“สถานะของตัวละคร”
หยวนเปิดใช้งานคำสั่งของระบบผ่านความคิดของเขาเหมือนกับในตอนที่เขาใช้ยันต์ที่ผู้อาวุโสซงให้
ชื่อ: หยวน
ระดับ: ไม่มี
มรดก: ไม่มี
สายเลือด: ไม่มี
กายทิพย์: ร่างกายกลั่นสวรรค์
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 34
ความเข้มแข็งทางจิตใจ: 275
พลังวิญญาณ: 1,210
การป้องกันทางกายภาพ: 10
การป้องกันทางจิต: 1,121
“สถานะพวกนี้มันเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง”
เขาครุ่นคิดและไตร่ตรอง แต่หากไม่มีไกด์หรือใครมาสอนเขา เขาก็ไม่รู้ว่ามันสามารถเอาไปใช้อะไรได้บ้าง
“สิ่งที่ผู้สร้างเกมนี้บอกไว้ เกมนี้จะไม่มีคำแนะนำหรือคู่มือใดๆ ไว้ให้กับผู้เล่น ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเกมนี้ด้วยตัวเอง….”
“ในเกมประเภทนี้มันน่าจะมีระบบระดับให้กับฉันสิ แล้วแถบประสบการณ์อยู่ที่ไหน ระดับของฉันคืออะไร ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนจริงมากกว่าการเล่นเกมซะอีก” หยวนกำมือและแบมือของเขาไปมาๆ
ปัง!! ทันใดนั้นเขาก็ชกต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ
“โอ๊ย! เจ็บจริงๆ เพราะเกมนี้ส่งคลื่นสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองของฉันงั้นหรอ ทำให้ฉันเชื่อว่ากำลังชกต้นไม้จริงๆแบบนั้นสินะ นี่มัน…น่ากลัวจริงๆ”
มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอยู่ๆฉันถูกแทงด้วยดาบ? มันจะมีความรู้สึกอย่างไง?
เขาไม่อยากจะคิดเรื่องนี้เลยจริงๆ
“อืม…ขอโทษนะ พี่ชายที่อยู่ตรงนั้นหนะ…”
จู่ๆก็มีเสียงหวานดังขึ้นข้างหลังของหยวน ทำให้เขาหันหน้าไปมอง
“หื้ม?”
ข้างหลังของเขาคือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก น่ารัก ในชุดคลุมสีแดงที่ดูเหมือนจะมีอายุประมาณ 10 ขวบ กอดลูกบอลสีแดงเอาไว้ในแขนข้างนึง และอีกข้างก็มีหนังสือที่เธอถืออยู่อีกเล่ม
‘เธอเดินเข้ามาใกล้ฉันได้ยังไง โดยที่ไม่มีเสียงเลยสักนิดเดียว? ฉันไม่เห็นว่าเธอเดินเข้ามาจากทางไหนเลย! แล้วเด็กสาวคนนี้มาทำอะไรที่นี่? อาจจะมีเมืองอยู่ใกล้ๆนี้งั้นหรอ?’ หยวนเริ่มสงสัย
“เธอเป็น NPC หรือเป็นผู้เล่น” หยวนถามสาวน้อย
“NPC หรือผู้เล่นหรอ เสี่ยวฮัวก็คือเสี่ยวฮัว” สาวน้อยตอบ
“ชื่อของเธอคือเสี่ยวฮัวหรอ ฉันชื่อหยวน”
“พี่หยวนทำยังไงถึงเข้ามาที่นี่ได้หรอ?”
เสี่ยวฮัวถามด้วยความสงสัย ราวกับเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบเจอคนอื่น
“เข้ามา? พวกเราอยู่ข้างนอกไม่ใช่หรอ”
เสี่ยวฮ้วส่ายหัว และพูดว่า
“พวกเราอยู่ในสวนของครอบครัวเสี่ยวฮัว”
“ห๊ะ! สวนยังงั้นหรอ?”
หยวนได้รับคำตอบแล้วถึงกับงุนงงไปในทันที
“ป่านี้เป็นสวนของเสี่ยวฮัวยังงั้นหรอ?”
เสี่ยวฮัวพยักหน้าตอบรับ
ถ้าสถานที่ที่ดูเหมือนป่านี้ เป็นสวนของครอบครัวเธอ งั้นบ้านของเธอจะใหญ่แค่ไหนกัน หยวนนึกไม่ออกเลย แม้มันจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นคำอธิบายที่ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวที่นี่
“ขอโทษนะที่บุกรุก แต่ฉันถูกชายชราคนนึงเคลื่อนย้ายมาที่นี่ และฉันไม่สามารถขัดขืนเขาได้…”
หยวนพยายามอธิบายโดยให้เรื่องที่เขาพูดมันดูเป็นไปได้มากที่สุด
“ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย เธอช่วยบอกทางให้ฉันได้ไหม”
แต่เสี่ยวฮัวส่ายหัว แล้วพูดว่า
“พี่หยวน พี่เข้ามาแล้ว ทำไมไม่เล่นกับเสี่ยวฮัวก่อนล่ะ”
“เธออยากให้ฉันเล่นด้วยหรอ?”
หยวนไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะขอเช่นนี้
“เสี่ยวฮัวอยู่คนเดียวเสมอ และมันก็น่าเบื่อมากเลย ที่ต้องเล่นคนเดียวทุกๆวัน” เสี่ยวฮัวพูด
“แล้วครอบครัวของเธอล่ะ ?” หยวนถามเธอ
“พวกเขายุ่งอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถมาเล่นกับเสี่ยวฮัวได้”
“อย่างนั้นหรอ…”
หยวนรู้สึกสงสารเสี่ยวฮัว เขารู้ดีว่าการอยู่คนเดียวมันรู้สึกยังไง
“ตกลง เดี๋ยวพี่คนนี้จะเล่นกับเธอเอง!”
หยวนตบหน้าอกของตัวเองด้วยความมั่นใจ เนื่องจากอาการป่วยของหยวนทำให้เขาไม่สามารถขยับแขนขาได้ เขาจึงไม่เคยที่จะได้เล่นกับน้องสาวของเขาเลย ดังนั้นเขาจึงมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้รู้ว่า มันรู้สึกยังไง ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความเจ็บป่วยและโรคร้ายเหล่านั้น
“จริงหรอ พี่จะเล่นกับเสี่ยวฮัวจริงหรอ?”
ดวงตาของเสี่ยวฮัวเป็นประกายราวกับดวงดาวเล็กๆ บนท้องฟ้า การแสดงออกที่สดใสของเธอ ก็น่ารักมากพอที่จะทำให้หัวใจของนักฆ่าที่โหดเหี้ยมอ่อนลงได้เลย
“อืมม งั้นเสี่ยวฮัวอยากจะเล่นอะไรล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น เสี่ยวฮัวจะโยนลูกบอลให้พี่ แล้วพี่โยนมันกลับ โอเคไหม?” เสี่ยวฮัววางหนังสือลง และถือลูกบอลไว้ให้หยวนดู
“ขอพี่ถอยออกไปหน่อย… โอเคพร้อมแล้ว”
ทั้งสองก็เริ่มเล่นขว้างบอลกัน หลังจากนั้นไม่นานเสียงหัวเราะร่าเริงของเด็กหญิงที่กำลังสนุกสนานก็ดังก้องไปทั่วทั้งป่า
ในขณะที่หยวนใช้เวลาสนุกสนานกับเด็กหญิงลึกลับคนนี้ ผู้เล่นคนอื่นๆ อาจจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง หรือพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกใบนี้ ทุกคนต่างเร่งแซงหน้าเพื่อนๆและคู่แข่งในเกม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเป็นมืออาชีพ และต้องการนำหน้าคนอื่นๆ
จากนาทีกลายเป็นชั่วโมงอย่างรวดเร็ว และในขณะที่ทุกคนกำลังทำตามวิถีทางของตัวเอง หยวนก็ยังคงเล่นกับเสี่ยวฮัวอยู่
‘สาวน้อยคนนี้มีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้! พวกเราขว้างบอลนี้ไปมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ไม่มีเหงื่อสักหยดบนใบหน้าของเธอเลย! แม้แต่ร่างเล็กๆ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเหนื่อยล้าเลยสักนิด’
หยวนยิ้มอย่างขมขื่น ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาจะกลายเป็นชายหนุ่มที่เหนื่อยล้า ต่อหน้าเด็กหญิงตัวเล็กๆ ในขณะที่เล่นขว้างบอลได้อย่างไรกัน? แม้ว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมานานหลายปีแล้วในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ที่นี่คือโลกเสมือนจริง เขาไม่ควรเหงื่อออก ไม่ต้องพูดถึงความเหนื่อยล้าเลย เขาไม่ควรจะรู้สึกถึงมันด้วยซ้ำ!
“เป็นอะไรไปพี่หยวน พี่ดูไม่ดีเลย พี่ป่วยหรอ?”
คำพูดของเสี่ยวฮัวสร้างความเสียหายอย่างมากต่อความภาคภูมิใจของหยวน
“ไม่…พี่…แค่…เหนื่อย…” หยวนพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
เมื่อได้ยินคำพูดของหยวน เสี่ยวฮัวก็ไม่ได้ขว้างบอลให้เขาอีกต่อไป
“ถ้าอย่างนั้น พี่พักผ่อนก่อนมั้ย พวกเราค่อยกลับมาเล่นกันต่อ”
“เสี่ยวฮัวยังอยากเล่นอยู่ไหม” หยวนถามเสี่ยวฮัว
“อื้อ!” เสี่ยวฮัวพยักหน้าอย่างแรง
“โอเค แต่ขอพี่พักสักหน่อยแล้วกันนะ”
หยวนนั่งลงที่ต้นไม้ใกล้ๆ เสี่ยวฮัวก็เดินมานั่งข้างๆ เขา
“พี่หยวนมาจากไหนหรอ” เสี่ยวฮัวถาม
“พี่มาจากที่ห่างไกลที่เรียกว่าโลก”
“โลก? งั้นหรอ”
เมื่อเห็นดวงตาที่แวววาวของเธอ หยวนก็ยิ้ม
“เสี่ยวฮัวอยากฟังเรื่องเกี่ยวกับบ้านเกิดของพี่ไหม แม้มันจะไม่มาก แต่พี่ก็ยังมีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่ที่พี่เคยไปเมื่อตอนเป็นเด็ก”
“ใช่ เสี่ยวฮัวอยากฟังมากเลย”
“โอเคเลย…”
หยวนเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เสี่ยวฮัวฟังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เธอสนใจเรื่องราวของเขาอย่างมาก
หลังจากเล่าเรื่องไม่หยุดไปหนึ่งชั่วโมง เสี่ยวฮัวก็เปิดหนังสือของเธอและพูดว่า
“พี่หยวนเล่นกับเสี่ยวฮัว และยังเล่าเรื่องราวของพี่ให้เสี่ยวฮัวฟังด้วย งั้นเสี่ยวฮัวก็จะเล่าให้พี่ฟังด้วยเหมือนกัน” เสี่ยวฮัวพูดกับหยวน
“นี่คือความขอบคุณของเสี่ยวฮัวที่มีต่อพี่หยวน”
หยวนไม่ปฏิเสธ และตอบรับคำของเสี่ยวฮัวด้วยความนอบน้อม
ยังไงก็ตามเมื่อเสี่ยวฮัวเริ่มอ่านหนังสือในมือ หยวนก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาไม่สามารถเข้าใจคำพูดที่ออกมาจากปากของเธอเลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งมันฟังดูเหมือนสวดมนต์มากกว่านิทาน!
แต่หยวนก็ไม่อยากหยาบคายกับเสี่ยวฮัว เขาจึงยังคงฟังต่อไป หลังจากนั้นอีกไม่นาน โดยที่เขายังไม่ทันรู้ตัวเขาก็หลับตาลง และหลังจากหลับตาลงเขาก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจมากขึ้น ราวกับว่าเขากำลังถูกสะกดจิต
เสียงสวดมนต์แปลกๆ จากเสี่ยวฮัว กลายเป็นคำพูด หยวนเริ่มเข้าใจคำพูดของเธอ และข้อมูลที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน ก็ถูกป้อนเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เสียงอันแหลมคมจะปลุกหยวนขึ้นมา
“ศิลปะลับแห่งสวรรค์งั้นหรอ?”
เสี่ยวฮัวยิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของหยวน
ทันใดนั้นเอง เหนือท้องฟ้าที่ผู้เล่นทุกคนสามารถมองเห็นได้ ผู้เล่นทุกคนก็ได้เห็นการแจ้งเตือนครั้งใหญ่ของระบบ
การประกาศนี้ สร้างความตกใจเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่พบเห็น โดยเฉพาะผู้เล่นที่อยู่ระดับต้นๆ มีใครบางคนได้รับทักษะระดับเทพมาแล้วงั้นหรอ? ผู้เล่น ‘หยวน’ คือใครกัน และเขาทำอะไรถึงได้มันมา?