คุณแม่จ้าวยิ้ม นางเองก็นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในปีนั้นขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ตอนนั้นฐานะทางบ้านแย่มากจริง ๆ และไม่รู้ว่าตอนนั้นสามีของนางเอาแป้งข้าวโพดหนึ่งกระสอบกลับมาจากที่ไหน ทำให้นางไม่ต้องทุกข์ทรมานเพราะความหิวโหย

ตอนที่คลอดลูกห้าคนแรก คุณพ่อจ้าวยังต้องวิ่งออกไปหาข้าวที่ตลาดมืด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่ก็ช่วยไม่ได้ คนท้องจะหิวเร็วมาก เขาเองก็ทำได้เพียงแค่ออกไปเสี่ยง โชคดีที่ปลอดภัยไม่เกิดปัญหาอะไรมาโดยตลอด และสามารถแอบเอาแป้งข้าวโพดสามสี่ชั่งกลับมาให้ภรรยาทำโจ๊กรับประทานเอง

จนกระทั่งตั้งครรภ์เจ้าหก คุณพ่อจ้าวก็คิดอยากจะไปเก็บข้าวอีก ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ได้ใช้

เพราะตอนที่เจ้าหกอยู่ในท้อง โชคของเขาก็ดีขึ้นมา ตอนที่ไปอาบน้ำในแม่น้ำก็จับปลาตัวใหญ่มาได้หนึ่งตัว คุณแม่จ้าวไปถอนวัชพืชก็เจอไข่ไก่ป่าไข่เป็ดป่า ตอนขึ้นเขาไปเก็บฟืนก็ได้เจอกระต่ายที่วิ่งมาชนเขาจนตายเองหรือไม่ก็ไก่ป่าที่วิ่งเข้ามาหาเขา

เดิมทีเขาไม่เข้าใจเลย จนกระทั่งเจ้าหกถือกำเนิด โชคของเจ้าหกก็ดีเกิดขอบเขตจริง ๆ

พวกเขาจึงเพิ่งจะทราบว่า นี่เป็นสิ่งที่ใครนำพามา

เมื่อหวนนึกถึงวันเก่า ๆ คุณแม่จ้าวก็รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย สองสามีวัยชราคุยกันด้วยรอยยิ้มครู่หนึ่งก็ผล็อยหลับไป

หลังจากนั้นหนึ่งเดือน พี่สะใภ้จ้าวสี่ก็ออกจากการอยู่ไฟ

ส่วนเย่ฉูฉู่ก็กำลังจะคลอดแล้ว

จ้าวเหวินเทาพาภรรยาของเขามาส่งที่โรงพยาบาลในจังหวัดล่วงหน้าสองวัน โดยมีคุณแม่เย่มาด้วย

คุณแม่จ้าวก็อยากมา แต่คุณแม่เย่กลับโน้มน้าวใจนาง ตอนนี้ยังไม่คลอด ไม่จำเป็นต้องมีคนมาเฝ้ามากมายขนาดนั้น

โดยเฉพาะจ้าวเหวินเทาที่ต้องคอยดูบ้านทางฝั่งนั้น มีทั้งลิงและกระต่ายต้องดูแล ดังนั้นมีแค่คุณแม่เย่มาก็พอแล้ว ส่วนหมูและไก่เหล่านั้นที่บ้านของคุณแม่เย่ นางได้มอบหน้าที่ให้ลูกสะใภ้ทั้งสองคนช่วยดูให้แล้ว

เย่ฉูฉู่ไม่เหมือนกับพี่สะใภ้จ้าวสี่ แม่แท้ ๆ ของพี่สะใภ้จ้าวสี่ไร้ประโยชน์ แต่แม่แท้ ๆ ของเย่ฉูฉู่เป็นคนดี ถึงอย่างไรแม่แท้ ๆ มาอยู่เป็นเพื่อนก็ดีกว่าแม่สามี

ดังนั้นคุณแม่จ้าวจึงไม่ได้ยืนกรานที่จะมา ถึงอย่างไรลูกชายตัวน้อยในบ้านก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว

คุณแม่เย่เป็นกังวลมากว่าท้องแรกของลูกสาวจะทรมาน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเป็นเพราะเย่ฉูฉู่ออกกำลังกายมากพอ ตอนที่คลอดลูกจึงราบรื่นมาก และทรมานไปเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้น

ทว่าในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้ นางในฐานะคนเป็นแม่ก็ยังเป็นกังวลตลอดหนึ่งชั่วโมงอยู่ดี

แต่ที่น่าพอใจก็คือ จ้าวเหวินเทาที่อยู่ข้างนอกห้องคลอดเป็นกังวลมากกว่านางเสียอีก เม็ดเหงื่อไหลลงมาตามกรอบหน้าแล้ว

สำหรับจ้าวเหวินเทาแล้ว ครั้งนี้ไม่เหมือนกับตอนที่พี่สะใภ้สี่จ้าวคลอด ภรรยาของตัวเองคลอดลูก ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าพร้อมที่จะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ

ในเวลานี้ คลอดลูกเพศไหนก็ได้ทั้งนั้น เขาแค่หวังว่าภรรยาของเขาจะปลอดภัย ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับภรรยาของเขาขึ้นมา เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย

คุณแม่เย่มองด้วยความพอใจและแอบขบขัน นางกล่าวว่า “เหวินเทา ไม่ต้องกลัวขนาดนี้ก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก หมอบอกแล้วว่าร่างกายของฉูฉู่ดีมาก ไม่มีปัญหาอะไร”

จ้าวเหวินเทาไม่ได้พูดอะไร เขาแค่พยักหน้าอือ ๆ ออ ๆ แต่สายตากลับยังไม่ละจากห้องคลอด

ตอนที่ได้ยินเสียงเด็กร้อง จ้าวเหวินเทาก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องคลอด พร้อมกับตะโกน “ภรรยา! ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้างครับ!”

ตอนนี้ก็ทำให้คุณแม่เย่เกิดความตื่นตระหนกขึ้นมาเช่นกัน นางจึงตะโกนตามด้วย “คุณหมอ คุณหมอ ลูกสาวดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”

คุณหมอเดินออกมาแล้ว เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทาเป็นแบบนั้นก็ถึงกับตกใจ รีบพูดว่า “ไม่ต้องเป็นกังวล ๆ ดีมากเลยค่ะ ยินดีด้วยนะคะ คุณได้ลูกชาย ปลอดภัยทั้งแม่และลูก คลอดได้ราบรื่นมาก สภาพร่างกายของภรรยาคุณก็ดีมากเช่นกัน!”

จ้าวเหวินเทาไม่ได้สนใจคำพูดก่อนหน้านี้ เขาได้ยินว่าปลอดภัยทั้งแม่และลูก ร่างกายก็อ่อนยวบทันที เขาเดินโซเซจนคุณแม่เย่ต้องรีบเข้ามาประคองเขาไว้

“เหวินเทา ฉูฉู่กับลูกปลอดภัยดี!” คุณแม่เย่รีบพูด

จ้าวเหวินเทารู้สึกอยากจะร้องไห้ “ลำบากภรรยาของผมแล้ว คลอดลูกคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย!”

คุณหมอเป็นผู้หญิง เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของจ้าวเหวินเทา ก็รู้สึกดีขึ้นทันใด “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะที่จะได้เห็นคนที่รักภรรยาแบบนี้ ต้องรักษาไว้ให้ดี ผู้หญิงกว่าจะคลอดลูกได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ภรรยาของคุณร่างกายแข็งแรงดี จึงคลอดได้อย่างราบรื่น ไม่ได้ทรมานมากมายอะไร เข้าไปดูเถอะค่ะ”

อีกฝ่ายเป็นหมอผดุงครรภ์ ไม่ว่าจะสถานการณ์แบบไหนมีเหรอที่จะไม่เคยเห็น? รักภรรยาจากใจจริงหรือเปล่า แค่เห็นก็รู้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มคนนี้รักภรรยาจริง ๆ เขาไม่ได้ถามถึงลูกเลยว่าเป็นอย่างไร มีแค่พูดถึงภรรยาของเขา

ไม่เช่นนั้นจะมองหาคนดี ๆ ไปทำไม? ถ้าทั้งดูดีและเป็นคนดีก็ดี ยกตัวอย่างเช่นเด็กหนุ่มคนนี้

จ้าวเหวินเทาและคุณแม่เย่รีบกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเข้ามาหาเย่ฉูฉู่

เย่ฉูฉู่ดูดีกว่าพี่สะใภ้สี่มาก เธอยังดูสดชื่น เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทาและแม่ของตนเข้ามา ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่ เหวินเทา ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่รู้สึกหิวนิดหน่อย”

คุณแม่เย่ยิ้ม นางมองลูกสาวด้วยความรัก “หิวแล้วก็ดี อีกเดี๋ยวให้เหวินเทาออกไปหาอะไรให้ลูกกินนะ”

จ้าวเหวินเทานั่งยอง ๆ อยู่ที่หัวเตียงมองดูภรรยาของเขา “ภรรยา คุณยังเจ็บอยู่ไหม?”

เย่ฉูฉู่พยักหน้า “ยังเจ็บอยู่ค่ะ แต่เมื่อเทียบกันแล้วดีกว่าตอนที่เจ็บท้องคลอดเยอะเลย เหวินเทา คุณทายถูกจริง ๆ ด้วย เราได้ลูกชาย”

เธอมองเจ้าตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ สายตาประกายด้วยรอยยิ้ม

จะเป็นลูกชายหรือลูกสาวเธอไม่ได้ใส่ใจ ถึงอย่างไรก็เป็นลูกของเธอและเหวินเทา แค่นี้ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ?

ขอแค่ปลอดภัยก็พอแล้ว แต่เมื่อเห็นเจ้าตัวน้อย เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกว่าใจของเธอก็อ่อนยวบ

เธอกำลังคิดว่าตัวเองโชคดีเกินไปแล้วจริง ๆ ชาตินี้ไม่เพียงแค่ได้แต่งงานกับองค์ชาย แต่ยังให้กำเนิดบุตรขององค์ชายด้วย เธอช่างโชคดีจริง ๆ

จ้าวเหวินเทาในตอนนี้ไม่ได้กระตือรือร้นกับลูกชายมากขนาดนั้น แม้ว่าภรรยาของเขาจะดูสดชื่น แต่ก็ทรมานมากว่าหนึ่งชั่วโมง สีหน้าย่อมดูเหนื่อยล้าอย่างมาก อีกอย่างผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง บนร่างกายยังมีกลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้ง ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดแทบตายอยู่แล้วจริง ๆ

จ้าวเหวินเทายื่นหน้าเข้าไปจูบภรรยาของเขา เย่ฉูฉู่แอบรู้สึกเขิน เธอตำหนิ “สภาพของฉันตอนนี้เป็นแบบนี้ คุณยังมาจูบฉันอีก?”

“ภรรยาของผมสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนสวยกว่าภรรยาของผมมาก่อนเลย!” จ้าวเหวินเทากล่าว

คุณแม่เย่รู้สึกขบขันแต่ก็รู้สึกซึ้งใจ รู้จักรักลูกสาวของนางก็ดีแล้ว หลังจากนี้ก็จะรักภรรยาของเขามากกว่านี้อีก

เมื่อนึกถึงตอนที่นางเลือกลูกเขย ภายในใจก็ชื่นชมวิสัยทัศน์ในตอนแรกของตนเอง

“เหวินเทา ดูเธอทำตัวเข้าสิ อีกเดี๋ยวไปทำโจ๊กกับต้มไข่ไก่ที่บ้านจางหมิงด้วยนะ” คุณแม่เย่กล่าว

คุณแม่เย่ย่อมรู้จักจางหมิงอยู่แล้ว เสื้อผ้าที่ขาดจนไม่อาจปะได้ของจางหมิงในปีนั้น นางก็เป็นคนนำมาช่วยเขาปะให้ และให้มารับประทานอาหารที่บ้านด้วย

จ้าวเหวินเทามั่นใจว่าภรรยาไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ จึงมองไปยังลูกชายที่น่าเกลียดน่าชังของตนเอง จากนั้นก็ขับรถไปที่บ้านจางหมิง

บ้านจางหมิงอยู่ไม่ใกล้จากโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ถือว่าไกล ใช้เวลาขับรถมายี่สิบนาที

จ้าวเหวินเทาเคยไปทักทายแล้ว จางหมิงย่อมไม่ได้ถือสาอะไร ภรรยาของเขาก็เช่นกัน

นอกจากนี้ยังเตรียมอาหารเสร็จแล้วด้วย

เมื่อเห็นจ้าวเหวินเทามาที่นี่ ภรรยาจางหมิงก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เหวินเทามาแล้วเหรอ? ฉันเพิ่งต้มโจ๊กกับไข่ไก่เสร็จพอดี กำลังจะให้จางหมิงเอาไปส่งให้พวกเธออยู่พอดีเลย”

“พี่สะใภ้ พี่เอาใจใส่เกินไปแล้วจริง ๆ ภรรยาของผมเพิ่งคลอดลูก ผมก็เลยมาที่นี่กะว่าจะมาทำของกินไปให้ภรรยาสักหน่อย” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ตอนที่จ้าวเหวินเทามาส่งเย่ฉูฉู่เขาก็ขับรถมาหาจางหมิง เขาไม่ได้มามือเปล่า เพราะได้ขนไข่ไก่มาหนึ่งตะกร้าและข้าวสารอีกหนึ่งถุงด้วย

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ฉูฉู่ได้ลูกชายจ้า พี่สะใภ้สี่จะอิจฉาจนเป็นลมไหมคะ

เหวินเทาน่ารักมาก แต่งกับเหวินเทาคือโชคดีมากเลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)