สุขาวดีได้ยินอย่างนั้น ก็ชำเลืองมองหญิงชราคนนี้ที่ใกล้จะลาจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่กลับใจใหม่ ในที่สุดท่าทีของหล่อนก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ
เปลี่ยนเป็นเย็นชาไปมาก
“ใช่เหรอ แล้วทำไมฉันได้ยินว่าหิรัญชากรุ๊ปกำลังจะออกจากห้างฯแกรนด์เอชของพวกคุณหล่ะ? เรื่องของป้าหลาน ฉันคงไม่เข้าไปยุ่งหรอกค่ะ แต่ทว่าอีกไม่ช้าหลานสาวของฉันกำลังจะเป็นคุณยายของคฤหาสน์หิรัญชา ฉันก็เลยว่าจะเข้ามาช่วยเหลือ ยังไงพวกเราก็เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก่อน แต่ในเมื่อป้าไม่ต้องการ ฉันก็จะไป”
เมื่อพูดจบ ผู้หญิงคนนี้ก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไปจากที่นี่
สีหน้าของจารุณีก็เปลี่ยนไปทันที
จริงสิ หล่อนลืมไปว่าหลานสาวของผู้หญิงคนนี้เป็นคู่หมั้นของแสนรัก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าพี่ใหญ่ของหล่อนจะไม่ชอบ แต่ด้วยความที่แสนรักชอบ จึงอยู่เคียงข้างเขาเสมอมา
แต่ในที่สุดจารุณีก็ปรับทัศนคติของหล่อนให้อ่อนลง: “เธอแน่ใจขนาดนั้นเชียวเลยเหรอ? ตอนนี้เส้นหมี่ กลับมาแล้ว และก็พักอยู่ที่บ้านหลานชายของฉันด้วย”
“ป้าพูดได้ดี แต่ทั้งหมดเป็นเพราะสิ่งเดียวที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายังตัดไม่ขาด นั่นคือลูกสองคนของพวกเขา เพื่อเด็กๆ รักจึงต้องให้หล่อนไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน”
“เธอมั่นใจเหรอ?”
จารุณีไม่กล้าเชื่อ
สุขาวดีมองเห็นอย่างนั้น หล่อนก็นั่งลงอีกครั้ง: “แน่นอนสิ เรื่องที่แป้งร่ำหลานสาวของเราจะแต่งเข้าตระกูลคฤหาสน์หิรัญชานั้นเวลาได้ใกล้เข้ามาแล้ว ฉันจะบอกให้ฟังนะว่างานฉลองวันเกิดของคุณปีนี้ คุณท่านกมลภพขอให้แป้งร่ำกลับมาร่วมวันเกิดของคุณเป็นพิเศษ คุณคิดว่านี่หมายความว่าอะไร”
ผู้หญิงคนนี้งัดไพร่ใบสุดท้ายในมือออกมาแล้ว
คุณท่านกมลภพโล่งอก ต่อมาก็เป็นเรื่องของการกำหนดวัน แต่ไหนแต่ไรความรักระหว่างแสนรักกับแป้งร่ำก็ไม่เคยมีปัญหามาก่อน
ต่อมา เรื่องที่แป้งร่ำจะแต่งเข้าคฤหาสน์หิรัญชา เป็นเรื่องที่นับวันรอได้เลย
ในที่สุดจารุณีก็เชื่อ
ได้ งั้นฉันจะรอวันที่หลานสาวเธอได้เป็นคุณยายของคฤหาสน์หิรัญชา เมื่อถึงวันนั้น อย่าลืมตระกูลโรแกนก็แล้วกัน ”
ไม่ลืมแน่นอน เพียงแค่หล่อนได้เป็นคุณยายของคฤหาสน์หิรัญชา สิ่งแรกที่จะทำคือคืนหุ้นที่หิรัญชากรุ๊ปเอาคืนมาจากพวกคุณ แต่ว่า…?
ทันใดนั้น สุขาวดีก็หยุดนิ่ง แล้วแสดงสีหน้ากังวลเล็กน้อย
จารุณีเป็นคนใจร้อน พอเจอเหตุการณ์อย่างนี้ หล่อนแทบทนไม่ไหว พูดว่า: “แต่อะไรล่ะ รีบพูดสิ!”
สุขาวดียิ้มแล้วพูดว่า: “เส้นหมี่ คนนี้ ค่อนข้างยุ่งยาก มันคงจะดีถ้าพวกเราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับตระกูลคฤหาสน์หิรัญชานี้ตลอดไป”
“ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องเลยงั้นเหรอ?” จารุณีหัวเราะแห้งแล้วพูดว่า: “เธอคิดมากไปแล้ว ลูกทั้งสองคนของหล่อนอยู่ที่นั่น หล่อนจะไม่ไปได้ไงหล่ะ?”
“ใช่ ดังนั้นสิ่งที่พวกเราจะต้องทำคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้แสนรักไม่ให้หล่อนเข้ามา ให้หล่อนเหมือนสุนัขแม้จะปีนไต่ยังไงก็เข้ามาไม่ได้ แค่นี้ก็สำเร็จแล้ว”
สุขาวดีหัวเราะขึ้นมาทันที แววตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและเลือดเย็น ราวกับงูพิษ มองเพียงแวบเดียวก็หวาดเสียวสันหลัง
จะให้แสนรักไม่ให้หล่อนเข้ามางั้นเหรอ?
แล้วจะทำอย่างไรหล่ะ?
ผู้หญิงคนนั้นยังไงก็เป็นแม่ของเด็กๆ เขาไม่มีทางที่จะไม่ให้แม่เจอลูก
เว้นแต่หล่อนจะทำผิดจนให้อภัยไม่ได้!
เมื่อจารุณีมองสายตาคู่นี้ก็รู้สึกหวาดกลัวเสียวสันหลังขึ้นมาทันที
เส้นหมี่หลบซ่อนจากแสนรักแล้วสองวัน
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทุกครั้งที่แสนรักจะกลับมา หล่อนจะเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อยไว้แต่เนิ่นๆ ทั้งเรื่องลูกและเรื่องส่วนตัว จากนั้นก็จะซ่อนตัวอยู่ในห้องนอน พอแสนรักกลับมาถึงก็ไม่เจอแล้ว
แล้วตอนเช้าหล่ะ?
ก่อนที่แสนรักจะไปทำงาน เขาจะไม่ได้เจอหน้าหล่อนเลยหล่อนเหมือนคนที่ไปทำความผิดมาอย่างไรอย่างนั้น หลบไปก็หลบมา รอจนกว่าแสนรักจะออกไปทำงาน หล่อนถึงจะออกมาจากห้องนอน
เป็นอย่างนี้มาสองวันเลยเหรอ
ด้วยเหตุนี้ เด็กทั้งสามเคยรวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้
“มาม๊ากับปาป๊าเป็นอะไรกันแน่? ทำไมมาม๊าถึงเอาแต่หลบหน้าปาป๊าหล่ะ?”
”มาม๊าต้องไปทำอะไรผิดมาแน่ๆ!”
เสียงง้องแง้งของรินจัง ทำให้แม่ต้องพูดโดยสรุป
ทันใดนั้นอิคคิวและพี่ชาย ชินจังก็สบตากับทันที
ทำอะไรผิดก็แค่ยอมรับ ทำไมต้องหลบซ่อนด้วย หรือว่าแม่อาย?
เด็กชายสองคนคิดว่าต้องไปคุยกับแม่ให้รู้เรื่อง เพื่อครอบครัวที่มีความสุขของพวกเรา
แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในวันที่พวกเขาไปหาแม่นั้น พวกเขาเห็นแม่กำลังเก็บกระเป๋า เสื้อผ้าและของใช้ประจำวันทั้งหมดถูกเก็บใส่กระเป๋าเดินทางจวนจะเต็มอยู่แล้ว
“มาม๊า มาม๊าจะทำอะไร?”
เมื่อชินจังเห็นอย่างนี้ ชินจังที่เป็นคนเงียบขรึม แต่กลับถามขึ้นมาเป็นคนแรกอย่างร้อนรน
เส้นหมี่รีบอธิบายให้พวกเขาว่า: “ชินจังมาม๊าและน้องๆ จะกลับบ้านแล้วนะ พวกเราอยู่ที่นี่นานมาก และได้เวลากลับบ้านสักที”
อะไรนะ?
กลับบ้าน?
หลังจากนั้น แม้แต่อิคคิวที่เป็นคนร่าเริง ก็เข้ามาพูดว่า: “มาม๊า ทำไมต้องกลับบ้าน อยู่ที่นี่ไม่สุขสบายเหรอครับ? แต่ผมชอบที่นี่มากเลยครับ”
รินจังก็พยักหน้า: “ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ มาม๊า ฉันก็ชอบที่เหมือนกัน”
เส้นหมี่ :“……”
หล่อนมองดูลูกทั้งสามคนอยู่ครู่หนึ่ง หล่อนไม่รู้จะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจได้อย่างไร
หล่อนจะอธิบายได้อย่างไรว่าเป็นเพราะตอนนี้เริ่มควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว หล่อนไม่รู้จะทำอย่างไร อีกทั้งยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อพวกเขาได้อย่างไร คิดได้แต่ว่าอยากจะหนีไป
เส้นหมี่ มองออกไปทางอื่นด้วยความอึดอัด และกำลังคิดหาข้ออ้างที่จะหลอกเด็กเหล่านี้ ชินจังได้โทรหาพ่อทันทีหลังจากที่เห็นว่าแม่กำลังจะหนีไปอีกครั้ง
เส้นหมี่ :“……”