บทที่ 267 การต่อสู้ของจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์!
อยู่ยงคงกระพัน มันฟังดูเหมือนยิ่งใหญ่และทรงพลัง
ตัวคนเดียว เผชิญหน้ากับทุกสิ่งทําลายล้างจักรวาลและทําให้ผู้มาทีหลังต้องคุกเข่าพลังนี้ยิ่งใหญ่มากเพียงใดกัน?
แต่อันที่จริงแล้ว เกรงว่ามีแค่ไม่กี่คนที่จะรู้ว่าภายในนั้นมีความโดดเดี่ยวและไร้หนทางมากเพียงใด
ทางเดินข้างหน้านั้นกว้างใหญ่และเปี่ยมไปด้วยความมืดมิดแต่ในทางนั้นไม่มีกระทั่งผู้ที่จะ
สามารถก้าวเดินไปด้วยกันได้ได้แต่ต้องเผชิญหน้ากับความมืดมิดนั้นเพียงล่าพัก
ได้แต่ต้องแบกรับทุกสิ่งอย่างเงียบงันเพื่อปกป้องสิ่งมีชีวิตทั้งมวลที่อยู่เบื้องหลังตัดแยก
จักรวาลอันเป็นนิรันดร์แยกสิ่งเหล่านี้ออกไปจากสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เพื่อให้พวกเขายังคงดํารงอยู่ได้
แต่สุดท้ายแล้วเมื่ออยู่ตัวคนเดียวจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวได้อย่างไร? “ในท้ายที่สุดแล้วก็เป็นผู้โดดเดี่ยวอย่างนั้นรึ?”
กัน?”
ด้านนอกภาพวาดโบราณจอมยุทธในแดนนิรันดร์อดพึมพําไม่ได้
“การต่อสู้ครานั้นเขาคงจะได้ชัยชนะ มิเช่นนั้นแล้วแดนนิรันดร์ตอนนี้จะยังคงอยู่ได้อย่างไรบางคนคาดเดา
ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างผู้โดดเดี่ยวและจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ผู้กุมชะตาที่ผ่าแบ่ง
ร่างไปครึ่งหนึ่ง ก็ควรจะเป็นชัยชนะของผู้โดดเดี่ยว
มิฉะนั้นแล้วทุกสิ่งก็คงจะเป็นเช่นที่จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีกล่าวผู้กุมชะตาที่ถูกความมืดกลืนกินจะทําลายฟ้าดินและทุกพิภพจนสิ้น และกลายเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงการคืนชีพของเซียนต้นกําาเนิด
และในตอนนี้ทุกพิภพและแดนนิรันดร์ยังไม่ถูกทําลาย
เพียงแค่นี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้แล้วว่าผู้โดดเดี่ยวนั้นไม่ได้ล้มเหลว แต่เขาสามารถเอาชนะผู้กุมชะตาได้สําเร็จและปกป้องการมาถึงความความมืดได!
การคาดเดานี้เองก็ทําให้จอมยุทธของแดนนิรันดร์อีกหลายคนพยักหน้า
ใช่แล้วหากว่าผู้โดดเดี่ยวไม่ชนะเกรงว่าก็คงจะไม่มีแดนนิรันดร์ในวันนี้”มันจะง่ายเพียงนั้นเลยงั้นรึ?”
จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญในชุดสีขาวดั่งหิมะพึมพํา
หากเป็นเช่นนั้นหากเขาสามารถเอาชนะจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดกลืนกินได้
ทําไมเขาจึงต้องใช้พลังของตนเพื่อถ่วงการต่อสู้?
เพราะหากเขาชนะไปแล้ว จะทําเช่นนั้นไปเพื่ออะไร?
เว้นเสียแต่ว่าผลของการต่อสู้ระหว่างผู้โดดเดี่ยวและจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกกลืนกินนั้นไม่ได้ง่ายอย่างชนะหรือแพ้
หากผู้กุมชะตานั้นเป็นจริงอย่างที่จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีบอก พวกเขาเองก็เกือบจะเป็นอมตะ
แม้ว่าจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์จะถูกความมืดกลืนกิน และเกือบร่วงหล่นลงมาจากเขตแดนผู้กุมชะตา
แต่เนื้อแท้ของผู้กุมชะตาเองก็ยังแกร่งกว่าผู้โดดเดี่ยวมาก
เขาจะสามารถทําลายสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเขตแดนผู้กุมชะตาได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าจะเป็นผู้กุมชะตาเหมือนกันแต่การจะจัดการผู้กุมชะตาอีกคนนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
มีเพียงเซียนต้นกําเนิดที่มีเขตแดนสูงกว่าผู้กุมชะตาเท่านั้นที่สามารถทําเช่นนั้นได้อย่างง่ายดาย
แล้วผู้โดดเดี่ยวล่ะ?
ในตอนนั้น เขตแดนพลังยุทธ์ของเขานั้นอยู่เพียงแค่ในระดับของจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์เท่านั้นและเขายังเป็นคนเดียวเท่านั้นอีกด้วย!
ไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายที่เป็นผู้กุมชะตาจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์เลย!
ดังนั้นแล้ว มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้โดดเดี่ยวจะเอาชนะผู้กุมชะตาลงได้
อย่างดีที่สุดก็ได้แค่สูสีไม่ก็ผนึกอีกฝ่ายเอาไว้เท่านั้น
และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทําไมผู้โดดเดี่ยวจึงเป็นเช่นนั้น
ความมืดนั้นยังไม่หมดสิ้น และความชั่วร้ายนั้นยังอยู่
แน่นอนว่าเขาอยากจะตัดที่แห่งนั้นออกไปแยกสิ่งมีชีวิตทั้งมวลออกไปจากที่แห่งนั้น
“ครืน!”
ราวกับเป็นการยืนยันการคาดเดาของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ
ภาพโบราณค่อยๆ เปลี่ยนแปลงและร่างของผู้โดดเดี่ยวก็เริ่มจะจางไป
ภาพใหม่ปรากฏขึ้นมาและค่อยๆเปลี่ยนไป!
ก่อนที่ภาพจะปรากฏขึ้นมาหมดก็มีจิตสังหารแผ่ออกมาจากภาพนั้นและแผ่ขยายไปทั่วทุกสิบทิศทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลต้องสั่นสะท้าน!
ผู้ที่สามารถมายืนอยู่ตรงนี้ได้ล้วนแต่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งของแดนนิรันดร์
แต่ในตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจิตสังหารอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากภาพแทบทุกคนก็ไม่สามารถจะต้านทานได้และต้องคุกเข่าลงไป!
หากไม่ใช่เป็นเพราะราชันเฉียนและราชันดอกบัวรวมไปถึงราชันเซียนนิรันดร์อีกคนที่คอยปกป้องเกรงว่าในตอนนี้ทุกคนคงจะต้องคุกเข่าลงไปก้มคารวะเพราะแรงกดดันนั้นแล้ว!
แต่แม้ด้วยความช่วยเหลือจากราชันเซียนนิรันดร์ทั้งสามทุกคนก็ยังรู้สึกร่างกายหนักอึ้งไปด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็นราวกับว่าอากาศตรงหน้านั้นเป็นภูเขา
ทุกคนอดตกใจไม่ได้ ภาพตรงหน้านั้นเป็นแค่ภาพที่เล่นภาพของประวัติศาสตร์โบราณแต่ทําไมมันจึงปล่อยแรงกดดันเช่นนี้ออกมาได้?
ทุกคนอดเงยหน้าขึ้นมาดูไม่ได้
พวกเขาต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นเพียงภาพแต่กลับสามารถปล่อยแรงกดดันออกมาได้เช่นนี้!
ภาพโบราณค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ทุกคนที่เห็นภาพเบื้องหน้าต้องแสดงความตกตะลึงออกมา
เพราะบนภาพนั้น มีร่างสองร่างที่แข็งแกร่งที่สุดในฟ้าดินกําลังต่อสู้กันอยู่!
ร่างทั้งสองนั้นแข็งแกร่งและทรงพลัง โลกทั้งใบรวมไปถึงพิภพอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นมิสามารถแบกรับร่างที่แท้จริงของพวกเขาเอาไว้ได้
แม่น้ําแห่งกาลเวลาสายยาวปรากฏขึ้นมาข้างๆพวกเขาแต่มันช่างเล็กจ้อยราวกับจักรวาลที่รายล้อมไปด้วยจักรวาลจํานวนนับไม่ถ้วน
เล็กและใหญ่หยินและหยางกําเนิดและดับไปศักดิ์สิทธิ์และชั่วร้าย ความรู้สึกตรงข้ามเหล่านี้
แผ่ออกมาจากทั้งสองเรื่อยๆแปลกประหลาดมิมีเทียบ
“ผู้โดดเดี่ยวกําลังต่อสู้กับจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่โดนความมืดกลืนกิน!”
ใครคนหนึ่งตะโกนออกมาเผยตัวตนของร่างทั้งสองนั้น
สิ่งที่ปรากฏบนภาพโบราณนั้นคือการต่อสู้ระหว่างจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์!
เมื่อดูจากสภาพของทั้งสองราวกับว่าพวกเขาต่างอยู่ในเขตแดนของผู้กุมชะตาที่แท้จริง!
นี่คือการต่อสู้เต็มกําลังระหว่างจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์!
PS: มาแล้วๆ เผามาร้อนๆเลยจ้าเดี๋ยวมีอีกบท