เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1101 สองมรดกที่แท้จริง

แปลโดย iPAT

 

‘สถานการณ์ปัจจุบันของเผ่าไห่ ข้าควรเข้าไปยุ่งหรือไม่?’ ฟางหยวนคิดถึงความเป็นไปได้

 

แม้เผ่าไห่จะเป็นกองกำลังใหญ่และเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฮวงจิน แต่พวกเขาอ่อนแอลง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขากำลังถูกปิดล้อมโดยกองกำลังอื่นๆของภาคเหนือ

 

สถานการณ์ของเผ่าไห่ร้อนแรงมาก

 

แม้พวกเขาจะไม่เต็มใจยอมแพ้ แต่พวกเขาเพียงเผ่าเดียวจะสามารถต่อต้านกองกำลังใหญ่ทั้งหมดของภาคเหนือได้อย่างไร

 

เว้นเพียงพวกเขาจะมีผู้อมตะระดับแปดคอยปกป้อง แต่ในปัจจุบันเผ่าไห่ไม่มีบุคคลเช่นนี้

 

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าไห่สามารถใช้ค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณความโกรธเกรี้ยวของยักษ์เขียวที่ทำให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดได้ในระดับหนึ่ง แต่นี่เป็นไพ่ตายเพียงใบเดียวของพวกเขา

 

ฟางหยวนถูกล่อลวงมากขึ้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิง ฟางหยวนอาจได้รับบางสิ่ง

 

อย่าลืมว่าฟางหยวนมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือไห่เจิ้ง!

 

ไห่เจิ้งไม่เหมือนผู้อมตะเผ่าไห่คนอื่นๆ เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่และรู้ข้อมูลเชิงลึกของเผ่าไห่มากมาย

 

เมื่อไห่เจิ้งอยู่ในกำมือของฟางหยวน เป็นธรรมชาติที่ฟางหยวนจะค้นวิญญาณของเขา

 

ตอนนี้ฟางหยวนเข้าใจเผ่าไห่มากกว่ากองกำลังใด

 

ภายในเผ่าไห่มีสิ่งสำคัญบางอย่างที่ดึงดูดฟางหยวน

 

มันคือมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน!

 

ไห่ฟานเป็นผู้อมตะของเผ่าไห่ที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ แต่เขาเสียชีวิตไปนานแล้ว

 

ในอดีตไห่ฟานบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและบรรลุถึงระดับแปด เขาทำให้เผ่าไห่กลายเป็นเจ้าเหนือหัวของภาคเหนือในช่วงเวลานั้น

 

แต่อายุขัยของมนุษย์มีจำกัด หลังจากไห่ฟานเสียชีวิต เผ่าไห่อ่อนแอลงขณะที่กองกำลังอื่นเข้ามาแทนที่

 

ก่อนไห่ฟานเสียชีวิต เขาทิ้งมรดกเอาไว้เบื้องหลัง แต่ไม่มีบุตรหลานคนใดของเผ่าไห่ที่สามารถรับสืบทอดมรดกนี้

 

มรดกที่แท้จริงของผู้อมตะระดับแปด! หากผู้ใดได้รับมัน พวกเขาอาจกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดในอนาคต

 

หากเผ่าไห่มีผู้อมตะระดับแปด พวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้

 

ในโลกของผู้อมตะ ผู้อมตะระดับหกเป็นชนชั้นล่าง ผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นชนชั้นกลาง ขณะที่ผู้อมตะระดับแปดเป็นเจ้าเหนือหัว

 

หากเผ่าไห่มีผู้อมตะระดับแปด แม้ไห่ลั่วหลันจะเป็นผู้ร้ายหลักที่อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง กองกำลังอื่นก็ไม่สามารถทำสิ่งใด

 

การดำรงอยู่ของผู้อมตะระดับแปดมีความสำคัญถึงระดับนี้

 

แม้ผู้อมตะระดับแปดจะเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆ เขาก็เพียงต้องจ่ายด้วยทรัพยากรจำนวนหนึ่งเพื่อปกป้องเผ่า

 

สถานการณ์ปัจจุบัน แม้เผ่าไห่จะมีผู้อมตะมากมายแต่พวกเขาไม่สามารถปกป้องเผ่า

 

‘มรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน…’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

‘ตอนนี้อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคือเจตจำนงสวรรค์’

 

‘ภัยพิบัติแต่ละครั้งของข้าอันตรายเกินไป สิ่งสำคัญที่สุดข้าต้องเผชิญหน้ากับมันทุกสองเดือน!’

 

หากฟางหยวนมีเวลามากกว่านี้ เขาจะรับมือภัยพิบัติได้ดีขึ้น

 

แต่ร่างกายของฟางหยวนเกิดจากวิญญาณทารกอมตะ มันยอดเยี่ยมเกินไป การดำรงอยู่ของมันเป็นการท้าทายสวรรค์ สวรรค์จะไม่ปล่อยให้มันดำรงอยู่ต่อไป

 

อย่างไรก็ตามด้วยสติปัญญาของมนุษย์และความรู้ที่สะสมมาจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขามีวิธีรับมือกับภัยพิบัติมากมาย

 

ท่ามกลางวิธีเหล่านี้ วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

บรรพชนผมยาวก็ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาชะลอเวลาในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเช่นกัน

 

หลังจากบรรพชนผมยาวเสียชีวิต สิ่งที่เขาทิ้งไว้ยังทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีเวลาเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติทั้งหมด

 

‘ข้าไม่รู้จักผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่สามารถชะลอเวลาของแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้ไท่เป่ยหยุนเฉิงจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่เขาไม่มีความสามารถชนิดนี้’

 

ฟางหยวนรู้จักความสามารถของไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นอย่างดี ไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทุกคนที่จะมีวิธีชะลอเวลา ไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องนี้

 

‘แม้ข้าจะรู้จักผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีความสามารถชนิดนี้ แต่มิติช่องว่างจักรพรรดิเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า ข้าไม่สามารถปล่อยให้ผู้อื่นล่วงรู้เรื่องนี้’

 

‘ข้าจะสามารถพึ่งพาตนเองหากข้าได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน’

 

มรดกที่แท้จริงของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาบางคนอาจไม่มีวิธีชะลอเวลาของแดนศักดิ์สิทธิ์

 

แต่มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานไม่ใช่มรดกทั่วไป มันเป็นมรดกของผู้อมตะระดับแปด!

 

บันทึกของเผ่าไห่ระบุไว้ว่า เมื่อไห่ฟานยังมีชีวิต เขาชะลอเวลาในแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายของผู้อมตะเผ่าไห่ ด้วยวิธีนี้ผู้อมตะเผ่าไห่จึงมีเวลาเตรียมตัวและมีโอกาสประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามภัยพิบัติของตนมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปผู้อมตะของเผ่าไห่จึงมีจำนวนมากกว่ากองกำลังอื่น

 

นั่นคือช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเผ่าไห่

 

ฟางหยวนรู้ประวัติศาสตร์ของเผ่าไห่จากการค้นวิญญาณของไห่เจิ้ง

 

นางมารผลาญสวรรค์รู้เรื่องนี้เช่นกัน เนื่องจากนางได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ดังนั้นนางจึงต้องเปลี่ยนตนเองเป็นผีดิบอมตะ

 

เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ นางจึงส่งซูเซียนเอ๋อเข้าไปเป็นสายลับในเผ่าไห่เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน แต่น้องสาวของนางมารผลาญสวรรค์ผู้นี้กลับตกหลุมรักไห่เจิ้งและให้กำเนิดไห่ลั่วหลันกระทั่งเกิดเรื่องราวแห่งความรักและความเกลียดชัง

 

กล่าวได้ว่าตราบเท่าที่ฟางหยวนได้รับมรดกของไห่ฟาน เขาจะสามารถชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

เมื่อเวลาเดินช้าลง สถานการณ์ของฟางหยวนจะเปลี่ยนไปมาก

 

แม้ทรัพยากรในมิติช่องว่างของเขาจะเติบโตช้าลง แต่มันจะช่วยลดแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ให้กับฟางหยวน หากเปรียบเทียบ ข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย

 

มรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน

 

ฟางหยวนถูกล่อลวงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

นี่ถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันของเขา

 

‘หากข้าต้องการเข้าร่วมการต่อสู้ที่วุ่นวายนี้ มีหลายวิธีที่ข้าทำได้’

 

‘ข้อมูลเป็นข้อได้เปรียบประการแรกของข้า ประการที่สอง ข้ามีวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดที่สามารถปกปิดกลิ่นอาย เจตจำนงสวรรค์จะไม่พบข้า ประการที่สาม ด้วยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและวิญญาณเปลี่ยนรูปลักษณ์ ข้าสามารถปลอมตัวเข้าสู่สงคราม’

 

‘แต่ข้าควรไปหรือไม่?’

 

ฟางหยวนครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ก่อนจะตัดสินใจสังเกตการณ์อยู่ข้างสนามรบและไม่เดินทางไปทันที

 

ตอนนี้สถานการณ์ของเผ่าไห่วุ่นวายเกินไป

 

ทั้งฝ่ายธรรมะและปีศาจกระทั่งผู้บ่มเพาะสันโดษยังเข้าร่วมในการบุกโจมตีเผ่าไห่

 

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

มีผู้อมตะระดับหกชั้นล่างสุดจำนวนมาก ท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดยังมีผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นบัณฑิตสันโดษและไป่ซุ้ยฮัน จากข่าวลือกระทั่งจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูและปีศาจอมตะเซี่ยหูยังเข้าร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้

 

ฟางหยวนรู้สึกถึงเวลาที่ยังไม่สุกงอม

 

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ผู้อมตะจำนวนมากกำลังเข้ายึดครองแหล่งทรัพยากรต่างๆของเผ่าไห่ พวกเขายังไปไม่ถึงฐานทัพใหญ่ของเผ่าไห่

 

กองกำลังต่างๆกำลังคุมเชิงกันและกัน ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าสู่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์

 

หากฟางหยวนเข้าไปตอนนี้ เขาจะปลอมตัวเป็นผู้ใด

 

วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดสามารถปกปิดกลิ่นอายได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น มันไม่สามารถใช้ได้เป็นเวลานาน

 

สิ่งสำคัญที่สุดยังเป็นเจตจำนงสวรรค์

 

เจตจำนงสวรรค์จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้กำจัดฟางหยวน

 

แล้วเจตจำนงสวรรค์จะรู้แผนการของฟางหยวนได้อย่างไร?

 

เจตจำนงสวรรค์แฝงตัวอยู่ในวิญญาณกาลเวลา มีความเป็นไปได้ที่มันจะรู้แผนการของเขาล่วงหน้า

 

ระหว่างการทำธุรกรรมกับนิกายเงา ผมที่หกบอกฟางหยวนว่าเจตจำนงสวรรค์กว้างใหญ่และมีอยู่ในทุกที่

 

เจตจำนงสวรรค์ครอบคลุมพื้นที่ทั้งห้าภูมิภาคและสองสวรรค์

 

ด้วยเหตุผลหลายประการ ฟางหยวนจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเปิดเผยและง่ายดาย

 

เขาตัดสินใจรอดูสถานการณ์ เมื่อสถานการณ์ของเผ่าไห่เริ่มชัดเจนมากขึ้น เขาจะเคลื่อนไหว

 

กุญแจสำคัญยังเป็นเรื่องเดิม ความเร็ว!

 

รวบรวมความแข็งแกร่งและโจมตีทันที!

 

ไม่มีวิธีใดดีไปกว่าวิธีนี้

 

ฟางหยวนรอคอยอย่างอดทนโดยใช้นิกายหลางหยาเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล

 

วันเวลาผ่านไป

 

การต่อสู้เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้อมตะจำนวนมากเข้าร่วม บางคนชนะ บางคนแพ้ ยิ่งนานวันมันก็ยิ่งดึงดูดผู้คนมากขึ้นและกลายเป็นการต่อสู้ที่ไม่สามารถควบคุม

 

ผู้บ่มเพาะสันโดษถูกล่อลวงโดยผลประโยชน์และปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

บางคนคิดเช่นเดียวกับฟางหยวนและกำลังรอเวลาที่เหมาะสม

 

…..

 

สวนหมื่นพฤกษา

 

“ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่าง ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถอนุมานสิ่งใด” ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเทียนเซี่ยซินถอนหายใจและแสดงออกด้วยความลำบากใจ

 

“เป็นเช่นนั้น…” ชูตู๋ไม่สามารถปกปิดความผิดหวังบนใบหน้า

 

“แต่ข้าได้รับประโยชน์บางอย่าง” เทียนเซี่ยซินกล่าวต่อ

 

“โอ้ น้องเทียนหมายถึงสิ่งใด?” ชูตู๋รู้สึกงุนงง

 

เทียนเซี่ยซินคืนวิญญาณอมตะดาบบินให้กับชูตู๋และกล่าว “วิญญาณอมตะดาบบินดวงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มีเงื่อนงำบางอย่างถูกทิ้งไว้ในวิญญาณอมตะดวงนี้ มันคือกุญแจสู่มรดกที่แท้จริงของผู้อมตะบางคน!”

 

“อันใด? มีเรื่องเช่นนี้งั้นหรือ?” ชูตู๋ประหลาดใจและรู้สึกสนใจมาก “มันคือมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิงหรือไม่?”