหมือนโล่มนุษย์ยังไงไม่รู้”

เพราะว่าพวกเขาอยุ่ไกลกันมาก พวกเขาไม่สามารถดูหน้าของเอียนได้และเมื่อมีผู้เล่นเพียงคนเดียวเข้าร่วมแบบนี้แสดงว่ากิลด์ฝ่ายตรงข้ามต้องการให้เขาเป็นสิ่งใช้แล้วทิ้งอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายนั้นไม่มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งพอมาเข้าร่วม

ในสายตาของทั้งสองคน เอียนเป็นแค่เหยื่อชั้นดี

“เราคงจะต้องเสียดายมากแน่ๆถ้าหากพวกเราจ้างทหารรับจ้างมาลงในรอบแรก”

เมื่อรูคินพูดขึ้น มิลลันก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ใช่แล้ว ถ้าหากเราทำแบบนั้นนะมันคงจะเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองสุดๆ เพราะว่าพวกเราก็จะไม่ได้ค่าผลงานเลยแม้แต่น้อย”

นอกจากทั้งสองที่กำลังมีความสุขกับค่าชื่อเสียงที่พวกเขากำลังจะได้รับแล้ว เอียนก็กำลังคิดว่าเขาควรจะสู้ยังไงเพื่อลดความเสียหายที่เขาจะได้รับและชนะ

ขณะที่เขากำลังคิดนั้น NPCและผู้ชมก็เริ่มที่จะถูกอัญเชิญเข้ามาในแคมป์ของแต่ละฝ่ายแล้ว

Whiing- Whing- .

เฮิร์ซและฟิโอลันเมื่อเข้ามาในสนามแล้วก็รีบตรวจสอบพลังต่อสู้ของกิลด์โพลาริส

“เลเวลของพวกมันประมาณ90กันหมดเลยเฮิร์ซ”

เมื่อฟิโอลันพูด เฮิร์ซพยักหน้าขณะเขาแสดงท่าทางกังวล

“อ่า เท่าที่ดูจากอุปกรณ์ที่พวกเขาเอามาแล้วมันดูไม่เหมือนผู้เล่นระดับสูงเลยแม้แต่น้อยรวมถึงไม่ปกปิดข้อมูลอีกต่างหาก…แต่มันก็มีเยอะกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าเอียนจะสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวรึป่าว”

“ฉันคิดว่าเดี๋ยวพวกเราก็จะรู้เองถ้าเราดูต่อไป การสู้ของเอียนนั้นถนัดในการสู้คนเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าเขามีโอกาสที่จะชนะอยู่ ”

เมื่อฟิโอลันพูด เฮิร์ซก็นึกขึ้นมาได้เกี่ยวกับส่วนที่เอียนได้ทำเอาไว้ในดันเจี้ยนฟอลัน เขาก็รีบไล่ความคิดที่ไม่จำเป็นออกไปในทันที

เฮิร์ซมองไปยังเอียน

‘ฉันเชื่อในตัวนายจินซุง’

และหลังจากนั้นไม่นานข้อความระบบก็แจ้งเตือนขึ้นมาต่อหน้าผู้เล่นทุกคนในสนาม

 

การต่อสู้จะเริ่มต้นในอีก 5 วินาที 5, 4, 3

 

เอียนตั้งสมาธิให้มากที่สุดและพยายามทำใจให้สงบ

‘มันเหมือนฉันกำลังล่าเป็นกลุ่มแหละแหะ’

ตั้งแต่ที่พินโตขึ้น เอียนก็สามารถที่จะฆ่ามอนสเตอร์ในทวีปตอนเหนือที่มีเลเวลมากกว่า110ได้อย่างสบายๆ

แน่นอนว่าผู้เล่นนั้นแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ระดับCommon แต่ถ้าหากพวกเขาเลเวลไม่ถึง100มันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกังวล

2, 1 เริ่มได้!

เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เอียนรีบอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาก่อน

“อัญเชิญ! ไล,เรค,พิน,ฮัลลิ”

เอียนอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมดยกเว้นดุ๊กเดออกมา ก็หันหน้าไปยังNPCที่จัดแถวอยู่ด้านหลังเขา

และเขาได้เรียกผู้ติดตามของเขาสองคนที่มีอาชีพวอรร์ริเออร์ออกมาและพูดกับพวกเขา

“พวกมันน่าจะจ้องเล่นงานฉันและจะไล่ฆ่าฉันอย่างบ้าระห่ำแน่นอน โรโรยเทน เมลเลี่ยม นายสองคนคอยนำทหารและจัดแถวเอาไว้ทั้งสองฝั่งและเมื่อฉันเริ่มการต่อสู้ก็บุกเข้ามาจากทั้งสองฝั่งได้เลยนะ”

เขาไม่ได้หวังอะไรมากมายจากNPCทหารที่มีเลเวลประมาณ60อยู่แล้ว

แค่นี้ก็ถือว่ามากพอแล้วถ้าหากพวกเขาพุ่งเข้าไปโจมตีในสนามรบและทำให้ฝ่ายตรงข้ามสับสนได้

ทั้งสองผู้ติดตามก้มหัวพร้อมกันและตอบกลับ

“รับทราบครับ ท่านลอร์ด!”

“เป็นเกียรติที่ได้รับคำสั่งของท่าน!”

และเทนพุสที่เป็นอาชีพนักบวช เอียนก็สั่งให้เขามีสมาธิในการฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาเท่านั้น

เพราะในจังหวะที่พวกมันจัดการเอียนได้ พวกเขาก็จะแพ้แพ้การต่อสู้ทันทีดังนั้นพวกเขาต้องระวังให้มากที่สุด

ซีริอุสเป็นนักเวทและซีเรียเป็นซัมมอนเนอร์ เขาออกคำสั่งแก่ทั้งสองคน

“ทั้งสองคนหลังจากดุ๊กเดใช้หลุมอเวจี ยิงการโจมตีทั้งหมดเลยเข้าใจไหม? โดยเฉพาะซีริอุสนายต้องใช้เวท AoE ของนายก่อน”

“ดุ๊กเด ท่านหมายถึงโกเลมอเวจีใช่ไหมคะ?”

เมื่อซีเรียถาม เอียนพยักหน้า

“ถูกต้อง”

ขณะที่เอียนกำลลังออกคำสั่ง ผู้ของจากค่ายโพราริสก็วิ่งเข้ามาหาเอียนแบบไม่สนใจอะไรเลย

เพราะพวกมันทั้งหมดเล็งเอียนไว้เพียงคนเดียว จึงทำให้แบบแผนมั่วไปหมด

และนั่นเป็นสิ่งที่เอียนเล็งไว้

‘ถ้าหากดุ๊กเดใช้หลุมอเวจีโดนเต็มๆละก็ พวกเราก็จะสามารถกวาดล้างพวกมันทั้งหมดได้โดยไม่ต้องเสียอะไรมาก’

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเอียนถึงรอโดยไม่อัญเชิญดุ๊กเด

เขานั้นวางแผนที่จะอัญเชิญดุ๊กเดเมื่อเขาได้มุมที่ดีที่สุดในการใช้หลุมอเวจีแล้วเท่านั้น และตรึงพวกมันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เอียนกลั้นหายใจและรอคู่ต่อสู้ของเขามายังข้างหน้า

‘ฉันต้องการที่จะตรึงพวกอาชีพโจมตีระยะใกล้ให้หมดซะก่อน’

แม้คู่ต่อสู้ของเขาจะเข้าระยะการโจมตีของบอลเวทของเขาแล้ว เขาก็ยังคงยืนเฉยและรอ

มันเป็นเพราะว่าจากที่เขาคำนวนแล้วนั้นเขาจะทำให้คู่ต่อสู้ของตนระแวงเพราะพลังทำลายของบอลเวทของเขาไปเสียก่อนถ้าหากมันโดนโจมตีตรงๆ

‘อีกแค่นิดหนึ่ง…’

เอียนตั้งสมาธิมากขึ้นไปอีก

นี่เป็นเพราะว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเริ่มต้นการต่อสู้ยังไง มันเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบไปทั้งสงครามเลยทีเดียว

‘ตอนนี้แหละ…!’

เอียนเมื่อได้จังหวะแล้วก็อัญเชิญดุ๊กเดออกมา

“อัญเชิญ! ดุ๊กเด”

เมื่อเขาทำอย่างนั้น ดุ๊กเดที่ขนาดมหึมาปรากฏขึ้นขณะปล่อยเสียงดังต่อหน้าของผู้เล่นของกิลด์โพลาริสที่อยู่ข้างหน้า

Thud-!

ในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงผู้เล่นโพลาริสก็สั่นคลอน

“อะไรวะเนี่ย? อย่าบอกนะว่า ไอนั่นมันเป็นนักอัญเชิญหรอ?

“นี่เป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉันเห็นเป็นครั้งแรก!”

เพราะว่าดุ๊กเดที่เป็นโกเลมอเวจีที่เกิดมาจากการวิวัฒนาการโดยเอียน มันแน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเขาจะเห็นมันเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม เมื่อหนึ่งในพวกมันตะโกนเสียงดัง พวกมันทุกคนเริ่มพุ่งเข้าหาเอียนอีกครั้ง

“ไม่ต้องสนใจโกเลมและไปจัดการไอเวรนั่นก่อน!”

การตัดสินใจของพวกเขาก็ดูมีเหตุผลดี

ถึงกระนั้นสำหรับพวกเขาที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความสามารถแฝงของดุ๊กเดที่เรียกว่า ‘หลุมอเวจี’ พวกเขาก็ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ไปเสียแล้ว

“ดุ๊กเด หลุมอเวจี! พิน เสียงคำรามแห่งราชา!”

พร้อมกับเสียงตะโกนของเอียน คลื่นขนาดยักษ์ก็ไหลออกมาจากแขนทั้งสองของดุ๊กเด และพินที่เติบโตเป็นเต็มวัยแล้วก็คำรามออกมาในอากาศ

Kyaaoh-!

และเมื่อผลสโลว์ของเสียงคำรามแห่งราชาและผลของหลุมอเวจีทำงานทับซ้อนกัน ผู้เล่นสิบห้าคนที่วิ่งตรงเข้าหาเขาก็ถูกตรึงอยู่กับพื้น

“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!”

“นี่มันบ้าไปแล้ว นี่มันสโลว์อะไรกันเนี่ย?”

ในขณะที่ผู้เล่นที่ถูกดูดเข้าไปในระยะของหลุมอเวจีเริ่มรู้สึกสับสน เอียนยกมือขึ้นไปในอากาศ

“ทุกคน โจมตี!”

นาทีที่เอียนพูดจบ เรคพ่นลมหายใจโจมตีพวกมันก่อนและพินบินขึ้นสู่อากาศ

Hwaaak-!

พลังลมหายใจแห่งไฟที่ออกมาจากปากเรคเลเวล 117 มีขนาดใหญ่มาก

“นี่มันบ้าไปแล้ว! พลังชีวิตของฉันลดลงไปเกือบครึ่งจากการโจมตีเดียว!”

“เชี้ย! นี่มันเป็นกับดัก!”

ในที่สุดผู้เล่นกิลด์โพราริสก็รู้ถึงบางอย่างแปลกๆ เริ่มวิ่งออกไปด้วนความสับสนและพินก็กระพือปีกของมันไปบนอากาศและร่อนลงมาหาพวกมัน

Kwaaah-!

ลมที่กระจายออกมาจากปีกสีทองขนาดใหญ่ของพินที่มีเลเวลมากกว่า100แล้วก็สร้างกระแสลมกรรโชกออกมาและมันก็เริ่มที่จะไม่ปราณีต่อผู้เล่นของกิลด์โพราริสอีกต่อไป

 

ความสามารถแฝงของสัตว์เลี้ยง ‘พิน’ ‘บดขยี้’ ถูกใช้งาน

 

มันเป็นหายนะ

Bang – Ba-Bang-!

เมื่อสถานการณืกลายเป็นเช่นนี้เหล่าผู้เล่นโจมตีระยะไกลที่อยู่ห่างไปเล็กน้อยและไม่ติดอยู่ในหลุมอเวจีก็เริ่มที่จะยิงไฟของพวกเขาไปยังดุ๊กเด

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าสิ่งที่ต้องตัดปัญหาให้เร็วที่สุดก็คือหลุมอเวจี

อาจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดในการให้ยกเลิกสกิลหลุมอเวจีไปเสียก่อน เพื่อที่จะให้ดุีกเดยกเลิกสกิลและหลบการโจมตีแบบAoE

และเมื่อการโ๗มตีไฟจำนวนมากถูกยิงออกมา พลังชีวิตของดุ๊กเดที่มีมหาศาลก็ลดลงไปกว่าครึ่งในทันที

เอียนที่เห็นอย่างนั้น สั่งคำสั่งแก่ซีเรีย

“ซีเรียฟื้นฟูให้ดุ๊กเด!”

“ค่ะ!”

 

ความสามารถแฝงของซีเรีย ‘ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง’ ถูกใช้งาน

 

ผู้ติดตาม ‘ซีเรีย’ ใช้ ‘ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง’ และฟื้นฟูพลังชีวิตของสัตว์เลี้ยงดุ๊กเด 60%

 

เหล่าผู้เล่นที่กำลังตกใจที่ดุ๊กเดสามารถต้านทานการโจมตีของพวกตนได้นานขนาดนี้ ก็ตกอยู่ในสถานะลนลานทันทีเมื่อพลังชีวิตที่พวกเขาพยายามลดแทบตายกลับถูกฟื้นฟูจนเต้มในทันที

“อ๊า ฉันต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

ทุกคนสามารถได้เสียงร้องของผู้เล่นกิลด์โพลาริสที่เหมือนกับเสียงร้องไห้จากความรู้สึกจากใจของตนจริงๆ

พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผู้เล่นระยะใกล้ก็ถูกตรึงเอาไว้และโดนโจมตีด้วยสกิลAoEเริ่มที่จะตายไปทีละคน

ท่ามกลางพวกเขา มันก็รวมถึงรูคินที่มีอาชีพวอร์ริเออร์ด้วย

“เชี้ยเอ้ย! ความเสียหายบ้าอะไรว้ะเนี่ย!”

และสายตาของรูคินก็หันไปเห็นร่างของเอียนพอดี

“เอียน! แกนั่นเอง!”

และเมื่อเขาตะโกน เอียนก็หันความสนใจ

เอียนก็ตกตะลึง

“อะไรวะเนี่ย ทำไมไอโง่นั่นมานี่อีกแล้ว?”

และลูกบอลเวทยิงออกมาจากคฑาของเอียน

Pung-!

ความสามารถในการควบคุมกระสุนเวทของเขานั้นเกือบจะเข้าขั้นเหนือมนุษย์ไปแล้ว มันโดนเข้ากับรูคินที่อยู่ตรงหน้าเขาเต็มๆมันจึงทำให้คูลดาวน์ของเขาหายไปในทันที

 

ท่านได้โจมตีโดนเป้าหมายด้วยลูกบอลเวทและได้สร้างความเสียหาย 7720 แก่ ‘รูคิน’ ท่านโจมตีโดนศัตรูสำเร็จ เวทจิตวิญญาณถูกฟื้นฟู 5 หน่วย

 

เวทอัญเชิญของเอียนที่มีเลเวล114แล้วนั้นแข็งแกร่งมากซึ่งมันเทียบกับก่อนหน้านี้แบบเทียบไม่ติด และบอลเวทของเอียนก็สามารถสร้างความเสียหายจำนวนมหาศาลให้แก่รูคินมราใรพลังชีวิตไม่มากได้

ท่านได้สังหารผู้เล่น ‘รูคิน’ ท่านได้รับ 3.7% ของค่าผลงานในการต่อสู้

 

“อั้ก-!”

ขณะมองไปยังรูคินที่หายไปเป็นแสงสีเทาด้วยอาการขุ่นเคือง เอียนก็ส่ายหัว

“ทำไมฉันจะต้องมายุ่งกับไอโง่นี่ตลอดเลยนะ? มันทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดี”

อย่างไรก็ตาม จากนั้น

พลังงานสีม่วงลอยออกจากศพของรูคินและดูดซับเข้าเอียน

‘หืมม…? อะไรเนี่ย?’

เอียนกำลังกังวลว่ามันจะเป็นการโจมตีที่เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ก็เริ่มกลับไปจดจ่อกับการต่อสู้ด้านหน้าต่อเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และหลุมอเวจีของดุ๊กเดก็หมดระยะเวลาของมัน ส่งผลให้เกิดระเบิดขึ้น