ตอนที่ 22 ระเบิดอารมณ์

ระบบอัพเกรดเทพชาย

รุ่นพี่โรงเรียนมัธยมที่อยู่ข้างๆได้ยินดังนั้นก็ตอบทันที “คุณกำลังบอกว่าการทำงานหนักสามารถบรรลุระดับนี้ได้หรือเปล่า?”

“คุณกำลังจะบอกว่าตื่นมาฝึกตั้งแต่ตีสี่ จนถึงเช้าหรือเปล่า?” เซี่ยหยู่ กล่าว

ซูเหยา พูดแทรก “หลิงเซียวคุณฝึกหนักขนาดนี้เลยเหรอ”

จางรุ่ยพยักหน้าราวกับเห็นด้วยกับคำพูดของหลิงเซียว

หลิวมู่ มองไปที่ หลิงเซียว อย่างจริงจังเพราะกลัวว่าจะพลาดคำใดคำหนึ่งไป

แม้ว่าคนอื่นๆจะไม่ได้พูดอะไร แต่การแสดงออกของพวกเขาก็จริงจังไม่แพ้กัน

หลิงเซียวหัวเราะเบาๆและพูดว่า “ความลับมันก็คือ… “

ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลิงเซียว

“… พวกคุณไม่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตอนตีสี่!”

ทุกคนตกตะลึง และคำพูดของหลิงเซียวยังคงดังก้องอยู่ในใจของพวกเขา

ไม่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตอนตีสี่!

มองไม่เห็นพระอาทิตย์!

พระอาทิตย์!

อึก! หลังจากยึกยักมานาน คุณอยากจะพูดแค่นี้ใช่ไหม?

อารมณ์ของทุกคนราวกับจะระเบิดออกและหลิงเซียวก็หัวเราะ

จากนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ฉันไม่ได้พูดล้อเล่นน่ะ”

คนอื่นๆราวกับโดนหักหลัง ตอนนี้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อแม้แต่กับคำพูดเดียวของหลิงเซียวแล้ว

หลิงเซียวไม่สนใจเขาพูดต่อว่า “หลายคนมักจะพูดว่าดูคนๆนั้นสิ เขาเป็นอัจฉริยะ!

เราเป็นแค่คนธรรมดาเราจะไปเปรียบเทียบกับเขาได้อย่างไร

ด้วยคำเพียงคำเดียวก็สามารถลบความพยายามทั้งหมดของคนๆหนึ่ง และให้พวกเขาไปอยู่ในกลุ่มที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ

ในขณะเดียวกันพวกที่พูดพวกเขาก็นำตัวเองไปอยู่ในกลุ่มของคนธรรมดาและหาเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตกต่ำ “

ทุกคนฟังและเริ่มพยักหน้าช้าๆ

“แต่รู้มั้ยความจริงแล้วความพยายามของหลายๆคนนั้นยังคงห่างไกลจากการถึงเพดานความสามารถที่แท้จริงของพวกเขา!” หลิงเซียว พูดเสียงดัง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนก็พยักหน้ามากขึ้น

“ถูกต้อง! พวกเขาหลายคนยอมแพ้กับตัวเอง!”

“ใช่มีอัจฉริยะมากมายในโลกนี้และในจำนวนคนเหล่านั้นก็มีกลายคนที่เป็นคนธรรมดาที่ฝึกฝนอย่างหนัก”

“หลิงเซียวพูดถูก เป็นเรื่องจริงมีพวกเราคนไหนบ้างที่นี่ ที่ไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนัก “

ทุกคนพูดคุยและเห็นด้วย

จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินหลิงเซียวพูดต่ออีกว่า “มีเพียงผู้ที่สัมผัสเพดานเท่านั้น ที่จะรู้ว่าอัจฉริยะนั้นทรงพลังเพียงใด!”

WTF นี่เขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน?

ซุปไก่สุดพิเศษอยู่ไหนล่ะ? ทำไมมันถึงกลายเป็นซุปไก่ใส่ยาพิษในทันที?

“พวกคุณคงคิดว่าทุกคนอยู่ในเส้นเริ่มต้นเดียวกัน แต่จริงๆแล้วอัจฉริยะนั้นกำลังยืนอยู่หน้าเส้นชัย ในขณะที่คนธรรมดายืนอยู่ที่เส้นเริ่มต้น!

อัจฉริยะต้องใช้ขาเพียงก้าวเดียวเพื่อไปให้ถึงเส้นชัย แต่คนธรรมดาสามารถชดเชยได้ด้วยการฝึกฝนอย่างหนักเท่านั้น!

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องปลอบตัวเองว่าฉันไม่ได้มีพรสวรรค์มากนัก แต่ฉันฝึกฝนมาอย่างหนัก! ฉันสามารถตามทันพวกเขาได้!

แต่ความจริงก็คือคุณฝึกฝนหนัก แต่คนอื่นๆสามารถทำได้ด้วยการก้าวเพียงไม่กี่ก้าว ” หลิงเซียวพูด

ในตู้โดยสารก่อนหน้านี้มีเสียงพูดคุยกันเสียงดังมาก แต่ตอนนี้มันเงียบไปแล้ว

ราวกับว่าในชั่วพริบตารถตู้โดยสารทั้งคันก็ถูกแช่แข็ง

ผ่านไปสามวินาทีจิตใจทุกคนราวกับพังทลายลงมา!

ไอ้เหี้ยเอ้ย! คำพูดมันหักมุมราวกับโค้งหักศอก!

ฉันคิดว่ามันเป็นซุปไก่ชามหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นชามที่เต็มไปด้วยสารหนู!

หากการแสดงออกในสายตาของพวกเขาสามารถฆ่าคนได้ตอนนี้หลิงเซียวก็คงจะกลายเป็นโคลนไปแล้ว

หลิงเซียวเมินเฉยต่อสายตาของทุกคน

“เป็นอะไรไป? พวกคุณไม่ถามฉันแล้วเหรอว่าฉันฝึกยังไง ฉันฝึกอะไร ฉันมีความสุขมากเลยน่ะที่จะตอบ!” หลิงเซียวหัวเราะ

ทุกคนต่างพากันก้มหน้าด้วยความเจ็บปวดและนักเรียนมัธยมปลายสามคนที่ถามคำถามต่างก็เสียใจที่ตนได้ถามออกไป

พวกเขาไม่ควรถามคำถามนี้ตั้งแต่แรก! ตอนนี้พวกเขารู้สึกอึดอัด! จนจิตใจของพวกเขาจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!