ตอนที่ 377 ลองใช้ชีวิตแบบซูมู่ชิง!
“ครับ”
กัวเยว่หมิงไม่ได้ปฏิเสธคำขอร้องของเย่เฉิน เขาเดินนำอีกฝ่ายตรงดิ่งไปที่ห้องรักษา
และในเวลานี้เองซูมู่ชิงที่กำลังเอนอยู่บนโซฟา หลับตาพริ้มแต่ไม่ได้หลับ แต่อยู่ในสภาวะโดนสะกดจิตอยู่
กัวเยว่หมิงเดินตรงไปกล่าวกับซูมู่ชิง “เย่เฉินมาหาคุณแล้วนะ”
จากนั้นกัวเยว่หมิงก็หันไปบอกเย่เฉิน “คุณจับมือหล่อนได้นะ”
เย่เฉินเดินไปหาร่างแบบบาง เขาเองก็รู้สึกว่าภาพที่เห็นตรงหน้านั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่ง เขาค่อยๆ จับนิ้วของหญิงสาว
แล้วหญิงสาวก็เอ่ย “เย่เฉิน…กอดฉันหน่อย”
คำพูดของซูมู่ชิง ทำให้เย่เฉินเก้อเขิน
กัวเยว่หมิงจึงหันไปอธิบายกับเย่เฉิน “ตอนนี้หล่อนแยกโลกความจริงกับความฝันไม่ได้ คุณอย่าถือสาเลยนะ ละถึงหล่อนตื่นคุณก็อย่าพูดถึงล่ะ หล่อนจะได้ไม่อาย”
“อ้อ”
ในที่สุดเย่เฉิยก็เข้าใจว่าทำไมซูมู่ชิงถึงได้ชอบตนเองมากมายขนาดนี้
ที่แท้หลายปีมานี้ หล่อนมักจะมาที่นี่เพื่อให้อีกฝ่ายสะกดจิต เพื่อให้หล่อนได้ใช้ชีวิตอยู่ในภาพฝัน ไม่รู้ว่าคบหากับเขากอดกับเขาไปกี่รอบแล้ว!
ในเมื่อซูมู่ชิงชอบตนเอง แล้วอยากจะกอดเขาในโลกที่หล่อนสร้างขึ้น เขาก็ไม่กล้าจะปฏิเสธ
เย่เฉินและกัวเยว่หมิงเดินออกมาจากห้องแล้วกล่าว“คืนนี้หล่อนจะนอนที่นี่เหรอ?”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ “กลางคืนเป็นเวลานอนหลับของคนปกติ ในเวลานี้ถ้าสะกดจิตและบำบัดจะทำให้ได้ผลเป็นสองเท่า ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงอะไร อย่างไรเสียคุณหนูซูก็เป็นคนสวย อยู่กับหมอผู้ชายอย่างผมคุณคงจะไม่สบายใจ ในห้องนี้มีกล้องวงจรปิด พรุ่งนี้เช้าผมจะส่งคลิปในกล้องให้คุณดู”
เย่เฉินรีบตอบ “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
กัวเยว่หมิงหัวเราะ“คุณก็ดูสักหน่อยจะได้สบายใจ ผมไม่ได้ส่งให้แค่คุณ แต่ต้องส่งให้คุณชายหลี่ด้วย”
เย่เฉินรู้ดีว่า หลี่เฉิงเจี๋ยเป็นคนขี้ระแวงบวกกับที่ซูมู่ชิงเป็นคู่หมั้นของเขา เขาย่อมต้องสนใจเรื่องของสองคนนี้มากกว่าเขา
“ก็ได้งั้นผมกลับล่ะ”
เย่เฉินไม่ใช่สามีของซูมู่ชิง ไม่ใใช่แฟนของหญิงสาวด้วยซ้ำ หญิงสาวอยากบำบัดอยู่ที่นี่ เขาย่อมไม่มีสิทธิ์เอาตัวหญิงสาวมา
เพียงแต่เย่เฉินแค่ประหลาดใจน้อยๆ เท่านั้นว่าคนที่เป็นปิตาธิปไตยอย่างหลี่เฉิงเจี๋ย แถมยังขี้หึงขนาดนั้นจะยอมปล่อยให้ซูมู่ชิงค้างคืนที่นี่
เย่เฉินจึงเดาว่าเพราะหลังจากที่หญิงสาวจะแยกห้องนอนหลังจากแต่งงานกับเขา ทำให้เขาเริ่มคิดจะยกเลิกงานแต่งงาน
ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้จริงๆ เย่เฉินจะดีใจอย่างมาก เพราะหลี่เฉิงเจี๋ยไม่คู่ควรกับหญิงสาวแม้แต่น้อย!
เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว เย่เฉินก็โบกรถกลับไปที่บ้ายของซูมู่ชิง ระหว่างทางเย่เฉินก็อดส่งข้อความหาโนแลนผู้กำกับที่เขาชื่นชมที่สุดไม่ได้
“คุณต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าบทในหนังเรื่องจิตพิฆาตโลกที่พวกคุณแต่งขึ้น ในตอนนี้กำลังเกิดขึ้นจริงที่โรงพยาบาลหรูแห่งหนึ่งในเมืองหลวงจริงๆ มีสาวสวยคนหนึ่ง กำลังหลบอยู่ในโลกที่ตัวเองสร้างขึ้นเพื่อหนีจากโลกความจริง เพื่อที่จะได้ครอบครองผมในฝัน! สวรรค์ คุณเชื่อไหม? นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”
ตอนที่กำลังจะถึงปลายทาง เย่เฉินที่เพิ่งจ่ายค่ารถเสร็จก็ได้รับข้อความจากโนแลน
“คริส คุณหลงตัวเองเกินไปแล้ว รีบหาหมุดสักอันมาลองหมุนดูสิ ดูว่าคุณอยู่ในฝันหรือเปล่า! แล้วก็รีบไปดูหนังใหม่ของผมเรื่องTenet เลยนะ! ในพวกพี่น้องเหมือนจะเหลือคุณแค่คนเดียว!”
เย่เฉินลงจากรถ ก็เห็นเนื้อหาในข้อความ “แม่งเอ๊ย โนแลนด่าฉันว่าหลงตัวเองเหรอ กระทั่งเขายังไม่เชื่อเลยว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!”
เย่เฉินยิ้มเนือยๆ แล้วเดินเข้าบ้านของซูมู่ชิง
“คุณพ่อ!”
เมื่อซือซือเห็เนย่เฉินเด็กหญิงก็รีบวิ่งมาหาเขาอย่างดีอกดีใจ
ซวงเอ๋อร์เองกำลังเก็บกวาดจานชาม เมื่อเห็นเย่เฉินก็รีบเอ่ยถาม “เป็นยังไงบ้างคะ? วันนี้คุณหนูจะกลับบ้านไหมคะ?”
เย่เฉินส่ายหน้า “หล่อนอยากจะอยู่ที่โรงพยาบาลกับคุณหมอกัว จริงสิ ซวงเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้มู่ชิงเคยนอนค้างที่นั่นบ้างหรือเปล่า?”
ซวงเอ๋อร์ครุ่นคิดพลางตอบ “เหมือนว่าสองปีมานี้จะไม่มีนะคะ หล่อนจะอยู่แค่ตอนช่วงบ่าย หรือไม่ก็อยู่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ว่าเมื่อสามปีก่อนโดยเฉพาะตอนที่ซือซือยังไม่เกิด ตอนคุณหนูตั้งท้อง บางครั้งก็อยู่ที่นั่นนานติดต่อกันหลายวันเลยค่ะ!”
เย่เฉินพยักหน้ารับ ในตอนนั้นเป็นตอนที่ซูมู่ชิงกำลังแตกสลาย หล่อนต้องใช้เวลาในการบำบัดนานเป็นธรรมดา
เหมือนสาวใช้จะรู้ว่าเย่เฉินกำลังเป็นห่วงเรื่องอะไรจึงรีบตอบ “คุณชาย คุณหมอกัวเป็นสุภาพบุรุษ คุณหนูเชื่อใจเขามาก อีกทั้งเขารู้ว่าคุณหนูเป็นใคร เขาไม่กล้าทำอะไรหล่อนหรอกค่ะ”
เย่เฉินหัวเราะพลางกล่าวต่อ “ผมรู้แล้วล่ะ”
จากนั้นเย่เฉินก็บีบแก้มอ้วนๆ ของซือซือพลางกล่าว “ลูกรัก วันนี้คุณแม่ไม่กลับมาแล้ว ลูกนอนกับพี่ซวงเอ่อร์นะคะ”
แต่เด็กน้อยกลับคว้าเข้าที่แขนของเขา “ไม่ค่ะ! หนูอยากนอนกับพ่อ!”
นะคะ อย่างไรเสียคุณหนูเองก็ไม่อยู่ต่อให้คุณชายหลี่รู้ว่าคุณพักที่นี่ เขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
เย่เฉินครุ่นคิด นี่ถือเป็นโอกาสดี เขาเองก็อยากจะนอนกับลูกสาวตนเอง!
“ก็ได้ งั้นคืนนี้ผมจะค้างที่นี่”
“เย่! ไปค่ะคุณพ่อ เล่านิทานให้หนูฟังหน่อย”
ซือซือลากมือเย่เฉิน พาเขามาที่ห้องนอนของซูมู่ชิง แถมยังรบเร้าให้เย่เฉินรีบถอดรองเท้าเพื่อขึ้นเตียง
ที่นี่เป็นห้องนอนของหญิงสาว เย่เฉินจะกล้าขึ้นเตียงหล่อนได้อย่างไร?
“ซือซือ ไม่งั้นเราเปลี่ยนไปนอนห้องอื่นกันดีไหม?” เย่เฉินกล่าว
ซือซืองอแง “ไม่เอาค่ะ หนูจะนอนที่นี่”
ซวงเอ๋อร์โน้มน้าวเย่เฉิน “คุณชายคะ นอนที่นี่เถอะค่ะ เดี๋ยวถ้าคุณหนูกลับมาฉันก็แค่ไม่บอกหล่อนเอง”
เมือ่เห็นลูกสาวอ้อนวอน เย่เฉินเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธ “ก็ได้ แต่ว่าผมขอไปอาบน้ำก่อน”
เย่เฉินไม่ได้อาบน้ำมาสองวัน แถมยังทำงานเป็นยาม หนำซ้ำยังวิ่งโร่ไปที่นั่นที่นี่ ไม่อาบน้ำให้สะอาด เขาจะกล้าขึ้นเตียงหญิงสาวได้ยังไง
“ค่ะๆ เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมน้ำให้คุณชายเอง” ซวงเอ่อร์กล่าวอย่างพอใจ
“เฮ้อ ไม่ต้องแล้วล่ะ ผมอาบน้ำฝักบัวก็ได้” เย่เฉินไม่อยากให้ยุ่งยาก
แต่ซวงเอ๋อร์กลับยืนยันคำเดิม “จะได้ยังไงล่ะคะ คุณชายมาพักที่นี่ ฉันเองต้องทำตามแบบที่คุณหนูกำนดเอาไว้เท่านั้น คุณชายรอสักหน่อยนะคะ”
“เอ่อ ซวงเอ๋อร์…”
เย่เฉินเองทำอะไรแม่หนูไม่ได้ บางทีคนใช้ของตระกูลใหญ่ๆ ก็คงเป็นแบบนี้ล่ะมั้ง
“คุณชายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ””
ผ่านไปไม่นาน ซวงเอ๋อร์ก็พสเย่เฉินมาที่ห้องน้ำแล้วถาม “คุณชายคะ ใช้ได้หรือยังคะ?”
แล้วเขาก็พบว่าในห้องอาบน้ำนั้น มีอ่างหินที่ราคาแพงกว่ารถเฟอร์รารี่ตั้งอยู่ ภายในเต็มไปด้วยฟองและยังมีกลีบดอกไม้ลอยอยู่…
ส่วนตรงกลางของอ่างน้ำนั้นวางตระแกรงยาวพาดกลาง เพื่อใช้วางของ ด้านบนนั้นมีไวน์แดงแก้วหนึ่ง รวมไปถึงเทียนหอมและลำโพงบลูทูธด้วย
“ทำไมฟองเยอะจังเลย…”
เย่เฉินรู้สึกว่าออกจะสาวไปหน่อย เขาเป็นผู้ชายอกสามศอกก็ทนไม่ค่อยจะได้
ซวงเอ๋อร์หัวเราะคิกคัก “คุณหนูของเราชอบฟองพวกนี้ อีกทั้งฟองพวกนี้ก็มีประโยชน์ด้วยนะคะ เพราะสามารถช่วยเก็บความอุ่นของน้ำ ทำให้เย็นช้าลงด้วย”
เย่เฉินนึกถึงซูมู่ชิงในตอนนี้ที่กำลังรับการบำบัดอยู่ที่โรงพยายาล โดยคิดภาพที่ใช้ชีวิตอยู่กับตนเองอยู่
เขาเองก็อยากจะลองใช้ชีวิตแบบหญิงสาวดูเหมือนกัน!