“ยังต้องการกดดันไหม?”
พูดอย่างราบเรียบ โดยไม่มีการบังคับเลยสักนิด กลับทำให้จูลี่หมินและคนอื่นๆหายใจไม่ออก
พวกเขาเพียงแค่ตัวสั่นเทา เพียงแค่คุกเข่าคำนับ ไม่ใช่ไม่อยากเอ่ยปากขอร้อง แต่กลัวจนพูดไม่ออกแล้ว
พวกเขาเสียใจ
ทำไมต้องบีบคั้นเย่เซิ่งเทียนด้วย ทำไมต้องใช้อำนาจของตระกูลมาข่มขู่เย่เซิ่งเทียน!!
ถ้าหากตัวเองและคนอื่นมาถึง ก็ขอโทษยอมรับผิด ยังจะมีเรื่องราวแบบนี้เหรอ?
แต่สิ่งที่น่าตลกคือ ตัวเองและคนอื่นๆ ไม่นึกเลยว่ายังอยากร่วมมือกันมากดดันเจ้าเทพ ให้เจ้าเทพจัดการกับเย่เซิ่งเทียน!
นี่เป็นความคิดของคนโง่มากมายขนาดนี้? ไม่นึกเลยว่ายังอยากแข็งข้อกับเลขาเวิน ในหัวสมองของตัวเองมีขี้เลื่อยเหรอ? อย่าว่าแต่เจ้าเทพ ก็แค่เลขาเวิน ตัวเองและคนอื่นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ!
ปัง ปัง ปัง
จวงโหย่วและคนอื่นๆ ในสมองเลือดไหลเนื้อกระจายแล้ว และพื้นดินก็เต็มไปด้วยเลือด
แต่ว่าพวกเขาไม่กล้าหยุดลง
“ผิดไปแล้ว พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเรารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว”
“พวกเรายินดีชดใช้ ยินดีชดใช้แล้วครับ”
“คุณเย่ คุณได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเราไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว”
“คุณเย่ คุณโปรดช่วยพวกเราขอความเมตตาด้วย ตราบใดที่คุณพอใจ พวกเรายินดีชดใช้ทุกอย่าง ดำเนินการชดใช้ให้คุณและภรรยาของคุณ ได้โปรดช่วยพวกเราพูดหน่อยเถอะครับ”
“พวกแกเป็นใคร ก็คู่ควรขอร้องให้คุณเย่ช่วยพวกแกเหรอ? คุกเข่าซะ สำนึกผิดต่อเด็กสาวที่ถูกลูกชายเหล่านั้นของพวกแกทำร้ายมาก่อน เมื่อไหร่ที่ดวงวิญญาณของเหอเสี่ยวเหมยกับหยวนฟานไปสู่สุคติ พวกแกค่อยลุกขึ้นมา”
เกาเจี๋ยพูดเย็นชาด้วยความดูถูก
“ซีเอ๋อร์? เธอพอใจไหม?”
เย่เซิ่งเทียนไม่ได้มองพวกเขา แต่มองดูหวางซี และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน
ทุกคนต่างก็มองไปที่หวางซีทั้งหมด
ผู้หญิงคนนี้ทำไมโชคดีขนาดนี้ แต่งงานกับสามีที่สุดยอดขนาดนี้
ตอนนี้ ต่างก็รอเธอพูดออกมา พวกผู้นำตระกูลเหล่านี้เป็นหรือตาย ขึ้นอยู่กับคำพูดของเธอ!
และนี่ ก็เป็นสิ่งที่สามีของเธอนำมาให้เธอ!
ผู้หญิงคนนี้ ชาติก่อนจะต้องทำความดีไว้มากมายอย่างแน่นอน ถึงได้เจอกับสามีที่ดีขนาดนี้
“ฉัน ฉัน ฉัน……”
หวางซีกังวลจนไม่รู้ควรพูดอะไรดี ฉากแบบนี้ เธอก็เจอเป็นครั้งแรก
เย่เซิ่งเทียนกุมมือของเธอเบาๆ และพูดว่า: “เธออยากพูดอะไรก็พูดนะ ไม่มีใครกล้าว่าอะไร”
หวางซีสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูด: “ภายใต้การปกครองของเจ้าเทพ ใครกล้าก่อกรรมทำชั่ว มีกฎหมายบังคับใช้ พวกเราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง ไม่อย่างนั้นก็สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าเทพ”
“ได้”
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า: “เวินเฉิน เธอจัดการเถอะ”
หลังจากที่พูดจบ เย่เซิ่งเทียนจับมือของหวางซี และจากไปช้าๆ
“นำตัวไปให้หมด ทำตามที่คุณหวางซีบอก ใช้กฎหมายลงโทษ”
เวินเฉินโบกมือ
“ครับ!”
หลู่ต๋าทำความเคารพแล้วโบกมือ ซุนคุนคนพวกนี้และลูกน้องของพวกเขา ก็ถูกจับตัวไปทั้งหมด!
ตั้งแต่นั้นมา เหตุการณ์นี้ ก็กลายเป็นตำนานของเมืองเฉียนถัง
ตราบใดที่มีคนบอกว่าตระกูลไหนสุดยอดเป็นอย่างมาก ก็จะมีคนพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “สุดยอด สุดยอดกว่าเย่เซิ่งเทียนเหรอ? โทรศัพท์เดียวก็สามารถเรียกกองทัพทหารหนึ่งแสนนายเมืองเฉียนถังมาได้? สามารถทำให้ผู้นำของหลายสิบตระกูลกลัวจนฉี่ราดขี้แตกไหม? ไม่ได้ ไม่ได้งั้นนายก็บอกกับฉันว่าสุดยอดมากนะ”
นี่ก็เป็นเรื่องราวในภายหลัง
ในเวลานี้ ทุกคนก็รู้ว่า ตระกูลซุนในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ก็เหมือนกับตระกูลหนานกง ก็ล้มละลายอย่างสมบูรณ์
จากนี้ไปที่เมืองเฉียนถัง ไม่มีตระกูลหลัว ตระกูลจวงและตระกูลโหวตระกูลเหล่านี้อีก
พวกเขา มีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย ถูกขังไว้ และอย่าได้คิดว่าที่จะออกมาตลอดชีวิตนี้
ไม่ได้ยินเย่เซิ่งเทียนพูดเมื่อกี้นี้เหรอ ใครกล้าออกหน้า ฆ่า!
ใครกล้าทำหูทวนลมกับคำพูดของเขากัน? นั่นเป็นคนที่แม้แต่เลขาเวินและเกาเจี๋ยก็ยังต้องเคารพนบนอบ
“ย้ายกันได้แล้ว มาลงทะเบียนทั้งหมด เรื่องของคืนนี้ ใครกล้าพูดออกไป ใครกล้าเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต จะถูกลงโทษในความผิดฐานรั่วไหลความลับ”
เกาเจี๋ยพูดอย่างราบเรียบ