บทที่ 551 ขึ้นเช็คตรงนี้เลยดีไหม
ตามหลังเสียงของชิวเยวี่ย ในงานพลันเงียบอย่างประหลาด
ทุกคนล้วนคิดว่าตัวเองฟังผิด
เมื่อกี้นี้ชิวเยวี่ยประกาศชื่อใครนะ?
เฉียว…เฉียวเข่อซิน?
ไม่ใช่ฉีเหม่ยหลิน แต่เป็นเฉียวเข่อซิน! นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
ฉีเหม่ยหลินที่อยู่แถวหน้าลุกยืนขึ้นมาแล้ว ใบหน้าที่แต่งเติมมาอย่างประณีตนิ่งแข็งอยู่ตรงนั้นทันที ในดวงตาที่ส่องประกายด้วยความยินดีถูกความไม่อาจเชื่อครอบคลุม
และคนที่ตกใจมากกว่าฉีเหม่ยหลิน กลับเป็นเฉียวเข่อซินเอง
แม้แต่เฉียวเข่อซินที่โดนด่าทอเหน็บแนมเท่าไหร่ก็ไม่เคยหวั่นไหว นานๆ ทีจะเผยความสับสนและประหลาดใจออกมา
“พี่ซิน! พี่ซิน…”
สุดท้ายก็เป็นหานเซี่ยนอวี่เรียกเตือน เฉียวเข่อซินถึงได้สติ หันไปหาเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ข้างกายหานเซี่ยนอวี่ก่อนเป็นอย่างแรก
ทุกสิ่งที่เขาคาดเดา เป็นจริงทั้งหมดอย่างไม่น่าเชื่อ…
สบตากับดวงตาส่องประกายอย่างแน่วแน่ หัวใจของเฉียวเข่อซินกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ไปแวบหนึ่ง
ทำไมเธอถึงไม่เห็นมาก่อนเลยว่า เวลาที่เยี่ยไป๋พูดว่าเธอจะได้เป็นราชินีภาพยนตร์ ไม่เคยมีเค้าความล้อเล่นปรากฏอยู่เลย?
เขาคิดจริงๆ ว่าเธอจะได้รับรางวัลนี้…
เวลานี้ ความเงียบในงายได้กลับมามีเสียงอีกครั้ง เสียงปรบมือดังกึกก้อง ทีมผู้กำกับ ‘ตำนานจิ้งซู’ และศิลปินของโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์เข้าไปกอดแสดงความยินดีกับเฉียวเข่อซินด้วยความตื่นเต้น
ฉีเหม่ยหลินถูกหลินเจียอินที่นั่งด้วยกันดึงลงถึงได้รู้สึกตัว นั่งลงด้วยใบหน้าแข็งทื่อ
แต่ว่า ภาพที่เธอชิงลุกขึ้นยืนเมื่อกี้ถูกกล้องถ่ายเอาไว้แล้ว
รางวัลจินหลานครั้งนี้ ทั้งนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ล้วนตกอยู่ในมือหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ครั้งนี้เธอขายหน้ามากจริงๆ
ใครก็คิดไม่ถึงว่า ในนาทีสุดท้ายจะเกิดเหตุการณ์หักมุมได้มากขนาดนี้ ม้ามืดที่ใครๆ ก็คิดไม่ถึง ผู้ที่ได้รางวัลราชินีภาพยนตร์กลับเป็นเฉียวเข่อซินจากโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน
ใบหน้าเล็กของเยี่ยอีอีที่สงบอ่อนโยนมาตลอดเผยความกระอักกระอ่วนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ยังคงยิ้มและปรบมือแสดงความยินดีอย่างใจกว้าง สีหน้าของกู้เยว่เจ๋อที่อยู่ข้างกายคล้ำเขียว
ตอนที่พิธีกรสัมภาษณ์เขาก่อนหน้านี้ เขาพูดอย่างมั่นใจขนาดนั้น ตอนนี้กลับเหมือนถูกตบหน้าต่อหน้าผู้คน…
เสียงปรบมือรอบด้าน เสียงแสดงความยินดี อ้อมกอด ความรู้สึกที่เหมือนพ้นจากนรกมาสู่สวรรค์ จากความรู้สึกที่กำลังท้อแท้สุดๆ แล้วพลันรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ทำให้อารมณ์ของเฉียวเข่อซินหวั่นไหวอย่างรุนแรง
วินาทีถัดมา เธอเดินผ่านหานเซี่ยนอวี่ โผกอดชายหนุ่มข้างกายของเขาแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ “ขอบใจนายมาก น้องชายหมอดู…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ทันตั้งตัวแต่ก็กอดเธอกลับ “พี่ซิน ยินดีด้วยครับ ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย เป็นตัวพี่เองที่คู่ควรกับสิ่งนี้!”
เฉียวเข่อซินข่มอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ แล้วกระพริบตาเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหันว่า “ไม่ว่ายังไง นายก็ชนะพนันแล้ว ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ถ้างั้นเราขึ้นเช็คกันตอนนี้เลยดีไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึง “หา?”
หานเซี่ยนอวี่รับฉวยโอกาสกอดแสดงความยินดี ห้ามเฉียวเข่อซินเอาไว้ แล้วเอ่ยเตือนเฉียวเข่อซินอย่างเหนื่อยหน่าย “เลิกเล่นได้แล้วพี่ซิน! มีคนมองอยู่ตั้งเยอะนะ!”
ด้วยนิสัยของเฉียวเข่อซินแล้ว การจูบเยี่ยไป๋ต่อหน้าธารกำนัล เธอกล้าทำแน่นอน
ในเวลาเดียวกันนี้เอง พิธีกรที่อยู่ด้านบนเวทีเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น “ยินดีด้วยนะเข่อซิน! ขอเชิญราชินีภาพยนตร์จินหลานในค่ำคืนนี้ขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับรางวัลด้วยค่ะ!”
เฉียวเข่อซินถึงได้เบะปากด้วยความเสียดาย “ก็ได้ ฉันไปขึ้นเวทีก่อนนะ!”
“ครับๆ พี่ซินรีบไปเถอะครับ…” เยี่ยหวันหวั่นเช็ดเหงื่อ
เฉียวเข่อซินช่าง…นอกกรอบเหลือเกิน…
ไม่กลัวคำนินทาเลยสักนิดแบบนี้ ทั้งวงการบันเทิงคงมีแต่เธอคนเดียวนี่แหละ…
……………………………………………………..
บทที่ 552 กลัวแต่ว่าเธอจะตายเสียก่อน
เฉียวเข่อซินสวมชุดราตรียาวสีแดง เดินส่องประกายขึ้นเวทีไป
พิธีกรให้เฉียวเข่อซินได้เอ่ยคำขอบคุณที่ได้รับรางวัลตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว “ผลรางวัลนี้ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงจริงๆ นะคะ! เข่อซิน ขอโทษนะคะที่ฉันต้องพูดแบบนี้ แต่คุณเองก็รู้ว่า ในรายชื่อที่ถูกเสนอเข้าชิง หลายๆ คนคิดว่าชื่อของคุณเทียบคนอื่นไม่ได้เลย! ไม่ทราบว่าได้รางวัลครั้งนี้ คุณมีอะไรอยากจะพูดไหมคะ?”
เฉียวเข่อซินกวาดสายตามองด้านล่างเวที สูดหายใจเข้าลึก แล้วเอ่ยว่า “สำหรับผลรางวัลในครั้งนี้ ตัวฉันเองก็ตกใจมากเหมือนกันค่ะ พูดตามตรง ไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ ฉันกำลังคิดว่า จะเลิกพยายามดีไหม ยังไงซะฉันทำอะไรก็ไม่มีใครยอมรับอยู่ดี ราวกับว่าการเอาเปรียบฉันได้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกระแสสังคมไปแล้ว”
รูปลักษณ์ของเฉียวเข่อซินต่อคนภายนอกดูเป็นคนไม่สนใจอะไรเสมอมา ทำให้คนลืมไปแล้วว่าเธอก็รู้สึกรู้สากับสิ่งเหล่านี้เช่นเดียวกัน ไม่มีใครที่ไม่อยากได้การยอมรับหรือคำชมเชย
ใบหน้าของเฉียวเข่อซินเผยความขมขื่นเหนื่อยหน่าย กล่าวต่อไปว่า “ทุกคนรู้ดีว่า ในวงการนี้ คำวิจารณ์สามารถกลับดำเป็นขาวได้ และตัดสินชีวิตของศิลปินคนหนึ่งได้เลย
ฉันคิดว่า ยังไงซะการถูกด่าก็เป็นกระแสเหมือนกัน ฉันหาเงินของฉันต่อไปก็พอ ทำไมต้องมาพยายามพัฒนาฝีมือการแสดงด้วย ทำไมต้องพิสูจน์ตัวเอง?”
คำพูดของเฉียวเข่อซินทำให้ล่างเวทีเงียบลงในพริบตา ทุกคนล้วนรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง แต่ทั้งวงการ คงจะมีเพียงเฉียวเข่อซินที่กล้าพูดแบบนี้ออกมาต่อหน้าทุกคน
เฉียวเข่อซินพูดไป สายตาของเธอหวั่นไหวเล็กน้อย “เพราะฉะนั้น ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณที่ยังมีรางวัลอย่างรางวัลจินหลาน ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากคำวิจารณ์และปัจจัยภายนอก ทำให้ฉันได้มีโอกาสแบบนี้ ให้ฉันได้พิสูจน์ตัวเอง
ขณะเดียวกัน ฉันก็หวังลึกๆ ว่า ทุกคนจะสามารถไปดูผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ ไปดูฉันคนนี้อย่างไม่อคติ”
ทันทีที่เสียงของเฉียวเข่อซินจบลง เสียงปรบมือพลันดังกึกก้องไปทั่วงาน
หานเซี่ยนอวี่ผ่อนลมหายใจ โชคดีที่สุดท้ายเฉียวเข่อซินพูดวกกลับเข้าเรื่องมาได้ อีกทั้งยังเชื่อมโยงกันเป็นอย่างดี
เยี่ยหวันหวั่นรู้ว่า ในชาติก่อนคำพูดนี้ของเฉียวเข่อซินทำให้ยอดขายบัตรชมภาพยนตร์เรื่อง ‘ตำนานจิ้งซู’ มากขึ้นอย่างน่ากลัว ทำลายสถิติรวมในปีนั้น
จากนั้น เฉียวเข่อซินกล่าวตามบริบท ขอบคุณแฟนคลับ คณะงาน บริษัทและผู้จัดงาน
สุดท้าย เสียงเธอหยุดไปแปปหนึ่ง สายตามองด้านล่างเวทีแล้วเอ่ยว่า “นอกจากนี้แล้ว ฉันยังต้องขอขอบคุณเพื่อนคนหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะขึ้นเวทีมา แทบทุกคนรอบตัวกำลังปลอบใจฉันว่า ไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไร มีเพียงคนเดียว เขาพูดกับฉันตั้งแต่แรกว่า ฉันจะต้องได้เป็นราชินีภาพยนตร์จินหลาน ทำให้ฉันรู้ว่า ท่ามกลางคนนับพันนับหมื่น อย่างน้อยก็มีคนคนหนึ่งมั่นใจในตัวฉัน…”
ฟังคำพูดของเฉียวเข่อซิน ฉีเหม่ยหลินแทบจะปั้นหน้าต่อไปไม่ไหว
น่าตายนัก! คาดไม่ถึงว่าไอ้หมอดูต้มตุ๋นนั่นจะพูดถูก!
ตำแหน่งราชินีภาพยนตร์ไม่ว่าใครจะได้ก็ไม่ควรเป็นเฉียวเข่อซินสิ!
พิธีประกาศรางวัลเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
เยี่ยอีอีลุกขึ้นยืน พูดกับเฉียวเข่อซินด้วยท่าทางใจกว้าง “เข่อซิน ยินดีด้วยนะ! คุณคู่ควรกับรางวัลนี้อยู่แล้ว!”
เฮอะๆ คนของหวงเทียนคิดว่าเธอคู่ควรกับรางวัลอย่างนั้นเหรอ? จอมปลอมมาก
เฉียวเข่อซินหัวเราะเล็กน้อย “ทำไมฉันถึงจำได้ว่า คนในบริษัทคุณบอกว่าฉันเป็นศิลปิน No. 1 ที่ไม่มีทางได้รางวัลกันนะ?”
ฉีเหม่ยหลินโมโหเสียจนใบหน้าที่ศัลยกรรมมาเยอะเกินไปจะเบี้ยวแล้ว “เฉียวเข่อซิน ฉันขอเตือนให้เธอเก็บปากเก็บคำคนชั้นล่างเอาไว้หน่อย ฝีมือแค่นี้ยังกล้ารับรางวัลราชินีภาพยนตร์ ฉันจะรอดูว่าเธอจะโดนด่าว่ายังไงบ้าง!”
เฉียวเข่อซินหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง เอ่ยเนิบๆ ว่า “กลัวแต่ว่า เธอจะตายก่อนฉันน่ะสิ! น้องชายหมอดูที่ฝีมือเป็นเลิศของฉันเพิ่งจะดูดวงชะตาให้เธอเมื่อกี้ว่า หลังพิธีประกาศรางวัลจบ เธอจะเจอเคราะห์หนักนะ!”
………………………………………………………………….