บทที่ 335 น้ำทะเลวันนี้ เปรี้ยวมาก! (1)
ตอนนี้เสิ่นเทียนไม่ได้ตั้งใจอำพรางพลังของตน ดังนั้นคุนซวีกับคุนอวี้จึงสัมผัสได้ว่าเขามีระดับพลังเพียงกายทองจริงๆ
ทว่าระดับความแกร่งที่แผ่มาจากตัวเสิ่นเทียน นั่นใช่สิ่งที่ระดับกายทองจะมีหรือ
ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับกายทองบ้านใครมีกลิ่นอายพลังมหาศาลเช่นนี้
เสิ่นเทียนยืนอย่างโอหัง ข้างหลังมีปรากฏการณ์คุนยักษ์บดบังฟ้าบังดวงตะวันลอยอยู่ มีอำนาจที่จะกลืนกินฟ้าดิน
พลังอำนาจเช่นนี้ถึงธรณีประตูระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์แล้ว กระทั่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดาก็อาจจะไม่มีอำนาจคุกคามน่าสะพรึงเช่นนี้
‘หรือว่า บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะบรรลุถึงระดับกายทองเก้ารอบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน’
คุนซวีเกิดความคิดขึ้นมากมาย ยากจะสงบลงได้
ทุกคนรู้ว่าศาสตร์หลอมกายเทพมารมีความยากมากกว่าหลอมปราณแก่นพลังทอง
อัจฉริยะแก่นพลังทองเก้ารอบตั้งแต่โบราณมามีไม่น้อย โอรสสวรรค์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดไปแก่นพลังทองสิบรอบอย่างฉีเซ่าเสวียนก็ใช่ว่าจะไม่เคยมี
แต่กายทองเจ็ดรอบขึ้นไปของศาสตร์หลอมกายเทพมารหายากมาก กายทองเก้ารอบในตำนานยิ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน
อย่างน้อยหมื่นปีมานี้ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีโอรสสวรรค์ใดเคยฝึกถึงกายทองเก้ารอบที่อยู่สูงสุดมาก่อน ต่อให้เป็นราชินีหงส์อมตะ จักรพรรดิฮวงสือในตอนนั้น ก็ได้แค่ ‘สงสัยว่าเก้ารอบ’ เท่านั้น
ส่วนจะก้าวสู่ระดับนั้นจริงหรือไม่ มีเพียงพวกเขาที่รู้
ข้ามเรื่องกายทองเก้ารอบไปก่อน ในดินแดนกลางก็เคยปรากฏโอรสสวรรค์กายทองแปดรอบไม่น้อย
กำลังรบของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดของระดับกายทอง ข้ามขั้นไปสังหารผู้สูงศักดิ์ได้ราวกับเชือดหมู แม้แต่ผู้ฝึกศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทองเก้ารอบเจอกับผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายทองแปดรอบยังมีสถิติพ่ายแพ้สูง พ่ายแพ้ในเวลาอันสั้นเท่านั้น
จากตรงนี้จะคาดเดาได้ว่าผู้แข็งแกร่งกายทองเก้ารอบสูงสุดน่ากลัวเพียงใด
เกรงว่าต่อให้เป็นแก่นพลังทองสิบรอบก็เป็นได้เพียงก้อนดินให้คลึงได้ตามใจ
ถึงกระนั้น ต่อให้เป็นกายทองเก้ารอบก็ไม่มีทางใช้ระดับกายทองข้ามขั้นมาสู้กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้สิ!
นั่นคือก้าวข้ามสองขั้นพลังใหญ่เชียว!
มิหนำซ้ำ พลังที่แผ่มาจากในตัวเสิ่นเทียนตอนนี้ ยังไม่ถือว่าอ่อนแอในระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์
จากการคาดการณ์ของคุนซวี ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพปกติอาจจะไม่มีพลังแข็งแกร่งเท่าเสิ่นเทียนตอนนี้ด้วยซ้ำ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่กายทองเก้ารอบจะบรรลุถึงเลย แค่คิดก็เกินจริงไปมาก
หรือว่าจะเป็นกายทองสิบรอบ หรือว่าสิบเอ็ดรอบกัน
ซี้ด น่ากลัว~
มิน่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้มากขนาดนี้
ถ้าเจ้าหนูนี่เติบใหญ่ขึ้นมาอย่างแท้จริง ทั้งห้าดินแดนต้องสั่นเทาใต้สะโพกเขาแน่นอน
ตอนนี้ คุนซวีรู้สึกอิจฉาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เหตุใดเผ่าคุนเรา ถึงไม่ปรากฏสัตว์ประหลาดเช่นนี้!
…….
ทางด้านคุนอวี้ ภายในใจไม่ได้คิดซับซ้อนเท่าคุนซวี
นางเหม่อมองเสิ่นเทียน สัมผัสแรงกดดันของพลังมหาศาลนั้น เวลานี้เหม่อลอยไปนิดๆ
กับแค่ระดับกายทองตัวเล็กๆ กลับมีพลังอำนาจน่ากลัวเช่นนี้ มีกำลังรบทัดเทียมระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ นี่มันพรสวรรค์น่าสะพรึงเพียงใด ไม่เคยได้ยินมาก่อน
โอรสสวรรค์หนุ่มที่ว่าพวกนั้นของทะเลอุดรเทียบกับเสิ่นเทียนแล้ว หน้าตาก็เทียบไม่ได้ พรสวรรค์ก็เทียบไม่ได้ ตอนนี้แม้แต่กำลังรบ เดาว่าคงสังหารได้หลายตัวในพริบตา
มิน่าองค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนถึงเปลี่ยนไปรักเสิ่นเทียน นี่จะโทษนางไม่ได้จริงๆ
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดีเลิศจริงๆ น้องชายเจ้าแพ้อย่างไม่ต้องคับแค้นใจเลย!
เจ้ายืนกับเสิ่นเทียน ขอแค่เป็นสตรีเพศที่มีสมองปกติหน่อยก็จะไม่เลือกเจ้าแน่
ไม่ได้การ!
จะให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใกล้ชิดกับองค์หญิงเงือกไม่ได้อีก ไม่เช่นนั้นน้องชายไม่มีโอกาสเลยแน่
คุนอวี้ฉุกคิดขึ้นมาได้ คิดวิธีที่ให้คุนหมิงกับองค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนอยู่ด้วยกันได้แล้ว นั่นคือแย่งเสิ่นเทียนมาก่อน ตัดความคิดของอวี้เผียนเซียนเสีย
ขอแค่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แต่งงานแล้ว ต่อให้อวี้เผียนเซียนจะไม่ยินยอมกว่านี้ ก็ได้แต่กลับไปข้างกายน้องรอง
อืม มีเหตุผลเช่นนี้แหละ!
เพื่อความสุขของน้องชาย ข้ายินดีเสียสละตัวเอง!
ไม่ผิด นี่คือความรักที่จริงใจที่สุดที่พี่สาวคนหนึ่งจะมีต่อน้องชาย เป็นการเสียสละอย่างไม่เห็นแก่ตัว
ไม่ใช่เพราะข้าหวั่นไหว ไม่ใช่เด็ดขาด!
เมื่อคิดได้ดังนั้น คุนอวี้ก็ยิ้ม “บุตรศักดิ์สิทธิ์ช่างสมกับเป็นโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในดินแดนบูรพา มีพรสวรรค์เลิศล้ำจริงๆ ช่างน่าตกใจ ในเมื่อเช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว มือเท้าไม่มีตา บุตรศักดิ์สิทธิ์ระวังด้วย”
เมื่อเอ่ยจบ คุนอวี้ก็เขย่าร่างเล็กน้อยกลายเป็นแสงสีฟ้าพุ่งไปหาเสิ่นเทียน บนตัวนางมีเกราะนักรบสีฟ้าอ่อนโผล่มาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
บนเกราะนักรบนี้แกะสลักลายตราเวทลี้ลับอย่างยิ่ง หลอมรวมกับมวลอากาศ เปลี่ยนมิติโดยรอบให้เป็นของตน
แต่เมื่อคุนอวี้เข้าใกล้เสิ่นเทียน เขาก็รู้สึกได้ชัดเจนถึงการจำกัดของมิติต่อตน
นี่คือเขตแดนมิติ กล่าวได้ว่าการสู้กับเผ่าคุนในเขตแดนนี้ ความเร็วจะถูกลดลงถึงขีดสุด
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ ออกมือเถอะ!”
หมัดมหาอุดรสมุทร!
เพิ่งเอ่ยจบ คุนอวี้ก็มาปรากฏตรงหน้าเสิ่นเทียนแล้ว กำปั้นเล็กกำหมัดแน่นและชกใส่เสิ่นเทียน
กำปั้นของนางดูขาวเนียนนุ่ม แต่กลับแฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลน่าสะพรึงกลัวยิ่ง ทำให้มวลอากาศก้นทะเลแตกร้าว รอยร้าวมิติสีดำแผ่ขยาย
และที่จัดการยากกว่านั้นคือวิชาหมัดของคุนอวี้เหมือนจะแฝงไว้ด้วยแรงดูดรุนแรง รั้งไม่ให้เสิ่นเทียนหลบได้
ผนวกกับตราเวทจำกัดในเกราะนักรบของนาง พลังการควบคุมก็แข็งแกร่งขึ้นถึงจุดระเบิด
เห็นได้ชัดว่า แม้คุนอวี้จะทะลวงระดับผ่านเทวะมาไม่นาน แต่กำลังรบก็ไม่อ่อนแอไปกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดา
หากบอกว่าคุนอวี้ก่อนทะลวงระดับผ่านเทวะมีกำลังรบแท้จริงพอๆ กับคุนหมิง เช่นนั้นคุนอวี้ในตอนนี้ คุนหมิงหลายสิบคนบุกเข้ามาพร้อมกันก็ยังได้แต่ถูกทุบตี โดน ‘หมัดเหล็กแห่งความรัก’ ของพี่สาวทุบตีอย่างบ้าคลั่ง
……
แข็งแกร่งมากจริงๆ!
เสิ่นเทียนแอบตกใจอยู่ภายใน สารภาพตามตรง คุนอวี้สร้างแรงกดดันให้เขาไม่น้อย
ถ้าบอกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดาเพิ่งทะลวงพลังจะมีกำลังรบเพียงหกพัน เช่นนั้นคุนอวี้ในตอนนี้ก็แสดงพลังออกมามากกว่าหนึ่งหมื่น
หญิงผู้นี้น่ากลัวมาก!
เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ปีกเทพทองคำสีทองกางออกข้างหลัง น้ำมวลหนักปฐมกาลปกคลุมสองหมัดของตน
สีเงินและทองตัดสลับกัน สวยงามมาก
บึ้ม~
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นตรงส่วนลึกของมหาสมุทร
กำปั้นปะทะกับกำปั้น พลังทำลายล้างพลันกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่
มวลอากาศตรงจุดที่สองคนปะทะหมัดกันกลายเป็นผุยผง จากนั้นถูกกระแสปั่นป่วนสีดำหมุนม้วน
เสิ่นเทียนกระเด็นถอยไป ถูกชกปลิวไปหลายสิบจั้งกลางมหาสมุทร รู้สึกว่าหมัดขวาที่เคลือบน้ำมวลหนักปฐมกาลสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
เมื่อครู่เหมือนชนเข้ากับภูเขายักษ์ก้นทะเล!
สมกับเป็นองค์หญิงใหญ่ของเผ่าคุนสุญตา มีพรสวรรค์และกำลังรบแข็งแกร่งมาก จะดูถูกไม่ได้เลย!
เสิ่นเทียนแอบตกใจอยู่ภายใน ศักยภาพของคุนอวี้แกร่งกว่าที่เขาคิดไว้
แน่นอน คุนอวี้ตกตะลึงในใจยิ่งกว่าเสิ่นเทียน
การปะทะหมัดเมื่อครู่นี้ เดิมทีคุนอวี้แค่อยากลองความตื้นลึกหนาบางของเสิ่นเทียน
ดังนั้นนางจึงออกแรงหมัดนั้นหกส่วน ไม่ได้ใส่พลังเต็มที่ ทั้งยังเตรียมลดพลังลงตลอดเวลา
อืม ก็เพราะกลัวทำร้ายเสิ่นเทียน
แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงคือ หมัดเสิ่นเทียนเคลือบด้วยน้ำมวลหนักปฐมกาล มีแรงระเบิดแข็งแกร่งจนถึงระดับน่าเหลือเชื่อ
แค่หมัดเดียว คุนอวี้ก็ถูกกระแทกลอยไปร้อยจั้ง หมัดขวาขาวและนุ่มบวมขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่าการปะทะกันครั้งนั้น เป็นคุนอวี้ที่ด้อยกว่าขั้นหนึ่ง
แต่คุนอวี้ก็ไม่ได้โกรธและอับอาย
ในทางตรงข้าม ตอนนี้นางตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ดีมาก พรสวรรค์เช่นนี้สิ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้สั่นสะท้านห้าดินแดนถึงมีคุณสมบัติกำราบข้าได้!
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เข้ามาเถอะ!
…….
“เจ้าแข็งแกร่งมาก เข้ามาอีก!”
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นโลกบำเพ็ญเซียนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ศักยภาพเป็นใหญ่
จิตต่อสู้ในดวงตาคุนอวี้สว่างจ้ายิ่งขึ้น แม้วัดกันที่พรสวรรค์แล้วนางจะเทียบกับเสิ่นเทียนไม่ได้เลยก็ตาม แต่สำหรับตอนนี้ คุนอวี้ที่เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์จะไม่ยอมให้ตนแพ้เสิ่นเทียนเด็ดขาด นี่คือศักดิ์ศรีของเผ่าคุน!
โอ้~
ปรากฏการณ์คุนยักษ์พันจั้งข้างหลังคุนอวี้หมุนม้วนตัวกลับ
น้ำทะเลพลันไหลเชี่ยวกลายเป็นกระบี่ยาวและหอกยาวพุ่งเข้าใส่เสิ่นเทียน
ส่วนคุนอวี้ซ่อนอยู่ในกระแสปั่นป่วนนั้น วิชาหมัดพิฆาตอันน่าพิศวงถาโถมใส่เสิ่นเทียนทีละกระบวนท่า
หนึ่งในทักษะยุทธ์ที่แกร่งที่สุดของเผ่าคุนสุญตา หมัดมหาอุดรสมุทร!
เสิ่นเทียนตาเป็นประกายขึ้น ก่อนจะยิ้ม “มาได้จังหวะพอดี!”
ในเมื่อเป็นการแสดงวิชาคุนเผิง เสิ่นเทียนย่อมไม่ใช้มรดกอื่น
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก เกิดปรากฏการณ์คุนเผิงมหึมาลอยขึ้นข้างหลัง อีกทั้งยังชัดเจนยิ่งกว่าของคุนอวี้
ปรากฏการณ์ข้างหลังเสิ่นเทียนไม่ได้มีแค่คุน หรืออาจพูดได้ว่าตอนนี้คุนนั้นกำลังเปลี่ยนร่าง หมุนม้วนระหว่างมหาสมุทรและท้องนภาไม่หยุด
มันกระโดดขึ้นจากกลางมหาสมุทร ตอนที่น้ำกระแทกสามพันลี้ ส่งเสียงคำรามท้องนภานั้น ร่างพลันกลายเป็นเผิงสวรรค์สีทอง
ปรากฏการณ์ในตอนนี้มีความเป็นหยางสูงสุดแก่กล้าที่สุด สองปีกฟันใส่ท้องนภาราวกับดาบเทพ
และเมื่อเผิงสวรรค์ทองคำดิ่งจากยอดเมฆฟ้าเก้าชั้นลงสู่มหาสมุทร เผิงทองสว่างจ้านั้นก็กลับมาเป็นคุนยักษ์สีดำอีกครั้ง
ปรากฏการณ์ในตอนนี้มีความเป็นหยินสูงสุดอ่อนนุ่มที่สุด แฝงไว้ด้วยความสามารถในการพันธนาการแข็งแกร่ง
เสิ่นเทียนสำแดงทักษะรบโบราณของเผ่าคุน ขณะเดียวกันยังแนบทักษะรบโบราณของเผ่าเผิงไปส่วนหนึ่ง ใช้วิชารบในวิชาคุนเผิงต้านคุนอวี้
ตอนแรกสุด คุนอวี้เพิ่มศักยภาพอย่างเต็มที่ก็ยังกดดันเสิ่นเทียนได้บ้าง
แต่ไม่นานคุนซวีก็พบว่าเสิ่นเทียนฝึกทักษะรบโบราณคุนเผิงจนชำนาญแล้ว ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
ถ้าบอกว่าตอนแรกเสิ่นเทียนสำแดงทักษะรบโบราณเผ่าคุน ระหว่างที่เปลี่ยนพลังยังมีความไม่เป็นธรรมชาตินิดๆ ยังไม่อาจแสดงอานุภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ละก็
เช่นนั้นตอนที่สำแดงครั้งที่สอง เสิ่นเทียนใช้ได้อย่างเหมือนทุกประการ กระทั่งยังตระหนักท่วงทำนองมหัศจรรย์บางอย่างในนั้น
ตอนที่สำแดงครั้งที่สาม เสิ่นเทียนก็ตระหนักทักษะรบพวกนี้ถึงระดับสูงสุดแล้ว
กระทั่งคุนซวียังได้ตระหนักรู้จากในนั้นมาบ้างเป็นบางคราว
คุนซวีเป็นผู้อริยะ ฝึกฝนทักษะรบโบราณเผ่าคุนพวกนี้มาตั้งแต่เยาว์วัย มีความเข้าใจในทักษะรบพวกนี้ถึงระดับสูงแล้ว
เสิ่นเทียนใช้ทักษะรบพวกนี้ทำให้คุนซวีเกิดการตระหนักรู้ขึ้น แค่คิดก็รู้ถึงความลึกล้ำในความชำนาญแล้ว
และที่สำคัญกว่านั้นคือคุนซวีมองออกว่า แรกเริ่มเสิ่นเทียนยังไม่ชำนาญวิถีการต่อสู้ด้วยทักษะรบคุนเผิง ทั้งยังไม่ได้เสแสร้งออกมา
เขาเหมือนจะไม่ได้ใช้วิชาคุนเผิงต่อสู้มามากนัก เหมือนจะไม่ได้ถูกใจวิชาคุนเผิงด้วยซ้ำ ทว่าหลังจากเขาใช้วิชานี้อย่างแท้จริง เพียงชั่วครู่สั้นๆ ก็ฝึกทักษะรบโบราณที่ไม่ชำนาญพวกนั้นถึงระดับน่าเหลือเชื่อได้
ทักษะการตระหนักรู้เช่นนี้ น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
หากเด็กนี่เป็นศัตรู จะต้องสังหารทิ้งโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย
หากยังไม่เป็นศัตรูกันขนาดนั้น จะต้องลบล้างความเข้าใจผิดกันให้หมดสิ้นไป
หากมีโอกาสสร้างชะตาที่ดีต่อกัน ย่อมพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด จะต้องเลียเขา!
ราชาเทพคุนมองเสิ่นเทียนที่สู้กับบุตรสาวที่รักของตนอย่างดุเดือด ดวงตาเขาขยับประกายขึ้นมา
ยิ่งยืนอยู่สูง สายตาก็ยิ่งมองไกล
เขารู้ดีว่าห้าดินแดนในตอนนี้ปรากฏอัจฉริยะขึ้นอาจจะไม่ใช่เรื่องดี บางทีนี่อาจเป็นสัญญาณว่ากำลังจะเกิดกลียุคขึ้น
ในกลียุคที่แท้จริง ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์แข็งแกร่งอย่างเผ่าคุนสุญตาก็มีภัยสูญพันธุ์ได้
นึกถึงตอนนั้นที่เผ่ากิเลนสูญสิ้นไปเพราะกลียุค หากไม่เช่นนั้นคงไม่อ่อนแอกว่าสองเผ่าหงส์กับมังกร
หากกลียุคใหม่มาเยือน เผ่าคุนจะต้องหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อตัวเอง ในตอนนี้ ศักยภาพแฝงของเสิ่นเทียนไม่อาจประมาณการได้ หากใช้โอกาสนี้ผูกวาสนาดี อนาคตจะต้องกำไรเลือดสาด
หากได้เกี่ยวดองกัน จะต้องเป็นเรื่องดีที่ไม่รู้จะดีอย่างไรได้อีก บางทีทั้งเผ่าคุนอาจจะยิ่งใหญ่ขึ้นเพราะเหตุนี้!
อืม~
ต้องหาทางสร้างโอกาสให้บุตรสาวที่รัก!
ถึงอย่างไรตอนนี้เผ่าคุนก็ไม่มีพันธมิตรมนุษย์ ในเมื่อเสิ่นเทียนตอบตกลงเป็นพันธมิตรมนุษย์ของเกาะมังกร ก็น่าจะตอบตกลงกับเผ่าคุนด้วยกระมัง!
ถึงอย่างไรการขี่คุนก็สบายกว่าขี่มังกร ชุ่มชื่นกว่าขี่มังกร นี่ไม่ต้องสงสัยเลย
……………………….