กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 311
คริสโตเฟอร์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวขณะที่อัลเบิร์ตคำรามใส่เขา
เขาไม่สงสัยเกี่ยวกับคำพูดของอัลเบิร์ต เพราะในฐานะคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งยมโลก และปกครองยมโลกมานานหลายปี ฉะนั้นการที่จะฆ่าคนสองคนถือเป็นงานที่กระจอกมากสำหรับเขา
เขามองชายร่างท้วมสองคนที่กำลังลากเวนดี้ไปอย่างหมดหวัง และเขาจึงขึ้นไปหาแคลร์เพื่อขอความช่วยเหลือ “แคลร์ นี่เธอช่วยคุยกับพวกเขาให้หน่อยได้ไหม? เวนดี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอนะ จะยืนดูเธอถูกพรากไปแบบนั้นได้อย่างไร?”
แคลร์เม้มริมฝีปากของเธอ และพูดกับชายร่างท้วมว่า “ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ เธอคงกำลังสับสน… เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายฉัน…”
ถึงแม้ว่าแคลร์คิดว่าเวนดี้มากวนประสาทเธอก็ตาม แต่พวกเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เธอทนไม่ได้ที่เห็นเธอถูกคนเหล่านี้ทุบตีหรอก
อัลเบิร์ตมองกลับไปที่ชาร์ลี และรอฟังคำสั่งจากเขา
ชาร์ลียิ้ม และพูดว่า “คุณจะมามองผมทำไม? ฟังสิ่งที่ภรรยาของผมพูดสิ แล้วก็…”
หลังจากนั้นอัลเบิร์ตก็สั่งคนของเขาว่า “คุณผู้หญิงเวดได้บอกแบบนั้น ฉะนั้นปล่อยพวกเขาไป!”
ชาร์ลีพยักหน้า และหันไปมองคุณท่านวิลสัน “เห็นไหม? ผมบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ได้ถูกต้อนรับที่นี่ ออกไปจากที่นี่ซะเถอะ เมื่อตอนผมยังขอร้องคุณดี ๆ ไม่อย่างนั้นผมจะปล่อยให้คนของอัลเบิร์ตเตะคุณออกไปจากที่นี่ซะ!”
คุณท่านวิลสันผู้โกรธแค้น กำลังกำหมัดแน่น และขบกรามของเธออย่างโกรธเกรี้ยว เธอตัวสั่นอย่างรุนแรงจนแทบจะหยุดนิ่งไม่ได้ แต่เธอก็ไม่กล้าอยู่ที่นั่นอีกต่อไป คริสโตเฟอร์จับแขนเธอแล้วพวกเขาก็รีบเดินออกไป
ในทางกลับกันเวนดี้ยังคงตะโกนอย่างตกใจ “ไม่! ฉันยังไม่อยากกลับ! ฉันต้องการฆ่านังแพศยานี้ซะ! ปล่อยฉันเดี่ยวนี้! ฉันอยากจะฆ่ามัน!”
อัลเบิร์ตเตะเธออย่างไร้ความปราณี และคำรามขึ้นว่า “หุบปาก ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดลิ้นเธอทิ้งซะ!”
แฮโรลด์ตกใจกลัวอย่างมากกับพฤติกรรมของน้องสาวของเขา เขาจึงพูดอย่างเร่งรีบว่า “เวนดี้ไปกัน กลับบ้านกันเถอะ!”
คุณท่านวิลสันถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะเดินออกจากที่ทำงานใหม่ของแคลร์ ความตั้งใจของเธอในวันนี้คือการดูถูกเยาะเย้ยแคลร์ และชักจูงให้เธอกลับไปทำงานกับตระกูลวิลสัน ที่ทำไปเพราะต้องการอยากจะกดดันเธอเพียงเล็กน้อย แต่เธอคาดไม่ถึงว่าแคลร์ไม่ได้เป็นแคลร์คนเดิมอีกต่อไป เพราะตอนนี้เธอมีบุคคลสำคัญมากมายที่คอยหนุนหลังเธอ! ดูเหมือนว่าตระกูลวิลสันไม่สามารถหลอกลวงให้เธอกลับไปอยู่เคียงข้างพวกเขาได้อีกต่อไป …
คุณท่านวิลสันรู้สึกหดหู่ และเสียใจอย่างมาก เนื่องจากแคลร์ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะกลับไปหาตระกูลวิลสันอีกแล้ว เพราะความหวังเดียวของพวกเขาที่จะทำให้ตระกูลฟื้นคืนมา การล้มละลาย และจุดจบของธุรกิจเป็นเพียงทางเลือกเดียวในขณะนี้ ถ้าเพียงเธอรู้ว่ามันจะมาถึงนั้น …
***
ในที่สุดแคลร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากที่ตระกูลวิลสันจากไปด้วยความอับอายขายหน้า
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาในห้องทำงานของเธอทำให้เธอรู้สึกกังวลอีกครั้ง
บรรดาแขกวีไอพีกำลังรวมตัวกันอยู่ในสำนักงานของเธอ แต่สำนักงานของเธอก็มีขนาดเล็กเกินไปที่จะรองรับผู้คนจำนวนมาก และไม่สะดวกที่จะเคลื่อนย้ายไปมา แต่แล้วเธอก็เห็นพนักงานของอาคารไบรท์ สตาร์ หลายคนกำลังเร่งรีบอยู่รอบ ๆ สำนักงานของเธอ พวกเขาต่างช่วยกันเสิร์ฟของว่าง และเครื่องดื่มให้กับแขก
อาคารหลังนี้เป็นของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป การโทรของดอริสเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่คนเหล่านี้จะเสร็จงานทุกอย่างของพวกเขาทันที และมาช่วยงานที่สำนักงานของแคลร์
ดอริสเดินไปหาแคลร์ และพูดว่า “คุณผู้หญิงเวด เนื่องจากอาคารไบรท์ สตาร์ เป็นทรัพย์สินของเรา และคุณได้เลือกที่จะเปิดสำนักงานของคุณที่นี่ ทางเราจึงมีอะไรบางอย่างสำหรับคุณเป็นการตอบแทนค่ะ”
เธอโบกมือไปที่ชายวัยกลางคน และพูดว่า “นี่คือบ็อบบี้ ฮินตัน ผู้จัดการอาคารนี้ ดิฉันบอกเขาไปแล้วว่า จากนี้ไปพื้นที่ของสำนักงานในชั้นนี้จะค่อย ๆ ทำให้ว่างเพื่อที่จะให้คุณใช้งานได้ค่ะ”
แคลร์โบกมืออย่างตกใจ และพูดว่า “โอ้ เดี่ยวก่อนนะคะคุณยัง คุณไม่ต้องทำอย่างนั้นหรอกค่ะ ที่ทำงานนี้ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากฉันเป็นคนเดียวที่ทำงานที่นี่ มันจึงไม่มีประโยชน์ และไม่จำเป็นเลยสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ขนาดนี้ นอกจากนี้ฉันก็ไม่สามารถรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายได้หรอกค่ะ…”
บ๊อบบี้รีบส่งเช็คมูลค่าหนึ่งแสนแปดหมื่นดอลลาร์ให้แล้วพูดว่า “คุณผู้หญิงเวดนี่คือค่าเช่า 1 ปี ที่คุณจ่ายล่วงหน้า เพื่อแจ้งให้คุณทราบ ทางเราจะรับผิดชอบค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค ค่าธรรมเนียม ค่าเครื่องปรับอากาศ และค่าเครื่องทำความร้อนในสำนักงานของคุณทั้งหมดในอนาคตครับ!”