ตอนที่ 35 : ยัยโสเภนีหมานหมาน

ชายที่มีรอยสักและหมานหมานก็เริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง

ใครจะไปยอมเห็นแฟนเก่าของตัวเองมีโอกาศโบยบินกลายเป็นนกฟินิกซ์ง่ายๆกัน?

แน่นอนว่ามันต้องไม่มี!

เขารั้งเธอไว้อย่างดื้อดึง ด้วยการกระแทกมือของไปไว้ที่เอวของหมานหมาน!

“มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย และนายก็ทำมันเอง”

ชายที่มีรอยสักมึนงงไปซักพักก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นอย่างนั้นหมานหมานก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ฮึ คิดจะสู้กับฉันคนนี้ นายยังอ่อนไปสิบปี”

หลังจากที่พูดจบเธอก็หันกลับมาทางเจียงเฉิน

กลุ่มนักแสดงที่ถูกเจียงเฉินจ้างมาต่างตกตะลึง

……

หมานหมานหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ผู้กำกับเจียง ตอนนี้ฉันโสดแล้ว ฉันเป็นนางเอกในหนังของคุณได้แล้วรึยังคะ?“

เจียงเฉินส่ายหัว “ยัง ฉันต้องถามเธอก่อนว่าเธอมีพรสวรรค์บ้างไหม?”

“พรสวรรค์? เล่นเกมนับไหมคะ? ฉันเล่นเกม Game Thief 6!” หมานหมานพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“ไม่นับ นี่เธอไม่รู้อะไรเลยรึยังไง แล้วอย่างนี้จะเป็นนางเอกได้ยังไง?”

เจียงเฉินพูดออกมาพร้อมหัวเราะ

หมานหมานตื่นตระหนกเพราะไม่ว่ายังไงเธอก็จะต้องคว้าโอกาศนี้มาให้ได้ “ถ้าอย่างนั้น ฉันควรทำอย่างไรคะ ผู้กำกับเจียง คุณต้องการให้ฉันทำอะไรบ้าง?“

“การจูบ เธอจูบเป็นไหม? เพราะในหนังย่อมต้องมีฉากจูบอยู่แล้ว” ดจียงเฉินถามออกไป

“ฉากจูบงั้นหรอ?”

ดวงตาของหมานหมานเป็นกระกาย นี่แหละจุดแข็งของฉัน!

“ค่ะ ผู้กำกับเจียงจะลองดูหน่อยไหมล่ะคะ?”

หมานหมานจ้องเจียงเฉินอย่างโง่งม

ผู้กำกับเจียงเป็นผู้ชายชั้นยอด แถมเขายังต้องการจูบฉัน คิดแล้วตื่นเต้นจังเลย……

ถ้าเธอสามารถพิชิตผู้กำกับเจียงได้โดยใช้การจูบในครั้งนี้ ฉันจะยังต้องไปเป็นนักแสดงทำไม?

ไปเป็นคุณนายเจียงโดยตรงดีกว่า ใช้ชีวิตเพลิดเพลินกับเงินทองและสีเสียง และเห็นความเจริญรุ่งเรืองของโลก!

ฮิฮิ~

หมานหมานคนนี้ชั่งฉลาดจริง~

เจียงเฉิน “เอาสิ”

แกร็ก~

ชายคนหนึ่งที่หน้าตาดูขี้เหร่เดินออกมาและเดินไปทางหมานหมาน เขาใส่เสื้อสีเหลืองซีด หัวฟูๆ แถมยังมีลูกแมลงสาบอยู่บนหัวด้วย!

นี่คือบททดสอบสำหรับฉากจูบของคุณ ตามพล็อตเรื่อง เขาคือเจ้าชายตกอับแล้วเธอก็ต้องจูบเขา

เจียงเฉินอธิบายพล็อตเรื่องเล็กน้อย และคาดว่าหมานหมานจะกระโดดเข้ามาเล่นแทบจะทันทีอย่างแน่นอน

???

หมานหมานตกใจ

ไม่ใช่ว่าผู้กำกับเจียงจะจูบกับฉันหรอ ทำไมกลายมาเป็นสัตว์ประหลาดขี้เหร่นี่ได้?

“ผู้กำกับเจียง ช่วยเปลี่ยนคนหน่อยได้ไหมคะ?”

“ไม่นี่คือบททดสอบนักแสดงของคุณ”

“โอเคค่ะ”

“แอ็คชั่น”

หมานหมานพยายามฝืนตัวเอง หลับจาของเธอ และค่อยๆขยับเข้าใกล้ชายหน้าตาขี้เหร่คนนั้น ชายขี้เหร่เม้มริมฝีปากหนาราวกับไส้กรอกและเตรียมรับการจุมพิตจากสาวงาม!

กลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยออกมา หมานหมานเบิกตากว้าง

เธอเห็นภาพชายขี้เหร่ที่กำลังยื่นปากที่ราวกับไส้กรอกหนาๆออกมา

เมื่อเห็นฉากน่าสะอิดสะเอียน ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวแล้ว!

“โอ้~~~”

เจียงเฉินผิดหวังและพูดอย่างเย็นชา “พอแล้ว ดูเหมือนว่าคุณไม่เหมาะที่จะเป็นนักแสดงนะ ผมคิดว่าคุณก็ลืมเรื่องนี้ไปซะเถอะ”

หมานหมานที่ได้ยินก็เริ่มกังวลก่อนจะวิ่งไปคว้าแขนของเจียงเฉินไว้ “ผู้กำกับเจียง! ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะคะ คุณอยากให้ฉันทำอะไรฉันก็จะทำ ให้โอกาศฉันอีกครั้งนะคะ!”

เจียงเฉินก็แสดงรอยยิ้มออกมาทันที “คุณรู้ไหม มีกฎบางอย่างที่คนในวงการจะไม่พูดถึงกันอยู่นะ”

“ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ! ฉันทำได้!“

เธอฉีกเสื้อผ้าของเธอ เผยให้เห็นไหล่สีขาวของเธอ

“ผู้กำกับเจียง ร่างกายของฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”

“รูปร่างของคุณก็อยู่ระดับปานกลาง ลืมมันไปเถอะ”

ฉากที่น่าอายแบบนี้ เจียงเฉินก็ไม่ทนดูต่อไป

ผู้คนรอบๆก็พากันวิพากษ์วิจารณ์

“โอ้วพระเจ้า ทุกวันนี้ผู้หญิงไม่มียางอายกันแล้วรึยังไง!”

“ในที่สาธารณะยังจะกล้าทำแบบนี้อีกหน้าด้านจริง!”

“จุ จุ จุ…. ถ้าเอาผู้หญิงคนนี้ไปถ่ายหนังมันคงเป็นหนังที่ดูน่ารังเกียจแน่ๆ!”

“…”

คนที่ผ่านไปผ่านมาเริ่มเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป บันทึกช่วงเวลาที่น่าสะอิดสะเอียนของผู้หญิงคนนี้

แต่หมานหมานที่แสนจะไร้ยางอายยังคงเพิกเฉยต่อเหตุการณ์รอบๆ

“ผู้กำกับเจียง ได้โปรดให้โอกาศกับฉันเถอะค่ะ ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถแสดงได้ดีแน่นอน!”

เมื่อจื่อหมิงได้ยินสิ่งนี้ ฟางเส้นสุดท้ายที่ยึดหัวใจของเขาไว้ก็หลุดออกไปเปลี่ยนให้เขานั้นไม่รู้สึกอะไรต่อเธออีก!

“พี่เฉิน ช่วยผมจัดการกับเธอเลย!”
ได้ยินสิ่งที่จื่อหมิงกล่าวออกมา เจียงเฉินก็รู้แล้วว่าแผนของเขานั้นสำเร็จแล้ว และคงได้เวลาสลัดยัยผู้หญิงน่ารังเกียจนี่ทิ้งซะที

“ออกไป! เธอน่ะไม่เหมาะจะเป็นนักแสดง!”

หมานหมานถอยออกไปหนึ่งก้าว แต่มานานเธอก็รีบเดินกลับขึ้นมาและเกาะต้นขาของเจียงเฉิน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้า

“ผู้จัดการเจียง ฉันขอร้องได้โปรดให้โอกาศฉันเถอะต่ะ อย่าทิ้งฉันไป ฉันยอมเลิกกับแฟนของฉันแล้วคุณจะมากลับคำแบบนี้ไม่ได้นะ!”

เจียงเฉินไม่ขยับ

เขาเป็นคนที่จริงจัง!

ปรมาจารย์นักบอกเลิกต้องไร้ความรู้สึก!

ขับรถออกไปเลยดีกว่า!

เมื่อเห็นเจียงเฉินขึ้นรถไปแล้ว หมานหมานก็แสดงความโกรธออกมา รีบวิ่งไปข้างประตูและพยายามดึงประตูเพื่อเปิด

“จะไปก็ได้ แต่ต้องจ่ายค่าเสียหายมาด้วย!”

ใบหน้าของหมานหมานเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว วันนี้เธอขาดทุนเยอะไปแล้วและดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มบ้าเข้าไปอีก

ในเวลานี้เองจื่อหมิงก็เดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หมานหมาน จะให้จ่ายค่าทำขวัญงั้นหรอ ฝันไปเถอะ!”

หมานหมานในตอนนี้มีใบหน้าที่แสดงออกถึงความกลัว “แก! หมายความว่ายังไง? แกรู้เรื่องทั้งหมดใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ธุระของเธอ!”

จื่อหมิงเปิดประตูหลังก่อนจะเข้าไปในรถโรลส์-รอยซ์ แฟนทอม

ระหว่างที่หมานหมานกำลังสนใจจื่อหมิงที่ขึ้นรถมาแล้ว เจียงเฉินก็ปิดประตู!

“บูมมมมม~”

เหยียบคันเร่ง!

รถโรลส์-รอยซ์ แฟนทอมจากไปอย่างรวดเร็วทิ้งไว้แต่ไอเสียจางๆ

หมานหมาวิ่งตามไปสองสามก้าว ก่อนที่ข้อเท้าของเธอจะพลิกและล้มหน้าคว้ำไปกับพื้น!

ทันใดนั้นผู้คนมี่อยู่รอบๆก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ออกมา

“ดูผู้หญิงราคาถูกนั่นดิ คงจะบ้าไปแล้วที่อยากไปเป็นนักแสดง”

“ยัยผู้หญิงบ้านี่มาจากไหนกัน โรงพยาบาลจิตเวชไม่ได้ปิดประตูไว้รึไงถึงได้ออกมาได้!”

“โคตรน่าสะอิดสะเอียนเลย เพื่อที่จะได้เป็นนักแสดง เธอก็ยอมที่จะเลียแข้งเลียขาหรือไม่แน่อาจจะไปนอนอ้าขาให้ด้วยซ้ำมั้ง?”

“ใช่ๆ ผู้กำกับเจียงหล่อขนาดนั้น เขาจะไปสนใจผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง?”

“คนทุกวันนี้นี่น้า ไม่อยากจะพูดเลยจริงๆ”

“…”

ในเวลานี้ ชายที่มีรอยสักเดินกลับมา และเห็นใบหน้าที่อัปยศของหมานหมานเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมยินดีให้กับเธอ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไหงมานั่งเศร้าอยู่ตรงนี้ ไม่โชว์ความโกรธของตัวเองแล้วหรอ?”

หมานหมานไม่สนใจเขา เธอกำลังนั่งสนใจเรื่องที่แฟนเก่าของเธอจื่อหมิงนั้นรู้จักกับผู้กำกับเจียง!

นั่นหมายความว่า เธอยังมีโอกาศเป็นนางเอกอยู่!

ดังนั้นเธอจึงรีบเอาโทรศัพท์ของเธอออกมาแล้วโทรหาจื่อหมิงทันที

“จื่อหมิงเรามาคืนดีกันเถอะนะ ได้ไหม? ฉันผิดไปแล้ว!”

“อี*อก ผู้ชายคนนั้นของเธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังหมดแล้ว! ว่าเธอน่ะไปคอยตามตื้อเขามาตั้งนานแล้ว และตอนนี้ยังจะมีหน้ามาคุยกับฉันอีกหรอ?”

หมานหมานที่ได้ยินก็รู้สึกสิ้นหวังทันที เธอจ้องมองไปที่ชายมีรอยสัก

ชายที่มีรอยสักหัวเราะออกมาอย่างดัง “ใช่ เขามาหาฉันแล้วและฉันก็บอกเขาไปหมดแล้ว และการที่ฉันกลับมาก็เพื่อมาดูหน้าโง่ๆของแกไง! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“อา~~”

หมานหมานทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์ก่อนจะยกรองเท้าส้นสูงที่หักตอนเธอล้มก่อนหน้านี้ไปสู้กับชายที่มีรอยสัก!

ฝูงชนรอบๆต่างเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายเหตุการณ์นี้ไว้!

“ฉันเข้าใจแล้ว ยัยผู้หญิงนี่มันตัว*****ที่ยืนด้วยสองขาได้”

“นายน่ะเอาเลย ตีเธอแรงๆ ไม่ต้องไว้หน้าพวกเรา พวกเราเอาใจช่วย!”

“ใช่ๆพวกเราไม่เรียกตำรวจแน่นอนจัดเธอหนักๆ เอาให้สาสมเลย!”

“ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วทำไมฉันถึงยังรู้สึกดีที่เห้นผู้หญิงถูกตี ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ผู้หญิงโสเภ**แบบนี้เอาให้ตายไปเลย!”

“…”

และด้วยแรงสนับสนุนจากฝูงชน ชายที่มีรอยสักก็เหมือนกับได้สูบฉีดอดีนารีนเพิ่มเข้าไปอีกทำให้เขากล้ายิ่งกว่าเดิม

หลังจากนั้นไม่นานก็มีตำรวจมาจับทั้งหมานหมานและชายที่มีรอยสักไป!