หยางเฟิงยิ้มแล้วพูด “ที่รัก ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง ผมก็จะสนับสนุนคุณ!”
เย่เมิ่งเหยียนขมวดคิ้วแล้วพูด “แต่ตอนนี้มีปัญหาอยู่หนึ่งอย่าง พวกเราไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับหู้ไห่สักเท่าไหร่ ดังนั้นเลยต้องทำการวิจัยตลาดเบื้องต้นก่อน”
หยางเฟิงยิ้มแล้วพูด “อันนี้ง่ายๆ ผมไปหู้ไห่กับคุณสักเที่ยวก็ได้แล้ว?”
“ขอบใจนะ ที่รัก!”
เย่เมิ่งเหยียนนอนอยู่ในอ้อมกอดของหยางเฟิง ด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้า
ถ้าหยางเฟิงไม่ได้ไปด้วย ไปหู้ไห่สถานที่ที่ไกลขนาดนั้น เขาจะสบายใจปล่อยให้เย่เมิ่งเหยียนไปเพียงลำพังได้ไง?
หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเสร็จ
หยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนก็นั่งเครื่องบิน บินตรงจากตงไห่ไปยังหู้ไห่
ผู้ติดตามยังรวมถึงเสือขาวและเลขาของเย่เมิ่งเหยียนด้วย
ส่วนองครักษ์มังกรและคนอื่นๆ แน่นอนว่าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในที่ลับแล้ว
นั่งไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า
เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยที่สนามบินตงไห่
“เป็นเมืองที่คึกคักมากเลย!”
ลงจากเครื่องบิน เย่เมิ่งเหยียนก็ตกใจกับความเจริญรุ่งเรืองของหู้ไห่
เต็มไปด้วยตึกระฟ้าทุกที่
มีคนอยู่แออัดทุกที่
เทียบกับหู้ไห่ ตงไห่เป็นเพียงพื้นที่ชนบทบ้านนอกเล็กๆ
หยางเฟิงยิ้มแล้วพูด “แน่นอน ต้องรู้ว่า นี่คือเมืองเศรษฐกิจอันดับหนึ่งในต้าเซี่ยของเรา จะเปรียบเทียบกับตงไห่ได้อย่างไง?”
เย่เมิ่งเหยียนพูด “อืม งั้นเราไปโรงแรมกันก่อนเถอะ!”
ก่อนมาที่หู้ไห่ เย่เมิ่งเหยียนได้บอกให้เลขาของตัวเองจองโรงแรมห้าดาวไว้ให้แล้ว
บูม!
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ!”
พึ่งจะเดินออกจากทางเดินของสนามบิน จู่ๆร่างหนึ่งก็พุ่งเข้าชนเย่เมิ่งเหยียนแรงๆไปทีหนึ่ง
คนคนนั้นรีบขอโทษด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด
เย่เมิ่งเหยียนโบกมือแล้วพูด “ไม่เป็นไร! ไม่เป็นไร!”
หยางเฟิงมองดู
เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชนโดนเย่เมิ่งเหยียน
ใส่หมวกแก๊ป แว่นกันแดดใหญ่ๆ และหน้ากาก เห็นหน้าตาไม่ชัดเลย
แต่ดูจากหุ่นแล้ว ต้องเป็นสาวสวยคนหนึ่งแน่นอน
“อยู่ที่นั่น รีบวิ่งตามไป!”
ในขณะนี้นั่นเอง ผู้ชายชุดสูทหลายคนตะโกนไล่ตามมา
เมื่ออีกฝ่ายเห็นที่นี่ ก็พูดด้วยความรีบร้อน “พวกเขาจะจับฉัน พวกคุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
เธอมองไปที่หยางเฟิงกับเย่เมิ่งเหยียนด้วยท่าทางอ้อนวอน
หยางเฟิงขมวดคิ้ว ไม่อยากสนใจ
เพราะว่าไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยที่นี่ จู่ๆก็มีคนคนหนึ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจากตัวเอง
และดูจากสภาพแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาคนหนึ่ง
เพราะผู้ชายชุดสูทสี่ห้าคนที่ไล่ตามเธอนั้นเป็นไว่จิ้งที่เก่งๆ
ถึงแม้หยางเฟิงจะดูถูกไว่จิ้งที่เก่งๆ
แต่ในชีวิตปกติ มันไม่ง่ายเลยที่คนธรรมดาอยากจะเห็นไว่จิ้งเก่งๆคนหนึ่ง
เห็นท่าทางน่าสงสารของผู้หญิงคนนั้น
เย่เมิ่งเหยียนหันหัวมองหยางเฟิงแล้วถาม “หยางเฟิง พวกเราช่วยเธอหน่อยมั้ย? คุณดูเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ ถูกกลุ่มชายร่างใหญ่ไล่ตาม ถ้าถูกจับได้ ต้องแย่แน่ๆ”
หยางเฟิงถอนหายใจไปทีหนึ่ง เย่เมื่งเหยียนใจดีมากจริงๆ
ผู้ชายชุดสูทสองสามคนวิ่งตามมา พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มชั่วร้าย “นางตัวดี เธอจะหนีไปไหนอีก? ยังไม่รีบมาดีๆอีก!
หยางเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่มองก็รู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก
ผู้หญิงร้องด้วยความตกใจ “พวกแกฝันไปเถอะ ถึงฉันตายฉันก็จะไม่กลับไปกับพวกแกหรอก!”
“ในเมื่อกล้ารุกรานคุณชายเฉ่า เธอก็จะไม่มีที่ยืนในหู้ไห่นี่! วันนี้ จะเป็นไปตามใจเธอไม่ได้แล้ว!”
หลังพูดจบ ผู้ชายชุดสูทสองสามคนก็อยากจะเข้าไปจับคน
ผู้หญิงดูประหม่าและรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหยางเฟิง
ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นผู้นำจ้องมองหยางเฟิง พูดด้วยสีหน้าไม่ดี “ไอ้น้อง รีบถอยไป!”
หยางเฟิงพูดเบา “ถ้าฉันไม่ถอยล่ะ?”
ได้ยินคำพูดของหยางเฟิง ใบหน้าของผู้ชายชุดสูทสองสามคนก็เริ่มดุร้ายขึ้นมา