ปึง

บัณฑิตในเสื้อขาวถูกกระแทกจนบินกระเด็นออกไป ส่วนเฉินโม่ก็ถอยเล็กน้อยไปก้าวหนึ่ง

ทั่วทั้งห้องหินสั่นสะเทือนไปชั่วขณะ ยิงอี้สงสามคนก็ยิ่งถูกพลังกระแทกจนบินออกไปเลยโดยตรง มีเพียงเฉินซงจื่อกับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ได้รับการคุ้มครองโดยเฉินโม่เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม

เฉินโม่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เดิมทีฉันคิดว่าแกเพิ่งได้รับการถ่ายทอดที่ไม่สมบูรณ์จากผู้บำเพ็ญ คิดไม่ถึงว่าแกจะเป็นผู้ฝึกวิชาบู๊คนหนึ่งด้วย!”

บัณฑิตในเสื้อขาวก็ตกใจเล็กน้อยเช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าผู้บำเพ็ญคืออะไร แต่ก็สามารถเข้าใจถึงความหมายคร่าวๆได้

แล้วมองไปที่เฉินโม่และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “แกฝึกทั้งบู๊และเซียน ความแข็งแกร่งของแกนั้นไม่น้อย ในโลกของการบำเพ็ญฉันไม่เคยได้ยินคนแบบแกนี้มาก่อนเลย!”

“ไอ้หนู แกมีความเป็นมายังไงกันแน่?”

เฉินโม่ฮึ่มเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง “ความเป็นมาของฉัน แกยังไม่คู่ควรที่จะรู้หรอก!”

“แกก็ลองหมัดนี้ของฉันดูหน่อยสิ!”

“ท่าที่หนึ่งหมัดเทพเทียนเสวียน สยบภูเขา!”

เฉินโม่ทิ้งเงาไม่สมบูรณ์ประกายหนึ่งไว้ตรงที่เดิมนั้น และซัดฝ่ามือหนึ่งออกไป

บัณฑิตในเสื้อขาวราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ในตัวได้เกิดแสงสีดำพุ่งออกมา และร่างก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว “หยินร้ายคุ้มกาย!”

ปึง

บัณฑิตในเสื้อขาวถูกเฉินโม่ซัดจนบินไปกระแทกเข้ากับกำแพงหิน แต่ว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ

“รับอีกหนึ่งหมัดของฉันซะ!”

ร่างของเฉินโม่แว๊บหายไป และก็ซัดเข้าไปอีกหมัดหนึ่ง

“ท่าที่สองหมัดเทพเทียนเสวียน แยกน้ำ!”

หมัดที่ทรงพลังพร้อมกับอานุภาพที่จะทำลายทุกสิ่งให้ขาดสะบั้น ได้มาถึงในทันควัน

“ไอ้หนู รังแกกันเกินไปแล้ว!มือฟาดทานฟ้า!”

บัณฑิตในเสื้อขาวโมโหจนหน้าตาแดงก่ำ เหวี่ยงฝ่ามือออกไป หมัดที่เกิดแสงสีดำข้างหนึ่งได้กระแทกรับกับหมัดหนึ่งของเฉินโม่

ปึง

บัณฑิตในเสื้อขาวถูกกระแทกจนบินไปอีกครั้ง ส่วนเฉินโม่ก็ได้ถูกกระแทกจนถอยหลังไปสองสามก้าว

ตั้งแต่เกิดใหม่ เฉินโม่ไม่เคยพบกับคู่ต่อสู้แบบนี้มาก่อน เจ้าสำนักแห่งสำนักหยินทิพย์คนนี้สามารถฝึกกลั่นพลังบำเพ็ญของเขาได้พอดี

“เอาอีก!”

เฉินโม่ร้องตะโกน แล้วซัดฝ่ามือหนึ่งออกไปอีกครั้ง

“ท่าที่สามของหมัดเทพเทียนเสวียน ปราบฟ้าดิน!”

พลังอันทรงพลานุภาพนั้นราวกับภูเขาขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง กระแทกเข้ากับบัณฑิตในเสื้อขาวที่ยังยืนไม่มั่นอยู่ตรงนั้น

“ไอ้หนู นี่แกเป็นศิลปะการต่อสู้ประเภทไหนกันแน่? ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!”

บัณฑิตในเสื้อขาวถูกพลังอันแรงกล้ากดจนคุกเข่าลงไปกับพื้นข้างหนึ่ง ร่างกายได้พุ่งลำแสงสีดำที่มีประสิทธิภาพชั้นหนึ่งออกมา เห็นได้ชัดว่ากำลังเตรียมพร้อมที่จะต้านทานกับหมัดนี้ของเฉินโม่

เฉินโม่ต่อสู้อย่างเมามันส์ เขารู้สึกว่าพลังทิพย์ภายในร่างกายของตัวเองถูกรวบรัดเอาไว้ไม่น้อย และก็ไม่ได้สนใจในตัวบัณฑิตในเสื้อขาวอีก สนใจเพียงแค่ซัดหมัดหนึ่งต่อด้วยอีกหมัดหนึ่ง และไล่ตามคู่ต่อสู้ราวกับเป็นบ้า

ปึงๆๆ!

ในตอนแรกบัณฑิตในเสื้อขาวยังสามารถตอบโต้ได้เป็นครั้งคราว แต่ในท้ายที่สุดก็ทำได้เพียงพึ่งพาพลังปราณคุ้มกายฝืนทนต้านทาน ทั่วทั้งห้องหินได้สะท้อนเสียงที่ดังก้องของกำปั้นที่กระทบกับเนื้อ

เฉินซงจื่อและคนอื่นๆมองดูกันอ้าปากตาค้าง แล้วแอบปาดเหงื่อแทนบัณฑิตในเสื้อขาวอยู่เงียบๆ โดยที่ไม่เคยเห็นเฉินโม่บ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อน!

ต่อยไปสิบกว่าครั้งเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเฉินโม่ก็ยั้งมือ ซึ่งรู้สึกสบายไปทั้งตัว ราวกับว่าได้อาบน้ำร้อนมา และปราณทิพย์ภายในร่างกายก็ยิ่งบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

เจ้าสำนักสำนักหยินทิพย์คนนี้จะโชคร้ายกว่า ชุดขาวทั้งตัวถูกต่อยตีจนเป็นเส้นผ้าที่แหลกกระจุย ช้ำเป็นทั้งสีเขียวสีม่วงไปทั่วทั้งตัว แทบจะไม่มีส่วนไหนที่ยังอยู่ดีเลย กระดูกหลายที่ก็ได้หักไปตั้งหลายซี่

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บถึงชีวิตดังเดิม ซึ่งเห็นได้ถึงความแข็งแกร่งของปรมาจารย์แดนคุ้มกายชั้นสูงสุด!

บัณฑิตในเสื้อขาวคลานขึ้นมาจากที่พื้น แล้วมองไปยังเฉินโม่ด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว เขาได้ถูกคนบ้าตรงหน้าต่อยตีจนหวาดกลัวไปซะแล้ว

“อย่างงี้ยังไม่ตายอีก!” เฉินโม่ก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้างเช่นกัน

“ไอ้หนู วันนี้ฉันจะไม่ฆ่าแก จะไม่ผิดสัญญาเป็นแน่!” บัณฑิตในเสื้อขาวในตอนนี้ยังมีท่าทางสูงส่งดังกับขณะที่เพิ่งปรากฏตัวที่ไหนกันอีก โดยได้กลายเป็นนักเลงที่ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่บนท้องถนนคนหนึ่งไปแล้ว