บทที่ 24 เร่งแผนฝึก
การล่าในครั้งนี้ มีส่วนหนึ่งจําเป็นจะต้องถูกฆ่าและแบ่งให้กับชนเผ่า มีแกะตัวผู้ประมาณ 12 ตัวและแกะตัวเมียอีก 20 ตัวรวมรวมแล้วเหลืออยู่ประมาณ 32 กว่าตัว มีแกะตัวผู้อีก 3 ตัวและแกะตัวเมีย 3 ตัวที่ดูเหมือนมีอายุมากแล้วและพวกมันจะถูกกินเป็นอันดับแรก
กล่าวคือ จะมีแกะปาทั้งหมด 26 ตัวที่สามารถเลี้ยงเอาไว้เป็นอาหารของชนเผ่า แม้ มู่เฟิง จะรู้ว่าการกินเนื้อแกะนั้น ยิ่งคําว่า “นุ่ม” จะต้องเป็นแกะที่อายุน้อย แต่เขายังคงอดทนและไม่แตะต้องลูกแกะ หลังจากนี้ลูกแกะสามารถผสมพันธุ์กลายเป็นแกะจํานวนมาก
แม้ว่าเขาจะฆ่ามันตายเพียงไม่กี่ตัว แต่ความรู้สึกดีใจในชนเผ่านั้นเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจเพียงเพราะเนื้อแกะนั้นอร่อยเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับเนื้อของสุนัขจิ้งจอก หมาป่า หรือแรดเขาที่หมิงกวง จับได้ก่อนหน้านี้!
ดังนั้นในค่ําคืนนี้ทั้งเผ่าจึงจุดกองไฟอีกครั้งส่งเสียงโห่ร้องและเรียกชื่อของ มู่เฟิง
ตอนนี้นอกจากด้านหลังภูเขาแล้ว ชนเผ่าทั้งหมดบูชาไฟเป็นสัญลักษณ์ แต่คนในเผ่าของมู่เฟิงถือว่าการมีไฟนั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว เพียงเพราะ มู่เฟิง ได้สอนทุกคนถึงวิธีการจุดไฟ
มู่เฟิง ถูกเชิญให้มานั่งในฝูงชน ถือปลาย่างและเนื้อย่างพร้อมกับน้ําในโถหิน ชนเผ่าล้อมรอบมู่เฟิง ด้วยความเคารพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไปหยา นางใส่ชุดขนสัตว์สีขาวที่มาจากไหนก็ไม่รู้แต่เมื่อสวมลงบนร่างกายของนางทําให้ดูดีอย่างบอกไม่ถูก นางถูกคนในเผ่าผลักใสให้เป็น “ตัวแทน” ถือเนื้อย่างกับน้ําเข้าไป คุกเข่าแล้วส่งให้กับ มู่เฟิง
เมื่อหญิงสาวมองไปที่ มู่เฟิง ดวงตาของนางเป็นประกายราวกับดวงดาว ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความปิติยินดีและเลื่อมใสโดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมปากของนางยิ้มบางๆสะท้อนคบเพลิงดูงดงาม
มู่เฟิง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเล็กน้อย เขากะแอมเบาๆแล้วรับขาแกะกับโถหิน และโบกมือเป็นสัญญาณก่อนจะกล่าวว่า
“พวกเราทุกคนล้วนเป็นคนจากเผ่าต้าเจียง ข้าเองก็เติบโตมาจากที่นี่เช่นกัน หลังจากนี้ทุกคนไม่จําเป็นต้องทําความเคารพเรียกข้าว่า มู่เฟิง ก็เพียงพอแล้ว!”
“เข้าใจแล้ว ผู้นําเผ่า อุกะอุกะ!” คนในเผ่าตอบพร้อมเพียงกัน
มู่เฟิง รู้สึกหมดหนทาง และเข้าใจว่านี่คือสังคมในยุคดึกดําบรรพ์ ความคิดอันลึกซึ้งมากมายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา มือหนึ่งถือขาแกะอีกมือนึงถือโถหิน เขานึกถึงรสชาติของขาแกะย่างในชีวิตก่อน ที่มีเครื่องปรุง ผงยี่หร่า พริกป่น พริกไทย…. เครื่องปรุงที่มากมายถูกทาลงบนขาแกะถ้ารวมกับเบียร์เย็นๆ
มู่เฟิง มองลงไปที่ขาแกะรมควันที่อยู่ในมือของเขาอีกครั้ง เขาโรยเกลือลงไปเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรู้สึกไร้รสชาติ
“ขาแกะดีขนาดนี้แต่กับดื่มกินกับน้ําบาดาล!” มู่เฟิง อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ําตา
“ดูเหมือนว่าสูตรอาหารของเผ่าจะต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน!”
มู่เฟิง สื่อสารกับระบบอีกครั้ง และส่งภารกิจเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ป่า เขาได้รับคะแนน 300คะแนน ตอนนี้ทําให้เขามีคะแนนรวมอยู่เป็น 350 คะแนน
“ระบบ มีเครื่องปรุงรสให้แลกไหม?” มู่เฟิง อดสบถออกมาไม่ได้
“ขาแกะนี่มันน่ากินจริงๆ!”
* มีสิ!” ระบบดึงหน้าจอออกมา มู่เฟิง แค่มองแว้บเดียวก็อุทานออกมา
“บ้าเอ้ย ปล้นกันหรือไง? แค่พริกขวดเล็กๆต้องใช้ถึง 50 คะแนน!”
“ยังมียี่หร่าอีกหรอ นี่มันเพียงพอสําหรับเขาที่จะย่างบาร์บีคิวสักมื้อ!”
ระบบแจ้งเตือน: เกลือและเครื่องเทศต่างๆเป็นวัสดุสิ้นเปลือง ระดับสูง ราคาย่อมสูงอยู่แล้ว!
จากนั้นระบบก็ยังแจ้งเตือนอีกว่า คุณต้องการแลกหรือไม่
มู่เฟิง ลังเลอยู่นานกัดฟันถาม “ในยุคสมัยนี้ไม่มีเครื่องเทศอย่างอื่นแล้วหรือ?”
ระบบแจ้งเตือนกลับ : มี แต่คุณต้องค้นพบด้วยตัวเอง!
จากนั้นระบบก็ส่งภาพชุดหนึ่งให้ มู่เฟิง ดู ภาพทั้งหมดเป็นภาพของวนิลาและเครื่องเทศในขณะเดียวกันก็ส่งภารกิจใหม่ให้กับ มู่เฟิง
“ ค้นหาเครื่องเทศแต่ละชิ้นจะได้รับคะแนน 100 คะแนน!”
มู่เฟิง มองไปที่ อบเชย พริกหยวก ยี่หร่า และอื่นๆที่เขาไม่รู้จัก ดวงตาของเขาเป็นประกายเครื่องเทศเหล่านี้มีอยู่ในโลกนี้ เขาพบว่าไม่เพียงแต่จะแก้ปัญหาเรื่องเครื่องปรุงรสเท่านั้นแต่ยังได้คะแนนความสําเร็จอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงคิดอยู่สักครู่และกล่าวว่า
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่แลกเปลี่ยน แค่มื้อเดียวฉันทนได้!”
หลังจากนั้นเขาก็ถอนตัวเองจากระบบสื่อสารกับสู่โลกดึกดําบรรพ์ ในชีวิตที่แล้วเขาได้ศึกษาประวัติศาสตร์และปริศนามากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีคนเคยตั้งคําถามว่างานของเขาเป็นสิ่งที่จําเป็นหรือไม่ แต่ตอนนี้เมื่อเขาอยู่ในยุคดึกดําบรรพ์ เพียงแค่เขาตัดสิน เกือบทุกอย่างล้วนส่งผลกระทบต่อเผ่า
มีอะไรเพิ่มเติมและมากมายมากกว่านั้น เขาคิดอยู่ทั่วๆและรู้สึกว่าการล่าสัตว์และการค้นหาเครื่องปรุงรสสามารถทําพร้อมกันได้ และสิ่งนี้จะสามารถแก้ปัญหาความอิ่มเอมใจในระยะยาวของชนเผ่าอีกทั้งยังแก้ปัญหาเรื่องรสชาติของอาหารของตัวเองและชนเผ่าได้
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังจะได้รับคะแนนความสําเร็จอีกด้วยเขาลูบหัวตัวเองและหัวเราะ “ฮ่าๆๆดูเหมือนว่าแผนการจัดต้องเร่งขึ้นไปอีก!”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาหันไปพูดกับ หมิงกวง ว่า “ลุงหลี่หู ลุงหมิงกวง พรุ่งนี้พวกเราไปล่าสัตว์กันต่อ!”
“ล่าสัตว์นั้นหรอ?” หมิงกวง และ หลี่หู ตาเป็นประกาย ใบหน้าประดับไปด้วยความสุข
“พวกเรายังจะไปจับแกะปาอีกหรอ?”
“ไม่ใช่!” มู่เฟิง สายหัว “เราแค่ส่งคนสองสามคนไปดูกับดักก็พอแต่พวกเราจะไปจับมังกรขนดอกกัน!”
“มังกรขนดอก?” หมิงกวง ตกตะลึงงาน “จะจับมันได้อย่างไร?”
มู่เฟิงยิ้มกว้าง “ข้ามีวิธี!”