ตอนที่ 204 ที่จริง ผมซื้อมันมา…

ห้องถ่ายทอดสดระเบิด และคอมเมนต์จํานวนนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่งซึ่งกลายเป็นจุดสนใจของหยุนเฉิงทันที

“บ้าจริง นี่ถ่ายทอดสดเพื่อจับฆาตกร!”

“ฉันได้ยินมาว่าฆาตกรต่อเนื่องอยู่ที่นี่แล้ว”

“รีบไปดู!”

“ฉันรู้สึกว่าฆาตกรคนนี้น่าสงสารนิดหน่อย!”

เรื่องของ หวู่ กุยไค่ เป็นโศกนาฏกรรม องค์กรการกุศลที่เขาไปขอ ไม่เคยตรวจสอบเรื่องเขาซึ่งทําให้การรักษาลูกสาวของเขาล่าช้า

เมื่ออาการของลูกสาวของเขาแย่ลง และเธอต้องการการรับการรักษาโดยด่วนสมาคมการกุศลได้ตอบกลับหวู่กุยไค่ว่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขและการตรวจสอบก็ล้มเหลว

เนื่องจากขาดเงิน โรงพยาบาลจึงปฏิเสธที่จะรับเธอ และในที่สุดลูกสาวของเธอก็เสียชีวิตบนเตียงในโรงพยาบาล

โลกภายในจิตใจของหวู่กุยไค่พังทลายลงในขณะนั้นแต่ดูเหมือนเขาจะสงบนิ่งและจัดการกับงานศพของลูกสาวอย่างเงียบๆ

ต่อมาเพราะภรรยาของเขาเศร้าเกินไปเธอบอกว่าเธอไม่สามารถอยู่กับเขาได้อีกต่อไปและทิ้งเขาไว้หลังจากทิ้งจดหมายไว้ให้เขา

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาหวู่กุยไค่เริ่มวางแผนแก้แค้น

เขาคิดว่าองค์กรการกุศลที่ทําลายครอบครัวของเขาองค์กรการกุศลคือพวกโกหกหลอกลวง

เขาต้องการฆ่าผู้รับผิดชอบองค์กรการกุศลนี้เพื่อล้างแค้นให้ลูกสาวของเขาแต่สิ่งนี้ไม่สามารถระงับความเกลียดชังของเขาได้ เขาต้องการฆ่าหัวหน้าองค์กรการกุศลทั้งหมดเพราะเขาคิดว่า

องค์กรการกุศลทั้งหมดไม่มีอะไรมากไปกว่าสุนัขแรคคูนและพวกเขาล้วนเป็นคนโกหกหวู่กุยไค่ใช้เวลาหนึ่งปีในการเตรียมตัวและในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้นหัวหน้าองค์กรการกุศลสามแห่งติดต่อกันเสียชีวิตภายใต้คมมีดของเขา

แต่เมื่อเขาฆ่าบุคคลที่สามเขาพบว่าตัวเองโดนกล้องวงจรปิดของวิลล่าจับได้แม้ว่าเขาจะใช้วิธีการบางอย่างเพื่อชะลอเวลาตํารวจก็จะค้นพบตัวตนของเขาในไม่ช้าก็เร็ว

เขาได้พิจารณาสองทางเลือกหนึ่งคือหยุดและซ่อนตัวและสองคือ เร่งความเร็วในการแก้แค้นคือฆ่าเพิ่มอีกหนึ่ง

เมื่อช่วงที่เขาลังเลเขาก็เห็นการสัมภาษณ์ข่าวของหลินฟาน

หลินพ่าน จัดงานการกุศลที่มีชื่อเสียงในที่สาธารณะและอ้างว่า เขาไม่ได้เอาจริงเอาจังอะไรกับเขาเลยซึ่งทําให้หวู่กุยไค่โกรธอย่างเห็นได้ชัดหวู่กุยไค่ตัดสินใจเลือกเขาในทันทีดังนั้นเขาจึงมาถึงที่เกิดเหตุในวันนี้เขารู้ดีว่าถ้าเขาฆ่าหลินฟานในเวลากลางวันแสกๆเขาจะไม่สามารถหลบหนีได้อย่างแน่นอนมัน!”

ภายใต้การกระตุ้นของคําพูดของหลินฟานในที่สุดหวู่กุยไค่ก็แสดงมืดของเขาขึ้นมาฉากนี้ทําให้ผู้ชมตกใจทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุและในห้องถ่ายทอดสด

“พระเจ้า เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง!”

“เมื่อวานฉันบอกว่าฉันกังวลว่าคนๆ นี้จะมา แต่เขาก็ มา!”

“พี่ชายสุดหล่อ เมื่อวานคําพูดเขาคงไปกระตุ้นฆาตกรไม่น่าแปลกใจที่ฆาตกรจะโกรธเมื่อเห็น

“พี่ชาย หนีไป!”

“เฮ้ โชคไม่ดีเลย…”

คอมเมนต์ที่รีบร้อนเต็มไปหมด

ท้ายที่สุด หลินฟานกําลังเผชิญกับฆาตกรต่อเนื่องที่ชั่วร้าย

ตามข้อมูลที่ตํารวจเปิดเผยหวู่กุยไค่คนนี้อยู่ในประเภทของการฆ่าด้วยอารมณ์

ในเวลานี้ความกังวลของตํารวจก็ตึงเครียดเช่นกัน

หลินฟาน เอาตัวเข้าไปเสี่ยง และใช้ตัวเองเพื่อล่อฆาตกรในสถานการณ์นี้หลินฟานออกจะอันตรายเกินไป

อย่างไรก็ตามในฐานะผู้บัญชาการของปฏิบัติการนี้หลัวหลี่ไม่ได้สั่งการใดๆและยังคงให้ตํารวจอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมไว้

ทุกคนหดหู่มาก หัวหน้าทีมหลัว รออะไร?

เมื่อทุกคนกังวล

หวู่ กุยไค่ หยิบมีด และชี้ไปทาง หลินฟาน

“พี่หวู่ หยุด ผมเห็นอกเห็นใจกับประสบการณ์ของคุณแต่การฆาตกรรมนั้นผิดกฎหมายคุณฆ่าคนไปสามคนแล้วยังต้องการจะฆ่าผมอีกไหม”หลินพ่านกล่าว

หวู่กุยไค่กัดฟันของเขาและพูดว่า”ฉันหวังว่าฉันจะสามารถฆ่าพวกแกทุกคนได้และตอนนี้ฉันจะฆ่าแกอีกคนหนึ่ง!”

หลินฟาน กล่าวว่า”ผมไม่รู้ว่าคนอื่นโกหกหรือเปล่าแต่ผมไม่ใช่คนโกหกอย่างแน่นอนผมบริจาคเงิน 1 พันล้านเพื่อการกุศลเราเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและไม่มีคนกลางใดๆ ที่จะทําให้เกิดความแตกต่าง”

หวู่ กุยไค่ดุด่า : “แกโกหก พวกแกก็พูดแต่สิ่งที่ดีทั้งนั้นแต่ความจริงแล้ว พวกแกทุกคนก็ทําเพียงแค่หลอกคนอื่นคิดว่าฉันจะเชื่อแกไหม!”

หลิน ฟานกล่าวว่า”ที่ผมพูดไปเป็นความจริงน่าเสียดายที่เรามาช้าไป และหลิงอ้ายไม่ได้รอเราแต่เราจะใช้สิ่งนี้เป็นบทเรียนหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นอย่างเรื่องของหลิงอ้ายในอนาคตและช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือผมหวังว่าการมีอยู่ของกองทุนการกุศลหยงจิ๋วของเราจะช่วยปลอบโยนหลิงอ้ายจากบนสวรรค์ได

คําพูดของ หลินฟาน พูดได้ว่าจริงใจมาก

เดิมทีหวู่กุยไค่โกรธจัดแต่เมื่อเขาได้ยินค่าเหล่านี้เขาก็เงียบลงอย่างลึกลับคําพูดของหลินฟานช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับการตายของลูกสาวของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเพื่อที่ลูกสาวของเธอจะไม่ตายเปล่า ๆ อีกต่อไป

“คุณไม่ได้โกหกจริงๆ งั้นเหรอ” หวู่ กุยไค่พูดอย่างไม่เชื่อ

หลินฟานกล่าวว่า:”ถ้าคุณฆ่าผมกองทุนการกุศลหยงจิ๋วจะไม่สามารถดําเนินการต่อได้ผมเชื่อว่าลูกสาวของคุณต้องเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆและเธอต้องไม่เต็มใจที่จะทําเช่นนั้น เมื่อเธอเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสให้ตัวเธอเองแต่เธอต้องมีความสุขที่เห็นคนอื่นมีโอกาส ที่จะได้รับความช่วยเหลือ”

หวู่กุยไค่ร้องไห้:”เธอใจดีจริงๆแต่ทําไมเธอต้องทนทุกข์กับเรื่องแบบ นี้!”

หลินฟานกล่าวว่า “คุณเป็นพ่อที่ดีเห็นได้ชัดว่าคุณรักลูกสาวของคุณมากผมเชื่อว่าลูกสาวของคุณจะไม่อยากเห็นคุณเป็นแบบนี้พี่หวู่วางมีดลงเถอะ”

ปังปัง

มีดในมือของหวู่กุยไค่หล่นตกลงกับพื้น

หวู่ กุยไค่ หมอบลงกอดศีรษะและร้องไห้

ที่เกิดเหตุ และห้องถ่ายทอดสดเงียบ

อะไร? หลินฟาน กล่อมฆาตกรได้?

ทางด้านตํารวจ ในที่สุดหลัวหลี่ก็สั่ง:”ลงมือ!”

จากทุกด้านของเวทีตํารวจที่ซุ่มโจมตีถูกส่งตัวไปรวมตัวกันที่เวทีอย่างรวดเร็ว

หวู่ กุยไค่ สังเกตเห็น และทันใดนั้นพบว่าตํารวจกําลังเข้ามาใกล้ และรู้สึกตื่นตัวอีกครั้ง:“คุณ

โทรหาตํารวจงั้นหรือ?”

หลินฟานกล่าวว่า“คุณได้ฆ่าไป 3 ศพ เป็นเรื่องปกติที่ตํารวจจะจับกุมคุณ”

หวู่ กุยไค่พูดอย่างโกรธเคือง:”นี่คือแผนของคุณที่คุณกําลังทําอยู่สิ่งที่คุณพูดมานั้นเป็นเท็จทั้งหมดไอ้คนโกหกไอ้พวกโกหกพวกแกมันสมควรตายๆไปซะ!”

หวู่ กุยไค่ คว้ามีดที่ตกลงบนพื้นและพุ่งไปหาหลินฟาน

“ระวัง!”

ฝูงชนตกใจ

เหตุการณ์กลับตาลปัตรสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนทุกคน หวาดกลัว!

มันจบแล้วทําไมหลินฟานยังไม่วิ่งหนีไปในตอนนี้?

ในขณะนี้หลินฟานบินขึ้นตีข้อมือของหวู่กุยไค่แล้วเตะมีดออกไป

หวู่ กุยไก่ก๋าข้อมือของเขาไว้เหงื่อออกจากความเจ็บปวด

แม้ว่าหลินฟานจะใช้กําลังเพียงเล็กน้อยหวู่กุยไค่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปทันทีหลังจากนั้นตํารวจก็รีบเข้าไปปราบหวู่กุยไค่

เมื่อเห็นสิ่งนี้ทุกคนก็ประหลาดใจมาก

“น้องชายคนเล็ก น่าทึ่งมาก”

“เตะนั่น หล่อมาก!”

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาทําตัวสบายๆเพราะนี่.. เขาจึงไม่มีอะไรต้องกลัว”

“เรากังวลไปเปล่าๆ”

“หล่อ!”

ความคิดเห็นในห้องถ่ายทอดสดมีเคลื่อนไหวขึ้นจํานวนมาก

หวู่ กุยไค่ ถูกตํารวจปราบและโกรธจัดเขาหันไปมองหลินฟานและสาปแช่ง:”แกมันโกหกแกเป็นพวกโกหกคนโกหกแบบพวกแกมันสมควรที่จะตายสิ่งที่แกพูดมันทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง!”

ในขณะนี้ฉู่หยูเฟยนําเสี่ยวเจียไปที่เวทีและยื่นเอกสารในมือให้ หลินฟานหลังจากการตรวจสอบสถานการณ์ปรากฏว่าหลังจากตรวจสอบอย่างรวดเร็วแล้วสถานการณ์ของเสี่ยวเจียก็เป็นเรื่องจริง และเธอส่งเอกสารรายงานนี้เพื่อแสดงหลักฐานให้หลินฟาน

หลิน ฟานประกาศทันที: “หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ของคุณเสี่ยวเจียเป็นความจริงเธอเป็นเด็กก่าพร้าจริงๆและไม่มีแหล่งรายได้ เราได้ตัดสินใจที่จะสนับสนุนค่าเล่าเรียนของเธอเป็นเวลาสี่ปี และผมจะจ่ายในตอนนี้ทันที!”
ติงตง!

โทรศัพท์มือถือของ เสี่ยวเจีย ดังขึ้น พร้อมข้อความแจ้งเตือน

เสี่ยวเจีย หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา แล้วมองดู แล้วพูดด้วยความประหลาดใจ:”ได้รับเงินบริจาค แล้ว!”

ตุ่ม!

เสี่ยวเจียคุกเข่าลงที่หลินฟานทันทีด้วยความขอบคุณ: “ขอบคุณคุณหลินในที่สุดฉันก็สามารถไปโรงเรียนได้แล้ว!”

เมื่อเห็นฉากนี้หวู่กุยไค่ ก็ตะลึงเรื่องนี้จริงหรือโกหกกันแน่!

หากสมาคมการกุศลมีประสิทธิภาพมาก ในตอนนั้น ลูกสาวของเขาจะชะลอการรักษาได้อย่างไร!

หลินฟาน กล่าวว่า “พี่หวู่ผมบอกคุณแล้ว ว่าผมไม่ได้โกหกคุณ”

..” หวู่ กุยไค่ พูดไม่ออก

“ไป!” ตํารวจออกคําสั่ง และนําตัวหวู่ กุยไค่ออกไป

ต่อมา หลินฟาน ประกาศว่ากองทุนการกุศลหยงจิ่วได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการและฉู่หยูเฟยจะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการกองทุนการกุศลอย่างเต็มที่

“ฉู่ หยูเฟยดูเหมือนเธอจะเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่ในหยุนเฉิง!”

“คุณหญิงคนโตของตระกูลฉี่”

“พระเจ้า!เธอก็รวยมากด้วย!”

“แน่นอน คนรวยก็มักเล่นการกุศล!”

“ฉู่ หยูเฟยมีชื่อเสียงมากในโลกการกุศลดูเหมือนว่าเธอจะทําบุญด้วยใจจริง ๆ”

ทุกคนเริ่มพูดคุยกัน

หลินฟาน ประกาศเป็นการส่วนตัวว่าฉู่หยูเฟยกลายเป็นหัวหน้ากองทุนการกุศลหยงจิ๋วและฉู่หยูเฟย ยังคงตื่นเต้นมากๆกับเรื่องนี้ “ฉันได้รับการสนับสนุนมากมายจากคุณหลินสมาคมการกุศลของเราเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในวันนี้และเรายังไม่มีสํานักงานด้วยซ้ำแต่ฉันเชื่อว่าด้วยความร่วมมือของฉันกับคุณหลินเราจะกลายเป็นผู้มีอํานาจมากที่สุดขององค์กรการกุศลในจีน และโลกในอนาคตเราจะช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาและขัดสนให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต” ฉู่หยูเฟยกล่าว

หลินฟาน กล่าวว่า: “สําหรับที่ตั้งสํานักงานผมมีความคิดอยู่แล้ว ดังนั้นให้ย้ายไปที่อาคารโจวเถียนในขณะนี้”

ฉู่ หยูเฟย ตกตะลึงค่าเช่าในอาคารโจวเถียนนั้นไม่ถูกและผู้ที่เข้ามาในอาคารโจวเถียนก็ล้วนแต่ทรงอานุภาพมากบริษัทหลายแห่ง ซึ่งหลายแห่งนั้นอยู่ในทําเนียบฟอร์จูน 500 ทั้งสิ้นฉู่หยูเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “เจ้านายใจดีจริงๆคราวนี้คุณทําเงินได้มากมายเพื่อจัดหาสภาพแวดล้อมในสํานักงานที่ดีสําหรับเรา”

หลินฟาน ยิ้มและพูดว่า:”ไม่ใช่อย่างนั้นจริงๆแล้วผมเพิ่งซื้ออาคาร โจวเถียนเมื่อเช้าวันนี้”

อะไรนะ?

เงียบ

ฉากในห้องถ่ายทอดสดเงียบกันหมด

*[สุนัขแรคคูน] – เป็นคําพูดประชดนะครับ บ่งบอกถึงด้านลักษณะนิสัยของเจ้าตัว “แรคคูน”ที่มีนิสัยดุร้ายก้าวร้าวและชอบขโมยของกินตามบ้านคน