บทที่ 201 ผู้หญิงของฉัน!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 201 ผู้หญิงของฉัน!

หน้าผาวายุคลั่ง

เมื่อเย่เทียนมาถึงเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิธาตุลมหลายตัว

เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการฆ่าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเหล่านั้นไม่นานผาวายุคลั่งก็กลายเป็นอาณาเขตของเขาอย่างสมบูรณ์

มีสัตว์อสูรเพียงไม่กี่ตัวที่หน้าผาแห่งนี้ดังนั้นเย่เทียนจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีสัตว์อสูรมารบกวนการบ่มเพาะของเขา

บนหน้าผาวายุคลั่ง

เย่เทียนนั่งขัดสมาธิ ท่ามกลางพายุหมุนอันรุนแรงราวกับมีดสายลมนับไม่ถ้วนตัดผ่านเสื้อผ้าของเขา

เย่เทียนไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยเขาเริ่มบ่มเพาะทันที

เพียงไม่กี่ลมหายใจพลังปราณพัดลมจํานวนมหาศาลเริ่มถูกดูดซับกลั่นร่างกายของเย่เทียน

ภายใต้การชักน่าของพรสวรรค์เบญจธาตุผันแปรระดับพระเจ้า

“ความเร็วในการขัดเกลานั้นรวดเร็วกว่าเดิมมากเหมือนกับตอนที่เราใช้ปราณอัคคีขัดเกลา

ร่างกายในครั้งแรก เช่นนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วสําหรับการทําลายขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่ 3 ด้วยความเร็วเช่นนี้ใช้เวลา 7-8 เดือนก็เพียงพอแล้ว!”

เย่เทียนคาดเดา

เขาวางแผนที่จะทําลายขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่สามและกลับไปที่ฐานจงไห่เขาไม่ต้องการให้เยว่เอ๋อรอนานเกินไป

ตูม!!!

พลังปราณธาตุลมจํานวนนับไม่ถ้วนหล่อหลอมร่างกายของเย่เทียนทําให้ร่างกายของเขา

ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อใดก็ตามที่มีสัตว์อสูรมารบกวนเย่เทียนจะปล่อยดาบมิติสังหารพวกมันในทันที

เมื่อเวลาผ่านไปมีซากศพของสัตว์อสูรจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นใต้หน้าผาวายุคลั่งฉากนี้ทําให้

สัตว์อสูรโดยรอบไม่กล้าเข้าใกล้ผาวายุคลั่งอีกต่อไป

แปดเดือนต่อมา

เย่เทียนสัมผัสได้ถึงขีดจํากัดของร่างกายเป็นครั้งที่สาม เขาใช้พลังปราณจํานวนมากเพื่อ

พยายามหลายคอขวดของขีดจํากัดทางร่างกายไม่นานเขาก็สามารถทําลายขีดจํากัดของร่างกายได้สําเร็จในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็กลายเป็น 300 มังกรแล้ว

“ได้เวลากลับไปแล้ว!”

เย่เทียน มหา

วู๊ซซ

เมื่อลมพัดมา ร่างของเย่เทียนก็หายไป

ที่รอยแตกของมิติ

ฐานใหม่ของมนุษย์ในโลกของสัตว์อสูณถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ และจอมเวทย์ค่ายคนจํานวนมากยังเพิ่มค่ายกลป้องกันที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเดิมและในตอนนี้

จักรพรรดิจันทรายืนอยู่บนชั้นบนสุดของประสาทและมองออกไปยังที่ไกลๆ

“เย่เทียน ผ่านมาปีครึ่งแล้วคุณอยู่ที่ไหน?”

จักรพรรดิจันทราพิมพ์ากับตัวเอง

ทุกๆ 2-3 วัน เธอจะมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อรอการกลับมาของเย่เทียน

แต่ก็ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า!

ที่จริงแล้วสําหรับระดับจักรพรรดิอย่างเธอเวลาแค่ปีครึ่งไม่ได้มีอะไรมากนักแต่ตอนนี้เธอ

กลับพบว่ามันช่างยาวนานมาก

ตลอดระยะเวลาปีครึ่งนี้ดูเหมือนจะยาวนานกว่าทศวรรษที่ผ่านมา

ขณะที่เธอกําลังจะจากไปสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที

“สัตว์อสูร!”

ในระยะไกลมีเส้นสีดําสายหนึ่งพุ่งมาเห็นได้ชัดว่านี้เป็นทัพหน้าที่เกิดจากการรวมตัวกันของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนมาก

หนึ่งปีผ่านไปแล้ว การโจมตีของสัตว์อสูรกลับมาอีกครั้งและในครั้งนี้มันรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้

“สัตว์อสูรกําลังมา!

เสียงของจักรพรรดิจันทราดังก้องไปทั่วฐานทัพ

วู๊ซซซ

จักรพรรดิคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและมองไปยังที่ที่ห่างไกลด้วยแววตาที่จริงจังพริบ!

จักรพรรดิขวานได้ปรากฏตัวขึ้นไม่ไกลจากจักรพรรดิจันทราและกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า

“จักรพรรดิจันทราคุณใช้กระจกเทพจันทราเพื่อดูว่ามีสัตว์อสูรสีดําก่อนหน้านี้ได้หรือไม่หากการโจมตีในครั้งนี้มีมันอยู่ด้วยพวกเราคงทําได้เพียงแค่ยอมแพ้และถอยกลับไปยังรอยแยก!”

ถ้าเป็นไปได้คงไม่มีใครอยากจะละทิ้งฐานที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่เช่นนี้

เพราะถ้าหากเลือกที่จะละทิ้งฐานไปก็เท่ากับว่าผลักดันสนามรบไปยังโลก

แต่หากเจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นโจมตีเข้ามาพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานมันได้อย่างแน่นอนทําได้เพียงแค่ถอยกลับไปเท่านั้น

หากไม่มีจ้าวแห่งสัตว์อสูรปรากฏตัวขึ้นพวกเขาไม่มีทางถอยแน่ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงจริงๆ

จักรพรรดิจันทราพยักหน้าและหยิบกระจกเทพจันทราออกมา

เมื่อปลดปล่อยพลังปราณเข้าไปในกระจกกระจกเทพจันทราก็เปิดออก

ภาพของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนที่อยู่ไกลออกไปปรากฏอยู่บนกระจกเทพจันทราหนึ่งในนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่น่าจะแข็งแกร่งมากซึ่งมันคงจะเป็นผู้นําทัพในครั้งนี้

“ฉันไม่พบสัตว์อสูรสีดําตัวนั้นแต่ก็มีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิอยู่หลายตัว!”จักรพรรดิจันทรากล่าวอย่างจริงจัง

“ถ้าปราศจากสัตว์อสูรสีดําก็ถือว่าดีแล้วเตรียมตัวให้พร้อมกําจัดสัตว์อสูรเหล่านั้นให้สิ้นซาก!”จักรพรรดิขวานสงครามหยิบขวานดาราของเขาออกมาและออกจากฐานไปเพื่อเตรียมพร้อม

สําหรับการต่อสู้กับสัตว์อสูรที่กําลังจะมาถึง

วูซซ!!!

ผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิปรากฏตัวพร้อมกันรวมไปถึงผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์อีกจํานวนมาก

แต่ไม่มีระดับราชาเพราะระดับราชานั้นยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการต่อสู้!

เพียงไม่นานสงครามก็เริ่มเปิดฉากขึ้น!

ตูม!!!!!

ผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิรับมือกับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธระดับ

ศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องปะทะกับสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์

จักรพรรดิจันทราได้ล่อสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่ทรงพลังไปถึง 3 ตัวนี่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของเธอในขณะนี้แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิ์ขวานสงครามแล้ว

ทุกวินาทีมีสัตว์อสูรและฝึกยุทธฝั่งมนุษย์ตกตายไปอย่างต่อเนื่อง

“เปิดค่ายกล!”

ท่ามกลางความว่างเปล่าค่ายกลสังหารขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา

นี่คือค่ายกลระดับดาราของฐานจงไห่จอมเวทย์ค่ายกลระดับสูงจํานวนมากช่วยกันสร้างขึ้นมา

เพื่อสังหารเหล่าสัตว์อสูรหากปราศจากค่ายกลแล้วมนุษย์คงจะไม่สามารถรับมือกับสัตว์อสูรได้

และอาจจะต้องสูญเสียผู้แข็งแกร่งไปมากมาย

ต่างกับเหล่าสัตว์อสูรที่ไม่กลัวการสูญเสียเพราะในโลกของสัตว์อสูรนั้นมีสัตว์อสูรอยู่มากมาย

สําหรับมนุษย์แล้วการสูญเสียผู้ฝึกยกระดับศักดิ์สิทธิ์ไปเพียงคนเดียวก็นับว่าเป็นการสูญเสียที่มหาศาลแล้วไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิ

การมีค่ายกลสังหารแน่นอนว่ามันช่วยแบ่งเบาแรงกดดันของมนุษย์อย่างมาก!

สัตว์อสูรถูกสังหารโดยค่ายกลระดับดาราบนผืนดินปรากฏซากศพของสัตว์อสูรจํานวนมากเห็นได้ชัดว่าฝ่ายมนุษย์กําลังจะชนะ

แต่ทันใดนั้น

สัตว์อสูรมังกรปฐพีขนาดยักษ์โทรออกมาจากพื้นดินร่างของมันมีขนาดใหญ่ถึง 1,000 เมตร

กลิ่นอายของมันแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิทั่วไปมาก

“สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวนี้แข็งแกร่งพอๆกับฉัน!”

สีหน้าของจักรพรรดิขวานสงครามเปลี่ยนไป

ในขณะนี้เขาถูกรุมล้อมโดยสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิถึง 4 ตัวหากสัตว์อสูรมังกรปฐพีตัวนี้เริ่ม

เปิดฉากโจมตีผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิและระดับศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆจะต้องประสบชะตากรรมที่ยากล่ามากอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น

ผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิ 2 คนที่อยู่ใกล้กับสัตว์อสูรมังกรปฐพีถูกมันกลืนกินเข้าไปในทันที

โดยไม่ทันตั้งตัว

“โฮกก”

สัตว์อสูรมังกรปฐพีค่ารามเสียงดังลั่นดวงตาขนาดมหึมาทั้งสองของมันจ้องมองไปยังจักรพรรดิจันทราที่อยู่ไม่ไกลนัก

ในตอนนี้จักรพรรดิจันทราถูกรุมล้อมโดยสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่ทรงพลังถึง 3 ตนแม้ว่าใน

ขณะนี้เธอจะสามารถรับมือกับพวกมันได้ แต่หากเพิ่มสัตว์อสูรมังกรดินที่ทรงพลังเข้าไปอีกเธอจะตกอยู่ในอันตราย

วู๊ซซ!!

หอกดินพุ่งผ่านอากาศพุ่งไปยังทิศทางของจักรพรรดิจันทราที่กําลังต่อสู้อยู่อย่างรวดเร็วสถานการณ์เริ่มวิกฤตขึ้นทันที!

จักรพรรดิขวานสงครามไม่มีเวลาที่จะช่วยเหลือจักรพรรดิจันทรา สําหรับจักรพรรดิอื่น ๆนั้น

ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์อสูรมังกรปฐพีหากออกไปรับมือกับมันในตอนนี้พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

ในฐานทัพของจงไห่ผู้ที่สามารถรับมือกับสัตว์อสูรมังกรดินปฐพีตัวนี้ได้นอกจากจักรพรรดิ

ขวานสงครามแล้ว คงจะมีเพียงจักรพรรดิฉิน และจักรพรรดิจ้านหลงที่คอยคุมหอคอยเทพสงครามเท่านั้น

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิฉินและจักรพรรดิจ้านหลงไม่ได้อยู่ที่นี่

จักรพรรดิจันทราไม่สนใจการโจมตีของหอกดินราวกับว่าเธอต้องการที่จะต้านทานการโจมตีนี้ให้ได้

แต่หากฝืนต้านทานต่อให้ไม่ตายก็ต้องเจ็บไม่น้อย

เมื่อได้รับบาดเจ็บแล้วต่อไปเธอจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง

ในตอนนั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามรบ

“ผู้หญิงของฉัน ไม่ใช่สิ่งที่แกจะแตะต้องได้!”

วินาทีต่อมา

เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศเมื่อคนผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นเขาก็ใช้ดาบฟันออกไปทําลาย

หอกดินของสัตว์อสูรมังกรปฐพีได้อย่างง่ายดาย

จักรพรรดิจันทรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

คนที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันนี้คือเย่เทียนที่เธอรอคอยมานาน!

“เขาเพิ่งบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงของเขา!”

จักรพรรดิจันทราไม่เพียงแต่จะไม่โกรธแต่เธอกลับมีความสุขอย่างมาก นี่เป็นคําสารภาพรักที่น่าเกรงขามยิ่ง!

ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะ!

“เยว่เอ๋อ ระวังตัวด้วย ผมจะจัดการสัตว์อสูรมังกรปฐพีตัวนี้ก่อน!”

เย่เทียนหันกลับมาและยิ้มให้จักรพรรดิจันทรา

เมื่อเย่เทียนถูกเรียกขานอย่างสนิทสนมต่อหน้าผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิและระดับศักดิ์สิทธิ์

เธอก็ย้อนนึกถึงค่าสารภาพรักเมื่อครู่สีหน้าของจักรพรรดิจันทราเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อด้วยความเขินอายแต่เธอก็สามารถสะกดสติอารมณ์ลงและกลับไปจดจ่อกับการต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิทั้ง 3 ตัวที่อยู่ตรงหน้าทันที

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะฟุ้งซ่าน!