หยางเฟิงดึงเก้าอี้แล้วนั่งลง พูดเบาๆ “ไอ้หลานชาย ฉันเป็นปู่แก!”
“แก……”
เฉ่าปิงโกรธมาก เขาคิดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะไม่รู้จักการอยู่เป็นแบบนี้
“ไอ้น้อง แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นถึงนายน้อยแก๊งเขียว แกทำให้ฉันม่พอใจ ตายแน่” เฉ่าปิงขู่
ตูม!
หยางเฟิงขี้เกียจสนใจเฉ่าปิง ถีบลูกน้องแก๊งเขียวที่จับหลิวซิงบินออกไปทันที
หลังจากหลิวซิงได้รับการช่วยเหลือ ก็ถอยหลังไปทันที
เฟิงชิงหวูเดินไปถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้านาย คุณสบายดีมั้ย?”
หลิวซิงตบหน้าอกตัวเองแล้วพูดว่า “ฉันตกใจแทบตาย ฉันไม่เป็นไร! เธอไปเจอผู้ชายที่โหดขนาดนี้มาจากไหน?”
กล้าต่อรองกับเฉ่าปิง ในหู้ไห่นี้หาได้ไม่กี่คนหรอก!
หยางเฟิงดุร้ายขนาดนี้ แค่ออกมือก็จัดการลูกน้องของเฉ่าปิงบินออกไปหมด
“เจ้านาย พวกเราดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เฟิงชิงหวูก็ไม่รู้จะพูดยังไง
เพราะเธอไม่ค่อยสนิทกับหยางเฟิง
ทั้งสองเพิ่งรู้จักกันวันนี้เอง
เฉ่าปิงกัดฟันแล้วพูด “ไอ้น้อง แกนี่จองหองมากนะ แม้แต่คนของฉันยังกล้าต่อย บอกชื่อแกมา แกเป็นใครมาจากไหน?”
ในสถานที่แบบหู้ไห่ ดีร้ายผสมรวมกันไปหมด
คนอะไรแบบไหนก็มีหมด และผู้คนจากกลุ่มต่างๆนั้นสลับซับซ้อน
โดยเฉพาะ พื้นที่สีเทาของหู้ไห่มีความนับถือเรื่องผู้หลักผู้ใหญ่เคร่งมาก
บางที อาจเป็นเผลอไปยั่วยุผู้ใหญ่คนไหนขึ้นมา งั้นก็เป็นเรื่องเศร้าเลย
ดังนั้นเฉ่าปิงเลยไม่ได้แสดงอาการโกรธทันทีกับการยั่วยุของหยางเฟิง
เพราะว่าสามารถเป็นนายน้อยแก๊งเขียว เขาก็ต้องไม่ใช่คนหุนหันไร้สติ
รู้ว่าคนอะไรที่สามารถยุ่งได้ คนอะไรที่ไม่สามารถยุ่งได้
หยางเฟิงพูดหน้าตาเฉย “นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ ยืนไม่แก้นามสกุล ฉันคือปู่แก!”
“ไอ้สัตว์ แกรนหาที่ตาย!”
เฉ่าปิงโกรธขึ้นมาแล้ว
ไอ้นี่ พูดว่าตัวเองเป็นปู่ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันทนไม่ไหวจริงๆ
“พวกแกไปจัดการ ฉันจะฉีกปากมันให้เละ!”
สำหรับปากของหยางเฟิง เฉ่าปิงเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ครับ!”
ได้ยินคำสั่ง ลูกน้องแก๊งเขียวทุกคนในสำนักงานก็มุ่งไปทางหยางเฟิง
หยางเฟิงนั่งนิ่งๆไม่ขยับ เศษเงาผ่านไป เสือขาวที่อยู่ข้างๆก็เคลื่อนไหว
ตูม!
ตูม!
ตูม!
เสียงดังไม่กี่ครั้ง ลูกน้องทั้งหมดที่ฉ่าปิงเอามาล้มลงกับพื้นขยับไม่ได้เลย
เสือขาวทำหน้าไม่สนใจ ขยะแบบนี้ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!
“พวกแก……”
เมื่อเห็นว่าลูกน้องทั้งหมดของตัวเองล้มลงกับพื้น เฉ่าปิงก็ตื่นตระหนก
หยางเฟิงยืนขึ้น เดินไปทางเฉ่าปิง
“แกอย่าเข้ามานะ! แกจะทำอะไร?”
เมื่อเห็นหยางเฟิงเดินมาหาตัวเอง เฉ่าปิงก็ตกใจตะโกนด้วยความกลัว
ป๊าบ!
เฉ่าปิงยังไม่ทันคิดได้ หยางเฟิงก็ตบหน้าอย่างแรงๆไปทีหนึ่ง
ทันใดนั้น ฟันของเขาถูกหยางเฟิงตบปลิวไปหลายซี่
เฉ่าปิงเอามือปิดหน้าตัวเอง มองหยางเฟิงด้วยความไม่น่าเชื่อ “แกกล้าตบฉันเหรอ?”
ป๊าบ!
ป๊าบ!
ก่อนที่เฉ่าปิงจะรู้สึกตัว หยางเฟิงก็ตบเขาสองครั้งติดต่อกันไป
ตูม!
การตบสองครั้งนี้หนักมากจนทำให้เฉ่าปิงบินออกไปเลย
เขาล้มลงกับพื้นอย่างหนัก ใบหน้าบวมเหมือนหัวหมู สภาพดูไม่ได้เลย
ในเวลานี้ เฉ่าปิงไม่กล้าพูดอีก
เขาถูกหยางเฟิงต่อยจนกลัวแล้ว
ในสายตาของเขา หยางเฟิงก็คือคนบ้าคนหนึ่ง
ทั้งๆที่ตัวเองได้ประกาศตัวตนชัดเจน แต่หยางเฟิงยังกล้าต่อยตัวเอง เขาไม่อยากมีชีวิตแล้วเหรอ?
หยางเฟิงมองเฉ่าปิงพูดอย่างเย็นชา “นี่เป็นแค่บทเรียนเล็กๆที่ให้แก ครั้งหน้าถ้าแกยังกล้าหาเรื่องเฟิงชิงหวู อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแก”