ตอนที่ 382 พ่อของหนูไม่ใช่ขยะ!
ซูมู่ชิงคิดไม่ถึงเลยว่าในตอนทีหล่อนยังไม่ได้แต่งเข้าที่นี่อย่างเป็นทางการ ก็จะโดนแม่สามีตบฉลองเสียแล้ว!
ต่อให้เป็นผู้หญิงจากครอบครัวทั่วๆ ไป มาลองใช้ชีวิตอยู่บ้านฝ่ายชาย พ่อแม่ของอีกฝ่ายก็น่าจะต้อนรับอย่างมีมารยาท
แล้วนับประสาอะไรกับซูมู่ชิงที่มีพื้นเพไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าแม่ของหลี่เฉิงเจี๋ยจะกล้าตบหน้าหญิงสาวแบบนี้!
ซูมู่ชิงไม่ค่อยวางมาดคุณหนูตระกูลซู แต่ในตอนนี้หล่อนจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
“อย่างไรเสียฉันก็เป็นคนตระกูลซู คุณทำกับฉันแแบบนี้ ไม่กลัวฉันฟ้องที่บ้านฉันหรือไง!”
มารดาหลี่เฉิงเจี๋ยกลับแค่นเสียงเหยียดหยาม “ไม่ต้องเอาที่บ้านมาขู่ฉันเลยนะ จะบอกเธอไว้นะ เมื่อกี้ฉันตบเธอแทนแม่ของเธอ! น้องชายเธอโดนเย่เฉินทำร้ายจนพิการ อนาคตไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ แม่ของเธอเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ดูเธอเข้าวันๆ ยังเอาแต่รักกับไอ้ฆาตกรเย่เฉิน ก่อนจะมาที่นี่ แม่ของเธอกำชับฉันเอาไว้ให้สั่งสอนเธอให้ดี ให้เธอได้มีสติ!”
จางเชี่ยนจือผู้เป็นมารดาของซูมู่ชิงนั้นรักซูมู่หลินมากกว่าหญิงสาวนั่นเพราะน้องชายหัวอ่อนกว่ามาก
แต่ซูมู่ชิงเป็นคนที่ทำอะไรตามใจตนเอง เมื่อสี่ปีก่อนดิ้นรนจะคลอดลูกก็ทำให้จางเชี่ยนจือผิดหวังในตัวลูกสาวอย่างมาก ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนแม่ลูกไม่ดีนัก
น้ำตาเอ่อคลอเบ้าซูมู่ชิง หญิงสาวคิดไม่ถึงเลยว่ามารดาที่หล่อนรักและเคารพที่สุดจะทำกับหล่อนแบบนี้!
หญิงสูงวัยกว่าเยาะเย้ย “เธอเนี่ยนะ ไม่ช่วยคนกันเองแต่ช่วยคนนอก มิน่าล่ะแม่ของเธอถึงได้โกรธขนาดนี้! เธอนี่ใจก้วางดีนะ ได้ยินมาว่าเธอสองคคนพี่น้องรักกันสนิทสนม น้องชายเธอโดนเย่เฉินทำร้ายจนขาหัก เธอไม่เกลียดเย่เฉินสักหน่อยเลยเหรอ? เป็นผู้หญิงใจดำอำมหิตจริงๆ!”
ซูมู่ชิงเสียใจ น้องชายเธอบาดเจ็บ เธอจะไม่เสียใจได้ยังไง?
แต่ว่าคนนอกไม่ได้รู้เลยว่าซูมู่หลินเป็นคนสวมเขาให้เย่เฉินก่อน และด้วยศักยภาพและพื้นฐานตระกูลเย่ ถ้าซูมู่ชิงไม่คุกเข่าอ้อนวอน ซูมู่หลินคงไม่เสียขาแค่ข้างเดียว แต่น่าจะตายไปนานแล้ว!
ดังนั้นซูมู่ชิงไม่มีทางโทษเย่เฉิน ทว่ายังต้องขอบคุณที่เขาไว้ชีวิตน้องชายตนเอง
แต่มารดาของหลี่เฉิงเจี๋ยมองหล่อนอย่างเหยียดหยามพลางกล่าว “เธออยู่ในห้องนี่แล้วกัน คิดได้เมื่อไหร่ค่อยออกมา ไม่อย่างนั้นเย็นนี้เธอก็ไม่ต้องกินข้าวเย็นแล้วกัน!”
พูดจบมารดาของหลี่เฉิงเจี๋ยก็เดินออกไปสั่งคนใช้สองคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอก “เฝ้าที่หน้าประตูเอาไว้ ถ้าฉันไม่สั่ง ห้ามปล่อยคุณนายน้อยออกมา”
“รับทราบ!”
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ซูมู่ชิงโดนกักบริเวณ ซือซือเองก็โดนเหมือนกัน
คุณป้าอายุ 50 ปีกำลังพยาามสั่งให้ซือซือท่องกฎของตระกูลหลี่
เช่นถ้าเจอผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ต้องเป็นฝ่ายทักทายผู้ใหญ่ ห้ามกินข้าวก่อนถ้าผู้ใหญ่ยังไม่ได้เริ่มกินข้าว
กินข้าวห้ามส่งเสียง ทุกสัปดาห์ต้องเตรียมการแสดงความสามารถพิเศษให้แขกของตระกูลหลี่ดู ต้องจำชื่อคนที่เคยเจอ เจอกันครั้งต่อไปต้องเรียกชื่อถูก
ท่องอยู่หนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ซือซือถึงจะท่องจำเรื่องพวกนี้ได้หมด
“หนูท่องเสร็จแล้ว หนูไปหาแม่ได้ไหมคะ?”
ซือซือท่องกฎเกณฑ์พวกนี้มาหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ถึงแม้ว่าจะเพิ่งกินข้าวแต่ก็เริ่มคอแห้งขึ้นมา
ส่วนคุณป้าคนนี้ก็เหมือนแม่นมหรงจากเรื่ององค์หญิงกำมะลอ หน้าตาน่ากลัว ตลอดชั่วโมงที่ผ่านมาก็เอาแต่จับผิดเด็กหญิง ทำให้ซือซือกลัวอีกฝ่ายมาก
โชคดีที่ซูมู่ชิงอบรมสั่งสอนลูกสาวเอาไว้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นองค์หญิงตัวน้อยๆ ของครอบครัวทั่วไป คงจะร้องไห้โวยวายดีดดิ้นบนพื้น ใครจะอดทนยอมท่องกฎบ้าบอนี่!
แต่ซือซือมีความอดทนและมีขันติมากกว่าคนในอายุเดียวกัน
“ซือซือมานี่”
ทันใดนั้นเองหลี่เฉิงเจี๋ยก็เรรียกซือซือ ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังสูบบุหรี่อยู่ในสวน ในหัวเต็มไปด้วยภาพที่เย่เฉินและซูมู่ชิงจูบกัน
เขาเป็นผู้ชายที่รักเกียรติศักดิ์ศรีอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าคู่หมั้นจะจุมพิตกับชายอื่นก่อนแต่งงาน อีกทั้งยังซูมู่ชิงยังเป็นฝ่ายเริ่มเสียด้วย!
ไม่เพียงเท่านั้นความรักที่ซูมู่ชิงมีต่อเย่เฉินลึกซึ้งแนบแน่น เกรงว่าการล้างสมองสามวันก็อาจจะไม่สำเร็จ
ในอนาคตไม่แน่ว่าซูมู่ชิงอาจจะขึ้นเตียงกับเย่เฉิน!
“ไอ้บ้าเย่เฉิน!”
หลี่เฉิงเจี๋ยสูบบุหรี่ติดต่อกันสี่มวน เมื่อคิดถึงเย่เฉิน ก็อยากจะถลกหนังอีกฝ่าย!
“คุณอาหลี่”
ซือซือเดินออกไปด้านนอกสวนอย่างว่าง่าย เด็กหญิงวิ่งมาหยุดตรงหน้าหลี่เฉิงเจี๋ย แล้วเรียกเขา
เมื่อหลี่เฉิงเจี๋ยเห็นตุ๊กตาแก้วเจียระไนอย่างซือซือ เจ้าหญิงตัวน้อยที่เป็นที่รักของทุกคนผู้พบเห็น ในแววตาก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง!
“เด็กบ้านี่ทำไมหน้าตาน่ารักดีจัง!”
หลี่เฉิงเจี๋ยเอาความแค้นที่มีในตัวเย่เฉินทั้งหมดไปลงกับซือซือที่เป็นลูกสาวเย่เฉิน
เขาโยนบุหรี่ทิ้งแล้วกล่าวกับซือซือ “ซือซือ ต่อไปฉันก็คือพ่อของเธอ เธอคือคนตระกูลหลี่เรา! ตระกูลหลี่ของเราไม่ว่าจะชายหรือหญิงล้วนต้องเป็นทหาร นี่เป็นขนบธรรมเนียมที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี! ดังนั้นเมื่อเธอเป็นคนตระกูลหลี่แล้ว ต้องเริ่มเรียนวิชาป้องกันตัวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!”
ซือซือบริสุทธิ์ใสซื่อ ยังคิดว่าเป็นอะไรน่าสนุกนักหนาก็รีบปรบมือ “ดีจังค่ะๆ คุณพ่อของหนูเคยบอกว่าจะสอนวิชาการต่อสู้ให้หนู! พ่อหนูเก่งที่สุดเลย! เขาเคยฆ่าเสือชีตาห์ด้วย!”
“ไร้สาระ!”
หลี่เฉิงเจี๋ยเห็นซือซือชมเย่เฉินก็หัวเสีย
หลี่เฉิงเจี๋ยเองเคยไปสถานที่เลวร้ายหลายแบบในโลกใบนี้ และเคยเห็นเสือชีตาห์ล่าเหยื่อจริงๆ ความเร็วของมันราวรถแข่ง พลละกำลังแข็งกล้า เขาตัวสั่นเทิ้มแค่คิดถึงภาพที่มุมปากของเจ้าเสือร้ายเลอะไปด้วยเลือด!
“เดี๋ยวเธอเคยเห็นเสือชีต้าห์ล่าเหยื่อจริงๆ ก็จะรู้เองว่าพ่อของแค่เป็นแค่ขยะที่ขี้โม้เท่านั้นเอง!” หลี่เฉิงเจี๋ยตะคอก
ซือซือขมวดคิ้ว “ไม่ค่ะ พ่อหนูไม่ขี้โม้ เขาไม่หลอกหนู!”
“ฮึ” หลี่เฉิงเจี๋ยไม่อยากจะเถียงกับเด็กสี่ขวบเขาจึงกล่าว “ตอนนี้เธอต้องหัดนั่งเก้าอี้ลม เท้าเฉียงออก 15 องศา ค่อยๆ ย่อขาลง นิ้วเท้าชี้ไปด้านหน้า กดตัวต่ำลงมาแล้วย่อขาลงมา! คว่ำฝ่ามือแล้วยกมือสองข้างขึ้นมาข้างหน้า ดี ทำท่านี้เอาไว้นะ ครึ่งชั่วโมงห้ามขยับ!”
คิดไม่ถึงว่าหลี่เฉิงเจี๋ยจะสั่งให้เด็กหญิงวัยสี่ขวบ ทำท่าเก้าอี้ลมครึ่งชั่วโมง!
ซือซือเป็นเด็กหญิงที่ค่อนข้างบอบบาง แรงของเด็กหญิงไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กๆ ทั่วไป เด็กหญิงไม่มีทางทนได้ถึงครึ่งชั่วโมงแน่นอน
ไม่กี่นาทีซือซือก็เรู้สึกเหนื่อย ท่าทางก็เริ่มไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ
หลี่เฉิงเจี๋ยเป็นคนเข้มงวด ทันทีที่ซือซือทำผิดแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะจัดแจงท่าทางเด็กหญิงให้กลับมาเป็นท่าที่เข้าต้องการ
ขาสองข้างของซือซือสั่นระริก ด้วยใช้แรงใกล้จะหมด
“คุณอาหลี่ หนู…หนูไม่ไหวแล้ว หนูขอพักผ่อนเดี๋ยวได้ไหมคะ?” ซือซืออ้อนวอน
หลี่เฉิงเจี๋ยตะคอก “นี่เพิ่งจะเดี๋ยวเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว! พ่อเธอมันเป็นขยะ ลูกสาวที่เกิดออกมาเลยอ่อนแอแบบนี้!”
หลังจากที่ซือซือมาบ้านตระกูลหลี่แล้ว ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจเปราะบางมากพอแล้ว เด็กหญิงทนไม่ไหวอีก แล้วร้องไห้โยเยแผดเสียงจ้า
“คุณพ่อของหนูไม่ใช่ขยะ! คุณพ่อของหนูไม่ใช่ขยะ!”