ตอนที่ 1327

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1327  ทรายดูด (3)

ยิ่งใหญ่  แต่ไม่ได้ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงผู้อ่อนแอ  นั่นคือจุดหนึ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากสิบสองวิหาร

“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ”  จวินอู๋เสียหรี่ตา  ถ้าพวกเขาเดินไปในทะเลทรายด้วยเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้  ไม่ถึงชั่วโมงได้เกิดภาวะขาดน้ำแน่

แม้ว่าพลังวิญญาณจะสามารถรักษาอุณหภูมิร่างกายได้ในระดับหนึ่ง  แต่นั่นก็แค่ตอนที่อุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไปเท่านั้น  ไม่ได้หมายความว่าพลังวิญญาณของพวกเขาจะสามารถลดอุณหภูมิได้ด้วย

เมื่อเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นหลายสิบองศาอย่างกระทันหัน  พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากถอดเสื้อผ้าหนาๆออกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางต่อไปในชุดที่เบาบางขึ้น

โชคดีที่พวกเขาเตรียมตัวมาดีในการเดินทางครั้งนี้  พวกเขาก็แค่ต้องถอดเสื้อผ้าหนาๆชั้นนอกที่ใส่อยู่ออกเท่านั้น

เสื้อผ้าที่พวกเขาถอดออกถูกเก็บไว้ในกระเป๋ามิติของจวินอู๋เสียเผื่อกรณีที่พวกเขาต้องการใช้อย่างกระทันหันอีกครั้ง

จากป่ากร่อนกระดูกที่หนาวเย็น  ก้าวเข้าสู่ทะเลทรายที่ร้อนระอุ  ความร้อนเข้าปะทะพวกเขาเหมือนคลื่นยักษ์  ลมพายุที่พัดเข้าใส่พวกเขามีกรวดและทรายอยู่ในนั้นด้วยและมันก็ข่วนใบหน้าของพวกเขา  ไม่ต้องพูดถึงการอ้าปากพูดเลย  แม้แต่การหายใจก็ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บจากการที่มีกรวดทรายเข้าไปในโพรงจมูกของพวกเขา

พวกเขาฉีกชายเสื้อผ้าออกและเอามาใช้เป็นผ้าคลุมหน้าปิดปากปิดจมูกของพวกเขาไว้เพื่อป้องกันทรายที่อยู่ในลมพายุ

ทรายสีทองใต้เท้าของพวกเขาร่วนมากจนไม่สามารถใช้แรงได้  เมื่อเหยียบลงไป  มันก็จะจมลงเป็นหลุม  ทรายที่อยู่รอบๆก็จะไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว  ไม่นานเท้าของพวกเขาก็ถูกฝัง

“นี่เป็นทรายดูด”  จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับรวบรวมพลังวิญญาณไว้ที่ใต้เท้าทันทีเพื่อลดน้ำหนักของร่างกาย

ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ไม่ใช่ทะเลทรายธรรมดา  แต่เป็นพื้นที่ทรายดูดขนาดมหีมา  หากประมาทเพียงเล็กน้อย  ตกลงไปแล้วล่ะก็  ไม่นานก็จะถูกทรายสีทองกลืนกินเข้าไป

เมื่อไม่มีหมอกหนาปกคลุม  ทัศนวิสัยในบริเวณนี้จึงดีขึ้นมาก  ถึงไม่มีลูกบอลเพลิงวิญญาณ  ก็สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน

แต่เส้นทางนี้ทำให้คนไม่สามารถเหยียบย่างไปได้เลย

เมื่อก้าวเข้าสู่ทรายดูด  ทรายจะดูดเท้าของพวกเขาอย่างแรง  ยิ่งดิ้นก็จะยิ่งถูกดูดมากขึ้น  มันแตกต่างจากหนองบึงแฉะๆ  เนื่องจากในหนองบึงยังสามารถมองหาร่องรอยของบ่อโคลนดูดได้  แต่ทรายดูดนั้นน่ากลัวกว่ามาก  เนื่องจากแรงดูดในหนองบึงไม่ได้แรงมากนัก  ถ้าพวกเขาก้าวพลาดเข้าไปในโคลนดูด  พวกเขาก็ยังสามารถได้รับการช่วยเหลือออกมาได้  ขณะที่ทรายดูดนั้น……โอกาสรอดของพวกเขาต่ำกว่ามาก

ทะเลทรายตรงหน้าทำให้พวกผู้เยาว์สิ้นหวังจนแทบกระอักเลือด  พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าคนที่สิบสองวิหารส่งมาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับทะเลทรายแห่งนี้หลังจากที่ผ่านความทรมานมาขนาดนั้น

อุปสรรคนับไม่ถ้วนและอันตรายที่ไม่สิ้นสุด  เผยออกมาในรูปแบบต่างๆมากมาย  ถ้าพวกเขาไม่ได้เจอเข้ากับตัวเองแล้วล่ะก็  พวกผู้เยาว์ก็คงร้องเพลงเต้นรำยกย่องสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดของคนจากราชอาณาจักรแห่งความมืดไปแล้ว  แต่ในตอนนี้  แม้แต่ยิ้มบางๆก็ยังยิ้มไม่ออกเลย

“ราชอาณาจักรแห่งความมืดนี่จริงๆเลย”  เฉียวฉู่ร้องอุทานพร้อมกับตบหลังหัวตัวเอง  เขาคารวะคนของราชอาณาจักรแห่งความมืดจากใจจริงๆ  พวกเขาทำทั้งหมดนี้ได้ยังไง?

จวินอู๋เสียไม่ได้รีบร้อนเคลื่อนไหว  ทรายดูดไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แค่โลกนี้  นางเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกมันก่อนที่จะมาเกิดใหม่แล้ว

เนื่องจากองค์กรเผชิญกับสถานการณ์ทุกรูปแบบ  หลายครั้งที่เกิดขึ้นในทะเลทราย  ครั้งหนึ่งนางเคยรักษานักฆ่าจากองค์กร  เป้าหมายของเขาอยู่ในทะเลทราย  เขาติดตามเป้าหมายอยู่ 3 เดือนก่อนจะเห็นโอกาสโจมตี  แต่เขาดันติดกับอยู่ในทะเลทราย  ไม่เพียงแต่เป้าหมายจะหลบหนีไปได้  แต่ตัวเขาเองก็เกือบจมลงไปในทรายดูดแล้ว  โชคดีที่เพื่อนของเขาอยู่ไม่ห่างจากเขามากนัก  พวกเขาจึงช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ทันเวลา

ชายคนนั้นถูกปืนยิงและถูกส่งมาให้จวินอู๋เสีย  มีรูขนาดใหญ่ที่ไหล่ของเขา  แต่เขาก็ยังคงพูดไม่หยุดเกี่ยวกับประสบการณ์ในทะเลทรายของเขา