ตอนที่ 7 ดาบแยกสวรรค์

อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์

“เสี่ยวฮัวเธออยู่ไหน พี่ชายคนโปรดของเธอมาเล่นด้วยแล้วนะ”

หยวนตะโกนเสียงดังลั่นทันทีที่เข้าสู่เกม

“นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย”

หลังจากนั้นหยวนก็นั่งลง มือเอื้อมไปหยิบสร้อยคอออกมา

แม้มันจะดูเหมือนทำจากเหล็กและมีหยกติดอยู่ แต่สร้อยคอก็เบาเหมือนขนนกเกือบจะไม่มีน้ำหนักเลยทีเดียว

“ทั้งๆที่เธอบอกว่าใช้มันเรียกเธอได้ แต่ฉันจะใช้มันได้ยังไงกัน?”

หยวนเล่นสร้อยคอไปมา ในขณะที่เขากำลังคิดว่าจะใช้มันได้ยังไง

หยวนพยายามลูบมัน สั่งให้เปิด แม้กระทั่งเลียมัน แต่สร้อยก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากผ่านไปหลายนาที และเกิดความล้มเหลวหลายครั้ง ต่อมาหยวนจึงหยุดที่จะพยายามเปิดใช้งานสร้อยคอเส้นนั้นอีก

“โถ่ เสี่ยวฮัว เธอจะให้ฉันใช้ของที่ซับซ้อนขนาดนี้โดยที่เธอไม่อธิบายการใช้งานของมันได้ยังไงเนี่ย”

เขาถอนหายใจเสียงดัง

ทันใดนั้นราวกับว่าสวรรค์ได้ยินเสียงถอนหายใจของเขา แผ่นดินสั่นสะท้านขึ้นทันทีหลังจากที่เขาพูดจบลง

เสียงโลหะกระทบกันดังก้อง ตามด้วยเสียงก่นด่า

“กินนี่ไปซะ ดาบหมุนกระแทก”

“หาเรื่องตาย”

ตู้ม! เสียงระเบิดดังขึ้นในระยะไกล ทำให้หยวนตกใจ เกิดอะไรขึ้นกันนะ? ทำไมโลกถึงสั่นสะเทือนแบบเมื่อกี้? มีคนวางระเบิดงั้นหรอ?

เคล้ง! เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นลมกรรโซกสายหนึ่งก็พัดมาที่ที่หยวนยืนอยู่ มันเกือบจะยกตัวของหยวนลอยขึ้นไปในอากาศเลยทีเดียว

“ปีศาจเมิ่งหลี่! ถ้าวันนี้ฉันไม่ฆ่าแกแล้วละก็ แสดงว่าฉันไม่ใช่ ซ่างซุ่ยกาง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ปรมาจารย์วิญญาณเพียงครึ่งก้าวอย่างแกหนะเหรอ อย่าคิดว่าจะฆ่าฉันได้เลย วันนี้จะเป็นวันที่แกได้ตระหนักถึงการอยู่อย่างโง่เง่าของแก ไปลงนรกซะเถอะ!”

เคล้ง! เคล้ง! เคล้ง!

ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นที่อัดแน่นไปด้วยพลังกวาดท้องฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกๆครั้งที่มีการปะทะกันของพลังและผ่านตัวของหยวนไป มันทำให้กระดูกสันหลังของหยวนหนาวสั่นทุกครั้ง

“คนสองคนต่อสู้กัน มันสามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ได้อย่างนี้เลยหรอเนี่ย?”

หยวนตกใจพูด

“แต่มาสู้ในสวนของคนอื่นเนี่ยนะ”

ในไม่ช้าร่างทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอยู่กลางอากาศก็เข้ามาอยู่ใกล้ๆจุดที่หยวนยืนอยู่ คนหนึ่งมีผมยาวสีแดงและอีกคนผมยาวสีดำ พวกเขาบินไปมา และขว้างดาบอันทรงพลังโจมตีใส่กัน ซึ่งทุกๆครั้งที่ถูกอีกฝ่ายป้องกันมันจะสร้างระลอกคลื่นพลังออกมาอย่างรุนแรง

“พวกเขากำลังบินเหมือนผู้อาวุโสคนนั้น!”

หยวนนึกถึงผู้อาวุโสซง ชายชราที่ให้คำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับโลกนี้กับเขาและอีกหลายพันคนในขณะที่ยืนอยู่บนดาบกลางอากาศ

การต่อสู้ดำเนินต่อไปหลายนาทีโดยที่ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบ หรือเสียเปรียบเลย ดูเหมือนทั้งคู่จะเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้จุดที่หยวนยืนอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ ระลอกคลื่นแห่งการทำลายล้างที่เกิดจากการปะทะของดาบของพวกเขา ก็สร้างความเจ็บปวดให้กับหยวนมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

แม้จะไม่ได้อยู่ห่างจากการต่อสู้มากนัก แต่หยวนก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันที่ครอบงำเขาอยู่ มันทำให้เขาหายใจลำบาก และร่างกายตอนนี้ราวกับว่าเขากำลังแบกหินก้อนใหญ่อยู่

“ตายซะเถอะ ดาบผ่าเจ็ดปฐพี!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า อ่อนแอเกินไปแล้ว ดาบตัดโลหิต”

แรงกระเพื่อมและคลื่นพลังที่แรงกว่าครั้งก่อนๆ ได้กระจายออกมาบดบังท้องฟ้าจนสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถมองเห็นขอบฟ้าได้เลย

แค่กๆ หยวนไม่สามารถต้านแรงกดดันได้อีกต่อไป เขาไอออกมาเป็นเลือดเต็มปากของเขา

“ไอ้พวกบ้านี่…แรงกดดันจากพลังเยอะจริงๆ!”

หยวนเช็ดเลือดออกจากปากของเขา

“รับรู้ถึงรสชาติของเลือดที่เหมือนเหล็กได้ด้วย…”

ด้วยความเจ็บปวดในร่างกายของเขาตอนนี้ หยวนเพิ่งรู้สึกตัวและเริ่มคิดอย่างรวดเร็ว เกมนี้มันเหมือนจริงมากเกินไป มันสามารถทำให้เขารู้สึกเจ็บและยังรับรสชาติของเลือดแบบนี้ได้ มันทำให้เขาเกือบลืมไปเลยว่าตอนนี่เขายังอยู่ในเกม

“ถ้าพวกนั้นเข้ามาใกล้กว่านี้ ฉันต้องตายแน่ๆเลย!”

หยวนเริ่มวิ่งหนี แต่การปะทะกันของพวกเขาก็รุนแรงขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน

“ดาบผ่าเก้าปฐพี”

“เลือดปีศาจ!”

ตู้ม! ต้นไม้ล้มลง เมฆกระจัดกระจาย ส่งผลให้หยวนกระเด็นไปชนต้นไม้ต้นหนึ่ง และหมดสติไป

“ฮ่าๆ เป็นอะไรไป ซ่างซุ่ยกาง แกไม่ได้บอกว่าวันนี้แกจะฆ่าฉันหรอกหรอ”

ร่างๆหนึ่งเริ่มหัวเราะในขณะที่ชี้ไปที่อีกคนที่ตอนนี้แขนขาดไปแล้ว

“ศิษย์หลักของนิกายดาบเที่ยงแท้นั้นช่างธรรมดาจริงๆ เหมือนกับน้องสาวของแกยังไงละ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

“ฉัน…ฉันจะ…ฉันจะฆ่าแก!!!”

ซ่างซุ่ยกางคำรามออกมาดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“อะไรกัน!?”

ดวงตาปีศาจของเมิ่งหลี่เบิกกว้างจากความตกใจ

“นี่เจ้า ประสบความสำเร็จในระหว่างการต่อสู้ของเรางั้นหรอ?”

“ฉันจะล้างแค้นให้กับศิษย์น้องฉันในวันนี้ โดยการฆ่าแก แม้จะต้องเสียแขนขาทั้งสี่ข้าง และกลายเป็นคนพิการก็ตาม!”

ดวงตาและจมูกของเขาเริ่มมีเลือดออก และมีเส้นเลือดปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขา

“คงไม่บังเอิญว่าเธอเป็นคนรักของแกด้วยใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นละก็ให้ฉันบอกสิ่งสำคัญอย่างนึงก่อนที่แกจะตายก็แล้วกัน…. ร่ายกายของเธอช่างน่าทึ่งจริงๆ เสียดาย ที่เธอฆ่าตัวตายเร็วขนาดนั้น ไม่ยังงั้นฉันคงจะสนุกกับร่างกายของเธอมากกว่านี้แน่ๆ!!”

“เมิ่งหลี่ แกไปตายซะ!!!”

ดาบสีน้ำเงินของซ่างซุ่ยกางเปล่งแสงสีน้ำเงินเข้มออกมา และไอสังหารของเขาก็ทะยานขึ้นเหนือเมฆ

“วิญญาณใบมีด!”

“อย่ามาทำให้ฉันตลกหน่อยเลย เพียงเพราะแกอยู่ในขั้นปรมาจารย์วิญญานเหมือนกับฉัน มันไม่ได้หมายความว่าแกจะมาอยู่ในสถานะที่เท่าเทียมกับฉันได้หรอกนะ ไอ้โง่!!”

ผมสีแดงของเมิ่งหลี่เปล่งประกายสีแดงเข้มออกมาพร้อมกับดวงตาของเขาที่เหมือนปีศาจออกมาจากนรกจริงๆ

“ไฟนรก!”

ทันใดนั้นก่อนที่ทั้งสองจะปลดปล่อยเทคนิคของพวกเขาออกมา เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชุดคลุมสีแดงก็ปรากฎตัวขึ้นตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองคน และในมือของเธอก็มีสร้อยคอเส้นหนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือด

“โทษสำหรับการที่พวกแกมาทำลายความสงบในสถานที่ของพวกเรา พลังของแกทั้งหมดจะหายไปและไม่สามารถฝึกพลังได้อีก”

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเพียงโบกแขนเสื้อของเธอเบาๆ เมิ่งหลี่และซ่างซุ่ยกางก็รู้สึกได้ว่าพลังของเขาทั้งหมดได้หายไปทันที

ทั้งสองไม่สามารถควบคุมการโจมตีหรือการบินของพวกเขาได้อีกต่อไป พวกเขาตกลงมาที่พื้น โดยที่พวกเขาไม่มีพลังอะไรคอยสนับสนุนพวกเขาอีก

“เธอเป็นใครกัน!?”

เมิ่งหลี่ร้องเสียงดังขณะที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดทั่วร่างของเขา เธอสามารถทำให้เขาที่เป็นปรมาจารย์วิญญานพิการ โดยการโบกแขนเสื้อเพียงข้างเดียว นั่นแสดงว่าภูมิหลังของเธอจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

สำหรับซ่างซุ่ยกางเขาทำได้เพียงจ้องมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เขาตกใจเกินกว่าจะคิดอะไรได้อีก

“ฉันไปทำอะไรให้เธอขุ่นเคืองงั้นหรอ?! ตอบฉันที!”

เมิ่งหลี่ตะโกนอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้รับคำตอบจากเธอ

อย่างไรก็ตามเด็กหญิงตัวเล็กไม่ได้สนใจเขา เธอเดินลงมาจากท้องฟ้าไปยังต้นไม้ใกล้ ๆ และเดินไปยังจุดที่ร่างไร้สติของหยวนนอนอยู่

“นั่นคือขยะคนนึงที่เฝ้าดูการต่อสู้ของพวกเรา”

เมิ่งหลี่นึกถึงการปรากฏตัวของหยวน และที่เขากำลังเฝ้ามองดูการต่อสู้อยู่ แต่เพราะเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะทำให้เขาทั้งสองคนสนใจ เพราะฉะนั้นพวกเขาทั้งสองจึงไม่ได้สนใจหยวน และมองเขาเป็นเพียงแค่มดตัวนึง

เด็กหญิงตัวเล็กๆ คุกเข่าเช็ดเลือดออกจากริมฝีปากของหยวน มือของเธอสั่นเล็กน้อย

“เพราะพวกแกทำร้ายเขา…พวกแกทั้งสองคนจะต้องตาย…”

หลังจากเช็ดเลือดออกจากริมฝีปากของหยวนเสร็จ เด็กหญิงตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนและหันไปเผชิญหน้ากับทั้งสองร่างที่นอนอยู่บนพื้น สีหน้าของเธอดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

“ดาบแยกสวรรค์”

ทันใดนั้นโลกก็สั่นสะท้าน และสวรรค์ก็มืดสลัวเกือบจะเปลี่ยนเป็นกลางคืน และดาบที่ทำจากแสงสีทองก็ปรากฏขึ้น

“ดาบแยกสวรรค์?! เป็นไปไม่ได้! ท่านมาทำอะไรที่นี่ในสวรรค์ชั้นล่าง?!”

ซ่างซุ่ยกางจำเทคนิคนี้ได้ และหัวใจของเขาแทบหยุดเต้นจากอาการช็อก

เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไม่สนใจคำถามของเขา และทันใดนั้นดาบก็ฟันลง และสวรรค์ดูเหมือนจะแยกออกเป็นสองฝั่งในทันที

บึ้มมมม!! แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เขย่าทั้งทวีปตะวันออก สร้างความตกใจให้กับเซียนที่เก็บตัวอยู่หลายคนในทวีป และยังทำให้เซียนโบราณอีกหลายคนทั่วโลกรับรู้ถึงมันได้อีกด้วย

หยวนค่อยๆ ลืมตาขึ้น และสิ่งแรกที่เขาสังเกตคือรอยแยกของโลกขนาดใหญ่ที่เห็นได้ชัดตรงหน้า โดยมีจุดจบที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ ราวกับว่ามันแยกโลกออกจากกัน

“อะไรน่ะ สองคนนั้นทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นหรอ! นี่มัน ไร้สาระน่า!”

หลังของหยวนชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น เมื่อเห็นรอยแยกของโลกที่ยาวออกไปไม่สิ้นสุด เขาไม่สามารถจิตนาการได้ถึงพลัง ที่ใช้ในการทำลายล้างมากขนาดนี้ รอยแยกขนาดนี้มากเกินพอที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ของโลกได้เลยนะ!

ทันใดนั้นหยวนก็สะดุ้ง เขาค่อยๆ หันศีรษะและในขณะนี้เองเขาก็ได้ตระหนักว่าเขากำลังนอนหลับอยู่บนตักนุ่มๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนึง

“เสี่ยวฮัว!”

เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่เห็นเธอนั่งอยู่ตรงนี้ๆ เธอถึงกับยอมให้เขานอนบนตักของเธอ

“เจ็บตรงไหนไหม”

หยวนรู้สึกโล่งใจที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ

จู่ๆ เสี่ยวฮัวก็เอนศีรษะของหยวนกลับลงไปที่ตักของเธอ

“อาจารย์ไม่ควรขยับตัวมากเกินไปนะ อาจารย์กำลังบาดเจ็บอยู่”

“เอ๋?”

หยวนตกตะลึง

“เมื่อกี้เธอรียกพี่ว่าอะไรนะ อาจารย์หรอ คราวนี้พวกเราเล่นเกมแบบไหนกันอยู่หรอ?”

“นี่ไม่ใช่เกม เสี่ยวฮัวยอมรับพี่หยวนเป็นอาจารย์ของเสี่ยวฮัวแล้ว”

เธอยื่นสร้อยคอที่เต็มไปด้วยเลือดให้หยวนดูพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง

“นั่นคือสร้อยคอที่เธอให้พี่นี่ หื้มนั่นคือสิ่งที่เธอให้พี่เพื่อใช้เรียกเธอมาไม่ใช่หรอ หรือว่าที่เรียกมาหมายถึงเรียกมาเป็นผู้รับใช้ยังงั้นหรอ”

หยวนเริ่มคิดและเข้าใจถึงความหมายของเสี่ยวฮัวที่เธอเคยพูดกับเขาว่าสามารถเรียกเธอได้ตลอดเวลา

“เสี่ยวฮัว…เธอ…”

หยวนถอนหายใจเสียงดัง

“พี่จะไม่รับเสี่ยวฮัวเป็นผู้รับใช้งั้นหรอ”

สีหน้าของเธอเศร้า

“เสี่ยวฮัวเป็นยัยตัวร้ายสำหรับพี่หรอ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ชอบเธอมาก แต่…การให้เธอมาเป็นผู้รับใช้ นี่มันมากเกินไป…เพราะมันจะทำให้คนเยอะแยะเข้าใจผิดหนะสิ”

“เข้าใจผิดหรอ เสี่ยวฮัวไม่รังเกียจนะ”

‘แต่ฉันไม่ได้’ หยวนตอบในหัวของเขา

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหยวนก็พูดกับเธอว่า

“พี่หยวน”

“ฮะ?”

เสี่ยวฮัวมองเขาด้วยสีหน้างงงวย

“ตราบใดที่เธอเรียกพี่ว่าพี่หยวนเหมือนปกติแล้ว จะไม่มีคนเข้าใจผิด”

เขาอธิบายให้เธอฟัง

“ถ้าอย่างนั้น…”

ดวงตาของเธอเริ่มเป็นประกาย

“พี่หยวน!”

ทันใดนั้นเธอก็กอดเขา และซ่อนรอยยิ้มที่น่าอายไว้บนใบหน้าของเธอ

ชื่อ: เสี่ยวฮัว

ชั้นรับใช้: ขั้นเทพ

อาจารย์: หยวน

การฝึกฝน: ราชาวิญญาณระดับที่สาม

มรดก: มรดกแห่งสวรรค์สูงสุด

สายเลือด: สายเลือดศักดิ์สิทธิ์

ร่างกาย: ร่างกายหมอกสีม่วง

เมื่อการประกาศปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า เสียงร้องด้วยความตกใจนับไม่ถ้วนดังก้องไปทั่วโลก และในวันนี้ข่าวลือเกี่ยวกับผู้เล่นหยวนว่าเป็นสิบแปดมงกุฎก็เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า