Ch.227 – ยอมตายเพื่อความมั่งคั่ง

Provider : Muntra

 

วันนี้ลง 2 ตอน 227 228

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.227 – ยอมตายเพื่อความมั่งคั่ง

 

ภายในถ้ำมีแค่แสงสลัว ไร้ซึ่งแสงจากดอกหญ้าทมิฬ ถึงกระนั้นผู้ใช้วรยุทธโบราณก็ยังสามารถควบรวมกำลังภายในไว้ที่ดวงตาเพื่อเพิ่มการมองเห็นในที่มืด แต่อย่างมากสุดก็แค่ 20 – 30 เมตร 

 

ผู้ใช้อบิลิตี้มีความสามารถในการรับรู้โดยพลังสมาธิ

 

ฝั่งมือปืนเองก็ใช้ตัวสแกนอินฟาเรด

 

ทว่าหากต้องการตรวจสอบสมบัติธรรมชาติทั้งหมดแบบไม่ให้ตกหล่น คงต้องเพ่งสมาธิอย่างละเอียด

 

“โอ้สวรรค์ นั่นเปลือกหอยมุกเงิน!”

 

เสียงตะโกนนี้ ดึงดูดความสนใจจากทุกคนทันที

 

เปลือกหอยมุกเงินที่ว่ามีขนาดกว่า 30 ซม. และหากมีมุกเงินอยู่ภายใน มันอาจมีขนาดเทียบเท่ากับเมล็ดองุ่น

 

แม้จะไม่สามารถนำไปเทียบเปรียบกับแก่นพลังงานของสัตว์ร้ายเลเวล E ได้ แต่เพียงเม็ดหนึ่ง มีมูลค่ามากถึง 30 ล้าน!

 

อีกทั้งถ้าหอยมุกเงินยังมีชีวิตอยู่ คุณจะสามารถเก็บมันไปเลี้ยงได้ ดังนั้นสิ่งนี้จะไม่ดึงดูดความสนใจเหล่าผู้ใช้พลังเลเวล E ให้เคลื่อนไหวได้อย่างไร?

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องเปลือกหอยมุกเงินในโพรงนี้ ที่กองอยู่อย่างน้อยก็มากกว่า 10 ! คาดว่าพวกมันน่าจะติดมาตามผิวหนังของราชันย์จระเข้ ในระหว่างที่กำลังออกล่า

 

ผู้ใช้พลังคนที่อุทานออกมาฉกมือไปคว้าอย่างรวดเร็ว หมายจะกุมหอยมุกเงินไว้ในครอบครอง ทว่า–

 

–ปัง!

 

เสียงกระสุนปืนพลันดังขึ้น 

 

ทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องการของดี ยินยอมตายเพื่อความมั่งคั่ง ดั่งวลี ‘人为财死 鸟为食亡’ (คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร) ช่วงเวลาละเลงเลือดได้มาถึงแล้ว!

 

“หาที่ตาย!”

 

“มอบชีวิตให้ฉัน!”

 

“สารเลว! หลีกทางไปให้พ้น!”

 

ฝูงชนกระโจนเข้าห้ำหั่น เสียงดังสะท้อนไปตลอดทั้งถ้ำ หลายคนได้ยินมัน และระบุได้ว่ามาจากทิศทางเดียว อันที่จริงทุกคนสามารถใช้โอกาสนี้ แยกหาสมบัติทางอื่น ไม่ไปตามเสียงก็ได้ ทว่าหลายคนกลับฉุกคิดว่าหากเกิดการต่อสู้ขึ้น ย่อมหมายถึงมีสมบัติล้ำค่าบางอย่าง ดังนั้นทั้งหมดจึงเร่งพุ่งไปตามเสียงเพื่อเข้าร่วมสนุกทันที

 

แต่ในเวลานั้นเอง บางคนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ก็สังเกตเห็น ว่าภายใต้เสียงสนั่นของปืน ผิวน้ำทะเลกำลังยกสูงขึ้น 

 

ช่วงเวลาต่อมา ในมุมหนึ่งของโพรงขนาดสนามฟุตบอล สิ่งมีชีวิตใหญ่ยักษ์พลันโผขึ้นจากน้ำ สับเท้าเข้าหากลุ่มคนที่กำลังห้ำหั่นกัน

 

“อ๊าาา!”

 

เหล่าฝูงชนกรีดร้องลั่น

 

“นั่นราชันย์สัตว์ร้าย!”

 

ราชันย์จระเข้สะบัดทิ้งศพนายพลฉลามตัวใหญ่ที่มันเพิ่งลากกลับมาโดยการกระชากกัดเพียงครั้งเดียว ร่างกายที่ใหญ่โตเริ่มอาละวาดคลั่ง หมายจะใช้เท้าของมันเหยียบย่ำมดที่รุกล้ำเข้ามาให้บี้แบน

 

แม้ทหารจระเข้มังกรจะมองมนุษย์เป็นอาหาร แต่สำหรับราชันย์จระเข้ มนุษย์ไม่ได้อยู่ในสายตามันเลย เพียงแต่ว่าที่มันอาละวาด เพราะขอบเขตการรับรู้ของมันแข็งแกร่งมาก เลยตระหนักได้ว่าคนเหล่านี้บุกเข้ามาและสร้างความเสียหายในรัง –นี่ไม่ต่างจากการยั่วยุมัน

 

การสังหารหมู่จึงเริ่มต้นขึ้น!

 

บางคนไม่ทันได้ตอบสนอง ถูกเท้าใหญ่ยักษ์บดขยี้เป็นพายเนื้อ

 

“หนี … รีบหนีเร็วเข้า!”

 

“ไปลงนรกซะ!”

 

ผู้ใช้อบิลิตี้คนหนึ่งตัดสินใจหันกลับมาต่อสู้อย่างไม่กลัวตาย

 

“พิภพมลายสูญ!”

 

ครืนนนนน!

 

ผืนดินเบื้องล่างราชันย์จระเข้พลันลุกฮือขึ้นทันใด แปรเปลี่ยนเป็นเม็ดทราย หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง สูบมันจมลงไป

 

ทว่าช่างน่าเสียดายที่พลังสมาธิของผู้ใช้อบิลิตี้มีขีดจำกัด ผืนดินร่วนลึกลงไปได้แค่ 50 เมตรเท่านั้น ถ่วงเวลาราชันย์จระเข้ได้แค่สั้นๆ สุดท้ายเขาก็ต้องดิ้นรนงัดท่าอื่นออกมาจัดการกับมัน

 

“เทคนิคมังกรหิน!”

 

เมื่อศัตรูใกล้เข้ามา ผู้ใช้อบิลิตี้รีดเร้นพลังสมาธิ ระเบิดพลังของเขาอีกครั้ง รูนพรั่งพรูก่อร่างเป็นมังกรตะวันตกขนาดใหญ่ ทว่าหากให้เทียบกับมังกรไฟของฉินเฟิง คงไม่กล้าโอ้อวด

 

ร่างของมังกรหินใหญ่โตมาก มันประกอบไปด้วยเศษดินและหินสมชื่อ โฉบเข้าขย้ำราชันย์จระเข้อย่างไร้ปราณี

 

ราชันย์จระเข้มังกรถูกผลักถอยหลังกลับไป

 

และคราวนี้ ราชันย์จระเข้รู้สึกรำคาญจริงๆแล้ว!

 

มันพลันอ้าปากกว้าง โถมเข้างับ! กระชากมังกรหินอย่างโหดเหี้ยม

 

กราว กราว!

 

เมื่อถูกขย้ำ หินซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของมังกรก็ถล่มลงมาทันที กระเด็นกระดอนไปทุกทิศทาง

 

พรวดดด!

 

เมื่อมังกรหินถูกกลืนกิน พลังสมาธิก็ถูกทำลายลงเช่นกัน เกิดความเสียหายทางจิตจนผู้ใช้อบิลิตี้กระอักเลือดออกมา

 

“อาจารย์ฟาง! มาเถอะ ผมจะพาคุณหนีเอง!” ชายคนหนึ่งคำรามเกรี้ยวกราด เหวี่ยงโซ่ที่พันบนแขนตนออกไปให้อีกฝ่ายคว้า แล้วลากผู้ใช้อบิลิตี้หลบฉากออกมาอย่างรวดเร็ว ลอยละลิ่วจนมาถึงเหนือปากทางเข้าโพรงสนามฟุตบอล

 

ฝูงชนหนีเตลิดกันจ้าละหวั่น

 

ราชันย์จระเข้มีขนาดใหญ่โตมากเกินไป ดังนั้นไม่อาจมุดเข้าโพรงเล็กๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงสามารถหนีออกมา

 

พลังสมาธิของอาจารย์ฟางได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทั้งคนทั้งร่างสะลึมสะลือ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากขอบคุณที่ช่วยเหลือ ชายเจ้าของโซ่ก็ชักกริชออกมา และเฉือนวูบ! ผ่านคอขอเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า อาจารย์ฟาง คงไม่คิดล่ะสิว่าตัวเองจะมีวันนี้!” ชายคนนั้นหัวเราะคลุ้มคลั่ง 

 

อาจารย์ฟางแน่นอนว่าคือการดำรงอยู่สุดแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ที่แสนล้ำค่า สามารถครอบครองเทคนิคมังกรหิน เห็นได้ชัดว่ามีสถานะสูงส่ง

 

แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าสุดท้ายตัวตนทรงพลังเช่นนั้นจะต้องมาจบชีวิตลงในมือเขา

 

“หลิวรุ่ย ไอ้สารเลว!”

 

ปรากฏเสียงคำรามเกรี้ยวกราด วินาทีต่อมา ห่ากระสุนพลันสาดจากต้นเสียง

 

หลิวรุ่ยไม่มีเวลามากพอที่จะถอดแหวนมิติของอาจารย์ฟาง ถูกกดดันให้ถอยร่นไป

 

ในมุมๆหนึ่ง กลุ่มทีม 5 คนได้เผยโฉมออกมา

 

–เป็นกลุ่มของฉินเฟิง!

 

แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ได้ยินเสียงต่อสู้เช่นกัน อีกทั้งหนึ่งในพวกเขาดึงดันจะมาดูให้ได้ แต่ไม่คาดฝันเลยว่าราชันย์จระเข้จะกลับมาที่รัง และพบกับฉากผู้ใช้อบิลิตี้ถูกสังหารตกตาย

 

แต่ก็นั่นแหละ โอกาสวุ่นวายเหมาะๆแบบนี้ ย่อมมีคนอื่นคอยฉกฉวยประโยชน์จากมัน

 

หลิวรุ่ยวิ่งหนีไป ชิหลงไม่คิดไล่ติดตาม เขาตรงเข้าไปหาอาจารย์ฟางอย่างรวดเร็ว

 

“อาจารย์ฟาง!” ชิหลงตะโกนร้อนรน

 

แต่อีกฝ่ายถูกตัดคอไปแล้ว ทั้งกระดูกคอยังหัก คุณสามารถจินตนาการได้ว่าหลิวรุ่ยลงมือโหดร้ายเพียงใด —อาจารย์ฟางจบชีวิตลงโดยสมบูรณ์!

 

ฉินเฟิงยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกได้ถึงพลังพิเศษดูดกลืนที่ทำงานโดยอัตโนมัติ พลังสมาธิขนาดใหญ่ถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายของเขา 

 

คนๆนี้คือผู้ใช้อบิลิตี้ที่แข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน ทว่าในอนาคตฉินเฟิงไม่เคยได้ยินชื่อของอีกฝ่ายเลย มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าคนที่ชื่ออาจารย์ฟางจบชีวิตลงที่นี่

 

เฮ้อ … โชคชะตามันก็เป็นแบบนี้แหละ นอกจากฉินเฟิง คงไม่มีใครสามารถฝืนมันได้

 

“ชิหลง นี่ไม่ใช่เวลามามัวโศกเศร้า เก็บศพอาจารย์ฟางไว้ แล้วหนีกันก่อนเถอะ” ฉินเฟิงกล่าวเสียงทุ้มลึก

 

ชิหลงขบฟันเดือดดาล ผงกหัวและเก็บศพของอาจารย์ฟางลงในอุปกรณ์รูนมิติ ทว่าอุปกรณ์รูนของอีกฝ่ายมีพื้นที่ไม่เพียงพอ ฉินเฟิงเลยมอบอีกอันให้แก่ชิหลง

 

“อาจารย์ฟางคืออาวุโสเก่าแก่ของฟูเฉิง แม้ว่าฉันจะรู้ตัวคนร้าย แต่ตอนนี้พวกเราเป็นทีม ฉันไม่สามารถออกไปล้างแค้นเพื่อเหตุผลส่วนตัวได้ ทำตามแผนเดิมของพวกเราต่อเถอะ”

 

ฉินเฟิงพยักหน้า ไม่คิดเอ่ยคำใดอีก นี่คือความเป็นจริงอันโหดร้าย การตายของรุ่นอาวุโสนับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่การที่สามารถเก็บกู้ศพได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว เพราะบนอุปกรณ์รูนมิติของเขาคงมีสมบัติที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ซึ่งนั่นสามารถส่งต่อถึงมือลูกหลานได้

 

อีกอย่างนี่คือศพของคนรู้จัก ดังนั้นฉินเฟิงไม่คิดฉกชิง เพราะเกรงว่ามันจะกลายเป็นตราบาปชั่วชีวิตของเขา

 

 

ภายในถ้ำเวลานี้ ผู้ใช้พลังต่างพากันหลบหนี ในขณะที่คนอื่นๆต่างภาวนาว่านอกจากตน ที่เหลือขอให้ไม่รอดพ้น จะได้ชะลอเวลาไล่ล่าของราชันย์จระเข้ ถ่วงให้พวกเขาสามารถหลบหนีไปได้ไกลกว่าเดิมสักเล็กน้อยก็ยังดี

 

อย่างไรก็ตาม คนบางกลุ่มก็มีความคิดแตกต่างกันไป

 

“นี่มันโอกาสทอง! ถ้าสามารถสังหารราชันย์สัตว์ร้ายลงได้ พวกเราจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล อาศัยช่วงที่มันเคลื่อนไหวลำบากลงมือกันเหอะ!”

 

“นั่นสินะ สถานการณ์ในตอนนี้ เป็นเวลาเหมาะที่พวกเราจะเคลื่อนไหว!”

 

คนเหล่านี้ สวมเครื่องแต่งกายสบายๆ และมีตราสัญลักษณ์ผู้ใช้พลังบนหน้าอก ทว่ามันกลับแตกต่างจากผู้ใช้พลังคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิง เพราะนั่นคือ–

 

–ตราสัญลักษณ์ค้างคาวสีเลือด!

 

คนกลุ่มนี้เป็นคนจากองค์กรมืด!

 

คือสมาชิกจากกลุ่มชิเซี่ย! (กลุ่มกระหายเลือด)

 

แม้จะเป็นกลุ่มองค์กรที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เคยรับสมาชิกที่อ่อนแอ แต่ละคนที่ยืนหยัดอยู่ ณ ที่นี้ล้วนแข็งแกร่ง อันได้แก่

 

หยวนฮัน ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล E4 , นักฆ่าผู้แสนโหดร้าย , มีชื่อเสียงไม่ต่างไปจากหมาป่าสาวแห่งสามเฉิง

 

หวูซือ มือปืนเลเวล E3 , อัจฉริยะเชิงกล เชี่ยวชาญในการผลิต , ดัดแปลง , ทดลอง กระทั่งบนร่างกายของเขาเองทั้งหมดยังถูกเปลี่ยนเป็นกึ่งไซบอร์ก ครอบครองกำลังรบที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน

 

กั๋วซิง มือปืนเลเวล E4 ฉกาจในการใช้ระเบิด เป็นปรมาจารย์ระเบิดอันดับต้นๆ

 

และสุดท้ายเซิงเซินหยู เลเวล E5 ผู้ใช้อบิลิตี้โลหะ ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม!