บทที่ 368 โชคที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน
บทที่ 368 โชคที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน
“ฮัดชิ้ว!”
ในแดนทมิฬซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองแห่งความโศกเศร้า เซียวหลิงกำลังพยายามตีมอนสเตอร์เก็บเลเวลอย่างเต็มที่ เธอใช้เวลานานมากในการค้นหากลุ่มของมอนสเตอร์สไลม์ขนาดเล็กเลเวล 15 ในแผนที่ขั้นสูงนี้ แม้ว่ากลิ่นรอบตัวจะไม่ค่อยดีนัก แต่ความแปลกใหม่ในการโจมตีมอนสเตอร์ได้โดยอิสระก็ยังน่าตื่นเต้นสำหรับเซียวหลิง
“เสี่ยวไป๋ เธอห้ามช่วยฉัน ให้ฉันโจมตีพวกมันเอง! ทุกครั้งที่เธอช่วย มอนสเตอร์พวกนั้นก็ตายหมดในทันทีเลย!”
เซียวหลิงร่ายฟรอสโนว่าเพื่อแช่แข็งมอนสเตอร์สไลม์สามตัว และไม่ลืมที่จะเตือนเสี่ยวไป๋ที่อยู่ข้างหลังเธอไปพร้อมกัน เพราะทุกครั้งที่เธอโจมตีมอนสเตอร์ เสี่ยวไป๋จะเข้ามาแทรกแซง ไม่มีใครรู้ว่าเสี่ยวไป๋เอาดาบยักษ์นั่นออกมาจากไหน และเธอก็ฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดที่อยู่รอบตัวพวกเขาในไม่กี่วินาที
ทว่าเมื่อเซียวหลิงหันกลับมา เธอก็พบว่าเสี่ยวไป๋ไม่ได้จดจ่อกับเกม เธอมองไปรอบ ๆ และจาม
“เธอเป็นอะไรไป เสี่ยวไป๋?”
เซียวหลิงถามอย่างรู้สึกแปลก ๆ เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนจามในเกมได้ นอกจากนี้เสี่ยวไป๋ไม่ใช่ผู้เล่น ซึ่งทำให้เซียวหลิงสงสัยกว่าเดิม
แต่เสี่ยวไป๋ก็สงสัยเช่นกัน เธอเอื้อมมือมาแตะจมูกของเธอ แล้วเธอก็มองไปรอบ ๆ อย่างว่างเปล่า
“เสี่ยวไป๋ป่วยเหรอ?” เซียวหลิงพึมพำ เพราะเสี่ยวไป๋มักจะเงียบมากและจะไม่แสดงท่าทีไม่สบายใจเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงการจามเลย
[ติ๊ง! ผู้เล่นโคโค่แคนดี้ส่งคำขอเป็นเพื่อนกับคุณ ยอมรับหรือไม่?]
ในขณะนี้ แจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น เบี่ยงเบนความสนใจของเซียวหลิง
“ฮะ? ยอมรับ”
หลังจากที่เซียวหลิงรู้สึกแปลก ๆ เธอก็ยอมรับทันที แล้วส่งคำขอเป็นเพื่อนไปยังผู้เล่นที่ชื่อโคโค่แคนดี้
“สวัสดี? นั่นใช่เมดวัวหรือเปล่า?”
“ใช่ค่ะ…แล้วนั่นใช่ท่านเซียวหลิงหรือเปล่าคะ?” เสียงขี้อายของหนิงเคอเค่อดังมาจากสาย
“ฉันเอง! ในที่สุดเธอก็เข้าสู่เกมสักที เธออยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นไหน ฉันจะหาคนไปนำทางเธอ!” เซียวหลิงกล่าว
“ฉัน…ดูเหมือนฉันจะอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นหมายเลข 9191…” หนิงเค่อเค่อตอบอย่างระมัดระวัง
“หืม? ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ! ถ้างั้นเธอก็อยู่ตรงจุดเริ่มต้น อย่าขยับไปไหน! รอฉันไปรับนะ!”
เซียวหลิงประหลาดใจจึงหันกลับมาพูดกับเสี่ยวไป๋
“เสี่ยวไป๋ไปกันเถอะ วันนี้เราไม่ล่ามอนสเตอร์แล้ว!”
…
ในดินแดนแห่งอสูรหิน แม้ว่าหอกลองกินัสจะทรงพลัง หากไม่มีของสวมใส่ ต่อให้มีโบนัสจากบัฟโก็ตาม เซียวเฟิงก็ไม่สามารถฆ่ากลุ่มมอนสเตอร์ระดับหายากเลเวล 35 ในไม่กี่วินาทีได้
อย่างไรก็ตาม นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะดึงความสนใจของพวกมัน หลังจากใช้ไปสกิลหนึ่ง ความสนใจของมอนสเตอร์หลายร้อยตัวก็มุ่งไปที่เซียวเฟิง จากนั้นพวกมันก็ไล่ล่าเซียวเฟิงเพื่อฆ่าเขา
“ฉันจะดึงพวกมอนสเตอร์ออกไปให้! ฆ่าบอสให้เร็วที่สุด!”
หลีเซียนหยุนและคนอื่น ๆ กำลังยืนอึ้งอยู่ เซียวเฟิงก็ลากกลุ่มมอนสเตอร์และเริ่มวิ่งหนีจากเหมืองหินกลางแจ้งแห่งนี้ไป
หลีเซียนหยุนและคนอื่น ๆ ก็กลับมาตอบสนองด้วยความเร็วสูงสุดและเริ่มสร้างค่าความเสียหายต่อวินาทีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของพวกเขาก็ต่ำกว่าที่เซียวเฟิงจินตนาการไว้มาก พลังชีวิต 5% สุดท้ายของบอสต้องใช้เวลาถึง 20 นาทีในการจัดการ จะเห็นได้ว่าพลังชีวิตของยักษ์ปีศาจที่หายไปก่อนหน้านี้มาจากถ้อยคำแห่งเงาของเซียวเฟิงเพียงอย่างเดียว
เซียวเฟิงลากกลุ่มของมอนสเตอร์มาและวิ่งไปรอบ ๆ อยู่สองรอบ จากนั้นก็ได้ยินระบบแจ้งว่าภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จแล้วในที่สุด
[ติ๊ง! ปาร์ตี้ของคุณฆ่าบอสตัวสุดท้าย ยักษ์ปีศาจได้สำเร็จ! สำเร็จภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 35 ดินแดนแห่งอสูรหิน!]
[ติ๊ง! ปาร์ตี้ของคุณประสบความสำเร็จในการผ่านดันเจี้ยนเลเวล 35 เป็นผู้แรก! เขตที่คุณอยู่จะได้รับรางวัลเป็นคะแนนเกียรติยศ! การประกาศทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์กำลังจะเริ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้!]
[ติ๊ง! ปาร์ตี้ของคุณประสบความสำเร็จในการผ่านดันเจี้ยนเลเวล 35 เป็นผู้แรก! การประกาศทั่วทั้งเขตกำลังจะเริ่มในไม่ช้า!]
มอนสเตอร์ทั้งหมดที่ไล่ตามเซียวเฟิงหายไปในแสงสีขาว และเซียวเฟิงก็ถูกเทเลพอร์ตกลับมาที่ทางเข้าดันเจี้ยน ทว่าเสียงแจ้งเตือนของระบบที่ดังตามหลังทำให้เซียวเฟิงยืนตัวแข็ง
[ประกาศทั้งเซิร์ฟเวอร์! เขตฮันกุลเป็นผู้ผ่านดันเจี้ยนเลเวล 35 ได้สำเร็จเป็นผู้แรก! ได้คะแนนเกียรติยศ 35 แต้มแล้ว!]
[ประกาศทั้งเซิร์ฟเวอร์! เขตฮันกุลเป็นผู้ผ่านดันเจี้ยนเลเวล 35 ได้สำเร็จเป็นผู้แรก! ได้คะแนนเกียรติยศ 35 แต้มแล้ว!]
[ประกาศทั้งเซิร์ฟเวอร์! เขตฮันกุล…]
[ประกาศทั้งเซิร์ฟเวอร์! เขตฮันกุล…]
[ประกาศทั้งเซิร์ฟเวอร์! เขตฮันกุล…]
[ประกาศทั้งเขต! ภายใต้การนำของหัวหน้าหลีเซียนหยุน ปาร์ตี้จักรวรรดิแห่งกาลาดูผ่านดันเจี้ยนเลเวล 35 ได้สำเร็จเป็นผู้แรก! สมาชิกในปาร์ตี้คือ: แด๊ด ฟีนิกซ์แสวงคู่…]
[ประกาศทั้งอำเภอ! ภายใต้การนำของหัวหน้าหลีเซียนหยุน…]
[ประกาศทั้งอำเภอ! ภายใต้การนำของหัวหน้าหลีเซียนหยุน…]
เซียวเฟิงปรากฏตัวขึ้นในแสงสีขาวที่ทางเข้าโซนตัวอย่าง เขาตัวแข็งทื่ออย่างสมบูรณ์ เขามองดูหลีเซียนหยุนและคนอื่น ๆ ที่กำลังตื่นเต้นอย่างโง่เขลา
เพราะการประกาศของระบบไม่ได้กล่าวถึงเขตฮัวเซีย แต่เป็นเขตฮันกุล!
พูดอีกอย่างก็คือ ตอนนี้เซียวเฟิงไม่ได้อยู่ในเขตฮัวเซีย หลีเซียนหยุนและคนอื่น ๆ ต่างก็เป็นผู้เล่นเขตฮันกุล!
เอ่อ…ก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้เจอปัญหามากมายก่อนหน้านี้ อย่างเช่นชายหนุ่มไม่ได้ปรากฏในเมืองเทียนหลงตอนที่เขาเข้าสู่ระบบ คัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมืองก็ไม่พร้อมใช้งาน ผู้เล่นในรายชื่อเพื่อนของเขาออฟไลน์ทั้งหมด และการอัญเชิญเสี่ยวไป๋ก็ล้มเหลว!
เซียวเฟิงเปิดแผนที่ระบบและตรวจสอบดูดี ๆ มันคือดินแดนแห่งพระเจ้าจริง ๆ! กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เขตฮันกุลและเขตฮัวเซียอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีระบบแจ้งเตือน!
“ฮ่า ๆ! ในที่สุด เขตฮันกุลของเราก็ได้รู้สึกภาคภูมิใจและปลาบปลื้มใจสักที! เราเอาชนะเขตฮัวเซียที่ผ่านดันเจี้ยนครั้งแรกได้เร็วที่สุดเสมอทุกครั้งได้! เราผ่านดันเจี้ยนเป็นเขตแรกได้สำเร็จแล้ว!”
“ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วม! ปรมาจารย์…ฉันไม่สามารถพูดชื่อตัวละครของคุณอย่างเปิดเผยได้ แต่คราวนี้เราสามารถผ่านดันเจี้ยนได้สำเร็จ ผลงานส่วนใหญ่เราก็ควรยกให้คุณ ในที่สุดบอสก็ดร็อปแหวนระดับเทพเจ้ามา ก็ต้องยกมันให้คุณสิถึงจะถูก คนอื่น ๆ เห็นด้วยไหม?”
หลีเซียนหยุนเข้ามาหาเซียวเฟิง กล่าวขอบคุณและยื่นแหวนที่เปล่งแสงสีขาวให้เซียวเฟิง
ปรากฎว่าเธอเป็นสาวงามของฮันกุล และทุกคนในปาร์ตี้ก็เป็นผู้เล่นเขตฮันกุลด้วย ด้วยฟังก์ชั่นการแปลอัตโนมัติของระบบ เซียวเฟิงจึงแยกความแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เลย! ไม่น่าแปลกใจที่คนเหล่านี้จำเขาไม่ได้!
“ฉันเห็นด้วยสุด ๆ! ต่อให้ปรมาจารย์จะเอาของสวมใส่ระดับเทพทั้งหมดไปก็ไม่ว่าอะไรหรอก!” ผู้เล่นคนอื่น ๆ ส่ายหัว และรู้ว่าใครมีส่วนช่วยสนับสนุนมากที่สุดในการผ่านภารกิจดันเจี้ยนครั้งนี้
เซียวเฟิงไม่พูดอะไร หยิบแหวนจากหลีเซียนหยุนแล้วหันหลังกลับ
“ปรมาจารย์! มาเพิ่มเพื่อนกันเถอะ!” หลี่เซียนหยุนเรียกเขาอย่างเร่งรีบ
“ใช่แล้ว! ปรมาจารย์อย่าเพิ่งรีบไป! ต่อให้โดนเล่นประตูหลังแต่ก็น่าจะจบแล้วนี่! ฉันยังไม่ได้แนะนำโรงพยาบาลทวารหนักให้ท่านเลย!”
ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งพูดอะไรบางอย่างออกมา ทำให้ฝีเท้าของเซียวเฟิงชะงัก เขาพยายามต่อต้านความอยากหันกลับไปฆ่าพวกเขา แล้วจากไปด้วยใบหน้าที่มืดมิด
จนกระทั่งเขาอยู่ห่างจากดันเจี้ยนดินแดนแห่งอสูรหินมากพอ เขาก็หาที่เงียบ ๆ เพื่อออกจากระบบ
“ในที่สุด คุณก็ยอมออกจากระบบแล้วสินะ? ปากของฉันเกือบจะบวมเลย คุณเป็นคนเหล็กหรือไง? ต่อให้ฉันจะทำแบบนั้น คุณก็ไม่รู้สึกอะไรเลย!”
จืออี้กำลังพิงหว่างขาของเซียวเฟิง เมื่อเห็นเซียวเฟิงออกจากระบบ เธอก็เงยหน้าขึ้นและแลบลิ้นเลียริมฝีปากของเธอ ทำให้ดูมีเสน่ห์มาก
เซียวเฟิงไม่พูดอะไร พลิกตัวและกดเธอลง เมื่อเขาดึงผ้าห่มออกมา ดอกกุหลาบสีแดงที่เปื้อนเลือดก็สังเกตเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ
“อ๊า! ไม่! ฉันผิดไปแล้ว! ปล่อยฉันไปเถอะ! ฉันทำไม่ไหวจริง ๆ!”
จืออี้หน้าซีดและรีบขอความเมตตา แต่เซียวเฟิงที่โกรธจัดจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร เสน่ห์และความอ่อนโยนปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เป็นอีกสามชั่วโมงของการกอดรัดฟัดเหวี่ยงที่เข้มข้น จืออี้หมดสภาพอีกครั้ง เธอล้มตัวลงนอนบนเตียงและหมดสติไป ในที่สุดเซียวเฟิงก็พอใจทั้งร่างกายและจิตใจ เธอเป็นร่างทรงเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
หลังเอนตัวลงข้างเตียงอย่างสบาย ๆ เซียวเฟิงเอื้อมมือออกไปและหยิบแล็ปท็อปดาวเทียมของจืออี้ขึ้นมา เขาเริ่มค้นหาว่าทำไมเขาถึงเข้าสู่ระบบและปรากฏตัวในเขตฮันกุลได้
จากมุมมองของเส้นทาง ตอนที่เซียวเฟิงเข้าสู่ระบบก่อนหน้านี้ เขาอยู่ในน่านทะเลของฮันกุล นั่นคืออยู่ในอาณาเขตของฮันกุล
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ควรปรากฏตัวในเขตฮันกุลเมื่อเข้าสู่ระบบ!
การตั้งค่าของการเข้าสู่ระบบของ ‘มิธ’ ก็คือไม่ว่าสัญชาติของผู้เล่นจะเป็นอย่างไร เมื่อผู้เล่นเข้าสู่ระบบ ผู้เล่นจะปรากฏในประเทศที่ตนอยู่ตอนสร้างตัวละครในเกมของตัวเอง
ตัวอย่างเช่น กลุ่มคนของเฮล ส่วนใหญ่มาจากประเทศต่างกัน แต่สถานที่ที่พวกเขาเข้าสู่ระบบอยู่ในเมืองเฉิงไฮ่ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเกิดในเขตฮัวเซียและเมืองหลักเริ่มต้นคือเมืองเทียนหลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อกำหนดตำแหน่งที่ผู้เล่นเข้าสู่ระบบแล้ว จะไม่เปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนย้ายของผู้เล่นในโลกความเป็นจริง
ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มคนของเฮล ตัวละครของพวกเขาได้เกิดในเขตฮัวเซียแล้ว ดังนั้นแม้ว่าพวกเขากลับไปยังประเทศของตนในอนาคต ตัวละครของพวกเขาก็จะยังคงอยู่ในเขตฮัวเซีย และจะไม่เปลี่ยนไปเป็นเขตอื่น ๆ ตามประเทศที่พวกเขาอยู่
เป็นเหตุผลว่าเซียวเฟิงก็ควรจะเป็นไปตามนั้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเข้าสู่ระบบที่ไหน ชายหนุ่มก็ควรจะยังอยู่ในเมืองเทียนหลง ทว่าเมื่อเขากลับไปปรากฏตัวในเขตฮันกุล! ก็ยังช่วยให้เขตฮันกุลผ่านดันเจี้ยนครั้งแรกสำเร็จด้วย!
เรื่องนี้ทำให้เซียวเฟิงสับสนมากขึ้นแล้วก็โกรธในเวลาเดียวกัน ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นได้?
‘มิธ’ เป็นเกมที่สร้างขึ้นโดยโนอาห์ นอกจากนี้ยังได้รับการบำรุงดูแลตามเวลาจริงตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ควรจะมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นเลย
แต่เซียวเฟิงก็ได้พบกับสิ่งแปลก ๆ มากมายในเกม นอกจากสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นตอนที่เขาเข้าสู่ระบบในครั้งนี้แล้ว ก็ยังมีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แปลก ๆ ที่อ้างว่าเป็นโนอาห์อีก มีความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาเหรอ?
เซียวเฟิงไม่ได้เบาะแสอะไรหลังจากครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน หลังจากตรวจสอบข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ตแล้ว เขาไม่เจอสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเลย เขาจึงรอจนกระทั่งจืออี้ตื่นแทน
“เจ้าคนเลว คุณไม่ห่วงฉันเลย”
ร่างกายที่บอบบางของจืออี้ดูเหมือนจะสูญเสียกำลังไปหมด เธอเข้ามานอนซบอกของเซียวเฟิง เธอเกือบจะอยู่ในสถานะเป็นอัมพาต และบ่นอย่างยั่วยวนใส่เซียวเฟิง
อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้โกรธเลย กลับกันเธอได้ผ่านประสบการณ์ที่เปลี่ยนจากเด็กเป็นผู้ใหญ่แทน หลังจากนั้นเธอก็ดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหลเหลือเกิน
“ขอโทษที เธอหิวไหม? อยากกินอะไร? ฉันจะสั่งให้เธอเอง” เซียวเฟิงขอโทษเล็กน้อย รอบที่สองนั้นเขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายที่พิเศษของจืออี้ เธอคงได้รับบาดเจ็บไปนานแล้ว
แต่ถึงกระนั้น ตอนนี้จืออี้ก็มีปัญหาในการเคลื่อนไหว เซียวเฟิงประเมินอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าเธอต้องนอนอยู่บนเตียงและไม่สามารถเดินได้อย่างน้อยสองวัน
“ท่านเซียวผู้ยิ่งใหญ่ของเรา ตอนนี้คุณรู้วิธีดูแลคนอื่นแล้วงั้นเหรอ?” มีรอยยิ้มเล็ก ๆ ในดวงตาที่สวยงามของจืออี้ เธอใช้นิ้วเรียววาดวงกลมบนหน้าอกของเซียวเฟิง
แล้วจืออี้ก็พูดต่อ
“ฉันเป็นคู่หมั้นของซีเหมินชุยเสวียเลยนะ ท่านเซียวนอนกับฉันแล้ว คุณจะทำยังไงต่อ? แค่เดินออกไปเฉย ๆ งั้นเหรอ?”
“ฉันจะรับผิดชอบ” เซียวเฟิงกล่าว
“รับผิดชอบ? จะรับผิดชอบยังไง” จืออี้ถามพร้อมกัดริมฝีปากล่างของเธอ
“ตราบใดที่เธอไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับตระกูลซีเหมิน ฉันก็จะไม่ปล่อยให้ตระกูลซีเหมินเอาตัวเธอไป” เซียวเฟิงตอบ
“จริงเหรอ?” แววตาของจืออี้ตกอยู่ในภวังค์และจ้องมองที่เซียวเฟิงอย่างโง่เขลา
“จริงสิ ฉันรับประกันด้วยชีวิตของฉันเลย” น้ำเสียงของเซียวเฟิงเรียบนิ่ง แต่ไร้ซึ่งความลังเล
“บางทีการรู้จักคุณและได้พบคุณอาจเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของฉันแล้ว”
น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าสีขาวอันละเอียดอ่อนของจืออี้ เธอพยายามประคองร่างกายส่วนบนของเธอและจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของเซียวเฟิง