ส่วนที่ 17 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ ตอนที่ 4 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (4)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

​โรงเรียน​ของ​ซู​หว่าน​เป็น​โรงเรียนประถม​ศึกษา​ประจำเมือง​ที่​สิบ​สาม​ ​ซึ่ง​อยู่​ติดกับ​โรงเรียนมัธยม​ประจำเมือง​ที่​สิบ​สาม

​“​เสี่ยว​หว่าน​ ​ตื่น​มากิ​นข​้าว​ได้​แล้ว​!​”​ ​เวลา​หก​โมง​เช้า​ ​ซู​หว่าน​ตื่นขึ้น​มาด​้วย​ความ​งัวเงีย​ ​หลังจาก​ถูก​หลิว​ลี่​ปลุก​ขึ้น​มา

​เป็นเวลา​เดียว​กับ​ที่​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ไป​ทำงาน​ ​สอง​พ่อ​ลูก​มักจะ​กินข้าว​เช้า​ด้วยกัน​ทุกวัน​ ​ถึงแม้ว่า​โรงเรียน​ประ​ถาม​ที่​สิบ​สาม​จะ​ห่าง​จาก​บ้าน​ของ​ซู​หว่าน​ไม่​ไกล​นัก​ ​แต่​ใน​ตอนเช้า​ของ​ทุกวัน​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ก็​จะ​ขี่​จักรยาน​ไป​ส่ง​ซู​หว่าน​ที่​โรงเรียน​ก่อน​จะ​ไป​ทำงาน

​ใน​เวลา​ที่​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​อยู่​บ้าน​นั้น​ ​หลิว​ลี่​จะ​เรียก​ซู​หว่าน​ว่า​ ​“​เสี่ยว​หว่าน​”​ ​ถึงแม้ว่า​น้ำเสียง​จะ​ไม่​เย็นชา​ ​แต่​ก็​ไม่เคย​มี​ความรัก​อยู่​ใน​นั้น​ ​และ​ใน​เวลา​ที่​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ไป​ทำงาน​ ​หลิว​ลี่​จะ​เรียก​เธอ​ว่า​ ​“ยัย​เด็ก​ผี​”​ ​เกือบ​ตลอดเวลา

​เจ้าของ​ร่าง​เดิม​มี​ร่างกาย​ที่​อ่อนแอ​และ​สมอง​ก็​ค่อนข้าง​ช้า​ ​เธอ​ยอม​จำทน​ต่อ​การปฏิบัติ​ที่​ไม่ดี​เช่นนี้​มาโดยตลอด​ ​และ​ไม่เคย​พูด​เรื่อง​หลิว​ลี่​ต่อหน้า​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​เลย​สักครั้ง​ ​ดังนั้น​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ที่​แสน​ซื่อ​จึง​คิด​มา​เสมอ​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​ดี​ต่อ​ลูกสาว​คนโต​ของ​เขา

​“​อรุณสวัสดิ์​ค่ะ​พ่อ​ ​อรุณสวัสดิ์​ค่ะ​แม่​”​ ​ซู​หว่าน​ใน​ชุดนักเรียน​สีน้ำเงิน​เข้ม​ที่​ค่อนข้าง​หลวม​ ​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ช้าๆ​

​“​เสี่ยว​หว่าน​ ​รีบ​มากิ​นข​้าว​เถอะ​ ​เดี๋ยว​มัน​จะ​เย็น​ซะ​ก่อน​”

​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ตั้งใจ​คีบ​เนื้อ​ชิ้น​หนึ่ง​ใส่​ชาม​ของ​ซู​หว่าน​ ​หลิว​ลี่​ทีนั​่​งอยู​่​ด้าน​ข้าง​มอง​ก่อน​หันหน้า​หนี​โดย​ไม่ได้​พูด​อะไร

​ใน​ตอนนี้​ซู​ชิง​เหมย​อายุ​ห้า​ขวบ​ ​กำลัง​เรียน​ชั้นอนุบาล​ ​หลิว​ลี่​ไม่ได้​ปลุก​ลูกสาว​ตัว​น้อย​ของ​เธอ​ขึ้น​มา​ ​แต่​เธอ​ก็​เก็บ​เนื้อ​ชิ้น​ใหญ่​และ​ดีที​่​สุด​ไว้​ใน​หม้อ​เพื่อให้​ซู​ชิง​เหมย​ลูกสาว​ของ​เธอ​โดยเฉพาะ

​ซู​หว่าน​เข้าไป​ล้างหน้า​บ้วนปาก​ใน​ห้องน้ำ​เล็ก​ๆ​ ​ ​จากนั้น​เธอ​ก็​หวี​และ​รวบ​ผม​ยาว​ของ​ตัวเอง​มัด​เป็น​หาง​ม้า​เรียบร้อย​ ​แล้วจึง​เดิน​ออกมา​อย่างรวดเร็ว

​อาหาร​มื้อ​เช้า​ถูก​รับประทาน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​หลังจาก​ทานอาหาร​เสร็จ​ ​ซู​หว่าน​ก็​สะพาย​กระเป๋า​หนังสือ​ไว้​ที่​หลัง​ ​ก่อน​จะ​ออก​ไป​พร้อมกับ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ ​อากาศ​ใน​ยามเช้า​นั้น​สดชื่น​มาก​ ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ปั่น​จักรยาน​คู่​กาย​คัน​เก่า​ของ​เขา​ออกจาก​ประตู​ลานบ้าน​ ​ซู​หว่าน​นั่งลง​บน​เบาะหลัง​คน​ขี่​อย่างที่​ทำเป็น​ประจำ​ ​มอง​ไป​ยัง​แผ่น​หลัง​กว้าง​ของ​ชาย​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ​ซู​หว่าน​อด​ที่จะ​พูด​ขึ้น​มา​เบา​ๆ​ ​ไม่ได้​ว่า​ ​“​พ่อ​คะ​ ​ต่อไป​พ่อ​อยู่​บ้าน​เป็นเพื่อน​หนู​บ่อยๆ​ ​ได้​ไหม​คะ​”

​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ที่​ขี่​จักรยาน​อยู่​ถึงกับ​ตกใจ​ไป​ชั่วขณะ​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ลูกสาว​ตนเอง​ ​“​เสี่ยว​หว่าน​ ​เป็น​อะไร​ไป​ลูก​ ​พ่อ​ไม่อยู่​บ้าน​ ​แต่​ก็​ยัง​มี​แม่​อยู่​นะ​ ​หนู​เบื่อ​เหรอ​?​”

​“​ไม่​ค่ะ​ ​ไม่ใช่​ ​คือ​…​”

​ซู​หว่าน​ลังเล​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ผ่าน​ถนน​ไป​อีก​แยก​หนึ่ง​ก็​จะ​ถึง​ประตู​ใหญ่​ของ​โรงเรียน​แล้ว​ ​ซู​หว่าน​จึง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​พ่อ​คะ​ ​ตอนที่​พ่อ​ไม่อยู่​บ้าน​ ​แม่​ก็​จะ​ใช้​ไม้​หวาย​มา​เฆี่ยน​หนู​ ​หนู​เจ็บ​มาก​เลย​ค่ะ​ ​มี​แค่​ตอนที่​พ่อ​อยู่​บ้าน​เท่านั้น​ที่​แม่​จะ​ไม่​ตี​หนู​ ​แล้วก็​ไม่​เรียก​หนู​ว่ายัย​เด็ก​ผี​”

​“​ลูก​ว่ายัง​ไง​นะ​?​”

​ทันทีที่​ได้ยิน​ซู​หว่าน​พูด​ ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ก็​หยุด​รถ​ลง​ ​เขา​กระโดด​ลง​จาก​รถจักรยาน​และ​มอง​ลูกสาว​ที่นั่ง​อยู่​เบาะหลัง​อย่างจริงจัง​ ​“​ที่​ลูก​พูด​มาทั​้ง​หมด​เป็นเรื่อง​จริง​หรอ​?​”

​เมื่อ​รู้สึก​ได้​ถึง​ความจริงจัง​ของ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ ​ใบหน้า​ซูบผอม​ของ​ซู​หว่าน​ก็​แสดง​ความกลัว​และ​ความกระวนกระวายใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​พ่อ​คะ​ ​พ่อ​อย่า​ตี​หนู​เลย​นะ​!​ ​อย่า​ตี​หนู​เลย​ ​หนู​ไม่​ทำ​แล้ว​!​ ​ต่อไป​หนู​จะ​ไม่​ทำ​อีกแล้ว​!​”​

​“​เสี่ยว​หว่าน​?​”

​เมื่อ​เห็น​ซู​หว่าน​ร้องไห้​โฮ​ออกมา​ด้วย​ความกลัว​ ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ก็​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ลูก​เป็น​อะไร​ไป​?​ ​​​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?​ ​พ่อ​ไม่ได้​บอกว่า​จะ​ตี​หนู​ซะ​หน่อย​!​”

​“​พ่อ​ไม่​ตี​เสี่ยว​หว่าน​หรอ​คะ​?​ ​แต่​แม่​บอกว่า​ถ้า​หนู​บอก​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​พ่อ​ ​พ่อ​จะ​ตี​หนู​ ​หนู​กลัว​….​”

​หลิว​ลี่​!

​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​กัดฟัน​ด้วย​ความโมโห​ ​แต่เดิมนั้น​เหตุผล​ที่​เขา​แต่งงาน​กับ​หลิว​ลี่​ก็​เป็น​เพราะ​เธอ​สามารถ​ดูแล​ครอบครัว​ได้ดี​ ​และ​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​เธอ​บอกว่า​เธอ​รัก​เด็ก​ ​ใน​ตอนแรก​ที่​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​นั้น​ ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ก็​เห็น​ว่า​เธอ​ดี​ต่อ​ซู​หว่าน​มาก​เป็นพิเศษ​ ​เขา​จึง​เบาใจ​ ​และ​ตัดสินใจ​ที่จะ​แต่งงาน​กับ​เธอ

​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ ​เธอ​จะ​ฉวยโอกาส​ตอนที่​เขา​ไม่อยู่​บ้าน​ ​ปฏิบัติ​ต่อ​ลูกสาว​ของ​เขา​อย่าง​โหดร้าย​ขนาด​นี้​?

​“​เสี่ยว​หว่าน​เด็กดี​ ​ไม่ต้อง​ร้อง​นะ​ ​เดี๋ยว​พ่อ​ไป​ส่ง​หนู​ที่​โรงเรียน​ก่อน​ ​เลิกเรียน​แล้ว​หนู​ก็​กลับบ้าน​เป็น​เด็กดี​นะ​ ​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ทั้งนั้น​ ​พ่อ​เลิกงาน​แล้ว​จะ​ซื้อ​ขนมปัง​ให้​หนู​กิน​นะ​ ​ดี​มั้ย​?​”

​“​จริง​หรอ​คะ​?​”

​ซู​หว่าน​เบิกตา​กว้าง​ ​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​ ​เธอ​มอง​เขา​ด้วย​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความดีใจ​ ​“​ขอบคุณ​ค่ะ​พ่อ​ ​พ่อ​เป็น​พ่อ​ที่​ดีที​่​สุด​ใน​โลก​เลย​!​”

​“ยัย​เด็ก​โง่​”

​เมื่อ​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​ลูกสาว​ตัวเอง​พูด​ ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​รู้สึก​ปวดใจ​เล็กน้อย​ ​เขา​หัน​ศีรษะ​และ​ปาด​น้ำตา​จาก​หาง​ตา​ตัวเอง​ ​“​ไป​เถอะ​ ​พ่อ​ไป​ส่ง​หนู​ที่​โรงเรียน​!​”

​เมื่อ​ส่ง​ซู​หว่าน​ถึง​โรงเรียน​ ​และ​เห็น​เธอ​เดิน​เข้า​ประตู​โรงเรียน​ไป​แล้ว​ ​ซูกั​๋ว​เลี่ยง​จึง​ขี่​รถจักรยาน​จากไป​ ​ทว่า​ทิศทาง​ที่​เขา​กำลัง​ไป​ ​ไม่ใช่​ทาง​ไป​ที่ทำงาน​ ​แต่​เป็น​ทาง​กลับบ้าน

​ระหว่างทาง​เดิน​ภายใน​โรงเรียน​อัน​กว้างใหญ่​ ​รอบกาย​มี​แต่​เจ้าหัว​ไช​เท้า​น้อย​แขนขา​สั้น​เดิน​ขวักไขว่​ ​ซู​หว่าน​พลิก​กระเป๋านักเรียน​ตัวเอง​ไปมา​ ​เมื่อ​คิด​ว่า​ตัวเอง​จะ​ต้อง​ขึ้นไป​ห้อง​ประถมศึกษา​ปี​ที่สาม​ห้อง​สอง​ซึ่ง​อยู่​ชั้น​สาม​แล้ว​ ​เธอ​ก็​รู้สึก​หัว​โต​ขึ้น​มาทัน​ที

​ถาม​:​ ​สิ่งมีชีวิต​ที่​ฉลาด​ที่สุด​ใน​โลก​คือ​อะไร​?

​ตอบ​:​ ​เด็กประถม​ ​ลูก​หมี​น้อย

​ตอนนี้​ตัวเอง​กลายเป็น​เด็กนักเรียน​ประถม​ไป​แล้ว​ ​ทั้ง​ยัง​ต้อง​ไป​เรียน​ ​กินข้าว​ ​และ​เล่น​กับ​เหล่า​ลูก​หมี​น้อย​ ​ช่าง​เป็นเรื่อง​ที่​น่าเศร้า​จริงๆ​

​“​ซู​หว่าน​!​”

​ขณะที่​ซู​หว่าน​กำลัง​เดิน​ไป​ยัง​มุม​ของ​อาคารเรียน​เพื่อ​ขึ้น​บันได​ ​พลัน​มีเสียง​ที่​คุ้นเคย​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ด้านหลัง​ของ​เธอ

​ซู​หว่าน​ลังเลใจ​ก่อน​หันกลับ​มา​ ​เป็น​เซี​่ย​ฉั​งอา​นที​่​กำลัง​สะพาย​กระเป๋า​เป้​บน​ไหล่​ทั้งสอง​ข้าง​ ​เขา​ยืน​ยิ้มอยู่​ข้างหลัง​เธอ​ ​ชุดนักเรียน​สีน้ำเงิน​เข้ม​แบบ​เดียวกัน​ที่​ค่อนข้าง​เก่า​ ​ทว่า​ก็​พอดี​ตัว​ ​อย่างน้อย​ก็​ดู​สบาย​ตา

​“​นาย​เอง​เหรอ​”

​ซู​หว่าน​เหลือบมอง​เซี​่ย​ฉั​งอาน​ ​“​นายก​็​เรียน​ที่นี่​ด้วย​?​”

​“​ใช่​สิ​!​”

​เซี​่ย​ฉั​งอาน​ยิ้ม​พลาง​เดิน​เข้าไป​หา​ซู​หว่าน​ ​“​ฉัน​อยู่​ป.​สี่​ห้อง​หนึ่ง​ ​เธอ​ล่ะ​?​”

​เกรด​และ​การซ้ำ​ชั้นเรียน​หนึ่ง​ปี​เปรียบเสมือน​แผลเป็น​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​เจ้าของ​ร่าง​เดิม​ ​แต่​ซู​หว่าน​กลับ​ไม่ได้​คิด​ว่า​มัน​สำคัญ​อะไร​ ​“​ป.​สองห้อง​สาม​”

​เธอ​พูด​ขณะที่​เริ่ม​ก้าวเดิน​ขึ้นไป​บน​อาคาร​ ​เซี​่ย​ฉั​งอาน​เดินตาม​หลัง​ซู​หว่าน​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​ประถมศึกษา​ปี​ที่สอง​อยู่​ชั้น​สาม​ ​ส่วน​ประถมศึกษา​ปี​ที่สี่​อยู่​ชั้น​สี่

​เมื่อ​เห็น​ว่า​ซู​หว่าน​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องเรียน​ชั้นประถม​ศึกษา​ปี​ที่สอง​ห้อง​สาม​แล้ว​ ​เซี​่ย​ฉั​งอาน​เหลือบมอง​ไป​ยัง​ประตู​ห้องเรียน​ของ​เธอ​ ​ก่อน​จะ​หมุนตัว​กลับ​ขึ้นไป​ยัง​ชั้นเรียน​ของ​ตัวเอง

​“​ซู​หว่าน​ ​เธอ​มา​แล้ว​!​”

​ทันทีที่​ซู​หว่าน​กลับมา​นั่ง​ที่​ของ​เธอ​ ​เจียง​เหมย​ที่นั่ง​ข้างหลัง​เธอ​ก็​ยกมือ​ขึ้น​ตบ​ไหล่​ของ​ซู​หว่าน​ด้วย​ความตื่นเต้น​ทันที​ ​“​ซู​หว่าน​ ​เมื่อวาน​แม่​ฉัน​พา​ฉัน​ไป​เล่น​ที่​สวนสนุก​เปิด​ใหม่​ด้วย​ล่ะ​!​ ​สนุก​มาก​เลย​!​ ​เธอ​รู้​มั้ย​ว่า​ชิงช้าสวรรค์​หน้าตา​เป็น​ยังไง​?​ ​มัน​ใหญ่​จน​เกือบจะ​ถึง​สวรรค์​เลย​ล่ะ​…​”

​ซู​หว่าน​…

​เพื่อน​ตัว​น้อย​ ​เจียง​เหมย​ ​พูดเจื้อยแจ้ว​ไม่​หยุด​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ซู​หว่าน​ไม่มี​ท่าที​โต้ตอบ​ใดๆ​ ​เจียง​เหมย​ก็​หน้างอ​ปาก​คว่ำ​ ​มอง​ซู​หว่าน​ด้วย​สีหน้า​หมอง​หม่น​ ​“​เธอ​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ใช่​มั้ย​?​”

​เจียง​เหมย​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​ ​ทุกครั้งที่​เรียน​วิชา​ภาษาจีน​ ​ซู​หว่าน​มักจะ​ไม่เข้าใจ​บทเรียน​ ​เมื่อวาน​เรียน​สำนวน​คำ​ว่า​กบ​ใน​กะลา​ ​ซู​หว่าน​ก็​ไม่เข้าใจ​ ​และ​ก็​เป็น​เจียง​เหมย​เอง​ที่​อธิบาย​ให้​ซู​หว่าน​ฟัง

​เมื่อ​คิด​มาถึง​จุด​นี้​ ​เจียง​เหมย​เพื่อน​ตัว​น้อย​ก็​รู้สึก​ภาคภูมิใจ​ใน​ตัวเอง​ทันที​ ​และ​ในเวลาเดียวกัน​ ​เธอ​ก็​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​มี​ความรับผิดชอบ​ที่​ยิ่งใหญ่​…​ห่วงใย​เพื่อนร่วมชั้น​ ​ความสามัคคี​และมิตร​ภาพ​ ​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​หัวหน้า​ชั้นเรียน​ควรจะ​ต้อง​ทำ

​ดังนั้น​ ​เจียง​เหมย​เพื่อน​ตัว​น้อย​จึง​อธิบาย​ให้​ซู​หว่าน​เข้าใจ​ว่า​ ​ชิงช้าสวรรค์​คือ​อะไร​ ​รถไฟ​เหาะ​คือ​อะไร​ ​อย่าง​ไม่​กลัว​ที่จะ​เหน็ดเหนื่อย

​ซู​หว่าน​:​ ​พระเจ้า​ ​ใครก็ได้​ ​ช่วย​ฉันที

​….

​สำหรับ​คน​เรียน​เก่ง​อย่าง​ซู​เสี่ยว​หว่าน​แล้ว​ ​หลักสูตร​การศึกษา​ชั้นประถม​ศึกษา​ปี​ที่สอง​ ​มัน​ก็​เป็น​เหมือน​เพลงกล่อมเด็ก​ทั่วไป​ ​เธอ​ฟัง​บทเรียน​ไป​สักพัก​ก็​หลับ​ปุ๋ย​ ​แต่​ที่​น่าแปลก​คือ​ไม่มีใคร​ปลุก​เธอ​ขึ้น​มา​เลย​…

​แม่เจ้า​ ​นี่​เธอ​ถูก​ครู​และ​เพื่อนร่วมชั้น​ทอดทิ้ง​แล้ว​งั้น​หรอ​?

​ใน​ช่วง​พักกลางวัน​ ​เพื่อนร่วมชั้น​ส่วนใหญ่​จะ​ออก​ไป​วิ่งเล่น​ข้างนอก​ ​มี​เพียง​ซู​หว่าน​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​ยังคง​นอนหลับ​อยู่​ใน​ห้อง​ ​มัน​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​ที่​เวลา​เลิกเรียน​จะ​มาถึง​ ​ซู​หว่าน​ไม่รอดู​การบ้าน​ว่า​มี​อะไร​บ้าง​ ​เธอ​รีบ​เก็บ​กระเป๋านักเรียน​และ​รีบ​ออก​ไป​จาก​ห้องเรียน​ทันที

​ท่ามกลาง​ฝูงชน​หลัง​เลิกเรียน​ ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ก็​มี​แต่​ภาพ​ของ​ชุดนักเรียน​สีน้ำเงิน​เข้ม

​ซู​หว่าน​อยาก​จะ​บ่น​เรื่อง​ชุดนักเรียน​ที่​แสน​จะ​น่าเกลียด​นี่​จริงๆ​ ​และ​เมื่อ​เธอ​เงยหน้า​ขึ้นไป​ก็​พบ​กับ​สีแดง​วาววับ​จับตา​ที่​โดดเด่น​ท่ามกลาง​ภาพ​ของ​สีน้ำเงิน​เข้ม​…​จักรยาน​เสือ​ภูเขา​ยักษ์​สีแดง​ ​ใน​ยุคสมัย​นี้​ ​จักรยาน​เสือ​ภูเขา​ระดับ​ไฮเอนด์​น่า​ดึงดูด​ยิ่งกว่า​รถ​สปอร์ต​เสียอีก

​แน่นอน​ว่า​จักรยาน​เสือ​ภูเขา​สีแดง​ซึ่ง​จอด​อยู่​อย่าง​เงียบๆ​ ​หน้า​ประตู​โรงเรียนประถม​ศึกษา​ที่​สิบ​สาม​ ​กำลัง​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​ผู้คน​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​ ​เจ้าของ​รถ​เป็น​เด็กชาย​อายุ​ราว​สิบ​เจ็ดสิบ​แปด​ปี​ ​เขา​สวม​ชุดนักเรียน​โรงเรียนมัธยม​ปลาย​ที่​สิบ​สาม​ตัวใหม่​เอี่ยม​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ชุดนักเรียน​สีน้ำเงิน​ตัว​โคร่ง​ ​ทว่า​เมื่อ​อยู่​บน​ตัว​เด็กหนุ่ม​ผู้​นี้​แล้ว​กลับ​ดู​หล่อเหลา​เสีย​จน​เป็น​ที่​เลื่องลือ​…

​ท้ายที่สุด​แล้ว​ ​แข่ง​เรือ​แข่ง​แพ​แข่ง​ได้​ ​แข่ง​บุญ​แข่ง​วาสนา​แข่ง​ไม่ได้

แม่ทัพ​ซู​ ​นาย​เปิดตัว​อย่าง​หล่อ​อีกแล้ว